จอมนักรบอหังการ - บทที่ 201 วันนี้ เด็กแปดสิบหกคน ก้าวเดียวสู่พลังตัน 1
จอมนักรบอหังการ บทที่ 201 วันนี้ เด็กแปดสิบหกคน ก้าวเดียวสู่พลังตัน! 1
ที่น่าเสียใจคือ…….
หลังจากที่เย่อู๋เทียนมาถึงที่คฤหาสน์ชุนชิวด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด ไม่เจอแม้แต่เงาของเทียนหลงเอ๋อร์
เพราะว่าในขณะนี้
เทียนหลงเอ๋อร์ได้ปรากฏตัวในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่เหนือระดับแห่งหนึ่งในเขตชุนชิวเมืองเจียงหนานแล้ว
กำลังเล่นเกมอยู่กับคนอื่น
ทำอะไรไม่ได้ เย่อู๋เทียนทำได้เพียงอารมณ์เสียกลับมา
อารมณ์
ไม่ดีมาก
ถ้าหากมีคนหนึ่งในโลกนี้ที่สามารถทำให้เย่อู๋เทียนโกรธได้ คนคนนี้จะต้องเป็นเทียนหลงเอ๋อร์คนนี้อย่างแน่นอน
นิสัยร้าย!
วิธีการคิดค่อนข้างแปลก!
แม่มดน้อยหนึ่งในล้าน!
ทำให้เย่อู๋เทียนทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ!
หลังจากที่กลับถึงโรงแรม เย่อู๋เทียนก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทานข้าว ก็พาเสิ่นรั่วชิงและอ้ายเสี่ยวเตี๋ยกลับไปที่เมืองเจียงไห่
ระหว่างทาง อ้ายเสี่ยวเตี๋ยอกสั่นขวัญแขวน
“เย่อู๋เทียน พี่ว่าเทียนหลงเอ๋อร์คนนั้น เป็นใครกันแน่?”
“ฝีมือแฮ็กเกอร์ของเธอเก่งกาจเกินไปแล้ว ไม่นึกเลยว่าสามารถควบคุมโทรศัพท์เครื่องหนึ่งจากระยะไกลได้!”
“โทรศัพท์ของฉัน คงจะไม่พังโดยไม่มีเหตุผลใช่มั้ย?”
“โทรศัพท์เครื่องหนึ่ง อยู่ดีๆจะระเบิดได้ยังไง?”
“นี่มันก็น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
“ตอนนี้ฉันไม่กล้าพกโทรศัพท์ติดตัวแล้ว ฉันยังกลัวอยู่เลย!”
ได้ยินอ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดฉอดๆไม่หยุด เย่อู๋เทียนพูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็น
“ฉันได้แจ้งให้หน่วยกลาโหมเมืองเจียงหนานแล้ว ช่องโหว่ของเครือข่ายได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว โทรศัพท์ของเธอไม่มีทางระเบิดหรอก นอกจากนี้ ช่วยเงียบๆหน่อย ตอนนี้ฉันอารมณ์ยิ่งไม่ดีอยู่”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยอ้าปาก อยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา
เสิ่นรั่วชิงที่อยู่ข้างๆคนขับมองดูเย่อู๋เทียนที่กำลังขับอยู่อย่างระมัดระวัง และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “สถานะของฉันไม่ได้ถูกคุกคามใช่มั้ย?”
เย่อู๋เทียนนิ่งอึ้งไปก่อน และหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้: “เอาล่ะ ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
เสิ่นรั่วชิงก็ยิ้ม ยื่นมือไปจับมือของเย่อู๋เทียน และพูดว่า: “ผู้ชายที่บ้านเพอร์เฟกต์เกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องดีสักทีเดียว ต่อไปพี่ต้องถ่อมตนหน่อย ไม่ต้องโกนหนวด ไม่ต้องล้างหน้าด้วย พยายามทำตัวสกปรกหน่อย ไม่อย่างนั้นต่อไปฉันจะทำยังไง ในใจรู้สึกตื่นตระหนกมาก!”
เย่อู๋เทียนพูดว่า: “เธอเนี่ยเอาใจผู้ชายเป็นจริงๆ”
เสิ่นรั่วชิงพูดด้วยยิ้มว่า: “เอาใจแค่พี่เท่านั้น ขับรถเร็วหน่อย กลับบ้านแล้ว ฉันทำให้พี่ใจเย็นลง”
ประโยคนี้ ก็ทำลายอารมณ์ไม่ดีเย่อู๋เทียนไปจนหมดสิ้น……..
ทันใดนั้น เย่อู๋เทียนกระแอมในลำคอ เอื้อมมือไปเปิดวิทยุในรถ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง
ตอนแรกต้องการฟังเพลง แต่เมื่อเย่อู๋เทียนเปลี่ยนช่องวิทยุ เสียงที่จริงจังของหญิงพิธีกรก็ดังมาจากเครื่องเสียงรถยนต์อย่างกะทันหัน
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เหตุการณ์อาหารเป็นพิษที่โรงเรียนประถมทิงเฉาในเมืองเจียงไห่ในครั้งนี้ จะกลายเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยของอาหารที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศหลง!”
“ทั่วทั้งโรงเรียนประถมทิงเฉา มีเด็กทั้งหมดแปดสิบหกคนกำลังมีอาการอาเจียน และช็อก เมื่อกี้นี้มีข่าวจากโรงพยาบาลกลางเมืองเจียงไห่มา ว่ามีเด็กสิบเจ็ดคน ใกล้จะเสียชีวิตแล้ว!”
