จอมนักรบอหังการ - บทที่ 300 ผมชอบใช้ดาบ ดาบที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ!2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 300 ผมชอบใช้ดาบ ดาบที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ!2
ทำได้แค่เห็นผิวเธอนิดหน่อยจากรอยแยกของผมยาว
รอยแผลเป็นซับซ้อนไปมา!
ทำให้คนรู้สึกว่า จะเป็นผีก็มิใช่คนก็มิเชิง!
และในตอนนี้เอง สองข้างทางของเวที ก็เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อิ่นโม่โฉวดังมาให้ได้ยิน
“หน้าตาน่าเกลียดขนาดนี้ ยังมีหน้ามีชีวิตอยู่ต่ออีก?”
“หล่อนชื่ออิ่นโม่โฉว ถึงจะหน้าตาน่าเกลียด แต่ชาตินี้ก็คุ้มแล้วนะ สามารถส่งผลให้พวกเรา มาดูว่าหล่อนจะตายยังไง!”
“ได้ยินว่า หล่อนเป็นศิษย์ส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋!”
“ตอนส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋รับศิษย์ ไม่ระวังเอาเสียเลย น่าขายหน้าจริงๆเลย!”
“ไม่เห็นหรอ ถึงจะหน้าตาน่าเกลียด แต่รูปร่างไม่เลวเลย พวกผู้อาวุโสของส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋อาจจะมีรสนิยมพิเศษก็เป็นได้นะ!”
คำพูดดูถูกเหยียดหยามอิ่นโม่โฉวต่างๆนานาลอยเข้าหูไม่หยุด
และถูกเย่อู๋เทียนได้ยินทั้งหมด
เพียงแต่ย่างก้าวของเย่อู๋เทียนกลับยังคงไม่รีบไม่ร้อน
แต่คนที่รู้จักเขาดีต่างรู้กันว่า ยิ่งย่างก้าวของเขาช้าลงเท่าไหร่ ยามที่เขาหยุดฝีเท้าลง ก็จะยิ่งลงมือหนักขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่า นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง
เย่อู๋เทียนเดินไปเวที ระหว่างนั้นก็รวบรวมปราณในตัวไปด้วย
เข็มชี่พวกนั้นที่ผนึกฝีมือที่แท้จริงของเขาไว้ในเจ็ดเส้นประสาทแปดสัญญาณชีพกำลังสลายไปช้าๆ
ดังนั้นจากสาเหตุข้างบน ทุกย่างก้าวของเย่อู๋เทียน แต่ละก้าวไม่เพียงหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับกลายเป็นเบาขึ้นเรื่อยๆ!
พอมองดูละเอียดแล้ว จะพบว่า ร่างของเย่อู๋เทียนเริ่มเบาหวิวจนเหมือนกับขนนกขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดเสิ่นรั่วชิงที่เดินข้างเย่อู๋เทียนมาก็มองเห็นใบหน้าอิ่นโม่โฉวชัดเจนขึ้น
และแตะแขนเย่อู๋เทียนฉับพลัน
พลางอุทาน
“ผู้หญิงในกรงนั่นทำผิดอะไรกันแน่? ทำไมถึงโดนคนทำแบบนี้? ไม่มีใครจัดการหรอ?”
เย่อู๋เทียนถึงบอกเสิ่นรั่วชิงถึงฐานะที่แท้จริงของผู้หญิงในกรง
“เธอชื่ออิ่นโม่โฉว ลูกศิษย์ผมเอง ไม่ได้ทำอะไรผิด”
เสิ่นรั่วชิงเบิกตากว้างฉับพลัน
“อะไรนะ? เธอคือโม่โฉว?”
เย่อู๋เทียนพยักหน้าบอก
“ใช่ โม่โฉว”
พอพูดจบ เสิ่นรั่วชิงที่อยู่ข้างกายเขาหายตัวไปทันที
ทะยานขึ้นจากพื้น!
