จอมนักรบอหังการ - บทที่ 304 เย่ฉิงชางลงมือ ประหนึ่งมังกรเหลืองกลืนกินอาหาร!2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 304 เย่ฉิงชางลงมือ ประหนึ่งมังกรเหลืองกลืนกินอาหาร!2
ใช่
คนที่ตัดหัวของโคอิซึมิ เบเร็ตสึก็คืออิ่นโม่โฉวนั่นเอง
แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะหายตะลึง
อิ่นโม่โฉวพลันหายตัวไปจากที่นั่นอีก
จุดต่อไปของฝีเท้าเธอคือ
ท่ามกลางกลุ่มคนจากสำนักเชียนจี
วินาทีต่อมาจับดาบไว้มั่น
ฟันดาบไป
หัวลอยกระเด็น
ประหนึ่งตัดแตงโม!
แค่เสี้ยววินาทีกลุ่มคนที่มาจากสำนักเชียนจีไม่มีใครเหลือรอดเลย!
อิ่นโม่โฉวที่เลือดสาดเต็มร่าง ทะยานร่างขึ้นอีกครั้งมาลงที่ข้างกายเย่อู๋เทียน!
แต่เย่อู๋เทียนกลับถามเสียงเรียบไม่แม้แต่จะหันไปมองสักนิดว่า
“ทำไมต้องฆ่าล้างสำนักเชียนจี?”
อิ่นโม่โฉวตอบ
“ไม่ชอบหน้า”
เย่อู๋เทียนแค่นเสียงหยัน
“ครั้งหน้าใช้อาวุธอื่น อย่าทำดาบผมสกปรกอีก”
อิ่นโม่โฉวตอบอย่างนอบน้อม
“ค่ะ”
บทสนทนาปกติธรรมดาระหว่างอาจารย์และศิษย์
แต่พอได้ยินในหูคนอื่น
กลับเหมือนเสียงผีนรก
ทุกอำนาจที่อยู่ที่นั่นล้วนเงียบกริบกันหมด
โซโลมอนจากประเทศมหาอำนาจ
พราหมณ์จากประเทศเชวี่ย
คนพวกนั้นที่มาจากสำนักพระเจ้าแห่งตะวันตก
มากมายนัก
ทุกคนล้วนรู้สึกเหมือนอยู่ในนรก
ความคิดเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวคือ
ไม่ควรมาที่นี่!
นักสู้พวกนี้ของประเทศหลงช่างน่ากลัวจริงๆ!
เวลานี้เย่ขวางที่ล้มอยู่กับพื้นหยุดแหกปากร้องโอดโอยแล้ว
เขากำลังมองอิ่นโม่โฉว
ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ไม่! เป็นไปไม่ได้! ฉันเป็นนักสู้ที่ผนวกตันหกสิบครั้ง! อิ่นโม่โฉว แกจะ…”
ไม่รอเย่ขวางพูดจบ เย่อู๋เทียนตัดบทว่า
“อิ่นโม่โฉวลูกศิษย์ผม เมื่อครู่พึ่งผนวกตันไปครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ตันเหลือง แต่เป็นตันเสวียน!” พอพูดจบ เย่อู๋เทียนหายไปจากที่เดิม
มาข้างกายเย่ขวาง
พอเท้าลง
ก็เตะหัวของเย่ขวางกระเด็นเข้าเวทีทันที
ชิ้ง!
เงียบหยั่งกับป่าช้า!
แต่ไม่รอคนทั้งหมดได้สติกลับมา เย่อู๋เทียนปรายตามองรอบๆพลางบอกเสียงเรียบว่า
“ก่อนผมมา คนที่รังแกอิ่นโม่โฉวลูกศิษย์ผม ตัดเส้นชีพจรเองซะ”
“โดยเฉพาะคนของส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋ ยังมี…คนของตระกูลหลิงล้วนตัดเส้นชีพจรเองซะ”
พอคำนี้ออกมา
คนของส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋สีหน้าซีดราวปลาตาย
คนของตระกูลหลิง แต่ละคนล้วนมีสีหน้าซีดเผือดดุจกระดาษ
อหังการ์!
โอหังเกินไปแล้ว!
ไม่มีคำพูดไร้สาระอะไรให้มากความ ไม่ฟังคำอธิบายใดๆ ก็ให้พวกเขาตัดเส้นชีพจรเองเลย?
โอหังถึงขีดสุดจริงๆ!
แต่ว่า….
