จอมนักรบอหังการ - บทที่ 179 เย่อู๋เทียน……ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 179 เย่อู๋เทียน……ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา!
ชั่วพริบตาเดียว เจี่ยนโล่จู๋ก็ตกใจจนถึงขีดสุด
เธอคิดไม่ถึงว่า……
เย่อู๋เทียนไอ้หมอนี่ จะกระโดดลงมากับเธอด้วย!
เขาทำเพื่อช่วยชีวิตเธอหรอ?
ก่อนหน้านี้เธอยังคิดจะฆ่าเขาอยู่เลย เหตุใดเขาถึงช่วยชีวิตเธอล่ะ?
หรือว่าจะเป็นเพราะความสวยของเธอเอง?
หรือจะเป็นเพราะ……
ตนเป็นธิดาของผู้นำสูงสุดแห่งประเทศหลง?
ทันใดนั้นเอง ในสมอของเจี่ยนโล่จู๋ก็วุ่นวาย
แต่ไม่ว่าเย่อู๋เทียนจะกระโดดลงมากับเธอด้วยเหตุผลใด……
วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเธอ หรือเย่อู๋เทียน ก็ยากที่จะหนีพ้นเหตุการณ์ในวันนี้ได้!
ระยะห่างระหว่างพื้นดินของห้องเก็บสมบัติกับหินหนืด ความสูงแค่ไม่กี่ร้องเมตรเท่านั้น
ตามความเร็วที่ลดลงในปัจจุบัน เขาและเย่อู๋เทียนจะตกลงไปในแอ่งหินหนืดด้านล่างในไม่ช้าและถูกกวาดล้างเป็นเถ้าถ่าน!
สิ่งที่สำคัญที่สุด จากการสังเกตของตนเอง เย่อู๋เทียนไม่ได้เตรียมแผนรับมือฉุกเฉินใดๆทั้งสิ้น!
เขาเพียงแค่โอบเอวของเธอเอาไว้เท่านั้น!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เจี่ยนโล่จู๋ก็มองเข้าไปในแววตาของเย่อู๋เทียน แล้วนิ่งสงบลง โพล่งออกไปว่า“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย?”
เย่อู๋เทียนตอบ“เพราะคุณหน้าตาสวยไงเหตุผลแค่นี้พอไหม”
เจี่ยนโล่จู๋ตกตะลึง แล้วยิ้มอย่างขมขื่น“คิดไม่ถึงว่า ตลอดชีวิตอันขมขื่นของฉัน ก่อนที่จะตาย ยังสามารถ……”
ไม่รอให้เจี่ยนโล่จู๋ได้พร่ำเพ้อ เย่อู๋เทียนใช้มืออีกข้างสะบัด
ก็เห็น มีดสีเขียวทองโผล่ออกมาจากข้อมือของเขา จากนั้นก็กระเด็นออกจากแขนเสื้อของเขาอย่างรวดเร็ว!
บนมีดเล็กๆด้ามนั้น มีด้ายสีทองเส้นเล็กเท่าเส้นขน
และเมื่อมีดบินขึ้นไปราวกับสายฟ้า ด้ายสีทองก็พุ่งตามไปราวกับสายฟ้า!
สุดท้าย มีดก็ไปพันเข้ากับคานด้านบนของห้อง
ต่อมา ความคมของมีดเล็ก ก็เสียบเข้าไประหว่างตรงคาน
และในชั่วพริบตาเดียว เย่อู๋เทียนกับเจี่ยนโล่จู๋ทั้งสองคน ก็หยุดอยู่ที่กลางเหวลึก!
ระยะห่างจากหินหนืด เพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น!
เจี่ยนโล่จู๋สมองว่างเปล่า?
รอดแล้ว?
ความคิดแบบนี้ผุดขึ้นมาในหัว เจี่ยนโล่จู๋รู้สึกประหม่าอีกครั้ง!
อันตรายได้รับการแก้ไขแล้ว
เพราะสิ่งที่ตกลงมากับพวกเขาสองคนคือแผ่นหินจำนวนมาก รวมถึงของที่อยู่ในห้องเก็บสมบัติมากมาย
ของเหล่านี้ตกเข้าไปอยู่ในแอ่งหินหนืดทั้งหมด และปะทุจนเกิดเป็นประกายไฟมากมาย!
