จอมนักรบอหังการ - บทที่ 192 ตู้ม ฮือฮาทั้งงาน
จอมนักรบอหังการ บทที่ 192 ตู้ม! ฮือฮาทั้งงาน!
หยูฉิงมองเย่อู๋เทียนอย่างอึ้งๆ
คิดไม่ถึงเลย ในรูปภาพที่เพิ่งมีคนส่งเข้ามาในกลุ่มเพื่อน ผู้ชายที่นั่งข้างฝ่าบาทผู้สูงส่ง จะคล้ายกับเย่อู๋เทียนขนาดนี้
แต่……
เรียกว่าดูเหมือนแล้วกัน
แต่ทำไมรู้สึกว่ามีตรงไหนที่ดูผิดปกติ
ขณะที่หยูฉิงกำลังสงสัยอยู่ เย่อู๋เทียนหันมามองหยูฉิงแวบหนึ่ง
ทั้งสองสบตากัน
หยูฉิงรีบละสายตาออก
แต่หลังจากละสายตาออก หยูฉิงมองเย่อู๋เทียนอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ เธอรู้สึกว่าตัวเองอาจจะมีอาการผิดปกติ
เย่อู๋เทียนที่อยู่ตรงหน้า จะเป็นคนเดียวกับผู้ชายที่อยู่ในรูปได้ยังไง
แค่รูปร่างหน้าตาค่อนข้างคล้ายกันเท่านั้น
ไม่ต้องพูดถึงตัวตนของผู้ชายในรูป แค่เขาสามารถนั่งอยู่ข้างฝ่าบาทผู้สูงส่งได้ ก็เพียงพออธิบายได้แล้วว่าเบื้องหลังของอีกฝ่ายน่ากลัวขนาดไหน
แต่เย่อู๋เทียนที่อยู่ตรงหน้านี่ล่ะ
ขับรถสปอร์ตรุ่นที่ราคาถูกสุด จะเป็นผู้ชายที่อยู่ในรูปได้ยังไง
แต่หยูฉิงก็อดถามอ้ายเสี่ยวเตี๋ยที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้ อีกทั้งยังถามด้วยเสียงที่เบามากด้วย
“นี่ เสี่ยวเตี๋ย เย่อู๋เทียนทำงานอะไรกันแน่”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยอึ้งเล็กน้อย หัวเราะคิกคักแล้วตอบ
“เขาบอกแล้วไงว่าอาชีพอิสระ!”
หยูฉิงสงสัยครู่หนึ่ง ก็อดถามออกมาอีกไม่ได้
“งั้นเขา……เป็นลูกคนเดียวใช่ไหม เขามีน้องชายอะไรทำนองนี้ไหม”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยมองหยูฉิงอย่างสนใจอยู่รอบหนึ่ง
“ทำไม เธอก็ยอมจำนนต่อเสน่ห์ของเขาเหรอ ก็ได้ งั้นฉันกับเสิ่นรั่วชิงจะใจกว้างหน่อยก็ได้ เพิ่มเธอด้วยอีกคน ต่อไปคุณหยูที่ขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เป็นเมียที่สามของสามีเรา! ฮ่าๆ เธอขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคงเข้าใจ……”
ไม่รอให้อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดจบ หยูฉิงถลึงตาใส่เธอ
“ยัยบ้านี่ เธอพูดไร้สาระอะไรเนี่ย! ฉันถามว่าเย่อู๋เทียนมีน้องชายไหม!”
การที่ถามแบบนี้ หยูฉิงแค่อยากยืนยันว่ารูปผู้ชายที่ส่งมาในกลุ่มเพื่อน เป็นน้องชายของเย่อู๋เทียนหรือเปล่า
ไม่งั้นบนโลกนี้จะมีคนสองคน ที่หน้าตาคล้ายกันขนาดนี้เหรอ
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยยิ้มแล้วมองหยูฉิง จากนั้นพูดว่า “เสียใจด้วย เย่อู๋เทียนเป็นลูกคนเดียว ไม่มีน้องชาย! เธอล้มเลิกจะเป็นพี่น้องกับเย่อู๋เทียนเถอะ เธอเหมาะจะเป็นเมียน้อยเย่อู๋เทียนมากกว่านะ!”
หยูฉิงกลอกตามองบน แล้วด่าว่า “ประสาท!”
