จอมนักรบอหังการ - บทที่ 185 เย่อู๋เทียนเหมือนทั้งเทพทั้งปีศาจ
จอมนักรบอหังการ บทที่ 185 เย่อู๋เทียนเหมือนทั้งเทพทั้งปีศาจ!
ตู้ม!
ทุกคนในงานตกตะลึงอีกครั้ง!
ไม่มีใครที่ไม่เบิกตาโต
ไม่คิดไม่ฝันว่าเย่อู๋เทียน จะเอาแก่นเหรียญม่วงออกมาทีเดียวสิบกว่าเหรียญ!
ก่อนหน้านี้เขาบอกว่ามีแค่เหรียญเดียวไม่ใช่เหรอ
ทำไมตอนนี้ถึงเอาออกมาทีเดียวสิบกว่าเหรียญล่ะ นี่……
ตกลงเป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่
คนที่ตกตะลึงที่สุดในที่นี้ หนีไม่พ้นเฉินโป๋เหล่า
เขาอยู่ใกล้เย่อู๋เทียนที่สุด
เมื่อเย่อู๋เทียนเอาแก่นเหรียญม่วงออกมาสิบกว่าเหรียญ เขาสังเกตเห็นพลังในการรับรู้ท่วมท้น ถาโถมเข้ามาทางเขาทันที
พลังอำนาจที่เฉินโป๋เหล่ามีทุกวันนี้ พึ่งพาอาศัยแค่แก่นเหรียญม่วงเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น!
ตอนนี้เห็นเหรียญสิบกว่าเหรียญด้วยตาตัวเอง!
อีกทั้งสิ่งที่ทำให้เฉินโป๋เหล่าตกตะลึงที่สุด ไม่ใช่แค่แก่นเหรียญม่วงสิบกว่าเหรียญในมือเย่อู๋เทียน!
ยังมีความดื่มด่ำแห่งพลังวิถีบู๊ ที่แผ่ออกมาจากเย่อู๋เทียนในตอนนี้!
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ จู่ๆ เฉินโป๋เหล่าเกิดความรู้สึกคิดไปเอง
อยู่ห่างจากเย่อู๋เทียนเพียงสามก้าว แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าระยะห่างของตัวเองกับเย่อู๋เทียน……
ราวฟ้ากับเหว!
และตอนนี้ ลมหายใจของเย่อู๋เทียนพุ่งขึ้นสูง ผมสั้นปลิวขึ้นมาเอง มองเฉินโป๋เหล่าอย่างเย่อหยิ่ง สายตาเหมือนนรกอันเยือกเย็น แล้วพูดอย่างเย็นชาออกมา
“รนหาที่ตาย!”
ใช้เสียงคุมปราณ รวมปราณเป็นพลัง!
เมื่อสิ้นเสียงของเย่อู๋เทียน เฉินโป๋เหล่าเหมือนโดนลมแรงพัดใส่หน้า
ตอนนี้เฉินโป๋เหล่าเพิ่งเข้าใจ
เมื่อกี้จนถึงตอนนี้ ทำไมเย่อู๋เทียนถึงยืนอยู่ตรงนี้อย่างไม่สะทกสะท้าน
เย่อู๋เทียนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย
เฉินโป๋เหล่าไม่เคยเจอผู้แข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนี้มาหลายสิบปีแล้ว ความอาฆาตที่แผ่ออกมารอบตัว เหมือนสามารถจับต้องได้
เหมือนเป็นปฏิกิริยาตอบสนอง เฉินโป๋เหล่าถอยหลังไปสามก้าว ในเวลาเดียวกันก็มีปราณมากมายทั่วตัว!
จู่ๆ เพลิงปราณอันแข็งแกร่งที่ดูเหมือนจับต้องได้ พลุ่งพล่านอย่าบ้าคลั่ง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เฉินโป๋เหล่า!
