จอมนักรบอหังการ - บทที่ 325 หญิงชุดคลุมดำ หานจื่อเซียนปรากฏตัว!1
จอมนักรบอหังการ บทที่ 325 หญิงชุดคลุมดำ หานจื่อเซียนปรากฏตัว!1
เสียงของหญิงวัยกลางคนแผ่วเบา ดังมาจากที่สูงมืด ทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกอ้างว่าง
น้ำเสียงที่หญิงวัยกลางคนพูด พอฟังแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีอารมณ์ใดๆปะปนอยู่ในน้ำเสียง
ไม่เชิงว่าเย่อหยิ่ง
แต่กลับไม่อ่อนโยน
สรุปแล้ว มันเหมือนกับ เธอกำลังคุยกับคนรู้จัก พูดประโยคที่ ธรรมดามากๆ
แต่ประโยคที่เธอพูดออกมา ไม่ว่าเย่อู๋เทียนจะได้ยิน หรือจางจิงหลวนก็ตาม มันเหมือนกับเสียงสายฟ้าฟาดดังก้องหู ทำให้ทั้งคู่รู้สึกสั่นสะเทือน!
โดยเฉพาะจางจิงหลวน
หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่หญิงวัยกลางคนพูด สีหน้าของเธอ ประหลาดใจ เหมือนอาการสะท้อนกลับ
เพราะน้ำเสียงนี้ ทำให้จางจิงหลวนรู้สึกคุ้นเคย แต่ก็ห่างเหิน
ที่คุ้นเคย
เพราะเมื่อสามสิบปีก่อน ตอนที่เธอเป็นสาวใช้ข้างกายของแม่เย่อู๋เทียน แทบจะได้ยินเสียงนี้ในทุกวัน
ที่ห่างเหิน
แน่นอนว่าเป็นเวลาสามสิบปีแล้ว ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ยินเสียงนี้
หานจื่อเซียน!
แม่ของเย่อู๋เทียน หานจื่อเซียน!
สามสิบปีแล้ว!
เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอยมาสามสิบ!
เธอยังไม่ตาย?
ก่อนหน้านี้จางจิงหลวนเคยพูดกับเทียนหลงเอ๋อร์
เธอถือว่าเป็นลูกศิษย์ของหานจื่อเซียนครึ่งหนึ่ง
เธอติดตามหานจื่อเซียน ตั้งแต่อายุสิบห้า พอย่างเข้ายี่สิบ ถึงกลับตระกูลจาง
ห้าปี!
เวลาห้าปีเต็มๆ!
สำหรับจางจิงหลวนแล้ว นั่นเป็นเวลาห้าปีที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ!
พูดแบบนั้นเลยก็ได้
ถ้าไม่มีหานจื่อเซียน
จางจิงหลวน ไม่มีทางประสบความสำเร็จอยู่บนจุดสูงสุดของศิลปะการต่อสู้
ถ้าไม่มีหานจื่อเซียน
ถึงจางจิงหลวนจะ“พบเจอ”กับเย่อู๋เทียนที่ซีไห่เมื่อแปดปีก่อน ก็ไม่มีทางเข้าใจคุณสมบัติของโซ่ตรวนนั้น
ถ้าไม่มีหานจื่อเซียน
จางจิงหลวน เป็นแค่ซิเดอเรลล่าที่ไม่มีอะไรโดดเด่น ในตระกูลจาง
ตอนนี้
อดีตต่างๆ ราวกับม้วนหนัง ฉายชัดในสมองของจางจิงหลวน
ตอนอายุสิบสอง
เธอยังเป็นเด็กรับใช้คนหนึ่งทำหน้าที่ก่อฟืนในตระกูลจาง
เพราะเธอแอบกินเนื้อไปหนึ่งชิ้น ทำให้ถูกคนในตระกูลจาง ไล่ออกจากบ้าน
คุกเข่าอยู่หน้าประตูตระกูลจาง
สามวันสามคืน
ท่ามกลางหิมะกระหน่ำ
แต่ในขณะที่เธอกำลังจะแข็งและหิวตาย
ผู้หญิงที่สวยสง่าคนหนึ่ง นำเสื้อคลุมสีดำตัวหนึ่ง คลุมไว้บนร่างของเธอ
หลังจากนั้น ก็หยิบอาหารแห้งให้เธอชิ้นหนึ่ง
วันนั้น จางจิงหลวนสาบานว่า ชาตินี้ชีวิตนี้ เธอจะใช้ชีวิตรับใช้หานจื่อเซียน!
