จอมนักรบอหังการ - บทที่ 361 ฮุ่ยกวง หรือเป็นเจียเย่หลัว
จอมนักรบอหังการ บทที่ 361 ฮุ่ยกวง หรือเป็นเจียเย่หลัว?
หลังจากกล่าวจบ คนสองคนก็เดินมาจากหลังเวที
คนที่เดินอยู่ข้างหน้าคือหญิงชรา
แต่งตัวสง่างาม
เมื่อเสิ่นรั่วชิงเห็นเธอแล้ว ก็กล่าวโพล่งออกมาว่า
“คุณแม่เสี่ยวหยุน!”
หญิงชราคนนี้คือโจวเสี่ยวหยุน เป็นแม่ของซุนลู่ซาน
ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งตัวสง่างาม แต่ใบหน้าของเธอกลับซีดเหลือง
เหมือนหุ่นขี้ผึ้งเดินได้!
ทำให้คนรู้สึก…….
น่ากลัวเล็กน้อย
หลังจากเสิ่นรั่วชิงทักเธอแล้ว ถึงได้ค้นพบสิ่งนี้
เสิ่นรั่วชิงรู้สึกอึ้งอยู่สักพัก!
ทำไมคุณแม่เสี่ยวหยุนถึงกลายเป็นเช่นนี้ได้?
เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
ว่ากันว่าเธอป่วยหนัก มีสิ่งชั่วร้ายอยู่ในร่างกาย!
หรือว่าโลกนี้มีสิ่งชั่วร้ายจริง ๆ?
และขณะนี้ เย่อู๋เทียนมองโจวเสี่ยวหยุนเช่นกัน
แค่มองแวบเดียวเท่านั้น
เขาก็รู้ว่าทำไมโจวเสี่ยวหยุนถึงเป็นเช่นนี้!
พลังชีวิตอ่อนมาก!
เหมือนคนตายที่ยังมีชีวิตอยู่!
ถูกคนชั่วฉีดยาพิษเข้าไปในร่างกาย ทำให้เธอกลายเป็นศพเดินได้!
เพียงแต่……
ดูจากสภาพแล้ว
ยังสามารถช่วยได้!
หลังจากนั้น เย่อู๋เทียนมองชายที่อยู่ข้างโจวเสี่ยวหยุน
กล่าวอย่างถูกต้องคือ
เป็นพระมหาเถระที่ห่มจีวร
คนที่ขวางเย่อู๋เทียนไม่ให้ซักถามซุนลู่ซานเมื่อสักครู่ ก็คือพระมหาเถระรูปนี้
อายุประมาณสามสิบปี
สีหน้าผ่องใส
หูใหญ่และไหล่กว้าง
รูปร่างสูงใหญ่
ให้ความรู้สึกเคร่งขรึม
สิ่งที่คู่ควรเอ่ยถึงคือ..……
บนศีรษะของบุคคลนี้ ไม่มีแผลเป็นวงแหวน
นั่นหมายความว่าถึงแม้เขาจะห่มจีวร แต่เขาก็ไม่ใช่นักบวชอย่าแท้จริง!
และขณะนี้ เย่อู๋เทียนกำลังมองสำรวจบุคคลนี้
ใต้เวที
แขกส่วนใหญ่คุกเข่าอยู่บนพื้น
ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทำความเคารพพระมหาเถระรูปนี้
ราวกับไหว้พระพุทธเจ้า!
เงียบทันที!
เมื่อพระมหาเถระเห็นภาพนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะชินแล้ว เขาเพียงแค่ยิ้มให้ทุกคนเล็กน้อย
และกล่าวออกมาประโยคหนึ่ง
“อมิตตาพุทธ!”
ทุกคนถึงได้ลุกขึ้น
ทุกคนต่างมองพระมหาเถระ
ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา!
สำหรับแขกมากมายที่อยู่ที่นี่แล้ว พระมหาเถระรูปนี้ไม่ใช่ใครอื่น
เขาเป็นเจ้าอาวาสของวัดไห่ฮุ่ยของตี้ตู
มีฉายาว่าฮุ่ยกวง
มองผิวเผินแล้ว ดารามากมายที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของโจวเสี่ยวหยุน เพราะเห็นแก่หน้าซุนลู่ซาน
รวมถึงบุคคลที่มีอำนาจและอิทธิพลมากมายที่อยู่ที่นี่ แต่ความจริงแล้ว
จุดประสงค์ที่ทุกคนที่มาที่นี่
เพียงแค่ต้องการมาสักการะพระมหาเถระที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศอย่างฮุ่ยกวงเท่านั้น!
เพราะคนที่อยู่บนโลกของมนุษย์ ทุกคนล้วนมีปัญหา?
เมื่อพบพระมหาเถระฮุ่ยกวงแล้ว
อาจจะสามารถแก้ปัญหาได้!
ถึงแม้ว่าบนศีรษะของฮุ่ยกวง จะไม่มีแผลเป็นวงแหวน!
แต่สำหรับพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาคิดว่าพระมหาเถระฮุ่ยกวง คือพระพุทธกลับชาติมาเกิด
ถึงแม้ว่าอายุของเขายังไม่ถึงสามสิบ
ตั้งแต่เขาอายุสามขวบ เขาก็เดินทางไปยังวัดสำคัญของโลกตามลำพัง!
ยี่สิบปีก่อน
ตอนที่ฮุ่ยกวงอายุยังไม่ถึงสิบขวบ เขาได้ไปที่ประเทศเทียนอิง และพระราชาของประเทศเทียนอิง ได้สถาปนาให้เขาเป็นราชครูของประเทศเทียนอิง!
