จอมนักรบอหังการ - บทที่ 413 หานจื่อเซียนด่ากราดไปทั่ว เย่ฝูถูแสดงตัวออกมาพบ!2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 413 หานจื่อเซียนด่ากราดไปทั่ว เย่ฝูถูแสดงตัวออกมาพบ!2
เหวินไท่จี๋ต่อว่าต่อขานใส่เย่อู๋เทียนอย่างกับคนบ้ายังไงอย่างนั้น
“ชมประวัติศาสตร์แห่งประเทศหลง!มีราชวงศ์ที่เคยมีชีวิตมา800ปีเหรอ?แกรู้ไหมว่านี่มันเพราะอะไร?ยึดถือสรรพชีวิตเฉกเช่นสุนัข คนๆหนึ่งถือเอาสรรพชีวิตเป็นที่ดินทำกิน จะได้รับเต๋ากลายเป็นเซียน นี่เป็นความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้!ทำไมพอมาถึงที่นี่!ก็ไม่ได้การ ?”
เย่อู๋เทียนพูดออกมาแค่ประโยคเดียว
“เพราะว่ายุคสมัยนี้ มีฉัน เย่อู๋เทียน!ชีวิตนี้ของฉัน ขอเพียงแค่ฝึกหนึ่งเต๋า เต๋าไร้ตน เต๋าที่ไร้หลักธรรมชาติแห่งสวรรค์ เพียงแค่เฝ้ารอคอย ทุกคนราวกับเต๋าแห่งมังกร! ”
เหวินไท่จี๋ยิ้มอย่างเยือกเย็นถึงขีดสุด
“เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!แกเพิ่งอายุเท่าไหร่กันเชียว?กูลงความเห็นว่า สักวันหนึ่ง ใจอันบริสุทธิ์ที่น่าขำของแกนั้น เปรอะฝุ่นแน่นอน!”
เย่อู๋เทียนเยาะเย้ย ไม่ได้พูดไร้สาระกับเหวินไท่จี๋อีก
ไม่ใช่ระดับชั้นเดียวกัน
พูดเยอะก็ไม่มีประโยชน์!
ทันใดนั้น เย่อู๋เทียนพูดถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ฉันถามแกหน่อย ทำไมเมื่อกี้จู่ๆแกก็มาคุกเข่าโขลกศีรษะกับฉันที่นี่?”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป เหวินไท่จี๋ใจเย็นลงทันที
แต่ว่า ไม่ได้โขลกศีรษะให้กับเย่อู๋เทียนอีก แต่สาดส่องความอาฆาตแค้นออกมาจากนัยน์ตา
เพียงประโยคเดียว เหวินไท่จี๋ ตอนนี้ไม่กลัวใครทั้งนั้นแล้ว !
ในทางกลับกันสูญเสียผลการฝึกตนไปทั้งหมดแล้ว!
สู้ตาย ไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ซะอีก
เหวินไท่จี๋ หัวเราะใส่เย่อู๋เทียนอย่างมีเลศนัย
“แกอยากรู้?แต่กูไม่พูดหรอกนะ!ผลการฝึกตนของแกเกิดการเปลี่ยนไปอย่างไร?ท้ายที่สุดถูกความรักบนโลกผูกมัดไว้ !แกคิดอยากจะได้ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ขอเพียงแค่ทุกคนยินยอมก็มีโอกาสที่จะก้าวหน้า?งั้นแกก็ต้องเดินไปข้างหน้าสิ!”
“คนๆนั้น ทำไมถึงไม่ทำความรู้จักพบหน้ากันกับแก?เหอะๆ เมื่อไหร่ที่แกใช้ชีวิตมาถึงอายุเท่าฉัน แกก็จะรู้เอง!แกจะต้องตาย!”
“เหลือไม่กี่ปีแล้ว!เหลือไม่กี่ปีแล้ว!ตึกจะทรุดตัวลง!กฎธรรมชาติถูกทำลาย!แม้ว่าเขาเหมือนพระใหญ่ สร้างร่างทองเก้าฟุตของเขา ก็ยากที่จะต้านทานแนวโน้มสถานการณ์โดยรวม!”
แม้ว่าเหวินไท่จี๋ไม่ได้พูดชื่อของเย่ฝูถู ไม่ได้ไขข้อสงสัยของเย่อู๋เทียน
แต่ในเวลานี้ สายตาของหานจื่อเซียน จับจ้องไประหว่างฝ่ามือที่ได้รับบาดแผลจากกระบี่ของเหวินไท่จี๋ทันที
เพียงแค่แวบเดียว หานจื่อเซียนก็เข้าใจทุกอย่าง
เพียงแค่แวบเดียว หานจื่อเซียน……
น้ำตาไหลลงราวกับฝนตก!