ไม่ว่าเป็นหรือตาย!
“สามสิบปีแล้ว!”
จางจิงหลวนมองไปยังขอบเหว ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ที่อยู่ในใจของเธอ แต่กลับ พูดออกมาแค่สี่คำ
เหนือขอบเหว บนเหมืองนั้น
ผู้หญิงในชุดคลุมสีดำ ที่มีผ้าคลุมหน้าสีดำ เหมือนผีตนหนึ่ง
มองลงไปที่จางจิงหลวน ซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างสุภาพ ยืดหลังให้ตรงแล้วมองดูตัวเอง
รอยยิ้มฉายแววผ่านดวงตาเรียวยาวของเธอ
แล้วตอบกลับหนึ่งคำ
“ใช่ยัยหนูสามสิบปีแล้ว”
คำว่ายัยหนู
แทบจะทำให้จางจิงหลวนน้ำตาไหลลงมา
เหมือนได้เจอคนที่รักอีกครั้ง
แต่ จางจิงหลวนตื้นตัน จนไม่สามารถพูดออกมาได้
จางจิงหลวนมองไปที่เย่อู๋เทียน
แล้วหยุดพูด
เวลานี้ แน่นอนว่าเย่อู๋เทียนเงยหน้ามองผู้หญิงชุดคลุมสีดำที่ยืนอยู่บนปากเหมืองเช่นกัน
แต่ไม่เหมือนกับครั้งก่อน
ที่ไล่ติดตามไป เพื่อสอบถามบางอย่าง
ในทางกลับกัน
ใบหน้าของเย่อู๋เทียน
กลับไร้อารมณ์
ทำให้ไม่สามารถมองเห็นความผิดปกติ
ในเวลานี้เอง หญิงชุดคลุมสีดำที่อยู่บนปากเหมือง ก็กระโดดลงมา
แล้วลงมาอยู่บริเวณตรงหน้าของเย่อู๋เทียนไม่ไกลกัน
สองแม่ลูก
ดวงตาประสานกัน
เย่อู๋เทียนมองดูผู้หญิงตรงหน้าตาไม่กะพริบ
หญิงชุดคลุมสีดำ มองเย่อู๋เทียนด้วยแววตายิ้มๆ
“ไม่มีอะไรจะถามหรอ?”
ในที่สุด หญิงชุดคลุมสีดำก็ค่อยๆเอ่ยปาก
เย่อู๋เทียนไม่พูดอะไร
หญิงชุดคลุมสีดำชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วสะบัดแขนเสื้อ
สร้อยข้อมือที่ทำมาจากแร่หินบางอย่าง ตกลงบนฝ่ามือของเธอ
เธอก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วยื่นส่งให้กับเย่อู๋เทียน
หญิงชุดคลุมสีดำค่อยๆเอ่ยปาก
“ฉันเคยเห็นชิงเอ๋อร์แล้ว ไม่เลวเลย ที่สำคัญที่สุดคือ ลูกชอบก็ดีแล้ว นี่คือของขวัญที่แม่เตรียมไว้ให้เธอ”
สีหน้าของเย่อู๋เทียนยังคงไม่สะทกสะเทือน
เขาพูดอย่างเรียบเฉย
“นี่คืออะไร?ยึดตามธรรมเนียม ไม่มีคนติติงหรอ?”