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ฮุ่ยกวงยังคงละทิ้งลาภยศชื่อเสียง!
กลับมายังประเทศหลง และกลับมายังวัดไห่ฮุ่ย ซึ่งตอนนั้นเป็นวัดที่เก่ามาก และตั้งใจฝึกฝน!
ตอนนี้ ผ่านมายี่สิบปีแล้ว วัดไห่ฮุ่ยเจริญรุ่งเรือง มาขอพรก็สมดังปรารถนา!
ทั้งหมดเป็นเพราะฮุ่ยกวงคนเดียว!
มีคนกล่าวว่า
ฮุ่ยกวง ใช้วิธีการที่มิชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ
แต่พุทธศาสนิกชนมากมายที่เลื่อมใสศรัทธาเขาไม่ได้คิดเช่นนั้น!
ยกตัวอย่างเช่นวัดไห่ฮุ่ย
หลายปีที่ผ่านมา
เป็นเพราะฮุ่ยกวง ทุกปีจะมีพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคน มาที่วัดไห่ฮุ่ยเพื่อแย่งจุดธูปสักการะเป็นคนแรก
ราคาของธูปที่สักการะดอกแรกของวัดไห่ฮุ่ย……
สูงถึงหลายสิบล้าน!
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น……
ก็มีคนที่ใจกว้างยอมจ่ายเงิน
อย่างไรก็ตาม หลังจากฮุ่ยกวงรู้เรื่องนี้แล้ว เขานั่งอยู่หน้าพระอุโบสถของวัดไห่ฮุ่ย
อดน้ำอดข้าวเป็นเวลาสิบวันสิบคืน
จุดประสงค์คือเพื่อขจัดความหมกมุ่นของผู้แสวงบุญ ที่แย่งจุดธูปสักการะเป็นคนแรก
วันนั้น
หิมะตกหนัก จนหิมะปกคลุมทั่วจีวร!
วันนั้น
ผู้แสวงบุญมากมายคุกเข่าอยู่ตรงหน้าฮุ่ยกวง ร่วมอดอาหารและน้ำกับฮุ่ยกวง
ผู้แสวงบุญที่ร่างกายอ่อนแอเพราะความหิวโหย
มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
วันนั้น เมื่อฮุ่ยกวงลุกขึ้น แสงสีทองเป็นประกายปกคลุมทั่วร่างกายของเขา ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ใด ก็ทำให้ผู้แสวงบุญรู้สึกร่างกายสดชื่น!
มหัศจรรย์มาก!
พระมหาเถระเช่นนี้!
ใช้วิธีการที่มิชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ?
นักแสวงบุญไม่เชื่อ!
พุทธศาสนิกชนมากมายก็ไม่เชื่อเช่นกัน!
ขณะนี้ ฮุ่ยกวงเดินไปหาเย่อู๋เทียน
ยืนอยู่ตรงหน้าเย่อู๋เทียน ราวกับพระพุทธเจ้าที่ลงมาจุติบนโลก
ฮุ่ยกวงยิ้มเล็กน้อย
“โยมมาที่นี่เพื่อฆ่าคนเหรอ?”
เย่อู๋เทียนไม่สนใจฮุ่ยกวง ยังคงมองซุนลู่ซานที่ตนเองจับไหล่เอาไว้
แล้วถามอีกครั้ง
“ทารกสี่สิบเก้าคนอยู่ที่ไหน?”
ซุนลู่ซานยังคงไม่ตอบ แต่มองไปที่ฮุ่ยกวง
ฮุ่ยกวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ทารกทั้งสี่สิบเก้าคนเหล่านั้น เป็นปีศาจการกลับชาติมาเกิด ถ้าพวกเขาหายไป สำหรับสรรพสัตว์แล้ว ถือเป็นเรื่องดี?”
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้ว
แล้วมองไปที่ฮุ่ยกวงอีกครั้ง
ถามเขาประโยคหนึ่ง
“คุณรู้จักไห่ฮุ่ยไหม?”
ฮุ่ยกวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ท่านคืออาจารย์ที่มีพระคุณของผม”
เย่อู๋เทียนหรี่ตาลง
กล่าวเย้ยหยัน
“ถ้าเช่นนั้นผมเรียกคุณว่าฮุ่ยกวง? หรือว่าเจียเย่หลัว?”
สีหน้าของฮุ่ยกวงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เย่อู๋เทียนปล่อยมือจากไหล่ของซุนลู่ซานที่อยู่ตรงหน้า แล้วมองฮุ่ยกวงด้วยความเย็นชา
กล่าวช้า ๆ
“เป็นเรื่องบังเอิญ ผมเย่อู๋เทียนเดินทางไปเป็นร้อยประเทศตั้งแต่ยังเป็นเด็ก มีอยู่หนึ่งปี ขณะที่ผมผ่านประเทศเทียนอิง ผมได้ยินเรื่องแปลกเรื่องหนึ่ง ปีนั้น พระราชาเฒ่าของประเทศเทียนอิง ได้สถาปนาเด็กชั่วร้ายคนหนึ่งเป็นราชครูประจำชาติ ประทานชื่อว่าเจียเย่หลัว และเจ้าเด็กชั่วร้ายคนนั้น เป็นรองเจ้านิกายของนิกายเทียนอิง!”
“ปีนั้น หลังจากผมกลับประเทศแล้ว ผมกับแม่มาที่ตี้ตู ตอนนั้นแม่ของผมไปสักการะพระรูปหนึ่ง พระรูปนั้นชื่อไห่ฮุ่ย มรณภาพตอนเทศกาลเช็งเม้ง เพราะถูกคนกิน!”