โพล่งพูดออกมาหนึ่งประโยค
“เขา ยังมีชีวิตอยู่จริงๆเหรอ!?”
คำพูดนี้ สำหรับเย่อู๋เทียนและพวก คลุมเครือและไม่ชัดเจน
ไม่เข้าใจกันทั้งนั้น เขาที่หานจื่อเซียนพูดถึง เป็นใครกันแน่!
เย่อู่เทียนหันหน้ามองหานจื่อเซียนแวบหนึ่ง พูดถามหนึ่งประโยค
“เขาที่แม่พูดถึง เป็นใคร?”
หานจื่อเซียนร้องไห้ไปพลาง ด่าทอไปพลาง
“แน่นอนว่าเป็นพ่อที่ไร้มโนธรรมนั่นของแกไง!ไอ้สารเลวนั้นไม่มาพบฉัน และก็ไม่เห็นแก รู้เบาะแสของเขาแล้วยังไง?”
“……”
เย่อู๋เทียนคิดไม่ถึงว่า แม่แท้ๆของตัวเอง จู่ๆจะด่าคน พูดถามหยั่งเชิงอีกหนึ่งประโยคแล้ว
“เย่ฝูถู?”
หานจื่อเซียนสีหน้าประหลาดใจ
“แก……แกรู้ชื่อของเขาได้ยังไงกัน?”
เย่อู๋เทียนพูดเสียงเบาๆ
“ได้ยินคนเขาพูดมา”
หานจื่อเซียนใบหน้าเย็นชาครู่หนึ่ง
“เรื่องสารเลวนั่นแกไม่ต้องถามมาก เขาจะเป็นหรือตาย! เราสองคนแม่ลูกไม่ต้องสนใจ !หลายปีมานี้ลูกโง่ๆอย่างแก ทำเพื่อเขามากพอแล้ว!อีกอย่าง ตอนนี้ฉันมีแก ยังจะสนใจว่าเขาจะทำอะไร?”
พูดมาถึงตรงนี้ เหมือนว่าหานจื่อเซียนก็คิดบางเรื่องได้ชัดเจนแล้ว สายตาที่มองไปยังเย่อู๋เทียน ซับซ้อนขึ้นมาทันที แถมน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความคับแค้นในใจ พูดเหอะอย่างเยือกเย็น
“เหอะ!กลับว่าเป็นแกที่ไร้มโนสำนึก เกรงว่าเคยเจอกับเขาตั้งนานแล้วสินะ?ไม่เช่นนั้น ผลการฝึกตนนี้ของแก จะมาจากที่ไหนอีก?”
เมื่อเย่อู๋เทียนได้ฟังคำนี้ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
เหลือบมองไปยังบ่อน้ำเก่าๆที่ใต้หลังคานั่นในลานบ้านแว่บหนึ่งทันที
รู้สึกแคลงใจที่เหมือนเมฆหมอกปกคลุมไว้ไม่หยุด
หรือว่า แม้แต่แม่แท้ๆของตัวเองก็ไม่รู้ความลับที่อยู่ด้านล่างของบ่อน้ำเก่านั่น?
แต่ในเวลานี้ น้ำเสียงๆหนึ่ง ไม่รู้แผ่ซ่านมาจากไหน กลับว่า เข้าไปในรูหูของเย่อู๋เทียนเท่านั้น
“บนโลกใบนี้ มีเพียงสามคนที่ลงเข้าไปในบ่อน้ำที่ลึกกว่าพันเมตรได้เช่นนี้ มีฉัน มีแก หลานชายตัวน้อยของฉัน อีกคน!เพราะงั้น ลูกชายของฉันไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเรื่องนี้! ”
ได้ฟังคำพูดนี้ ดวงตาของเย่อู๋เทียนจ้องมองทันที และหายไปกับที่เลย
สถานที่ที่เหยียบลง คิดไม่ถึงว่าจะอยู่ท่ามกลางเมืองของตี้ตู ยอดตึกที่สูงที่สุดนั่น
และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า……
ไม่ใช่พระวัยกลางคนที่บีบหมอดูดวงแห่งพันธมิตรมังกรให้ตายด้วยมือข้างเดียวนั่น ยังจะเป็นใครอีก?