ในเวลานี้เอง เย่อู๋เทียนก็จับเสื้อของเจี่ยนโล่จู๋ แล้วโยนขึ้นไป จนทำให้เจี่ยนโล่จู๋ปลิวขึ้นไปด้านบน!
เย่อู๋เทียนคำรามเสียงดัง“จบเส้นด้ายไว้!”
ความจริงไม่จำเป็นต้องให้เย่เซิ่งเทียนเตือน ในช่วงเวลาความเป็นความตายแบบนี้ ความปรารถนาที่จะอยู่รอดของเจี่ยนโล่จู๋ก็ถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุดเช่นกัน
ขณะที่ร่างของเจี่ยนโล่จู๋ออกห่างจากแอ่งหินหนืดด้านล่างมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเอื้อมมือคว้าเส้นไหมที่อยู่ตรงหน้าเธอ แล้วพันด้ายไว้ทั่วทั้งฝ่ามืออย่างรวดเร็ว!
เจี่ยนโล่จู๋รอดแล้ว
แต่ในขณะเดียวกัน เจี่ยนโล่จู๋ก็ตระหนักได้ว่า เย่อู๋เทียนยังอยู่ด้านล่าง
น้ำไฟจากวัตถุที่ตกลงมาในสระหินหนืดจะสาดใส่ร่างของ เย่อู๋เทียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในกรณีนี้ แม้ว่าเย่อู๋เทียนจะไม่ตกลงไปในบ่อหินหนืด เขาก็ยังถูกน้ำไฟที่สาดกระเซ็นมาแผดเผา
แต่หลังจากที่เจี่ยนโล่จู๋มองลงมา เธอได้เห็นเหตุการณ์ที่ยากจะลืมเลือนในชีวิตของเธอ!
เธอเห็นทั่วร่างกายของเย่อู๋เทียน มีพลังปราณห่อหุ้มร่างของเขาไว้!
พลังปราณที่ล้อมรอบอยู่ สามารถทำให้น้ำลาวาที่กระเด็นใส่ร่างกายของเขา กระเด็นกระดอนออกไปบริเวณโดยรอบ!
นี่มัน……
เป็นรวมปราณเป็นเกราะในตำนาน?
เจี่ยนโล่จู๋ตกใจจนหน้าถอดสี!
เธอคิดไม่ถึงว่า พลังของเย่อู๋เทียน จะน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้!
ต้องรู้ว่า ผู้แข็งแกร่งที่มาถึงขั้นพลังปราณได้ เดิมทีเป็นหนึ่งในหมื่นคน และเพื่อให้สามารถเข้าถึงแดนแห่งพลังงานปราณรวบรวมพลังงานเป็นเกลียว และสังหารผู้คนด้วยการดีดนิ้ว ถือเป็นพรสวรรค์ในหมู่ ผู้แข็งแกร่งหลายร้อยล้านคน!
ตอนนี้ เย่อู๋เทียนสามารถรวบรวมพลังปราณสร้างเป็นโล่กำลังได้!
นี่มันเป็นคนแข็งแกร่งที่ไร้ซึ่งศัตรู!
แม้แต่ผู้ที่ทรงพลังที่สุดในแดนพลังมืด ก็แทบจะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้!
นอกเสียจาก……
นี่เป็นผลพวงมาจากแก่นเหรียญม่วง?
ในขณะที่เจี่ยนโล่จู๋กำลังคิดเช่นนี้ เย่อู๋เทียนได้ใช้ประโยชน์จากเส้นไหมที่แขวนอยู่ด้านบน ทะยานขึ้นมากลางอากาศ!
ผ่านไปไม่นาน ก็อยู่สูงกว่าเจี่ยนโล่จู๋
เพี๊ยะ!