ไปปรากฏตัวหน้ากรงเหล็กบนเวที
และจนถึงตอนนี้เองทุกคนในที่นั้นพากันสงบลง
ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่สองข้างทางของเวที หรือคนที่อยู่บนสิบสองบัลลังก์บนกำแพงด้านหลังเวทีนั่น
ล้วนพุ่งสายตาไปที่ตัวเสิ่นรั่วชิงโดยพร้อมเพรียง
ทุกคนล้วนตกตะลึงในความงามของเธอ
พริบตาเดียวเสียงซุบซิบเซ็งแซ่ขึ้นมา
“ผู้หญิงคนนี้….ใครกันน่ะ? ทำไมถึงได้สวยขนาดนี้?”
“ตามเย่อู๋เทียนมา ก็น่าจะเป็นเมียของเย่อู๋เทียนมดตัวนั้นแหละ!”
“ในที่สุดมดตัวนั้นก็มาแล้ว!”
เสิ่นรั่วชิงไม่ได้สนใจคนพวกนั้น แต่กลับจ้องไปที่อิ่นโม่โฉวในกรงเหล็ก
“โม่โฉว?”
เสิ่นรั่วชิงเรียกอิ่นโม่โฉว
อิ่นโม่โฉวที่โดนตรึงกระดูกสะบักในกรงเหล็ก ร่างกายสะท้านเยือก ประหนึ่งใช้แรงทั่วทั้งร่างกายถึงจะมองเห็นเสิ่นรั่วชิงที่อยู่ด้านนอกกรงได้
“อาจารย์…แม่…”
อาจารย์แม่คำเดียวเกือบทำเสิ่นรั่วชิงน้ำตาพรั่งพรู
เสิ่นรั่วชิงจับเหล็กดำสายยาวบนกรงเหล็กอย่างร้อนใจ เดิมคิดออกแรงกระชากดึงออกสองข้าง
แต่พอเสิ่นรั่วชิงออกแรง
ก็ได้ยินเสียงแหบเครือของอิ่นโม่โฉวดังมาจากในกรงเหล็ก
เสิ่นรั่วชิงถึงรู้ว่า
โซ่เหล็กของกรงนี่เป็นส่วนหนึ่งของกรง และบนปมเหล็กที่ปลายสุดของโซ่เหล็กทุกเส้นล้วนเต็มไปด้วยเข็มเหล็ก!
เข็มเหล็กพวกนี้จิ้มแทงเข้าไปในเนื้อและกระดูกของอิ่นโม่โฉวทั้งหมดแน่!
ดังนั้นด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะเป็นขยับกรงเหล็ก หรือขยับโซ่เหล็ก อิ่นโม่โฉวก็จะได้รับความเจ็บปวดประหนึ่งตัดกระดูกไปด้วย
และนี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เย่อู๋เทียนไม่ได้รีบร้อนเข้ามา
เขากำลังครุ่นคิดว่าจะช่วยอิ่นโม่โฉวด้วยวิธีที่ได้ผลที่สุดยังไงดี!
ในตอนนี้เอง หานตี้ซือที่ตามหลังเย่อู๋เทียนมา หยิบกระบี่สยบชั่วเล่มนั้นออกจากเอวอีกครั้ง
จากนั้นหานตี้ซือบอกเย่อู๋เทียนว่า
“กระบี่ ให้เธอ ฆ่าเถอะ วันนี้อยากฆ่าเท่าไหร่ก็ฆ่าไปได้เลย!”
เย่อู๋เทียนไม่ได้รับกระบี่มา
แต่กลับสะบัดข้อมือ จากนั้นก็มีสิ่งหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อเขาดุจสายวัด
สิ่งนี้เป็นสีเงินทั้งชิ้น
กว้างกว่าสายวัดที่ไว้ใช้วัดขนาดเสื้อผ้าหลายเท่านั้น
เย่อู๋เทียนสะบัดมืออีกครั้ง
ของที่เหมือนสายวัดนี้เกิดเสียงชิ้งและกระจายออก
กลายเป็นดาบยาวที่แคบมากเล่มหนึ่ง
ตัวดาบด้านนอกเหมือนดาบสมัยถัง แต่ไม่มีปลอกที่ด้ามจับ
เย่อู๋เทียนใช้ผ้าผืนหนึ่งพันด้ามดาบไว้ จากนั้นถึงตอบหานตี้ซือว่า
“ลืมบอกคุณไป อันที่จริง ผมไม่ชอบใช้กระบี่ ผมชอบใช้ดาบ ดาบที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ!”
