จอมนักรบอหังการ - บทที่ 418 ย่าของฉันเธอไม่โทษแกหรอก!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 418 ย่าของฉันเธอไม่โทษแกหรอก!
ภายในอาศรมหวินซี ในห้องชาที่ไม่ใหญ่
นอกจากโจวซีและหญิงชราเฉินยู่ฉานที่นั่งบนที่นั่งสำหรับผู้อาวุโสแล้ว ที่นั่งสองแถวระดับล่าง มีแขกมากมายจนไม่มีที่ว่าง
คนที่อยู่ใกล้กับโจวซีและเฉินยู่ฉานที่สุด เป็นนักพรตเต๋าที่สวมใส่ชุดมอมแมม
คนๆนี้ ชื่อว่าโจวจิ้นยวน!
เมื่อก่อน ก็เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสไท่ซ่างของวัดอี่เซียน
เพียงแต่ว่า ตอนนั้นเขาเหมือนกันกับเฉินยู่ฉาน เลือกที่จะยืนฝั่งของโจวซี
นี่ถึงทำให้ เขาถูกกัวเถาจือไล่ออกมาจากวัดอี่เซียน
หลายปีมานี้ โจวจิ้นยวน อาศัยการดูดวงในตี้ตูทำมาหากินตลอด!
พวกเขาไม่รู้เลยว่า……
ในเวลานี้เหวินไท่จี๋ ถึงเย่อู๋เทียนทำลายทักษะทั้งชีวิตแล้ว พาไปส่งโรงพยาบาลจิตเวช!
สีหน้าท่าทางของโจวจิ้นยวนจริงจังสุดขีด หลังจากเงียบขรึมครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็มองไปยังโจวซีที่นั่งประจำตำแหน่งอย่างหยั่งเชิงแวบหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะพูดถามหนึ่งประโยค
“เจ้าอาวาส คุณแน่ใจนะว่า เย่อู๋เทียนไอ้หมอนั่น แม้แต่กัวจื่อจู๋น้องสาวของกัวเถาจือก็เอาชนะไปแล้ว?”
โจวซีเอ่ยปากอย่างเย็นชาและงดงาม
“ฉันเห็นมันกับตาตัวเองทั้งหมด!อีกทั้ง ยังเอาชนะอย่างง่ายดาย!”
โจวจิ้นยวนตบปากแล้ว กลับยังพูดออกมาอีกหนึ่งประโยค
“แม้ว่าเป็นเช่นนี้ ไอ้หมอนั่น ก็น่าจะไม่สามารถผ่านสามกระบวนท่าของเหวินไท่จี๋ชายชรานั่นได้!”
โจวซีกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เฉินยู่ฉานที่อยู่ข้างๆ ถามโจวจิ้นยวนประโยคหนึ่ง
“โจวจิ้นยวน ตอนนี้คุณผ่านกระบวนท่าของเหวินไท่จี๋ได้กี่กระบวนท่า?”
โจวจิ้นยวนตกตะลึงเล็กน้อย เกาๆปลายคิ้ว พูดตอบกลับอย่างอ้ำๆอึ้งๆ
“เมื่อสามสิบปีก่อน หกกระบวนท่า ตอนนี้ ฝืนผ่านไปสิบกระบวนท่าได้!”
เมื่อพูดออกไป ภายในห้องชานอกจากโจวซีและเฉินยู่ฉานแล้ว ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึง
แต่ว่า สิ่งที่ตกตะลึงไม่ใช้พละกำลังของเหวินไท่จี๋ แต่เป็นพละกำลังของโจวจิ้นยวนนี้!
ชายชราผู้นี้ จู่ๆผ่านกระบวนการของเหวินไท่จี๋ได้ถึงสิบกระบวนการ!
เฉินยู่ฉานกลับด่าทอโจวจิ้นยวนหนึ่งประโยคทันที
“ไอ้แก่เศษสวะ !เอายาเม็ดเสวียนเมี่ยวไปจากเจ้าอาวาสที่นี่ทุกปี!สามสิบปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเพิ่มทักษะเล็กน้อยนี่ !”
โจวจิ้นยวนยิ้มแบบเขินๆ ใบหน้าอึดอัด
“ผู้อาวุโสยู่ฉาน จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ ยังไงฉันก็ผ่านกระบวนท่าของเหวินไท่จี๋ได้ถึงสิบกระบวนท่านะ แล้วคุณล่ะ?เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะเดินมาตรงหน้าของเหวินไท่จี๋ก็ยังไม่มี ก็ถูกอีกฝ่ายทุบตีจาเป็นฝุ่นผงแล้ว!”
