จอมนักรบอหังการ - บทที่ 35 งานฝังศพพรุ่งนี้ ฉันจะไป!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 35 งานฝังศพพรุ่งนี้ ฉันจะไป!
เย่อู๋เทียน ช่างยั่วโมโหคนจริงๆ!
ยังคงเหมือนตอนเรียนมัธยมปลายไม่มีผิด พูดจาไม่เป็น
คิดแต่จะฝึกศิลปะการต่อสู้!
เป็นผู้ชายที่ตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัดจริงๆ!
แต่ว่าเพิ่งจะต่อว่าเย่อู๋เทียนเสร็จ หยางเฟยเอ๋อร์ก็รู้สึกเสียใจในทันที
ฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร?
เขาเป็นคนของตระกูลเย่นะ!
หากเขาเป็นลูกหลานตระกูลเย่จริง!
เงินหมื่นล้าน สำหรับเขามันใช่เรื่องมั้ย?
ต้องรู้ว่า เสิ่นจูนอี๋ที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศหลง ยังต้องเรียกเขาว่าพี่เขย
แล้วตัวเองคือใคร?
ถึงได้กล้าแสดงความโกรธต่อหน้าเย่อู๋เทียน?
หยางเฟยเอ๋อร์รู้สึกถึงความกลัว
แต่เห็นท่าทางของเย่อู๋เทียนแล้ว เหมือนจะไม่ได้ถือสาตัวเอง
หยางเฟยเอ๋อร์เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“นาย นายเป็นพี่เขยของเสิ่นจูนอี๋จริงๆเหรอ?”
เย่อู๋เทียนไม่ตอบ
หยางเฟยเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามอีก
“สถาบันเจิ้นกั๋ว ตัวอักษรสี่คำนี้ เป็นลายมือของฝ่าบาทจริงๆเหรอ?”
เย่อู๋เทียนยังคงไม่พูด
หยางเฟยเอ๋อร์โมโหอยู่ในใจ
ไม่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้จะจริงหรือไม่ เย่อู๋เทียน ก็ไม่ใช่เย่อู๋เทียนในอดีตแล้ว
ดังนั้น ขานี้ ควรกอดก็ต้องกอดให้แน่!
อย่างอื่นไม่พูดถึง แค่รอให้โจวไป๋เซิงเอาแผ่นตัวอักษรที่จะให้เธอมาถึงมือเธอก่อนค่อยว่ากัน!
เวลานี้ เสิ่นจูนอี๋ที่ไปเตรียมน้ำและน้ำชา ก็ได้พาคนใช้มาแล้ว
บนโต๊ะพร้อมไปด้วยน้ำและน้ำชา
จากนั้น เสิ่นจูนอี๋ก็ยืนอยู่ข้างๆโดยที่ไม่กล้าพูดอะไรเลย
โจวไป๋เซิงกลับไม่ได้ดื่มชาในทันที มัวแต่ยุ่งคัดลอกพิมพ์ตัวอักษรกับฉู่เหวินเต้า
เย่อู๋เทียนก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ สั่งการเสิ่นจูนอี๋
“แจ้งคนของตระกูลเย่ทั้งหมด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ไม่ว่าใคร ก็ห้ามเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลเย่แม้แต่ก้าวเดียว ”
“นับแต่นี้ ฉันจะอยู่ที่นี่ เพื่อนสร้างมหาวิทยาลัยรัฐ”
เสิ่นจูนอี๋อึ้งไปเลย
“มหาวิทยาลัยรัฐ? นั่นก็เท่าว่า พี่จะบริจาคคฤหาสน์ของตระกูลเย่ออกไปเหรอ?”
เย่อู๋เทียน พูดอย่างเรียบเฉย
“ที่ดินพื้นนี้ เดิมก็เป็นมรดกของแม่ผม ความหวังของแม่คือ อยากจะสร้างมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกในที่ดินแปลงนี้!”
“ฉัน ก็ต้องช่วยทำความฝันของแม่ให้เป็นจริง!”