คนอื่นเห็นภาพนี้
ตัวของเฉินโป๋เหล่า เหมือนกำลังบิดอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า
รอบตัวเฉินโป๋เหล่า ก็เกิดภาพประหลาดขึ้น
ทุกที่ที่เพลิงปราณรอบตัวพาดผ่านไป พรมใต้เท้าขาดเหมือนโดนกระบี่ฟันหลายร้อยครั้ง โต๊ะเก้าอี้ข้างๆ แตกกระจายจนหมด!
น่าหวาดกลัวถึงขั้นสุด!
ตอนนี้ในหัวของทุกคน มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น
กำลังจะเกิดสงครามใหญ่ ต้องรีบออกจากที่นี่!
ไม่งั้น……
การต่อสู้ของเทพเซียน เดือดร้อนไปถึงผู้บริสุทธิ์!
แต่ขณะนั้นเอง เย่อู๋เทียนเดินเข้ามาหนึ่งก้าว มองเฉินโป๋เหล่าอย่างเย็นชา
“มีความสามารถแค่นี้เหรอ”
สีหน้าของเฉินโป๋เหล่าบิดเบี้ยวเข้าไปอีก
สายตาที่มองเย่อู๋เทียน……
เต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสยิ่งตกตะลึงคือ พลานุภาพที่เย่อู๋เทียนแสดงออกมาทั้งหมด โหดเหี้ยมดุร้ายเกินไปมาก
แก่นเหรียญม่วงสิบกว่าเหรียญนั่น เหมือนกากเพชรลอยกระจายไปตามลม!
ทันใดนั้น……
สถานที่จัดงานประมูลชุนชิวขนาดใหญ่ เหมือนกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของการจุติ
มีพลังงานจำนวนมากไหลไปทุกซอกทุกมุม
แก่นเหรียญม่วงสิบกว่าเหรียญ……
ปลิวกระจายแบบนี้เหรอ
ปลิวกระจายเหมือนทรายในสายลมที่ทะเลทรายงั้นเหรอ
ตอนนี้เย่อู๋เทียนมาถึงหน้าเฉินโป๋เหล่าแล้ว
แค่ง้างมือขึ้นแล้วเอามือลง
เฉินโป๋เหล่า เหม่อค้างด้วยความตกตะลึง!
เมื่อมือใหญ่ของเย่อู๋เทียนวางลงบนหัวของเฉินโป๋เหล่า ใบหน้าของเฉินโป๋เหล่าซีดเหมือนคนตาย!
รู้สึกเพียงออร่าที่บ้าคลั่งถึงขั้นสุด เข้ามาจากบนหัวของเขา ลงมาข้างล่างอย่างรวดเร็ว จนถึงฝ่าเท้าของเขา
ทันใดนั้น เฉินโป๋เหล่ารู้สึกว่า……
เหมือนกระดูกทั้งตัว เปลี่ยนจากต้นไม้ที่งอกงาม กลายเป็นต้นไม้ที่แห้งเหี่ยว!
มองดูคนอื่นในที่นี้
สายตาที่มองมาทางนี้ ล้วนเป็นสายตาตกตะลึง
เห็นภาพของเฉินโป๋เหล่า ชราภาพลง ด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
อยู่ดีๆ คนที่ดูอายุ 30-40 ปี กลายเป็นคนแก่ใกล้ตาย โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
ผิวหนังตึงกระชับแปรเปลี่ยนเป็นหย่อนคล้อย และเปลี่ยนจากหย่อนคล้อยเป็นผิวหนังเกิดตะปุ่มตะป่ำแห้งกร้าน!
แววตาที่ดูสดใสมีชีวิตชีวา แปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง ด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า!
ผมดำกลายเป็นผมเทา ผมเทากลายเป็นผมขาว
ตัวที่ยืดตรงตระหง่าน แปรเปลี่ยนเป็นค่อมงอ
หันกลับมาดูเย่อู๋เทียนในตอนนี้
พลานุภาพไม่ลดลง แถมเพิ่มขึ้นด้วย!
