จอมนักรบอหังการ - บทที่ 419 ต่อไป ต้องการให้ฉันทำอะไร?
จอมนักรบอหังการ บทที่ 419 ต่อไป ต้องการให้ฉันทำอะไร?
แต่ว่า การมาถึงของเย่อู๋เทียน……
ไม่ทำให้คนเหล่านี้ที่อยู่ในอาศรมหวินซี สังเกตเห็นใดๆได้เลย!
ภายในห้องชา
ใบหน้าที่งดงามของโจวซี แม้เป็นเพราะสละชีวิตเพื่อสัจธรรมของโจวจิ้นยวน มีสีหน้าที่ประทับใจ แต่กลับ หายวับไปทันที!
และในเวลานี้ เฉินยู่ฉาน ถือถาดรองของพื้นผิวไม้เรดแซนดัลวู้ด ออกมาจากโถงด้านหลัง
บนถาดรองนั้น เป็นเม็ดยาทะลวงชีพจรที่บกพร่องมากมาย!
เห็นได้ชัดว่า แม้ว่าโจวจิ้นยวนสละชีวิตเพื่อสัจธรรม
ไม่ว่าจะเป็นโจวซี หรือว่าเฉินยู่ฉาน ยังคงไม่คิดว่าโจวจิ้นยวนจะอาศัยความสามารถของตนเพียงคนเดียวเพื่อช่วยเย่อู๋เทียนออกมาได้สำเร็จได้!
เฉินยู่ฉานถือถาดรอง ยืนอยู่ข้างกายของโจวซีแล้ว
โจวซีกวาดสายตามองกลุ่มลูกศิษย์สายเลือดโดยตรงของวัดอี่เซียนมากมายณที่แห่งนี้ ความรู้สึกซับซ้อนสุดขีด
ผ่านไปนาน ถึงค่อยๆเอ่ยปากพูด
“พวกคุณรู้ไหม ทำไมฉันจะต้องช่วยเย่อู๋เทียน?”
หลานสาวของโจวจิ้นยวนตอลกลับ
“เขาหล่อ!”
“……”
“……”
“……”
ผู้คนในห้องชา ต่างก็หมดคำพูดอย่างสุดๆทันที
นี่มันเวลาไหนกันแล้ว ยัยเด็กบื้อคนนี้ยังมาล้อเล่นแบบนี้ตรงนี้อีก น่าขำมากเหรอ?
หลานสาวของโจวจิ้นยวนชื่อโจวเสี่ยวหยุน
โจวเสี่ยวหยุนเห็นว่าเงียบสงบเช่นนี้ ใบหน้าแดงระเรื่อครู่หนึ่ง พูดอย่างเบ้าตาแดงก่ำ
“ยังจะเพราะอะไรได้?มองดูทั่วทั้งประเทศหลง ใครจะเหมือนอย่างเย่อู๋เทียนได้ ยินยอมที่จะอาศัยกำลังของตนเพียงคนเดียว เพื่อคุ้มกันประชาราษฎร?นี่เดิมทีมันเป็นความรับผิดชอบตัวเองของวัดอี่เซียนของเรา แต่ตอนนี้ล่ะ ?เพราะกัวเถาจือ พวกเราแอบอดทนมาหลายปีมากขนาดนี้ ไม่กล้าแม้แต่จะออกหน้า!”
“แต่ดูเย่อู๋เทียนสิ?ทั้งๆที่รู้ว่าทัดเทียมไม่ได้ กล้าไปเล่นงาน คนแบบนี้ เขาไม่หล่อ?”
โจวซีเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าอย่างเป็นประวัติการณ์
“แม้ว่าคำพูดจะเป็นลักษณะเด็กๆ เหตุผล เป็นหลักเหตุผลที่ถูกต้อง!”
หลังจากนั้น สีหน้าจริงจัง
พูดกล่าวต่อ
“เหวินไท่จี๋ เป็นผู้ทรยศต่อประเทศชาติ!เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มองคนของศิลปะการต่อสู้ของเราเป็นเตาหลอมส่วนตัวของเขา !แม้ว่าคนๆนี้จะแข็งแกร่ง!แต่ ถ้าวันนี้สามารถโจมตีโจรผู้นี้ได้ เป็นความโชคดีของทุกคน! ”
หลังจากที่พูดจบ
ภายในห้องชา ทุกคนต่างก็จดจ่อไปยังหน้าห้องโถง คุกเข่าลงคารวะข้างหนึ่ง
“กลุ่มลูกศิษย์ของวัดอี่เซียน ยินดีที่จะฟังตามคำสั่งของเจ้าอาวาส!”
