จอมนักรบอหังการ - บทที่ 308 ประหนึ่งจักรพรรดิเสด็จ!2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 308 ประหนึ่งจักรพรรดิเสด็จ!2
เย่ฉิงชางในตอนนี้ ออร่าหายเรียบ กลายเป็นคนธรรมดาที่ไม่เป็นวรยุทธ์คนหนึ่งเท่านั้น!
ส่วนอิ่นโม่โฉว…
ออร่าสะพัดไปทั่วร่าง!
เห็นได้ชัดว่า เธอได้ยึดเอาพลังยุทธ์ของเย่ฉิงชางมาเป็นของตัวเองหมดแล้ว!
แต่ในตอนนี้เอง
เย่อู๋เทียนที่อยู่บนเวทีเอ่ยปากอีกครั้ง
“โม่โฉว เอาพลังยุทธ์คืนเย่ฉิงชาง ต่อไปอย่าใช้วิชาจิตมังกรเหลืองอีก พลังยุทธ์นี้ไม่เหมาะกับเธอ พลังยุทธ์ทั้งร่างของเย่ฉิงชางคู่ควรแค่หลอมเส้นชีพจรของเธอ ถ้าจะเก็บไว้ ไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่”
บรึ้ม!
พอคำพูดนี้ออกมา โกลาหลไปตามๆกัน!
เมื่อกี้พึ่งยึดพลังยุทธ์ของเย่ฉิงชางมาเป็นของตัวเอง ตอนนี้ให้คืนกลับไป?
นี่ก็เหมือนกับว่า
อิ่นโม่โฉวได้รับทรัพย์สมบัติมหาศาลภายใต้การชี้แนะของเย่อู๋เทียน จากนั้นเย่อู๋เทียนก็บอกอีกว่า ทรัพย์สมบัติมหาศาลนี่มีความหมายไม่มาก!
และปัญหาอยู่ที่ พออิ่นโม่โฉวฟังคำสั่งของเย่อู๋เทียนแล้ว ก็ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
เธอคืนพลังยุทธ์กลับให้เย่ฉิงชางไปอีก
แค่ชั่วพริบตาเดียว เย่ฉิงชางก็ฟื้นฟูท่าทางแข็งกล้าเมื่อครู่กลับมาอีกครั้ง!
แต่เย่ฉิงชางในตอนนี้ไม่มีความน่ากลัวอะไรสำหรับอิ่นโม่โฉวแล้ว!
ทำร้ายไม่มาก แต่เหยียดหยามหนักมาก!
เย่ฉิงชางไม่คิดเลยว่า
เย่อู๋เทียนไม่แยแสพลังยุทธ์ของตนเลย
พออิ่นโม่โฉวปล่อยข้อมือเย่ฉิงชาง เย่ฉิงชางยืนบื้ออยู่กับที่งงเป็นไก่ตาแตกไปเลย
เขามองเย่อู๋เทียนที่อยู่บนเวทีห่างไกลออกไป
ประหนึ่งมองดูเทพเซียน!
แต่พอหันไปดูจูเก่อเจินที่ก่อนหน้านี้พยายามหลบหนีจากบนเวที
ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้จากไป
เขายืนหลบหลังเย่ฉิงชาง และไม่กล้าขยับเขยื้อนแล้ว
เขารู้ดีว่า
ถ้าตนคิดจะไปจากที่นี่อย่างดื้อรั้น จุดจบมีแค่อย่างเดียว
ตาย!
บางทีอาจจะไม่ได้ตายภายใต้คมดาบของอิ่นโม่โฉว แต่ต้องตายภายใต้เท้าของเย่อู๋เทียนแน่
พอคิดถึงจุดนี้ จูเก่อเจินพลันคุกเข่าลงพื้นทันที
ตอนนี้คุกเข่าให้ใครมันไม่สำคัญแล้ว
ที่สำคัญคือ
เขาในตอนนี้ไม่กล้ายืนอยู่แล้ว
พอหันมองเย่ฉิงชาง เขาได้สติกลับมา และมองเย่อู๋เทียนอย่างตกตะลึง ส่ายหัวรัวๆว่า
“ไม่! เป็นไปไม่ได้! แกรู้วิธีฝึกวิชาจิตมังกรเหลืองได้ยังไง!”