ไม่มีใครกล้าขัดขืนคำสั่งของเย่อู๋เทียน!
แต่กลับเห็นจูเก่อเจินที่ยืนอยู่บนเวที เขาที่ใส่หน้ากากสีทอง
ตอนนี้ตัวสั่นไปทั้งตัว
ไม่รู้ว่าโกรธหรือตกใจ
ทันใดนั้น!
ร่างของจูเก่อเจินพลันแผ่ซ่านออร่าบ้าระห่ำออกมา
แต่กลับไม่ได้พุ่งเข้ามาทำร้ายเย่อู๋เทียน
หากพุ่งไปที่ด้านล่างเวที
เร็วจนทำให้คนกัดลิ้นตาย!
คำพูดเดียว
ตอนนี้ไม่หนีแล้วจะรอเมื่อไหร่?
เย่อู๋เทียนมองจูเก่อเจินแวบเดียว แต่ไม่ได้ขยับ
คนที่ขยับคืออิ่นโม่โฉว
เธอปราดร่างไป พริบตาเดียวก็ไปอยู่ด้านหลังจูเก่อเจิน
ฟันดาบหนึ่งลงไป!
รังสีกระบี่ฟาดฟัน!
แต่ในวินาทีนี้เอง แสงสีขาวสายหนึ่งพุ่งจากมุมหนึ่งของเวทีไป
บรึ้ม!
พริบตาเดียว แสงสีขาวปะทะเข้ากับรังสีดาบของอิ่นโม่โฉวที่ฟันออกมา
เกิดเสียงเปรี้ยงปร้างดุจสายฟ้าฟาดกลางอากาศ!
เสมือนเกิดแผ่นดินไหวระดับแปดในที่นั้น!
บรรณยากาศน่ากลัวคุกรุ่น!
พอความเคลื่อนไหวใหญ่มหึมานี้กระจายไป…
ทุกคนก็ได้เห็นว่า เงาร่างในชุดเสื้อคลุมยาวสีขาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าอิ่นโม่โฉว
คนคนนี้คือเย่ฉิงชาง
เขาที่มายืนอยู่หน้าอิ่นโม่โฉว ผมสั้นพลิ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติ ดูราวกับเทพ!
บนใบหน้าเย่ฉิงชางมีรอยยิ้มบางๆ
ดูสง่างดงามยิ่งนัก
เขากวาดตามองอิ่นโม่โฉวจากหัวจรดเท้าหนึ่งครั้ง พลางพยักหน้าน้อยๆ พูดว่า
“ก้าวเท้าเข้าพลังเทพแล้ว?”
“อาจารย์ของเธอไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ!”
“เพียงแต่น่าเสียดาย รากฐานเธอไม่มั่นคง เป็นได้แค่เตาหลอมให้ผม”
พูดจบ เย่ฉิงชางปราดร่างยื่นมือไปที่กระดูกหน้าผากของอิ่นโม่โฉว
ในเวลาเดียวกัน
บนตัวเย่ฉิงชาง ลมปราณเคลื่อนไหวอย่างแรง
บรรยากาศกระเพื่อมเคลื่อนไหว
ประหนึ่งเสียงร้องของมังกร
ประหนึ่งมังกรเหลืองกลืนกินอาหาร!
และในวินาทีนี้เอง…
อิ่นโม่โฉวรู้สึกเพียงว่าลมปราณทั้งหมดในร่างกายตน ล้วนพุ่งไปที่กระดูกหน้าผากของตนทั้งหมด!
สีหน้าอิ่นโม่โฉวเปลี่ยนทันที!
แววตาที่มองเย่ฉิงชางหวาดกลัวถึงขีดสุด!
แต่กลับเห็นเย่อู๋เทียนบนเวที
เขากลับไม่รีบร้อนไปช่วยคน แต่ขยับปลายเท้าเตะหินก้อนหนึ่งออกไป
หินพุ่งไปที่หว่างคิ้วของเย่ฉิงชาง
เย่ฉิงชางหรี่ตามองก้อนหินที่พุ่งเข้ามา พลางแค่นยิ้มเย็น
“วิชาจิตมังกรเหลือง ผมฝึกถึงชั้นที่แปดแล้ว!”
ระหว่างพูด เย่ฉิงชางยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว ลมปราณไหลออกจากปลายนิ้วเขาราวกับงูตัวเล็กแหลมออกไป
ปะทะเข้ากับก้อนหินที่เย่อู๋เทียนเตะมาพอดี
ก้อนหินกลายเป็นผุยผงทันที!