จอมนักรบอหังการ - บทที่ 39 เหมือนกับแร้งที่กินซากสัตว์
จอมนักรบอหังการ บทที่ 39 เหมือนกับแร้งที่กินซากสัตว์
“ขีดจำกัดของพลังตัน?”
เห็นได้ชัดว่าเย่จื่อหลงที่อยู่ปลายสายตกตะลึงเล็กน้อย อดไม่ได้ที่เย้ยหยัน
“ทำไม เธอเคยได้ยินขีดจำกัดของพลังตันอย่างนั้นเหรอ?”
“ดูแล้วเธอไม่เพียงแต่เก่งเรื่องบนเตียง สำหรับเรื่องบูโด เธอเองก็มีความรู้มากเช่นกัน”
ใบหน้าของเสิ่นจูนอี๋ปกคลุมไปด้วยความเย็นในทันที
ถามอย่างเย็นชา
“พูดแบบนี้ แสดงว่าบูโด มีขีดจำกัดของพลังตันจริงใช่มั้ย?”
เย่จื่อหลงยิ้มเยาะ
“แดนในตำนานแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่สำเร็จได้ หากเป็นไปได้ ในโลกใบนี้……. ”
“เกรงว่าคงจะมีแต่เย่จื่อหลงคนเดียวที่สามารถสำเร็จได้!”
เสิ่นจูนอี๋แอบหัวเราะในใจ
เย่อู๋เทียนนั้นโคตรเจ๋งจริง แต่นายเย่จือหลง………
มันโคตรห่วย!
เมื่อเจ็ดปีที่แล้วเย่อู๋เทียนก็สำเร็จถึงแดนนี้แล้ว นายมันแม้แต่ขอบประตูยังเอื้อมไม่ถึงเลย
ตอนนี้ยังจะมาคุยโวโอ้อวด อย่างไร้ยางอายที่นี่!
ขณะที่เสิ่นจูนอี๋แอบหัวเราะในใจนั้น เย่จื่อหลงก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เอาล่ะ ไม่พูดไร้สาระกับเธอแล้ว”
“อีกสองชั่วโมง ฉันก็จะขึ้นเครื่องแล้ว พรุ่งนี้ จะถึงเมืองเจียงไห่”
“เมื่อถึงเวลานั้น อาบน้ำให้สะอาดรอฉันได้เลย!”
“สำหรับหมาตัวนั้นอย่างเย่อู๋เทียน ทางที่ดีที่สุดพรุ่งนี้ให้มันคุกเข่าให้ฉันต่อหน้าแขกทุกคน!”
“เพื่อมอบสิทธิ์ผู้รับมรดกของตระกูลเย่ให้กับฉัน!”
“ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้มันตายอย่างทุเรศ!”
พูดจบ เย่จื่อหลงก็วางสาย
ใบหน้าของเสิ่นจูนอี๋กระตุกอยู่ครูหนึ่ง
เย่อู๋เทียน!
ไม่ยอมปล่อยเธอ
ส่วนเย่จื่อหลง!
เดรัจฉานก็ไม่ปาน
ควรทำไงดี?
กระต่ายกลัวแล้วยังกัดคน!
ยิ่งกว่านั้น กูเป็นกระต่าย?
หากบีบจนฉันคลั่ง!
ก็ทางใครทางมัน!
เพราะยังไงกูก็มีเงิน!
มากสุดก็ไปอยู่ต่างประเทศ!
ฉันไม่กล้าล่วงเกินพวกแก แต่ฉันหลบได้ไม่ใช่เหรอ?
เมื่อเปลี่ยนมุมคิด
มันก็มีความหวังขึ้นมาบ้าง!
เบื้องหลังของเย่จื่อหลง แม้จะมีองค์กรอย่างวิหารจอมเทพ!
เย่อู๋เทียนก็ไม่ธรรมดา
สามารถเป็นสหายรักกับฝ่าบาท!