ในชั่วพริบตา เย่อู๋เทียนก็ออกมาจากก้นเหว ใช้แขนข้างเดียวจับคานด้านบนสุดเอาไว้
เย่อู๋เทียนมองเจี่ยนโล่จู๋มาจากด้านบน พลางตำหนิว่า“ยังไม่รีบขึ้นมาอีก?หลังภูเขาเอ๋อเหมยของพวกคุณทำกับดักขึ้นมา แต่กลับถูกคุณสัมผัสจนกับดักทำงาน คุณนี่มันโง่ไม่มีใครเกินจริงๆ !”
เจี่ยนโล่จู๋หายใจหอบด้วยความกลัว
วินาทีนี้ เธอไม่มีเวลาสนใจสิ่งอื่น?
เธอใช้แรงปีนตามเส้นไหมขึ้นมา สุดท้ายก็เหมือนกับเย่อู๋เทียน จับคานที่อยู่ด้านบนสุดเอาไว้
ยังไม่ทันที่อันตรายจะสงบลง เจี่ยนโล่จู๋ก็พึ่งนึกขึ้นมาได้ว่า เย่อู๋เทียนตำหนิเธอเมื่อสักครู่!
แต่ว่า……
ไม่รู้ว่าทำไม
ตัวเองถูกเขาดุด่าว่ากล่าว
แต่ในใจกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นนี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เวลานี้เอง หยางเฟยเอ๋อร์กับโล่หวางที่ยืนอยู่ด้านนอกห้องเก็บสมบัติ ก็ตกใจจนหน้าซีดเซียว!
เมื่อสักครู่เย่อู๋เทียนกระโดดลงไปช่วยคนนั้น ทั้งสองคนไม่มีเวลาแม้แต่จะห้ามเขาไว้ ตอนนี้พอเห็นเย่อู๋เทียนไม่ได้รับอันตราย ทั้งสองสาวก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างเข่าอ่อน
หยางเฟยเอ๋อร์ถึงกับโพล่งออกมาเสียงดังว่า“เย่อู๋เทียน คนบ้า คุณไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม!คุณไม่นึกถึงฉัน ก็น่าจะนึกถึงภรรยาและลูกชายคุณไว้!ตกใจหมดเลย!ฮือๆๆๆ……”
โล่หวางก็ตะโกนเสียงดังเช่นกัน“เพื่อยัยผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเจี่ยนโล่จู๋ ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย?คุณบ้าไปแล้วใช่ไหม!”
คำพูดของโล่หวาง ทำให้เจี่ยนโล่จู๋โกรธจนจมูกแทบเบี้ยว
แต่คำพูดประโยคถัดไปเย่อู๋เทียน ราวกับดาบของเทพ ทำให้เจี่ยนโล่จู๋แทบอยากจะกระโดดลงไปเดี๋ยวนี้เลย ตายช่างมัน
เย่อู๋เทียนกล่าว“อย่างน้อยเธอก็เป็นเชื้อสายของพ่อคุณ เห็นแก่หน้าพ่อคุณ ผมไม่อาจเห็นคนตายแล้วไม่ช่วย อีกอย่าง ผมจับจุดอ่อนของตาแก่ได้แล้ว ดูเหมือนเป็นผู้ชายจริงจัง ทำเพื่อชาติบ้านเมือง คิดไม่ถึงว่าลับหลังจะชั่วขนาดนี้ เห็นท่ากลับไปผมคงจะต้องสั่งสอนเขาหน่อยแล้วล่ะ!”
โล่หวางตะโกนเสียงดัง“คุณรีบมานี่สิ!”
เย่อู๋เทียนขยับตัวเล็กน้อย ก็กระโดดลงมาที่พื้นด้านนอกของห้องเก็บสมบัติ
ในวินาทีนี้เอง จู่ๆหยางเฟยเอ๋อร์ก็กระโดดกอดคอของเย่อู๋เทียนเอาไว้ ตัวลอยอยู่บนร่างของเย่อู๋เทียน แล้วร้องไห้งอแงเสียงดัง“ตกใจหมดเลย!ตกใจหมดเลย!”
โล่หวางกอดเย่อู๋เทียนไว้ แล้วพูดด้วยดวงตาแดงก่ำเป็นกังวลว่า“ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา ฉันก็ไม่อยากมีชีวิตแล้ว!”