พูดจบ หยูฉิงก็ไม่เอาเรื่องนี้มาใส่ใจอีก
ในความคิดพื้นฐานของเธอ เย่อู๋เทียนก็แค่คนที่คล้ายกับผู้ชายคนที่นั่งข้างฝ่าบาทผู้สูงส่งในรูป เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนเดียวกัน
ตอนนี้เย่อู๋เทียนละสายตาออกจากใบหน้าหยูฉิงแล้ว
แม้ไม่เห็นภาพในมือถือหยูฉิง แต่จากการแสดงออกของหยูฉิงเมื่อครู่……
เย่อู๋เทียนเดาความคิดในใจเธอได้แล้ว
หยูฉิงกำลังสงสัยตัวตนของตัวเองอยู่แน่นอน
อันที่จริงไม่จำเป็นต้องสงสัย
ตัวเองก็คือคนที่เธอกำลังคิดอยู่นั่นแหละ
แต่เวลาสิบปี ตัวเองเปลี่ยนไปมาก
บนตัวไม่มีออร่าวัยรุ่นเหมือนเมื่อสิบปีก่อนอีกแล้ว แม้แต่รูปร่างหน้าตา ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้น
ถ้ามีคนเอาตัวเองเมื่อสิบปีก่อนมาเทียบกับตัวเองในตอนนี้
อันที่จริงก็มีความคล้ายกันบางส่วนเท่านั้น
ตอนนี้กลุ่มคนเดินเข้ามาในสวนเฉียนหลงแล้ว
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเดินข้างเสิ่นรั่วชิง ยังมีพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด
“คิดไม่ถึงจริงๆ หลิงฟ่างเป็นลูกหลานของตระกูลหลิงแห่งเจียงหนาน แต่เมื่อเทียบกับสามีของเรา ก็ยังไม่ควรค่าให้พูดถึงอยู่ดี!”
“ฮ่าๆ แม้ตอนนี้ฉันยอมรับเธอแล้ว สายตาเธอดีมากจริงๆ เมื่อสิบปีก่อนสามีเรายังไม่เอาไหนเลย แต่ตอนนี้……”
ไม่รอให้อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดจบ เสิ่นรั่วชิงถลึงตาใส่อ้ายเสี่ยวเตี๋ยทันที
“ถ้าเธอพูดไร้สาระอีก ฉันจะตัดความสัมพันธ์กับเธอ!”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยใบหน้าโศกเศร้า
“เมื่อก่อนเธอพูดเองนี่ว่ามีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ใครมีของดีก็ต้องแบ่งปัน ตอนนี้เธอได้สามีดีขนาดนี้ เธอก็ลืมคำมั่นสัญญาในตอนนั้นไปเลยเหรอ ฉันเสียใจมาก!”
จู่ๆ เสิ่นรั่วชิงมองอ้ายเสี่ยวเตี๋ยอย่างจริงจัง
“อ้ายเสี่ยวเตี๋ย เธอจะแย่งผู้ชายกับฉันจริงๆ ใช่ไหม”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยมองบน
“น่าเบื่อจริงๆ! ก็แค่ล้อเล่นเอง เธอคิดจริงซะแล้ว!”
เสิ่นรั่วชิงพูดอย่างมีเหตุผลว่า
“ฉันไม่คิดว่าเธอกำลังพูดล้อเล่น!”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยตะโกนเสียงดัง
“เสิ่นรั่วชิง เธอมีผู้ชายแล้วลืมเพื่อน!”
ยัยบ้าอ้ายเสี่ยวเตี๋ยทำให้เสิ่นรั่วชิงใกล้บ้าแล้ว
แต่……
ก็ยังทำอะไรยัยบ้านี่ไม่ได้สักนิดเดียว
เย่อู๋เทียนเห็นอ้ายเสี่ยวเตี๋ยบ้าขนาดนี้ เลยตั้งใจจะพูดออกมาว่า อย่าพูดล้อเล่นจนเกินไป
คิดไม่ถึง ไม่รอให้เย่อู๋เทียนพูด อ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็กำหมัดเหวี่ยงไปมาตรงหน้าเย่อู๋เทียน แล้วพูดอย่างดุดันว่า “ต่อไปดีกับภรรยาฉันหน่อย ถ้านายกล้าทำผิดต่อภรรยาฉัน นายได้เห็นดีกับฉันแน่!”
“.…..”
เย่อู๋เทียนสงสัยจริงจัง
การที่อ้ายเสี่ยวเตี๋ยมีความคิดที่ทำให้คนตามไม่ทันขนาดนี้ บ้าขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะ……
ความสัมพันธ์ของเธอกับเสิ่นรั่วชิง เกินขอบเขตของมิตรภาพปกติไปแล้ว ไม่งั้นเธอคงไม่ก่อกวนขนาดนี้หรอก!