ยังสามารถเป็นอาจารย์ของลูกสาวฝ่าบาท!
ครั้งหนึ่งเคยใช้พลังของตัวเอง เอาชนะพันธมิตรของสิบหกประเทศและจอมพลนับร้อยนาย!
มันจะขนาดไหน?
เบื้องหลังของเย่อู๋เทียน คือประเทศหลงทั้งประเทศ
เดิมพัน!
ต้องหน้าด้านเข้าไว้ วางเดิมไว้กับตัวของเย่อู๋เทียนทั้งหมด
เมื่อก่อนนั้นตาบอด!
ต่อไปนี้ จะตาบอดไม่ได้อีกแล้ว!
ขณะที่คิดแบบนี้ เสิ่นจูนอี๋ก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนออก รีบไปหาเย่อู๋เทียน
เวลานี้ เหวินเติงเจินและโจวไป๋เซิงได้กลับไปแล้ว
เพราะว่าพวกเขาได้ตัดสินใจแล้ว จะร่วมกันช่วยงานแผนการก่อตั้งสถาบันเจิ้นกั๋ว
เวลาไม่คอยใคร
พวกเขาต้องการช่วยเย่อู๋เทียนอย่างเต็มที่เพื่อให้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้โดยเร็วที่สุด
ดังนัน้ ก็ไม่คิดที่อยู่ทานข้าวในบ้านตระกูลเย่ กลับไปอย่างรีบร้อน
และในเวลานี้ เย่อู๋เทียนกำลังโทรหาผู้นำเมืองเจียงไห่เว่ยเจิ้งกั๋ว
กำชับให้เขาสั่งการออกไป ให้รีบมาปิดล้อมคฤหาสน์ตระกูลเย่ เพื่อให้เหวินเติงเจินสะดวกในการวางแผนโครงการ
เสิ่นจูนอี๋ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน กลับเศร้าใจมาก
คฤหาสน์หลังนี้………
แค่พูดว่าจะบริจาค ก็บริจาคเลยเหรอ?
แม้จะมีความรู้สึกเสียดายนานัปการ แต่จะทำอะไรได้ล่ะ?
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักแต่เรื่องฝึกศิลปะการต่อสู้
และแล้ว…….
ก็เกิดความรู้สึกมหัศจรรย์!
บางทีแม้แต่เสิ่นจูนอี๋ก็ยังไม่รู้สึกตัว
ตอนนี้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเย่อู๋เทียน เกิดความรู้สึกชื่นชมอย่างผิดปกติ
สิ่งที่เย่อู๋เทียนทำทั้งหมด ในสายตาเธอคือสิ่งที่ถูกต้อง
ยืนอยู่ฝั่งเข้า ไม่ผิดอย่างแน่นอน
รอจนกว่าเย่อู๋เทียนวางสาย เสิ่นจูนอี๋ก็รีบรายงานอย่างหวังผล
“พี่เขยคะ ฉัน ฉันมีเรื่องจะพูดกับพี่”
เย่อู๋เทียนไม่แม้แต่จะมองเสิ่นจูนอี๋ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“มีอะไร จะร้องไห้ขอร้องฉันอีกแล้วเหรอ?”
เสิ่นจูนอี๋หน้าแดงแล้ว
“ไม่ใช่ค่ะ”
เย่อู๋เทียนขี้เกียจสนใจเสิ่นจูนอี๋ แจ้งเธออย่างเย็นชา
“เว่ยเจิ้งกั๋วได้ออกเอกสารแล้ว สั่งการหน่วยงาน วันนี้ก็จะปิดล้อมคฤหาสน์ตระกูลเย่เลย”
“เธอและคนในตระกูลเย่ทั้งหมด ให้รีบย้ายออกไปจากที่นี่!”
เสิ่นจูนอี๋แม้จะอาลัยอาวรณ์ แต่กับไม่ได้ออกเสียงคัดค้าน แต่กลับสงบเสงี่ยมเจียมตัว
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่ว่าอะไรก็ตามนั้น พี่เป็นหัวหน้า!”