เสิ่นจูนอี๋แอบไม่พอใจ แต่กลับไม่ขัดขืน ทำได้เพียงพูดอย่างอ้อมค้อม
“อันนี้ มันก็ต้องถามความเห็นของคนในบ้านก่อน อีกอย่าง คุณพ่อพี่ก็เพิ่งจะเสีย ยังไม่ทันได้จัดพิธีฝังเลย ตอนนี้ก็จะบริจาคที่ดินแปลงนี้ออกไปแล้ว มันไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่”
แววตาของเย่อู๋เทียนเย็นวาบ
“เสิ่นจูนอี๋ ฉันแค่แจ้งให้เธอทราบ หากเธอไม่ช่วยกระจายข้อมูลนี้ออกไป ฉันก็จะเป็นคนกระจายเอง”
เสิ่นจูนอี๋ทำหน้าไม่ถูก
จิตใจเย็นวาบ
“งั้นถ้าหาก ฉันสนับสนุนพี่ให้ทำเรื่องนี้ พี่………พี่ปล่อยฉันได้มั้ย?”
เย่อู๋เทียนดื่มชาไปหนึ่งคำ
“มันคนละเรื่อง”
เสิ่นจูนอี๋ ราวกับตกลงไปในเหวลึก
ถึงตอนนี้ดูแล้ว เย่อู๋เทียนก็ไม่คิดที่จะปล่อยตัวเอง
หยางเฟยเอ๋อร์ที่เป็นคนนอก ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน ในใจนั้นช็อกจนถึงขีดสุด
ดูสถานการณ์แล้ว ในมือเย่อู๋เทียนน่าจะกำความลับของเสิ่นจูนอี๋เอาไว้
ไม่เช่นนั้นมันจะไม่มีทางเป็นแบบนี้!
แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงเลย เย่อู๋เทียนอยู่บ้านตระกูลเย่ จะมีตำแหน่งที่สูงขนาดนี้!
อีกอย่าง พ่อของเย่อู๋เทียน ก็คือเย่จินหลิง?
ตามที่ตัวเธอรู้มา เสิ่นจูนอี๋ก็คือนายหญิงของตระกูลเย่!
แต่เมื่อกี้เสิ่นจูนอี๋เรียกเย่อู๋เทียนว่าพี่เขยไม่ใช่เหรอ?
ถ้าว่าตามสถานะแล้ว เธอน่าจะเป็นแม่เลี้ยงของเย่อู๋เทียนถึงจะถูก!
เรื่องมันยังไงกันแน่?
ยังมีอีก……..
เย่จินหลิง เสียชีวิตไปแล้ว!?
เสียตั้งแต่เมื่อไหร่?
เย่อู๋เทียนไม่ได้สนใจเสิ่นจูนอี๋ จากนั้นก็กดเบอร์โทรออก
“เหวินเติงเจิน ตอนนี้คุณยังเป็นผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยตี้ตูอยู่มั้ย?”
เสียงของทางโน้นก็ดังขึ้นในทันที
“ยังเป็นอยู่ครับ!”
“ชิงตี้มีอะไรจะสั่งการเหรอครับ?”
เย่อู๋เทียนได้เล่าเรื่องที่ตัวเองจะก่อตั้งมหาวิทยาลัยรัฐให้เหวินติงเจินฟังโดยคร่าวๆ
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง เหวินติงเจินก็ได้นั่งรถมาถึงที่นี่
คำพูดแรกที่มาถึง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างตกตะลึงกันไปหมด
“อาจารย์ ท่านวางใจเถอะ การออกแบบอาคารหลักของสถาบันเจิ้นกั๋ว ออกแบบสวนหย่อม ผมจะรับผิดชอบคนเดียว!”
หยางเฟยเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง ตะลึงจนอ้าปากค้าง
อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิอย่างเหวินเติงเจิน บอกมาก็มาเลย!
เขาเรียกเย่อู๋เทียนว่าอะไรนะ?
อาจารย์?
เมื่อกี้ตัวเธอยังพูดว่าเย่อู๋เทียนไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย?
ตอนนี้เป็นไงล่ะ ผู้อำนวยการเมื่อยี่สิบปีที่แล้วของมหาวิทยาลัยตี้ตู บัดนี้ที่เป็นผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ มาถึงตรงหน้าของเย่อู๋เทียน!
เรียกเย่อู๋เทียนว่าอาจารย์!
นี่มันอะไรกันเนี่ย วันนี้เป็นวันอะไร?
ตัวเธอกำลังฝันอยู่เหรอ?
แอบหยิกแขนตัวเองอย่างเต็มแรง
อ้า!
ซี๊ด!
เจ็บ
เป็นเรื่องจริง!
เรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าทั้งหมด ล้วนเป็นเรื่องจริง!