หญิงชุดคลุมสีดำหัวเราะเบาๆ
“ในมุมมองของลูก แม่ประหลาดขนาดนั้นเลยหรอ?”
เย่อู๋เทียนถามกลับ
“คุณไม่ประหลาดหรอ?”
หญิงชุดคลุมสีดำมองดูเย่อู๋เทียนครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะเบาๆ
“เจ้าเด็กบ้า!”
พูดจบ หญิงชุดคลุมสีดำก็สะบัดมือ นำข้อมือที่อยู่ในฝ่ามือ ไว้ในกระเป๋ากางเกงของเย่อู๋เทียน
หลังจากนั้น หญิงชุดคลุมสีดำก็หันหลังเดินจากไป
พูดทิ้งท้ายหนึ่งคำ
“ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อนนะ”
จนถึงวินาทีนี้ เย่อู๋เทียนพึ่งหายจากที่ยืนอยู่
ปรากฏอยู่ด้านหลังของหญิงชุดคลุมสีดำ
อยากจะดึงผ้าปิดหน้าของเธอออก
แต่คิดไม่ถึง ความเร็วของหญิงชุดคลุมสีดำจะเร็วขนาดนี้ และในขณะเดียวกันเธอก็ชี้ไปที่รูปปั้นหินที่แตกหักต่อหน้าเธอ
ปึ้ง!
กระแสอากาศที่น่าสะพรึงกลัวทำให้รูปปั้นหินแตกเป็นเสี่ยงๆกลางอากาศ
ด้านหลังรูปปั้นหินคือเหมืองที่มีความกว้างสามเมตรและสูงสองเมตร
และเมื่อหญิงชุดคลุมสีดำพุ่งเข้าไปในเหมือง มือของเย่อู๋เทียนที่ดึงผ้าคลุมของเธอก็หลุดออกไป
วินาทีนี้
หญิงชุดคลุมสีดำ วิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ
เหลือแต่เงาสีดำที่ปากเหมือง
ในอุโมงค์ มีเสียงของหญิงชุดคลุมสีดำลอดมาอีกคำ
“ตามฉันทันเมื่อไร ค่อยว่ากัน!”
เมื่อสิ้นเสียง เย่อู๋เทียน ก็หายวับไปกับที่ แล้วตามหญิงชุดคลุมสีดำไปติดๆ
ความเร็ว ดุจลำแสง
ครั้งนี้ ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ผ่านไปไม่นานก็ตามเธอไม่ทัน
ในทางกลับกัน เย่อู๋เทียน เขาใช้เวลาแค่สามลมหายใจ ก็ตามหลังของหญิงชุดคลุมสีดำทัน
แต่หญิงชุดคลุมสีดำกลับคิดว่าเย่อู๋เทียนตามไม่ทัน
เธอไม่หันกลับมาด้วยซ้ำ
จากนั้นเขาก็หันกลับและเดินไปที่อุโมงค์อีกแห่งในเหมือง
ผ่านไปทางไหนก็ไม่มีเสียงฝีเท้า
หลังจากนั้น หญิงชุดคลุมสีดำก็ชะลอฝีเท้า
อย่างที่ทุกคนรู้
เย่อู๋เทียนติดตามห่างจากเธอประมาณสิบเมตร
ขณะที่เดินตามหลังหญิงชุดดำไป เย่อู๋เทียนก็มองไปทางด้านหลังของเธอ
เหมือน!
เหมือนหานหว่านเอ๋อร์ตอนสาวมาก!
ผู้หญิงคนนี้……
คงไม่ใช่แม่แท้ๆของเขาหรอกนะ?
ถ้าเป็นแบบนั้น ตอนนั้นทำไมเธอถึงฝากให้หานหว่านเอ๋อร์ดูแลเขาล่ะ?
อีกอย่าง เธอกับหานหว่านเอ๋อร์ ตกลงเกี่ยวข้องอะไรกันแน่?