“แต่พี่อย่าเพิ่งรีบไป พี่ฟังฉันก่อน เมื่อกี้เย่จื่อหลงได้ให้รายชื่อฉันมาหนึ่งฉบับ”
“พรุ่งนี้งานฝังศพของพ่อพี่ เย่จื่อหลงจะพาบุคคลสำคัญระดับโลกมาร่วมงานหลายคน ยังพูดอีกว่า เมื่อถึงเวลานั้นจะให้พี่คุกเข่าต่อหน้าเขา ใช้การตายของพี่ในการถ่ายโทษ!”
แววตาของเย่อู๋เทียนเย็นวาบในทันที
“ตัวตลกบนเวที!”
เสิ่นจูนอี๋พูดเสริม
“ตามที่ฉันรู้มา เย่จื่อหลงตอนนี้ไปพึ่งพาองค์กร์ที่ชื่อว่าวิหารจอมเทพ”
“อีกอย่าง เย่จื่อหลงก็เป็นนักบูโด เมื่อสามปีที่แล้ว ก็ถึงแดนพลังแปลงแล้ว”
“พรุ่งนี้…….พี่ระวังตัวหน่อย”
พูดถึงตรงนี้ เสิ่นจูนอี๋ก็ได้ยื่นมือถือไปทางเย่อู๋เทียน
เย่อู๋เทียนลังเลไปครู่หนึ่ง จึงรับมือถือมา เพียงครู่เดียว ก็อ่านรายชื่อที่เย่จื่อหลงส่งมาให้เสิ่นจูนอี๋จนหมด
กลับไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วมองไปทางเสิ่นจูนอี๋
“เธอกำลังมาทำดีหวังผลกับฉัน?”
เสิ่นจูนอี๋ตัวสั่นเล็กน้อย เย่อู๋เทียนกลับสบายอารมณ์แบบนี้ แม้จะรู้ว่าเบื้องหลังของเย่จื่อหลงคือวิหารจอมเทพ แต่การแสดงออกของเขา ก็ยังสบายๆ
เบื้องหลังนี้………
เสิ่นจูนอี๋สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ฉันก็แค่อยากจะได้โอกาสในการทำดีถ่ายโทษ”
“และหลายปีมานี้ เย่จื่อหลงถึงจะเป็นผู้บงการขโมยและขายสมบัติของชาติที่เก็บไว้ในตระกูลเย่”
“ฉันรู้ หากฉันไม่แอบสมยอม เย่จื่อหลงก็ไม่มีโอกาสแบบนั้น แต่ขอให้พี่เห็นแก่ฉันที่สำนึกผิดจากใจจริง พี่ก็ให้ปล่อยฉันสักครั้งเถอะ นะพี่เขย……..”
เย่อู๋เทียนพูดอย่างเคร่งขรึม
“รู้แล้ว”
พูดจบ เย่อู๋เทียนกำลังจะไป
เสิ่นจูนอี๋กลับรวบรวมความกล้าไปขวางอยู่ตรงหน้าของเย่อู๋เทียน
“พี่เขย ฉันทำอาหารไว้ตั้งหลายอย่าง พี่กินหน่อยค่อยไปเถอะ ฉันขอโทษพี่ พี่จะให้ฉันถ่ายโทษยังไงก็ได้”
อยู่เยูอู๋เทียนก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนของเสิ่นจูนอี๋ในห้องโถงบรรพชนของตระกูลเย่
“ทำไมเธอถึงได้ไร้ยางอายแบบนี้!”