ดูท่าแล้ว ต้องหาโอกาสคุยกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ยอย่างจริงจังสักหน่อย
เมื่อคนพวกนี้ปรากฏตัวในสวนเฉียนหลง คนจำนวนมากข้างใน ล้วนสังเกตเห็นเสิ่นรั่วชิง
“ว้าว ดูเร็วๆ ว่านั่นใคร เสิ่นรั่วชิงสุดสวยไง นางเอกหมายเลขหนึ่งในงานเลี้ยงสังสรรค์ของเพื่อนร่วมชั้นวันนี้!”
ผู้หญิงแต่งตัวงดงามคนหนึ่งเป็นคนพูดออกมา
เมื่อพูดจบ สายตาของทุกคนในงาน พากันมองไปที่ใบหน้าของเสิ่นรั่วชิง
“โอ้โห……ไม่ได้เจอกันหลายปี ทำไมเสิ่นรั่วชิงถึงสวยได้ขนาดนี้”
“เสิ่นรั่วชิง เธอคือเสิ่นรั่วชิงใช่ไหม”
“เธอกำลังย้อนวัยอยู่หรือเปล่าเนี่ย”
ไม่นานทุกคนพากันยื่นหน้าออกมาดู ไม่มีใครที่ไม่ตะลึงกับความสวยของเสิ่นรั่วชิง
ก่อนเสิ่นรั่วชิงมาที่นี่ เธอมีความสุขมาก
เพราะไม่ได้เจอเพื่อนเก่ามานานหลายปีมาก
แต่ตอนนี้……
กลับตาลปัตรไปหมดแล้ว!
ทุกคนไม่ได้ดูสดใสบริสุทธิ์เหมือนตอนมหาวิทยาลัยอีกแล้ว
แต่ละคนเปลี่ยนไปมาก
อีกทั้งน้ำเสียงที่หลายคนพูดออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าดูบุ่มบ่ามมุทะลุมาก
ทุกคนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องดิ้นรนในสังคม
มิตรภาพเมื่อก่อน เริ่มกลายเป็นผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพราะกาลเวลาที่ผ่านไปอย่างยาวนาน
แม้ภายนอกทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเองกับเสิ่นรั่วชิงมาก
แต่เห็นได้ไม่ยาก
ก็แค่กำลังมุ่งหาผลประโยชน์ หลีกเลี่ยงอันตราย
จุดนี้หยูฉิงก็ได้รับความรู้สึกแบบนี้อย่างรุนแรงเหมือนกัน
มองเสิ่นรั่วชิงกำลังทักทายทุกคนอยู่ จู่ๆ ก็แอบคิดขึ้นมา
ถ้าเสิ่นรั่วชิงไม่ได้มีหน้าตาเหมือนตอนนี้ ถ้าเสิ่นรั่วชิงไม่ได้มีฐานะเหมือนตอนนี้ ถ้าคนรวยโคตรๆ อย่างหลิงฟ่างไม่ได้ตามจีบเสิ่นรั่วชิง คนในที่นี้จะเป็นกันเองกับเสิ่นรั่วชิงขนาดนี้ไหม
คำตอบคือใช่
เมื่อคิดเช่นนี้ หยูฉิงรู้สึกเจ็บปวดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะจู่ๆ เธอก็นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา คนนั้นคือจ้าวโย่วหลิงผู้ช่วยของเธอ
สมัยมหาวิทยาลัย จ้าวโย่วหลิงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหยูฉิงมาก
หลังจากจบมหาวิทยาลัย หยูฉิงเปิดบริษัทแรกของเธอ หลังจากทำเงินได้ จึงช่วยจ้าวโย่วหลิงชำระหนี้ของครอบครัวเธอ
หลังจากนั้นทั้งสองคนกลายเป็นพาร์ทเนอร์กัน
แต่เพราะความผิดพลาดครั้งใหญ่หนึ่งครั้งระหว่างการทำงานของจ้าวโย่วหลิง ทำให้หยูฉิงเผชิญกับการล้มละลายเป็นครั้งแรกของชีวิต
ทำให้มิตรภาพของทั้งสองคนแตกหักเพราะเรื่องนี้
ทางใครทางมัน