“แม้ว่าโรงพยาบาลกลางเมืองเจียงไห่จะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก และแพทย์ชั้นนำ เมื่อเผชิญกับเหตุฉุกเฉินเช่นนี้ เกรงว่าก็เป็นเรื่องยากที่จะพลิกวิกฤตได้!”
“เมื่อกี้นี้ คุณท่านผิงปู๋จิ้วของหอร้อยยาเมืองเจียงไห่ ก็ได้ถูกเชิญไปที่โรงพยาบาลกลางเมืองเจียงไห่แล้ว เขา จะสามารถช่วยเด็กแปดสิบหกคนที่กำลังจะตายเหล่านี้ได้หรือไม่?”
“ท่านผู้ฟังที่เคารพรักทุกท่าน ขอให้พวกเราร่วมกันอธิษฐานให้เด็กๆที่น่ารักทั้งแปดสิบหกคนนี้ ขอให้พวกเขา สามารถที่จะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้!”
ตามด้วยเสียงของพิธีกรหญิงในวิทยุหายไป เย่อู๋เทียนในรถ มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างมากแล้ว
เสิ่นรั่วชิงที่อยู่ข้างๆ ก็ตื่นตระหนกแล้ว
เพราะว่าลูกชายของทั้งสองคน เย่จูนหลิน ก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนประถมทิงเฉาเมืองเจียงไห่
เสิ่นรั่วชิงตื่นตระหนกจนสุดขีด และพูดออกมาว่า: “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? โรงเรียนประถมทิงเฉา? เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ยังไง? จูนหลินจะไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
เย่อู๋เทียนได้เพิ่มความเร็วของรถจนสุดขีดแล้ว และพูดขึ้นมาว่า: “โทรศัพท์หาแม่ของเธอ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น”
เสิ่นรั่วชิงโทรศัพท์หาเกาเม่ยหลิงอย่างรวดเร็ว และถามด้วยเสียงสั่นเครือ: “แม่ค่ะ เมื่อกี้นี้หนูได้ยินทางวิทยุ บอกว่ามีเหตุการณ์อาหารเป็นพิษในโรงเรียนประถมของจูนหลิน? จูนหลินล่ะ? ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?”
เกาเม่ยหลิงพูดด้วยความงุนงง: “เหตุการณ์อาหารเป็นพิษ? ไม่ได้ยินนะ แม่เพิ่งจะรับจูนหลินกลับมา เขากำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ชั้นบน”
เสิ่นรั่วชิงพูดด้วยเสียงร้องไห้: “งั้นแม่รีบขึ้นชั้นบนไปดูหน่อยค่ะ ดูว่าจูนหลินเป็นยังไงบ้าง”
เกาเม่ยหลิงก็พูดในทันที: “ได้ๆๆ ลูกอย่าเพิ่งกังวลไปเลย เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เอ่อ แม่……แม่จะไปดูเดี๋ยวนี้แหละ”
เสิ่นรั่วชิงเหงื่อแตก และพูดว่า: “เร็วหน่อยค่ะ!”
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงร้องอุทานของเกาเม่ยหลิงก็ดังมาจากในโทรศัพท์: “ว้ายยย! จูนหลิน! จูนหลินลูกเป็นอะไร?”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เสิ่นรั่วชิงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก: “แม่ค่ะ! แม่! จูนหลินเป็นอะไร?!”
เกาเม่ยหลิงตอบด้วยเสียงร้องไห้: “จูนหลินหมดสติไป! ในปากยังมีฟองออกมาอีกมากมาย”
เสิ่นรั่วชิงตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์
ในเวลานี้นี่เอง เย่อู๋เทียนเบรกกะทันหัน และพูดบางอย่างกับเสิ่นรั่วชิง
“รถช้าเกินไป! ฉันต้องกลับไปช่วยคนที่เมืองเจียงไห่ก่อน!”
หลังจากที่พูดจบ ไม่รอให้เสิ่นรั่วชิงจะตอบโต้ เย่อู๋เทียนก็เปิดประตูลงจากรถ
วินาทีต่อมา
ตูม!
กระโดดขึ้นจากพื้น!
ตรงที่ตกลงมา เป็นบนหลังของอินทรีหิมะตัวใหญ่ที่ติดตามเย่อู๋เทียนมาโดยตลอด
อีกด้านหนึ่ง เขาทะเลหมอก จวนทะเลหมอก
เกาเม่ยหลิงตะโกนไปที่นอกประตูด้วยความตื่นตระหนก
“จื่อตง!”
“เผยจื่อตง!”
“เร็วเข้า จูนหลินโดนวางยาพิษ!”
หลังจากนั้นไม่นาน เผยจื่อตงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องนอนของเย่จูนหลิน
เมื่อเห็นว่าเย่จูนหลินหมดสติไป และมีฟองฟู่ที่ปาก สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมากในทันที
ต่อจากนั้น เผยจื่อตงก็อุ้มเย่จูนหลินขึ้นมา ด้วยความเร็วที่เร็วอย่างยิ่ง มุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลกลางเมืองเจียงไห่
ประมาณยี่สิบนาทีกว่าๆ
เย่จูนหลินเหมือนกับเด็กแปดสิบหกคน ปรากฏตัวในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลกลางเมืองเจียงไห่
ในขณะนี้ ผิงปู๋จิ้วกำลังฝังเข็มรักษาเด็กที่โดนวางยาพิษในนั้นอยู่ แต่ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน ไหน เด็กที่ถูกวางยาพิษที่อยู่ตรงหน้านี้ ก็ไม่ได้แสดงอาการดีขึ้นเลย
เฉินเหวินจิ้งและหมอคนอื่นๆในโรงพยาบาลกลางเมืองเจียงไห่ ก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน!
ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ทุกคนกังวลอย่างมาก!