เหมือนเทพเหมือนปีศาจ!
เย่อู๋เทียนยิ้มเย็นชาอยู่ครู่หนึ่ง
“นี่คือพลังที่แท้จริงของพลังแก่นม่วง!”
“ฉันให้นายรอด นายก็จะรอด ฉันให้นายตาย นายก็ต้องตาย!”
เมื่อพูดจบ เย่อู๋เทียนเก็บพลังกลับมา
เฉินโป๋เหล่า ฝีมือร้อยปี สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นความสำเร็จของเย่อู๋เทียน!
จนกระทั่งตอนนี้
จู่ๆ มีห้าคำแวบเข้ามาในหัวของเฉินโป๋เหล่า
“วันนี้ไม่ควรมา!”
แม้ตอนนี้เฉินโป๋เหล่ายังเหลือพลังอยู่นิดหน่อย แต่ก็คุกเข่าลงตรงเท้าเย่อู๋เทียน
ไม่มีความสง่าผ่าเผยเหมือนก่อนหน้านี้ มีเพียงความแก่เงอะงะเท่านั้น!
เงียบสงัด!
เงียบเหมือนตาย!
ไม่มีใครคิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้!
ผู้แข็งแกร่งเป็นร้อยคนในที่นี้ ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นหรือเหยียดหยามเย่อู๋เทียนอีก
มีเพียงความยกย่องเท่านั้น!
จนถึงตอนนี้ ทุกคนเพิ่งเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
ทำไมเย่อู๋เทียนถึงอวดดีขนาดนั้น!
ดูเหมือนตอนนี้
เขาสามารถอวดดีได้จริงๆ
เฉินโป๋เหล่าที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของหลังภูเขาเอ๋อเหมย เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ไม่มีโอกาสแม้แต่จะลงมือ ลองถามทั้งใต้หล้า ยังมีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเย่อู๋เทียนได้อีก
ขณะนั้นเย่อู๋เทียนแตะนิ้วลงกลางหว่างคิ้วของเฉินโป๋เหล่า
เฉินโป๋เหล่าคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว
ดังนั้นตอนนี้เขาจึงหัวเราะเหมือนโรคจิต
“ได้ตายคามือคนแบบนาย ชีวิตของคนอย่างเฉินโป๋เหล่าคุ้มค่าแล้ว!”
แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเขาพูดจบ จู่ๆ เขารู้สึกเหมือนร่างกายตัวเอง เหมือนต้นไม้เหี่ยวเจอฤดูใบไม้ผลิ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง!
เวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ
ผมขาวกลายเป็นดำ
มือเหี่ยวทั้งสองข้าง แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนเยาว์เหมือนเด็ก
สุดท้ายเฉินโป๋เหล่า คุกเข่าอยู่ตรงเท้าเย่อู๋เทียน ด้วยรูปร่างที่เหมือนวัยรุ่น
ตอนนี้
ทุกคนพากันฮือฮา!
ปาฏิหาริย์!
นี่มันปาฏิหาริย์!
พลังแก่นม่วง ไม่เพียงแต่ทำให้คนตายได้ ยังทำให้คนมีชีวิตได้ด้วยเหรอ
เฉินโป๋เหล่ามองความเปลี่ยนแปลงของตัวเองอย่างตกตะลึง ราวกับได้รับหลังจากที่สูญเสียไป ตื้นตันจนน้ำตาแทบไหลออกมา เอาหัวโขกพื้นจนเกิดเสียง เพื่อคารวะเย่อู๋เทียน “เฉินโป๋เหล่า ยอมเป็นศิษย์ของคุณเย่!”
เย่อู๋เทียนแค่ปรายตามองเฉินโป๋เหล่า พูดอย่างเฉยเมยว่า “ไสหัวไป!”