โจวซีมองกลุ่มลูกศิษย์ที่อยู่ตรงหน้าอยู่นาน พูดเสียงเบาๆ
“ยาทะลวงชีพจรที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสยู่ฉานเหล่านี้ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่มีข้อบกพร่อง หลังจากที่ใช้ แม้ว่าพละกำลังจะเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ และหลังจากที่ทำสงครามใหญ่ในวันนี้ ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ไม่มีข้อยกเว้น จะต้องเป็นอย่างฉัน กลายเป็นคนที่ทุพพลภาพ !”
“พวกคุณ กลัวไหม?”
กลุ่มลูกศิษย์ตอบกลับเป็นเสียงเดียวกัน
“ไม่กลัว!”
โจวซีสูดลมหายใจเข้าลึก พูดเอ่ยปากอีกครั้ง
“งั้น พูดมากก็ไม่มีประโยชน์ ทุกคนกินยาเถอะ หลังจากกินยา บุกไปฆ่าเหวินไท่จี๋ที่หอหมากรุกพร้อมกันกับฉัน!”
“ออกไปครั้งนี้ ถ้าไม่กลับ ก็ไม่กลับ!”
หลังจากที่พูดจบ เฉินยู่ฉาน เดินก้าวไปข้างหน้า นำเอาเม็ดยาทะลวงชีพจรที่มีข้อบกพร่องในถาดรองมากมาย เผยต่อหน้าทุกคน
ทุกคนลุกขึ้นยืน
คนที่จะนำหน้าไปเอายา ก็เป็นโจวเสี่ยวหยุน หลานสาวของโจวจิ้นยวน
แต่ว่า ตอนที่โจวเสี่ยวหยุนหยิบเม็ดยาทะลวงชีพจรที่บกพร่องเม็ดหนึ่งแล้ว จะกินลงไป
มีเสียงวัยรุ่นผู้หนึ่งแผ่ซ่านมาจากนอกประตูแล้ว
“อ่อนแอขนาดนั้น ยังมีความกล้าขนาดนี้!ไม่รู้จริงๆ ว่าคุณจะให้รางวัลพวกคุณยังไง!”
ตามมาด้วยเสียงๆนี้แผ่ซ่านมาจากนอกประตู ผู้คน ถึงได้หันหน้าไปมอง
เห็นวัยรุ่นที่นอกประตูคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเย่อู๋เทียน……
กลุ่มคน ไม่มีข้อยกเว้น เบิกตาโพลงกันหมดแล้ว
โดยเฉพาะโจวซี เธอที่นั่งอยู่บนรถเข็น สีหน้าเหลือเชื่อมาก โพลงพูดเรียกออกไปแล้ว
“เย่อู๋เทียน?!!”
เย่อู๋เทียน คำพูดของคนผู้นี้ทำให้คนตกใจอย่างมาก
“เหวินไท่จี๋ไอ้โจรแก่ ถูกฉันส่งตัวไปโรงพยาบาลจิตเวชแล้ว เกรงว่ากลุ่มเลือดร้อนอย่างพวกคุณนี้ ไม่สามารถแสดงความสามารถได้แล้ว!”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็ตกตะลึงครู่หนึ่ง
เหวินไท่จี๋……
ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจิตเวชแล้ว?
มันเกิดอะไรขึ้น?
งั้นเป็นเหวินไท่จี๋นะ!
ถึงส่งไปยังโรงพยาบาลจิตเวชได้ยังไงกัน?
เล่นตลกอะไรกันเนี่ย!
เย่อู๋เทียนเห็นท่าทีเช่นนี้ของกลุ่มคน ไม่มีทางเลือกอื่นทำได้เพียงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกคนฟังรอบหนึ่งแล้ว
หลังจากที่กลุ่มคนได้ฟัง ผ่านไปนานก็ไม่ได้สติกลับมา
เหวินไท่จี๋……
ถูกพ่อของเย่อู๋เทียน เย่ฝูถู แทงจนได้รับบาดเจ็บก่อน!
หลังจากนั้น เหวินไท่จี๋ก็ถูกเย่ฝูถูทำให้ตกใจ ไปยังที่อยู่ของเย่อู๋เทียนแล้ว โขลกศีรษะขอโทษเย่อู๋เทียน?
นี่……
ทำให้คนยากที่จะเชื่อเกินไปแล้ว!
จะเป็นอย่างนี้ได้ยังไงกัน?
เรื่องราวจะเกิดจุดเปลี่ยนเช่นนี้ได้ยังไงกัน?
เย่อู๋เทียนเห็นกลุ่มคนไม่เชื่อ ยักไหล่ พูดอีกประโยคแล้ว
“นักพรตเต๋าที่เพิ่งจะเขวี้ยงกระบี่ออกไป หลังจากนั้นเหยียบกระบี่จากไปนั้น เชื่อว่าไม่นานก็จะกลับมาแล้ว ถึงตอนนั้น เขาจะต้องอธิบายสถานการณ์ให้พวกคุณได้ฟัง!”