“……”
เย่อู๋เทียนหมดคำพูด
เจี่ยนโล่จู๋กระโดดลงมายืนที่พื้นด้านนอก มองดูฉากที่อยู่ตรงหน้า ด้วยใบหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด ด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง
ในใจของเธอรู้สึกอับอายแปลกๆอธิบายไม่ถูก
คิดไม่ถึงว่า เย่อู๋เทียนไม่เพียงแต่มีภรรยาและลูกชายแล้ว ผู้หญิงรอบกาย ยังไม่ตายใจจากเขาอีก!
ในขณะเดียวกัน งานประมูลด้านนอก ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
แต่ละคนที่อยู่ในงาน ล้วนกำลังคาดเดากันไปต่างๆนานา เจี่ยนโล่จู๋กับหัวเฉียนคุนไปหลังเวที ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่
นานขนาดนี้แล้วทำไมถึงยังไม่กลับมา?
นอกเสียว่า……
พบเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด?
ชั่วขณะหนึ่ง คนที่อยู่ในงานทั้งหมด ก็อยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
จะเดินออกไปตอนนี้?
แต่ก็เสียดาย!
เนื่องจากว่าจะมีโอกาสมาถึงที่นี่มันไม่ง่ายเลย ไม่ได้ของกลับไป ยังไม่อยากยอมแพ้!
อีกทั้ง แก่นเหรียญม่วงที่กำลังดึงดูดอยู่ มันช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน!
โดนเฉพาะสำหรับถังเลี่ยน
ถึงเขาจะเห็นถังว่านฉาวบรรพาจารย์อาวุโสถูกจัดการไปแล้ว และเห็นทรัพย์สินทั้งหมดของถังว่านฉาวโดนปล้นไปเรียบร้อย!
ตอนนี้ เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
แค่ว่า……
ทำอย่างไรถึงจะได้มาซึ่งแก่นเหรียญม่วง?
จนถึงตอนนี้ ถังเลี่ยนยังไม่รู้เลยว่า“เย่จุ้นหลิน”ในสายตาของเขา ตกลงเป็นใครมาจากไหนกันแน่!
ไม่งั้น……
ลองเป็นลูกศิษย์ของไอ้หมอนี่ไปก่อนไหม?
ความคิดที่พึ่งผุดขึ้นมา ถังเลี่ยนแทบอยากจะตบหน้าตัวเอง
อีกฝ่ายจัดการถังว่านฉาวไปแล้ว!
หรือตนจะต้องให้โจรเป็นอาจารย์?
มันจะไม่กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับทุกคนในโลกเหรอ?
แต่เมื่อคุณคิดเกี่ยวกับร่างกายของตัวเองแล้ว เพียงแค่ติดตามข้างกายยอดฝีมือเช่นนี้ ถึงโชคดีพอที่จะกลายเป็นผู้กล้าที่ไม่มีใครเทียบได้!
ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว ความเมตตากรุณาและความชอบธรรมทั้งหมดสามารถถูกละทิ้งได้!
ในขณะนี้เอง หานเฟิ่งอี๋ก็ขึ้นมาด้านบนเวทีจัดแสดง
ลูกก็เหมือนกับแม่
เธอมองถังเลี่ยนแวบหนึ่ง หานเฟิ่งอี๋ก็เดาออกว่าเขากำลังครุ่นคิดลังเลอะไรอยู่ จึงพูดว่า“เลี่ยนเอ๋อร์ ขอแค่ลูกสามารถเป็นผู้กล้าที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ ไม่ว่าจะเป็นแม่ หรือพ่อของลูก ถึงจะต้องตาย ก็จะทำให้ลูกไปถึงฝั่งฝัน!”
ถังเลี่ยนพูดอย่างสับสน“เพราะอะไรครับ?”