เย่อู๋เทียนที่อยู่บนเวที ขยับปลายเท้าเล็กน้อย
กระโดดลงมา
จุดที่ลงมายืนคือข้างกายอิ่นโม่โฉว
เย่อู๋เทียนมองเย่ฉิงชางพลางว่า
“คุกเข่าลง”
เย่ฉิงชางไม่ได้คุกเข่า
เย่อู๋เทียนพลันคว้าดาบจากมืออิ่นโม่โฉววางพาดที่คอเย่ฉิงชางเร็วปานสายฟ้าแลบ
“ฆ่าแก ง่ายเหมือนฆ่าไก่!”
เย่ฉิงชางคุกเข่าลงทันที
เย่อู๋เทียนเก็บดาบไป แสยะยิ้ม
“แกคุกเข่าลงครั้งนี้ ยิ่งทำให้ผมดูถูกมากขึ้นไปอีก เป็นตายยังมองไม่ทะลุ มีหน้ามาโอหังว่าไร้คู่ต่อสู้ในแผ่นดิน!”
พอคำพูดนี้ออกมา ใบหน้าเย่ฉิงชางแสบร้อนขึ้นมาทันที
เหมือนโดนคนตบหน้าฉาดใหญ่
อัปยศถึงขีดสุด!
จากนั้นเย่อู๋เทียนไม่แม้แต่จะเหลือบแลเย่ฉิงชางอีก เขาหมุนตัวมองอิ่นโม่โฉว และยื่นมือไปกดไหล่เธอ
พริบตานั้น อิ่นโม่โฉวรู้สึกเหมือนมีลมปราณสายหนึ่งไหลเข้าร่างกาย
อิ่นโม่โฉวสีหน้างุนงง
ในตอนนี้เอง ลมปราณที่ไหลรินเข้าร่างกายเธอพลันทยอยไปตามเส้นชีพจรของเธออย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ครู่หนึ่ง เย่อู๋เทียนพูดเนิบช้าขึ้นมาคำหนึ่ง
“จำได้แล้วหรือยัง?”
อิ่นโม่โฉวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบอย่างนอบน้อม
“จำได้แล้วค่ะ”
เย่อู๋เทียนยิ้มบอก
“วิธีเดินปราณเมื่อครู่มีต้นกำเนิดมาจากเต้าจ้าง ไม่รู้ว่าร้ายกาจกว่าวิชาจิตมังกรเหลืองกี่เท่านัก ที่สำคัญที่สุดคือ สิ่งที่เหมาะกับเธอ ถึงจะดีที่สุด”
อิ่นโม่โฉวไหล่สะท้าน ยกมือคำนับเป็นเชิงคารวะ
“ขอบพระคุณอาจารย์ที่ชี้แนะค่ะ!”
เย่อู๋เทียนพยักหน้า สายตาปรายไปมองคนพวกนั้นของตระกูลหลิงกับส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋ พลางสั่งการเสียงเรียบว่า
“จำไว้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอเป็นลูกศิษย์ของผมเย่อู๋เทียน ใครกล้ารังแกเธอ เอาคืนให้ร้อยเท่าพันเท่าไปเลย!”
ระหว่างพูด เย่อู๋เทียนยื่นดาบในมือตนให้กับอิ่นโม่โฉว
พลางกำชับอีกคำ
“ไปเถอะ ก็ไม่ถึงกับต้องฆ่าพวกเขา แต่โทษตายละเว้นได้ โทษเป็นยังอยู่ ลงโทษพวกเขาซะ ให้พวกเขามาทางไหนกลับไปใช้ชีวิตที่เหลือทางนั้น!”