เย่อู๋เทียนกลับมองเหวินเติงเจินอย่างเรียบเฉย ไม่ได้ให้เกียรติเลยแม้แต่นิดเดียว
“เฒ่าทารกอย่างคุณ ผมไม่รับ”
เหวินเติงเจินยิ้มร่า
“จ้านหยางยอมเป็นอาจารย์ของผมแล้ว คุณก็รับผมเถอะ!”
เย่อู๋เทียนมองไปทางอื่น ไม่ได้สนใจเหวินเติงเจิน
เสิ่นจูนอี๋เห็นเหวินเติงเจินปรากฏตัวอีกครั้ง ก็เรียกเขาอย่างอึดอัด
“พ่อบุญธรรม”
เหวินเติงเจินก็หน้าบูดหน้าบึ้งในทันทีทันใด
“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อบุญธรรม ยังไม่มีลูกสาวอย่างเธอ อีกอย่าง รีบเอาเหรียญประจำตระกูลเหวินคืนมา!ไม่เช่นนั้น ฉันจะไม่ปล่อยเธอเอาไว้อย่างแน่นอน!”
พอ!
พ่อบุญธรรมคำนี้ เรียกแล้ว มันช่างเหมือนกับยกหินมาทุบเท้าตัวเองเลย!
เสิ่นจูนอี๋หมดหวังแล้ว
และในเวลานี้ มือถือของเธอก็ดังขึ้น
เป็นเย่จื่อหลงที่โทรมา
โทรมาสั่งการเสิ่นจูนอี๋สามเรื่อง
งานฝังศพของเย่จินหลิง เขาจะมาร่วมงาน สมบัติทั้งหมดของตระกูลเย่ เขาจะเป็นผู้สืบทอด!
อีกอย่าง พรุ่งนี้เขาก็ถึง
ดังนั้น ให้เลื่อนงานฝังเข้ามา!
เพราะเขาไม่มีเวลาที่มากพอ
เสิ่นจูนอี๋กลับรู้สึกลำบากใจ
“พี่ชายคุณ เขาได้ตัดิสินใจที่จะบริจาคคฤหาสน์ตระกูลเย่แล้ว จะเอาคฤหาสน์ตระกูลเย่มาก่อตั้งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐ!”
ปลายสายก็ดังขึ้นด้วยเสียงเย้ยหยันของเย่จื่อหลง
“เธอหมายถึงหมาตัวนั้นอย่างเย่อู๋เทียน?”
เสิ่นจูนอี๋กลัวจนหน้าซีดเผือด
เพราะเย่อู๋เทียนก็นั่งอยู่ตรงหน้าของเธอ เสิ่นจูนอี๋เข้าใจว่า เย่อู๋เทียนต้องได้ยินคำพูดของเย่จื่อหลง เสิ่นจูนอี๋จึงไม่กล้าตอบ
ทางโน้นดังขึ้นด้วยเสียงของเย่จื่อหลงอีกครั้ง
“เย๋อู๋เทียนไม่มีสิทธิ์เป็นพี่ชายของฉัน ให้มันไสหัวไป ยิ่งไกลยิ่งดี!”
“อีกอย่าง งานฝังศพพรุ่งนี้ จัดให้มันยิ่งใหญ่หน่อย ฉันไม่ได้กลับไปคนเดียว เอลลี่ลูกสาวของผู้บัญชาปกครองชายแดนแห่งประเทศมหาอำนาจ ตอนนี้เป็นว่าที่คู่หมั้นของฉัน เมื่อถึงเวลา เธอก็จะกลับมากับผมด้วย!”
“ประเทศฝั่งตะวันตก ก็จะจัดส่งคนมาร่วมงาน ล้วนเป็นเพราะให้เกียรติฉัน ดังนั้น เธออย่าทำให้ฉันขายหน้าเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น ตาแก่อย่างเย่จินหลิงก็ตายแล้ว มันก็จะเหลือแค่เธอกับลูกสาว”
“เมื่อก่อนฉันยังไว้หน้าตาแก่คนนั้น ไม่ยุ่งกับเธอ ตอนนี้เหรอ…….. ฮ่าๆ อาบน้ำให้สะอาดแล้วรอฉันเลย!” พูดจบ เย่จื่อหลงก็วางสายไปเลย
เสิ่นจูนอี๋ ใบหน้ากระตุก โกรธจนตัวสั่น
เย่อู๋เทียนเมื่อกี้ได้ยินสิ่งที่เย่จื่อหลงสั่งการทั้งหมด
แต่ใบหน้าก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรเลย
พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“งานฝังศพวันพรุ่งนี้ ฉันจะไปร่วมงาน”