เฉินยู่ฉานใบหน้าอึมครึม มองไปยังโจวซีที่อยู่ข้างๆ พูดถามอย่างเป็นกังวลแล้ว
“ตอนนี้จะทำยังไง?”
โจวซีครุ่นคิดด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจังไปครู่หนึ่ง พูดสั่งอย่างนิ่งๆ
“ไปเอายาทะลวงชีพจรที่มีอยู่ในบ้านทั้งหมดออกมา กระจายออกไป!”
เฉินยู่ฉานตกตะลึงเล็กน้อย หันหลังไปยังลานหลังบ้านแล้ว
และผู้คนที่อยู่ตรงนั้นได้ยินคำพูดของโจวซี ต่างก็เบิกตาโพลงอย่างไม่มีข้อยกเว้น ตกใจอย่างมาก!
โดยเฉพาะโจวจิ้นยวน พูดถามอย่างตกใจ
“เจ้าอาวาส คุณมียาทะลวงชีพจรของล้ำค่าแบบนั้นไหม?อีกอย่าง ไม่เพียงแค่หนึ่งเม็ด?”
โจวซีตอบกลับอย่างไม่แยแส
“หนึ่งร้อยเม็ด!ล้วนเป็นความพยายามคิดหาทุกวิถีทางตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ รวบรวมสมบัติฟ้าดินทั่วทุกที่ ถึงได้กลั่นออกมา!”
โจวจิ้นยวนใบหน้าบิดเบี้ยว พูดออกมาหนึ่งประโยคทันที
“ฉันว่าหลายปีที่ผ่านมาทำไมถึงกดขี่พวกเราอย่างไม่ใช่คนแบบนี้นะ รวบรวมวัสดุล้ำค่าที่พวกเราส่งมอบหลายปีที่ผ่านมา เหล่านั้น ทั้งหมดถูกคุณกลั่นออกมาเป็นยาทะลวงชีพจรแล้ว! ”
แต่พูดมาถึงตรงนี้ เหมือนว่าโจวจิ้นยวนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อีก พูดถามอย่างเป็นกังวล
“คงไม่ได้มีข้อบกพร่อง……หรอกนะ?”
โจวซีตอบกลับ
“ถูกต้อง”
“……”
ในเวลานี้ โจวจิ้นยวนก็เหมือนถูกผายลมใส่ยังไงอย่างนั้น สับสนวุ่นวายครู่หนึ่ง
จุดจบของการใช้ยาทะลวงชีพจรที่บกพร่อง ก็อยุ่ตรงหน้านี่แหละ!
โจวซีก็คือเคสที่เห็นอยู่ทนโท่!
โจวซีหญิงสารเลวคนนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้ฉันรอหลังจากที่ใช้ยาทะลวงชีพจรที่บกพร่องนี้แล้ว ไปช่วยเย่อู๋เทียนนะ!
เป็นเช่นนั้นล่ะก็
ช่วยน่ะช่วยได้ แต่หลังจากที่ช่วยเย่อู๋เทียนแล้ว……
ผู้คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ทุกคน!
เกรงว่าจะเหมือนกับโจวซี ใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิต
แต่ตอนที่โจวจิ้นยวนกำลังคิดเช่นนี้ โจวซีเพียงแค่มองเขาแวบหนึ่ง ก็ราวกับมองความคิดของเขาอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
พูดหนึ่งประโยคอย่างนิ่งๆ
“ขอเพียงแค่ช่วยเย่อู๋เทียนออกมาจากในกำมือของเหวินไท่จี๋กลับมาได้ ผลข้างเคียงของยาทะลวงชีพจรที่มีข้อบกพร่องนี้ เย่อู๋เทียนจัดการได้! ”
โจวจิ้นยวนใบหน้าท้อแท้ใจ
“คำพูดนี้ หลอกเด็กน้อยสามขวบยังได้อยู่!”
โจวซีมองไปยังโจวจิ้นยวนอย่างเยือกเย็น พูดถามอย่างโมโห
“งั้นคุณหมายความว่าไง?ไม่ช่วยแล้ว?”