เฉินโป๋เหล่าอึ้งอยู่ที่เดิม
ตัวเองจะให้เย่อู๋เทียนเป็นอาจารย์ ก็ไม่มีสิทธิ์นั้นเหรอ
เฉินโป๋เหล่ากำลังจะพูดอะไร เย่อู๋เทียนกวาดตามองทุกคน แล้วพูดเพียงประโยคเดียว “หลังจากวันนี้ ใครกล้าใช้กำลังกระทำผิด โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายของประเทศ ต้องผ่านด่านของเย่อู๋เทียนไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
เมื่อพูดจบ เย่อู๋เทียนโยนแก่นเหรียญม่วงที่พกติดตัวและยังเหลืออยู่ไปรอบๆ
แต่ไม่มีใครกล้าแย่ง!
เย่อู๋เทียนมองโล่หวางอีกครั้ง แล้วพูดว่า “เอาของทั้งหมดที่ได้วันนี้ทิ้งไว้ที่นี่ ก็แค่ของของไร้ค่า ไม่ควรค่าให้พูดถึง”
พูดจบ เย่อู๋เทียนเดินออกไปช้าๆ
งานประมูลขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความเงียบ!
ใครจะไปคิดว่า……
ของที่ผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊จำนวนมาก มองว่าเป็นสมบัติล้ำค่า กลับเป็นแค่ขยะในสายตาเย่อู๋เทียน
โล่หวางกับหยางเฟยเอ๋อร์ มองแผ่นหลังของเย่อู๋เทียนที่เดินออกไป เหม่ออยู่นาน จึงตั้งสติได้ แล้วรีบเดินตามไปทันที!
เมื่อแผ่นหลังของเย่อู๋เทียนหายไป ทุกคนในที่นี้ตกอยู่ในอาการบ้าคลั่ง!
การต่อสู้แย่งชิงแก่นเหรียญม่วงได้เริ่มขึ้นแล้ว!
มีเพียงเฉินเมิ่งเฉี่ยนตระกูลเฉิน รวมไปถึงจูเก่ออิ่นหลิงและอิ่นโม่โฉวแห่งเขาเซวียนอู่ ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการสู้ครั้งนี้
แต่เมื่อตามไป กลับไม่เห็นเงาของเย่อู๋เทียนแล้ว
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป……
เย่อู๋เทียน!
สำหรับโลกบู๊ในปัจจุบัน กลายเป็นตำนานที่แท้จริง
สำหรับคนที่เป็นอัจฉริยะอายุน้อยในสายตาทุกคนอย่างถังเลี่ยน กลายเป็นฝันร้าย!
ในเวลาเดียวกันที่ตระกูลฉาวแห่งเจียงหนาน
คนที่เพิ่งหายจากการป่วยหนักอย่างฉาวซิง ตอนนี้กำลังเดินไปเดินมาด้วยใบหน้ากังวล อยู่ที่ห้องรับแขก
หลี่จิงหงตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานกั่ง ยังไม่ได้กลับไป
เฉียนจิ้งคุนและภรรยา อีกทั้งเฉียนเป่ยเฉิน ก็ยังมาเป็นแขกของตระกูลฉาว
ไม่มีใครที่ไม่มีท่าทางกังวลเลยสักคน
ฉาวซิงเดินไปเดินมา จู่ๆ ก็ถอนหายใจแรง มองถังเสี่ยวไป๋ที่นั่งยองรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ตรงมุม แล้วพูดว่า “ถังเสี่ยวไป๋ นายไปดูสถานการณ์ที่อาคารชุนชิวดีไหม”
ถังเสี่ยวไป๋มองฉาวซิงด้วยสายตาเยือกเย็นแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรสักคำ
ฉาวซิงพูดด้วยใบหน้าทุกข์ระทม “ฉันขอร้องล่ะ นายไปดูหน่อย ฉันไม่ได้เป็นห่วงคุณเย่ ฉันเป็นห่วงลูกสาวฉัน เธอไม่มีอาวุธอะไรในมือเลย ไปเก็บค่าเช่ากับคุณเย่ นั่นมันอันตรายถึงชีวิตเลยนะ!”