เสิ่นจูนอี๋โศกเศร้าเสียใจ
“พี่เขย ฉันไม่ได้มีความหมายอื่น อีกอย่าง แค่พี่ช่วยเหลือซวงซวงข้อนี้ฉันก็ไม่อาจที่จะคิดร้ายกับพี่ได้แล้ว!” เย่อู๋เทียนยิ้มเยาะ สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป
เสิ่นจูนอี๋จับจ้องไปยังแผ่นหลังของเย่อู๋เทียน ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นมาได้
ถอนหายใจแล้ว บ่นพึมพำคนเดียว
“พี่ พี่ไม่สามารถให้อภัยฉันเลยเหรอ?”
“ไม่ว่าจะยังไง สิ่งที่เสิ่นรั่วชิงสามารถทำได้ ฉันก็ต้องทำได้เหมือนกัน!”
เย่อู๋เทียนเพิ่งจะก้าวเท้าออกไป
เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆของเมืองเจียงไห่ ก็ได้มาถึงทั้งหมด
ในค่ำคืนเดียว สมาชิกของตระกูลเย่ทั้งหมด ต้องย้ายออกไปทั้งหมด!
คนของตระกูลเย่ทั้งหมด นอกจากเสิ่นจูนอี๋แล้ว ทั้งหมดล้วนเกลียดเย่อู๋เทียนเข้ากระดูกดำ
และข่าวที่ว่าตระกูลเย่ถูกปิดล้อม แพร่กระจายไปทั่วเมืองเจียงไห่ในชั่วข้ามคืน
แต่ละตระกูลใหญ่ ต่างก็จ้องจะตะครุบ โดยเฉพาะคนที่เป็นคู่แข่งทางการค้าของตระกูลเย่ ล้วนคิดจินตนาการอยู่ในตอนนี้
ตามข่าวที่ออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์ เมื่อเช้าวานนี้ ฝ่าบาทได้มาเยือนเมืองเจียงไห่ด้วยตนเอง เห็นได้ชัดว่าจะเชือดตระกูลเย่แล้ว!
อย่างไรเสีย ตระกูลเย่ก็ทำการสับเปลี่ยนของมีค่าของประเทศ ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้!
ในก่อนหน้านี้ เย่อู๋เทียน ก็ถูกคนทั้งประเทศตามล่า
เรื่องราวหลายๆเรื่องรวมกัน มันสามารถทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่าย
ขณะนี้ ข่าวที่ว่าตระกูลเย่กำลังจะล่มสลาย ได้จุดชนวนไปทั่วทั้งเมือง ซึ่งทำงานงานพิธีฝังศพของเย่จินหลิง มีแขกนับพันคนมาร่วมแสดงความไว้อาลัย!
และทุกคนที่มาร่วมงาน ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลของแต่ละสาขาอาชีพ
แต่ใช้เพียงประโยชน์เดียวก็สามารถบ่งบอกความรู้สึกของพวกเขาได้ในขณะนี้
ใบหน้านั้นโศกเศร้า แต่ในใจกำลังหัวเราะร่า
การตายของเย่อู๋เทียน!
ว่ากันว่าตายเพราะน้ำมือของลูกชายตัวเองอย่างเย่อู๋เทียน!
คนชั่วกรรมตามสนอง!
บริษัทเย่ซื่อกรุ๊ป นั้นมีมูลค่าทางการตลาดมากกว่าพันล้าน?
องค์กรใหญ่ล้ม หลายสาขาอาชีพ ก็จะได้ผลประโยชน์
ในระยะเวลาแค่สั้นๆ ผู้บริหารระดับสูงของแต่ละองค์กร มากันทั่วหน้า บางคนถึงขั้นขับรถมาด้วยตัวเอง
ต่างเกรงว่าหากมาช้าเพียงก้าวเดียว เค้กชิ้นนี้ก็จะถูกคนอื่นแย่งไป!
ราวกับว่า นกอินทรีกินซากสัตว์
แต่พวกเขาคงลืมไปว่า แม้ว่าเย่จินหลิงจะเสียชีวิตไปแล้ว
เย่ซื่อ กรุ๊ป
ยังเป็นทรัพย์สินของเย่อู๋เทียน