โจวจิ้นยวนกลอกตามองบนใส่ พูดอย่างคับแค้นใจออกมาหนึ่งประโยค
“ถ้าหากไม่อยากช่วย ทุกคนก็ไม่มีทางมาหาคุณที่นี่หรอกนะ คำว่าชอบธรรมอยู่กลางกระบาล ฉัน……จะไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะทำสุดความสามารถ ถึงตอนนั้นน่าจะช่วยยืดเวลาให้ไอ้เด็กบ้าเย่อู๋เทียน หนีไปจากเงื้อมมือปิศาจอย่างเหวินไท่จี๋นั่นได้บ้าง!”
พูดมาถึงตรงนี้ โจวจิ้นยวนค่อยๆลุกขึ้นยืน กวาดสายตาอมองไปยังทุกคนที่อยู่หน้างานรอบหนึ่ง พูดเพิ่มเติมอีกหนึ่งประโยค
“ส่วนพวกคุณ……หนีเอาตัวรอดเองแล้วกัน วัดอี่เซียนแห่งเอ๋อเหมยที่ตามกฎระเบียบ มีคนที่ใจกุศลอย่างพวกคุณเหล่านี้อยู่ น่าจะไม่หายไป!”
พูดคำนี้จบ นอกจากโจวซีที่ลุกขึ้นยืนไม่ได้แล้ว ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ลุกขึ้นทั้งหมดแล้ว
มองไปยังโจวจิ้นยวนด้วยสายตาที่ซับซ้อนอย่างน่าประหลาดใจ
มีหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งพูดอย่างสำลักว่า : “แกไอ้แก่สารเลว มาอวดความเป็นฮีโร่อะไรในเวลานี้?แกและเจ้าอาวาสรออยู่ที่นี่อย่างสบายใจ ฉันและพวกพี่น้องเหล่าสหายไปก็พอแล้ ว ถึงยังไง ค่ายกลกระบี่ของวัดอี่เซียนแห่งเอ๋อเหมย ก็ไม่ได้เป็นแม่พระนะ!”
โจวจิ้นยวนมองดูหญิงวัยรุ่นแวบหนึ่ง พูดหนึ่งประโยคทันที
“ประเทศหลงเผชิญกับหายนะในตอนนั้น ตอนที่ฉันหนีเข้าไปป่าไปเป็นโจร บีบบังคับจับตัวคุณย่าของแกเป็นเชลยกลับมายังที่มั่นบนภูเขา เพราะงั้น ฉันปู่ของแก ไม่ใช่คนดีอะไร แกไม่ต้องเลื่อมใสศรัทธาฉันขนาดนี้ !”
หญิงวัยรุ่นกัดฟันพูดด้วยความแค้น
“ย่าของฉันเธอไม่ได้โทษแก!”
โจวจิ้นยวนถอนหายใจแล้ว มองไปยังลานหลังบ้านอีก ตะโกนออกมาแล้ว
“ยู่ฉาน ฉันไปแล้วนะ!ฉันรู้ว่าคุณยังเก็บผ้าเช็ดหน้าที่ฉันมอบให้คุณในตอนนั้นไว้นะ!ในใจของคุณมีฉันอยู่!แต่ว่าเรื่องราวมาถึงตอนนี้……พูดเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ไปครั้งนี้ ฉันจะไม่กลับมาแล้ว !”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป หลานสาวของโจวจิ้นยวน ก็คือหญิงวัยรุ่นที่เพิ่งพูดเมื่อครู่นี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาฆ่าทันที!
เห็นว่าหลังจากหญิงชราเฉินยู่ฉานที่อยู่ในโถงด้านหลัง ได้ยินคำพูดของโจวจิ้นยวน สายตาอันแก่หงอมสองคู่นั้น แดงก่ำขึ้นมาทันที สูดลมหายใจเข้าลึก พูดกับโจวจิ้นยวนที่อยู่ข้างนอกประโยคหนึ่งแล้ว
“ถ้าหากวันนี้กลับมาได้ จะต้มชาให้คุณทุกวัน!”
โจวจิ้นยวนมีความสุข
ถือโอกาสหยิบกระบี่อ่อนออกมาจากเอว
“ไปแล้ว!”
พูดจบลง โจวจิ้นยวน อย่างกับเทพแห่งกระบี่ยังไงอย่างนั้น เขวี้ยงกระบี่ไปในอากาศก่อน
ทันใดนั้น คนทั้งคนก็แปรเปลี่ยนเป็นแสงสีรุ้ง
ทลายประตูบุกออกไป!
แต่ทว่า เขาเพิ่งจะเดินไป เย่อู๋เทียน ก็เดินเข้ามาจากนอกประตูใหญ่ของอาศรมหวินซี