ในที่สุดถังเสี่ยวไป๋พูดออกมาว่า “ฉันได้รับข่าวมา งานประมูลชุนชิวครั้งนี้ รวมผู้แข็งแกร่งของโลกบู๊เอาไว้เกือบหมด ก่อนหน้านี้ฉันยังมีความมั่นใจว่าหลังจากไปที่นั่น จะสามารถฆ่าถังเลี่ยนได้ ดูเหมือนตอนนี้……ฉันมันก็แค่ขยะ ไม่ต้องมาสนใจฉัน!”
ฉาวซิงกำลังจะพูดอะไร จู่ๆ เฉียนจิ้งคุนพูดสั่งเฉียนเป่ยเฉินว่า “ลูกไปดูสิ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์ของนายจริงๆ ตระกูลเรากับตระกูลฉาวคงต้องจบเห่แน่นอน!”
เฉียนเป่ยเฉินเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดว่า “อาจารย์ไม่ให้ผมไป”
เฉียนจิ้งคุนตวาดเสียงดังว่า “ถังเสี่ยวไป๋บอกว่า ขนาดผู้อาวุโสของหลังภูเขาเอ๋อเหมยยังไปเลย อีกทั้งยังมีคนที่โดดเด่นด้านต่างๆ เป็นร้อยคน อาจารย์นายไปเก็บค่าเช่า นั่นมันคือการปะทะกับปากกระบอกปืนไม่ใช่หรือไง รีบไป! นายต้องรู้ว่าตอนนี้ตระกูลเฉียนของเราเล็งไปที่อาจารย์ของนาย หนึ่งร่วงทุกคนล่ม หนึ่งโรจน์ทุกคนรุ่ง นายเป็นศิษย์ของเขา ขนาดไปนายยังไม่กล้าไปเลยเหรอ”
เฉียนเป่ยเฉินพูดว่า “งั้นพ่อไปสิ ผมฟังคำสั่งอาจารย์ เขาให้ผมรอที่ตระกูลฉาว ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น”
เฉียนจิ้งคุนโมโหสุดขีด เขาพูดว่า “ฉันสู้นายยังไม่ได้เลย นายจะให้ฉันไปตายหรือไง”
แม้เฉียนเป่ยเฉินก็เป็นห่วงเย่อู๋เทียนเหมือนกัน แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็เลือกที่จะหลับตาลงพักสายตา……
ขณะนั้น จู่ๆ โทรศัพท์ในห้องรับแขกดังขึ้น
พ่อบ้านตระกูลฉาวทำหน้าที่รับโทรศัพท์ หลังจากรับสาย จู่ๆ เขาหน้าซีดเหมือนคนตาย พูดเสียงสั่นเครือกับฉาวซิงว่า “คุณท่าน อาคารชุนชิวโทรมาบอกว่า……จะมาตระกูลฉาวของเราครับ!”
ฉาวซิงเหมือนโดนฟ้าผ่า
จบแล้ว……
เย่อู๋เทียนกับลูกสาวตัวเอง ต้องเจอเรื่องไม่ดีแน่นอน
ไม่งั้นคนฝั่งอาคารชุนชิวจะโทรมาที่บ้านด้วยตัวเองได้ยังไง
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉาวซิงรีบพูดเบาๆ กับพ่อบ้านอาวุโสว่า “บอกว่าฉันไม่อยู่! รีบวางสายไปเลย! รีบเก็บของแล้วหนีกันเถอะ!”
ขณะนั้น เย่อู๋เทียนกับหยางเฟยเอ๋อร์ รวมถึงโล่หวาง กลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลฉาว
แต่ทั้งสามคนเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู ก็มีเสียงชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง
“คุณเย่ ผมขอเป็นศิษย์คุณได้ไหม”