พอพูดจบ
เย่อู๋เทียนทะยานขึ้นจากพื้นทันที!
ปรี่ดาบเข้าไป
รังสีดาบวาดออกไป!
ทุกที่ที่พาดผ่าน เหนือกรงเหล็กบนเวทีพลันแตกร้าว!
รวมถึงเหล็กดำสายยาวทุกเส้นบนกรงเหล็กยังไม่มีข้อยกเว้น แตกร้าวไปด้วยกันหมด!
แต่รังสีดาบยังไม่หยุด!
ประหนึ่งรังสีไร้รูปร่างพุ่งไปทางด้านหลังกรงเหล็กต่อ
ฟาดฟันไปที่กำแพงสูงใหญ่นั่นด้านหลังเวที
ตู้ม!
กำแพงเกิดเป็นทางยาวออกมา
สั่นสะท้านไปทุกทิศ!
ขนาดคนบัลลังก์อยู่บนสิบสองบัลลังก์นั่นที่แขวนอยู่บนกำแพงยังเหมือนโดนแผ่นดินไหวสะเทือนหนักในเวลานี้เลย!
ทั้งหมดพร้อมกันออกจากบัลลังก์!
วินาทีต่อมากำแพงทั้งด้านแตกร้าวราวกับใยแมงมุม
สุดท้ายกำแพงสูงใหญ่พลันแตกร่วงกราวเป็นก้อนหินลงพื้น
เวลานี้เย่อู๋เทียนได้หยุดยืนบนเวที แต่ฝ่าเท้าแค่ชะงักแตะเล็กน้อย ก่อนจะขยับต่อไป
และปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าผู้ชายที่ใส่หน้ากากอสูรคนหนึ่ง
ไร้คำพูด!
ดาบฟัน!
หัวขาดลิ่ว!
ผู้ชายที่ใส่หน้ากากอสูรคนนี้เป็นเจ้าวิหารของวิหารจอมเทพ
เย่อู๋เทียนเคยฆ่าล้างวิหารจอมเทพ
เลยเคยเจอหน้าเขาครั้งหนึ่ง
จากนั้นหัวของเจ้าวิหารแห่งวิหารจอมเทพพลันลอยกระเด็นกลางอากาศ!
เงียบ!
เงียบราวกับป่าช้า!
ใครเลยจะคิดว่า หลังจากเย่อู๋เทียนมาแล้วจะไม่พูดพร่ำทำเพลง และตวัดดาบฆ่าล้างเลย
แถมดาบของเขายังน่ากลัวขนาดนี้อีก!
หัวของเจ้าวิหารแห่งวิหารจอมเทพขาดกระเด็นหล่นลงพื้น
เย่อู๋เทียนไม่มองหัวนั่นเลยสักนิด เขากวาดตามองทุกคนในที่นั้นด้วยสายตาเย็นชา พลางถามเสียงเนิบว่า
“เจ้าวิหารแห่งวิหารจอมเทพเป็นหมาของใคร?”
ระหว่างพูด เย่อู๋เทียนเดินเข้าไปในกรงเหล็ก และวางมือบนไหล่ของอิ่นโม่โฉว
วินาทีต่อมา เข็มเหล็กที่สองมือและสองขาของอิ่นโม่โฉวพลันกระเด็นออกไป
จากนั้น ไอหมอกสีขาวกลุ่มหนึ่งคลุมไปทั่วร่างอิ่นโม่โฉว ทั้งข้อมือข้าเท้าของเธอที่โดนปมเหล็กรัดไว้…
สร้างเนื้อขึ้นจากกระดูกสีขาว!