หานเฟิ่งอี๋กล่าว“เพราะลูกเป็นอัจฉริยะยอดนักบู๊ที่ไม่เหมือนใครในโลกนี้! แม่ขอบอกลูกว่าบนโลกนี้ อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ ความเมตตากรุณา ความชอบธรรม และศีลธรรมล้วนใช้เพื่อหลอกลวงผู้คน การที่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น คือเป้าหมายในชีวิตของลูกที่ต้องไล่ตาม!ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่ไล่ตามดินแดนแห่งนักบุญ จะถือว่าสรรพสิ่งที่เป็นสัตว์เดรัจฉาน โดยไม่มีข้อยกเว้น!”
ถังเลี่ยนสูดหายใจเข้า แล้วพูดว่า“ผมเข้าใจแล้วครับ”
หานเฟิ่งอี๋พยักหน้ากล่าวว่า“เข้าใจก็ดีแล้ว วางใจเถอะ แม่อยู่ตรงนี้ทั้งคน แม่มีวิธีทำให้‘เย่จุ้นหลน’ผู้นี้ส่งแก่นเหรียญม่วงออกมา”
ถังเลี่ยนพูดอย่างอึ้งๆ“วิธีอะไรครับ?”
หานเฟิ่งอี๋ชะงักครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “บรรพบุรุษของตระกูลหานมีความลับหนึ่ง นอกจากหานหว่านเอ๋อร์ที่ตายไปแล้ว ก็มีแต่แม่คนเดียวที่รู้ อีกเดี๋ยว แม่จะใช้ข้อมูลลับนี้เป็นเบี้ยต่อรองเพื่อเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับ ‘เย่จุ้นหลิน’ แม่เชื่อว่าเขาจะตกลงรับลูกเป็นศิษย์ของเขา! เพราะเขาไม่ได้มาจากหลังภูเขาเอ๋อเหมย ดังนั้นเขาจึงมาจากที่เดียวเท่านั้น !”
ถังเลี่ยนถาม“ที่อะไรกันเนี่ย?”
หายเฟิ่งอี๋ไม่ได้อธิบายข้อสงสัยของถังเลี่ยน แต่กล่าวว่า“หลังจากวันนี้เป็นต้นไป แม่ขอให้ลุกทำสองเรื่อง เรื่องแรกจะต้องคิดหาทุกวิถีทาง เข้าไปหลังภูเขาเอ๋อเหมยให้ได้ อย่างที่สอง ฆ่าเย่อู๋เทียนซะ แก้แค้นแทนแม่ด้วย!”
ถังเลี่ยนขมวดคิ้ว“เย่อู๋เทียน……ไม่เห็นผมอยู่ในสายตาจริงๆ แต่ว่า ในเมื่อแม่จะให้ผมฝากตัวเป็นศิษย์ของ‘เย่จุ้นหลิน’ แต่ทำไมจะให้ผมเข้าไปในหลังภูเขาเอ๋อเหมยด้วยล่ะ?”
หานเฟิ่งอี๋พูดด้วยสีหน้าหนักอึ้ง“อีกหน่อยลูกก็รู้เอง!”
พูดจบ หานเฟิ่งอี๋ก็สงบลง แล้วเดินลงจากเวทีอย่างมั่นใจ
แต่ในขณะที่เดินลงไปด้านล่าง เย่อู๋เทียน ก็เห็นหานเฟิ่งอี๋กับถังเลี่ยนในรูม่านตา
สิ่งที่สมควรพูดถึงคือ……
เย่อู๋เทียนในตอนนี้ ได้คืนกลับสู่สภาพเดิมแล้ว
เจี่ยนโล่จู๋ โล่หวาง และหยางเฟยเอ๋อร์ กำลังเดินกลับมาที่จุดจัดแสดงใหม่อีกครั้ง
วินาทีที่หานเฟิ่งอี๋เห็นเย่อู๋เทียนนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
เย่อู๋เทียน?
ไอ้สารเลวบัดซบ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ในขณะที่หานเฟิ่งอี๋อยู่ในสภาวะตกตะลึง เย่อู๋เทียนก็หันไปยิ้มๆกับเธอ แล้วพูดว่า“มีแค่คนโง่อย่างคุณเท่านั้นแหละ ที่เลี้ยงดูสั่งสอนเศษสวะอย่างถังเลี่ยนออกมาได้!”