ต่อมาหลังจากหยูฉิงขจัดปัญหานานาประการที่อยู่ข้างหน้า และกล้าที่จะก้าวเดินต่อไป ก็เปิดบริษัทแห่งที่สอง
ทำจนถึงตอนนี้ ถือว่าเป็นผู้โดดเด่นในวงการธุรกิจแล้ว
เมื่อหนึ่งปีก่อนจ้าวโย่วหลิงกลับมาอยู่กับหยูฉิงอีกครั้ง แม้หยูฉิงให้หุ้นเธอบางส่วน แต่ไม่กล้าให้เธอเป็นพาร์ทเนอร์อีกแล้ว
เจตนาเดิมของหยูฉิงคือ ให้จ้าวโย่วหลิงเป็นผู้ช่วยเธอสักสองสามปีก่อน
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทั้งสองคนค่อยร่วมมือกันต่อ
แต่นึกถึงสิ่งที่จ้าวโย่วหลิงแสดงให้เห็นในช่วงหนึ่งปีนี้ กลับทำให้หยูฉิงคิดว่าจ้าวโย่วหลิงเปลี่ยนไปมากขึ้น ซึ่งมันมาจากธาตุแท้ของเธอ……
ขณะที่หยูฉิงกำลังคิดเช่นนี้
จู่ๆ จ้าวโย่วหลิงที่อยู่ในชุดราตรี เดินห้องมาจากห้องโถงของสวนเฉียนหลง
พูดเรื่องรูปร่างหน้าตา
ถ้าเสิ่นรั่วชิงไม่มา งั้นผู้หญิงอย่างจ้าวโย่วหลิง คงเป็นสาวงามอันดับหนึ่งในที่นี้อย่างชัดเจน
แต่ถึงแม้เสิ่นรั่วชิงอยู่ในงาน ตอนที่จ้าวโย่วหลิงปรากฏต่อสายตาทุกคน
คนที่ตกตะลึงในความงามของเธอ ก็มีอย่างไม่ขาดสาย!
ด้านบุคลิก เสิ่นรั่วชิงเหนือกว่าจ้าวโย่วหลิง
ด้านรูปร่างหน้าตา……
แม้จ้าวโย่วหลิงเป็นรองอยู่นิดหน่อย แต่ไม่ได้ห่างจากเสิ่นรั่วชิงสักเท่าไร
อีกทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตา ใครจะพูดได้อย่างชัดเจนล่ะ
สรุปว่า
การปรากฏตัวของจ้าวโย่วหลิง เรียกสายตาบางส่วนที่เดิมจดจ่ออยู่กับใบหน้าของเสิ่นรั่วชิง
เพียงประโยคเดียว
ในสายตาของผู้ชายบางส่วนในที่นี้ มีเพียงจ้าวโย่วหลิงที่เสมอกับเสิ่นรั่วชิงได้!
ตอนนี้จ้าวโย่วหลิงมองมาทางเสิ่นรั่วชิง เธอเดินมาช้าๆ ยิ้มบางๆ แล้วเรียกชื่อออกมา “รั่วชิง!”
แม้ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเคยแช่น้ำร้อนด้วยกันแล้ว แต่เหมือนตอนนั้นจ้าวโย่วหลิงมีเรื่องด่วนต้องจัดการ ทั้งสองคนยังไม่ทันได้พูดกันอย่างจริงจังเลย
เสิ่นรั่วชิงไม่รู้ธาตุแท้ของจ้าวโย่วหลิงว่าเป็นอย่างไร ส่งอ้อมกอดใหญ่ให้เธอ แล้วถามว่า “สองสามปีนี้เป็นยังไงบ้าง”
ไหล่สวยของจ้าวโย่วหลิงสั่นเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าชะงักไป ยิ้มแล้วพูดว่า “ก็ดี”
เสิ่นรั่วชิงผละออกจากจ้าวโย่วหลิง มองเย่อู๋เทียนที่อยู่ข้างๆ ซึ่งไม่อยู่ในสายตาของทุกคน เธอยิ้มแล้วพูดแนะนำว่า “ขอแนะนำสักหน่อย นี่คือสามีฉัน เย่อู๋เทียน!”
จ้าวโย่วหลิงหันไปมองทางเย่อู๋เทียนทันที เธออึ้งอยู่ที่เดิม
ในขณะเดียวกัน สายตาของทุกคนพากันมองไปที่เย่อู๋เทียน
นอกจากอ้ายเสี่ยวเตี๋ยกับหยูฉิง ใครก็ไม่คาดคิด ผู้หญิงที่เหมือนเทพธิดาอย่างเสิ่นรั่วชิง จะมีสามีแล้ว!