พอคำพูดนี้ออกมา ไม่ว่าจะเป็นคนของตระกูลหลิงหรือส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋
ไม่มีใครเลยที่ไม่มีสีหน้าเหมือนปลาตาย
จูเก่อเจินที่ยังคุกเข่าอยู่ที่พื้น ยิ่งโขกหัวรัวๆมากขึ้น
“ไว้ชีวิตด้วย!”
“ขอให้คุณเย่ไว้ชีวิตด้วย!”
“โม่โฉว!อิ่นโม่โฉว!เธอ…เธอเติบโตมากับเขาเสวี๋ยนอู่ของเรา เธอ…เธอกับจูเก๋ออิ่นหลิง ไม่ใช่พี่น้องแต่รักกันเสียยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆ ขอร้องล่ะ…ละเว้นพวกเราด้วยเถอะ!”
อิ่นโม่โฉวมองจูเก่อเจินอย่างเย็นชา พลางว่า
“จูเก๋ออิ่นหลิง? หลายปีมานี้เขากับฉันทำเรื่องมากมายให้เขาเสวี๋ยนอู่ และเขายังเป็นลูกชายแท้ๆของคุณ แต่คุณกลับใช้คุณหนูตระกูลหลิงมาข่มขู่บังคับให้เขาล่อฉันมาเจียงหนานและขังฉันไว้ในกรง คุณสมควรตาย!”
จูเก่อเจินพูดตะกุกตะกักฉับพลัน
“จูเก๋ออิ่นหลิง…เขา เขาเขาเขาไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของฉัน เขาเป็นคนของตระกูลจางแห่งพันธมิตรมังกร เขาเป็นคนที่ตระกูลจางแห่งพันธมิตรมังกรวางไว้ข้างกายเพื่อจับตาเขาเสวี๋ยนอู่ ฉันถึงได้ใช้เขาไปล่อเธอมาเจียงหนาน!”
“ไว้ชีวิตด้วย!ไว้ชีวิตด้วยเถอะ!”
“เป้าหมายของพวกเราไม่ใช่เธอ แต่…คือคือคือ….”
ระหว่างพูด จูเก่อเจินหันมองเย่อู๋เทียน
แต่กลับไม่กล้าเอ่ยชื่อเย่อู๋เทียนออกมา
อิ่นโม่โฉวขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เธอปราดร่างมายืนหน้าจูเก่อเจิน
ดาบพาดผ่าน
สองขาของจูเก่อเจินพลันเลือดสาด!
ลงอีกดาบ
สองมือขาดสะบั้นเลือดสาด!
“อ๊า!”
พริบตาเดียว ในที่จัดงานที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของจูเก่อเจิน
คนพวกนั้นจากส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋ มองดูสภาพของจูเก่อเจินในตอนนี้ แล้วต่างพากันเงียบกริบ!
สิ้นหวังถึงขีดสุด!
แต่ในตอนนี้เอง ด้านหลังเวที กำแพงที่โดนเย่อู๋เทียนตวัดฟันเละในดาบเดียวนั้นพลันแตกร้าวออก
ครืน!
ครืน!
ครืน!
ด้านหลังกำแพงมีหินก้อนมหึมาอยู่
ตอนนี้มันค่อยๆขยับไปเปิดทางช้าๆ
แค่ชั่วพริบตาเดียว ด้านหลังเวทีปรากฏทางเดินหินสายหนึ่งขึ้นมา
พอเพ่งมองไป กลับเห็นคนสองคนดันก้อนหินมหึมาออกง่ายดาย!
และการปรากฏตัวของทางเดินหินระหว่างหินมหึมาสองก้อนนั้น
ในนั้นผู้ชายแปดคนที่รูปร่างราวเทพเซียนกำลังยกเกี๊ยวที่ทำจากหินทองคำหลังหนึ่งเดินออกมาข้างนอก
รอบๆเกี๊ยวนั่นยังรายล้อมไปด้วยชายหญิงชุดดำมากมาย
ท่าทางนั้นราวกับจักรพรรดิเสด็จ!