สิ่งสำคัญคือผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่เฉียนเป่ยเฉิน ลูกคนรวยตระกูลเฉียนแห่งเมืองเจียงไห่ในตำนาน
โดยเฉพาะจ้าวโย่วหลิง
ไม่คิดไม่ฝันเลย สามีของเสิ่นรั่วชิง เป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียงแบบนี้!
ไม่ใช่เฉียนเป่ยเฉิน คุณชายใหญ่ตระกูลเฉียนเหรอ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ข่าวที่ตัวเองได้รับมา ผิดพลาดอย่างนั้นเหรอ
ขณะนั้น เสียงหัวเราะแสบแก้วหูดังออกมาจากกลุ่มคน
“โอ๊ย! ไม่จริงใช่ไหม ไอ้หมอนี่เป็นสามีของเสิ่นรั่วชิงเหรอ ถ้าไม่ได้ยินจากปากเสิ่นรั่วชิง ฉันคงเข้าใจว่าเขาเป็นบอดี้การ์ดของเสิ่นรั่วชิงเสียอีก!”
เมื่อพูดจบ มีคนหัวเราะเสียงดังขึ้นมาอีก
“ฉันก็ด้วย ฉันนึกว่าอย่างมากคนนี้ก็แค่คนขับรถของเสิ่นรั่วชิง คิดไม่ถึงจริงๆ เขาเป็นสามีของเสิ่นรั่วชิง!”
“เสิ่นรั่วชิง เธอแต่งงานเมื่อไรกัน เธอรู้ไหมว่าหลิงฟ่างรอเธอมาหลายปีมาก วันนี้เขาจัดงานนี้เพื่อเธอเลยนะ ตอนนี้เธอกลับพูดว่ามีสามีแล้ว”
ทุกคนมองเย่อู๋เทียนเหมือนมองลิง
ทุกคนตกตะลึงจนสุดขีด
ใครจะไปคิดว่า……
ผู้หญิงที่สวยโคตรอย่างเสิ่นรั่วชิง จะเลือกคนไม่มีชื่อเสียงแบบนี้มาเป็นสามี
นี่มันโง่ชัดๆ!
ไม่ใช่แค่โง่ อีกทั้งยังสายตาไม่ดีอีกด้วย!
เจอสายตาดูถูกมากมายขนาดนี้ เย่อู๋เทียนยืนอย่างเฉยเมยข้างเสิ่นรั่วชิง ไม่พูดอะไรสักคำ
เสิ่นรั่วชิงขมวดคิ้วเรียวยาวเบาๆ แต่ต่อมาก็มีคำพูดที่ทำให้คนตกตะลึงอีกครั้ง
“นี่สามีฉัน แน่นอนว่าฉันยังไม่แต่งกับเขาอย่างเป็นทางการ แต่ฉันมีลูกกับเขาแล้ว ตอนนี้ลูกชายฉันช่วยทำงานบ้านได้แล้วนะ”
ตู้ม!
ทุกคนฮือฮา!
ขณะนั้น จู่ๆ มีสาวงามในชุดกี่เพ้า เดินออกมาจากในห้องโถงของสวนเฉียนหลง
สวยระดับเฟิร์สคลาสทุกคน
หุ่นสุดยอดที่หนึ่ง
บนขาของผู้หญิงทุกคน มีถุงน่องบางคลุมเอาไว้หนึ่งชั้น
เมื่อสาวงามพวกนี้ยืนแยกเป็นสองแถว
หลิงฟ่างที่อยู่ในชุดสูทรองเท้าหนัง เดินช้าๆ ออกมาจากในห้องโถง
อีกทั้งคนที่เดินตามหลังเขามา ล้วนเป็นพวกลูกคนรวยโคตรๆ ทั้งนั้น หนึ่งในนั้นคือเฉินจู้เซียว คุณชายใหญ่ตระกูลเฉินแห่งเมืองหนานกั่ง ซึ่งทำธุรกิจหลักเกี่ยวกับเพชรพลอย!
นั่นก็คือพี่ชายของเฉินเมิ่งเฉี่ยน!
ทันใดนั้น ทุกคนพากันเงียบลง!
ส่วนหลิงฟ่างมองเย่อู๋เทียนเพียงแวบเดียว และไม่เอาเขามาใส่ใจอีก
แม้ผิดคาดเล็กน้อยที่อีกฝ่ายไม่ใช่เฉียนเป่ยเฉิน ตระกูลเฉียนแห่งเมืองเจียงไห่ แต่ก็ไม่สำคัญแล้ว
วันนี้เย่อู๋เทียน อย่าฝันว่าจะได้รอดออกไป