ผู้คนยังไม่เชื่อ
แต่ว่า เฉินยู่ฉานเสนอตัวทันที
“ฉันไปสอบถาม!”
เพิ่งจะพูดจบ เฉินยู่ฉานขยับนิ้วเท้า พุ่งออกไปจากห้องชาแล้ว
ในเวลานี้ เย่อู๋เทียนเดินมาถึงตำแหน่งสำหรับผู้อาวุโส นั่งลงแล้ว ยื่นมือไปหยิบเม็ดยาทะลวงชีพจรที่บกพร่องเม็ดหนึ่งในถาดรองนั้นที่อยู่บนโต๊ะน้ำชาข้างๆแล้ว สังเกตมองดูรอบหนึ่ง
พูดกับโจวซีที่อยู่ข้างๆอย่างเบาๆระโยคหนึ่ง
“ ยังขาดอีกหน่อย อีกแค่สามก้าว คุณก็กลั่นเม็ดยาทะลวงชีพจรออกมาได้สำเร็จแล้ว!”
ตอนนี้โจวซีไม่สนใจว่ายาทะลวงชีพจรเหล่านี้จะเป็นจริงหรือลอมเลยสักนิด พูดถามอีกหนึ่งประโยคแล้ว
“สิ่งที่คุณพูดมาเมื่อสักครู่ เป็นเรื่องจริง?”
เย่อู๋เทียนตอบไม่ตรงคำถาม
“มีสองเรื่องที่มาหาคุณที่นี่ เรื่องแรก รักษาขาของคุณให้หายดี เรื่องที่สอง อยากจะทราบที่อยู่ของของสิ่งหนึ่งจากคุณ!”
เมื่อประโยคนี้จบลง ผู้คนด้านล่างโถง ตกใจอย่างมากอีกครั้งแล้ว
เย่อู๋เทียน……
จู่ๆสามารถรักษาขาของโจวซีให้หายได้?
ไม่ใช่บอกว่า บนโลกใบนี้นอกจากเหวินไท่จี๋แล้ว ไม่มีใคร สามารรักษาขาของโจวซีให้หายดีได้ไม่ใช่เหรอ?
โจวซีรู้ตั้งนานแล้วว่า เย่อู๋เทียนรักษาขอทั้งสองข้างของตัวเองให้หายได้ เพราะงั้น ก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ และพูดถามออกมาหนึ่งประโยค
“คุณอยากจะรู้ที่อยู่ของของสิ่งไหนเหรอ?”
เย่อู๋เทียนพูดอย่างนิ่งๆ
“หญ้าเทียนหลัว!”
ได้ยินถึงของชิ้นนี้ ใบหน้าของโจวซี สาดส่องความแปลกประหลาดออกมาแล้ว
“คุณต้องการของสิ่งนั้นไปทำอะไร?”
เย่อู๋เทียนตอบกลับ
“ช่วยคน”
สีหน้าโจวซีไม่สงบนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้น ก็เหมือนว่าตัดสินใจอย่างใหญ่หลวงแล้วยังไงอย่างนั้น พูดออกมาหนึ่งประโยค
“ได้ คุณรักษาขาทั้งสองข้างของฉันให้หายดีก่อน หลังจากนั้นฉันจะพาคุณไปหาหญ้าเทียนหลัว!”
เย่อู๋เทียนพยักหน้า ลุกขึ้นยืนพร้อมพูดกล่าว
“ไปโถงด้านหลังเถอะ”
โจวซีคิดๆดูแล้ว กลับพูดว่า
“มีเรื่องขอร้องที่ไม่สมเหตุสมผลอย่างหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะพูดอีกไหม”
เย่อู๋เทียนยยิ้มอย่างนิ่งๆ
“แต่พูดว่าไม่เป็นไร”
โจวซีมองไปยังโจวเสี่ยวหยุน พูดเสียงเบาๆ
“เด็กผู้หญิงคนนี้ มุ่งมั่นในทักษะทางการแพทย์ ค่อนข้างมีพรสวรรค์ ตอนที่คุณรักษาให้ฉัน ฉันอยากให้เธอยืนเรียนรู้อยู่ข้างๆ”
เย่อู๋เทียนคิดๆดูแล้ว ก็ตอบตกลง
“ไม่มีปัญหา”
เมื่อเพิ่งจะพูดคำนี้จบ ด้านล่างห้องโถงก็มีหญิงสาววัยรุ่นบางส่วนเสนอตัวเองขึ้นมาแล้ว
“เจ้าอาวาส ฉันกำลังมุ่งมั่นในทักษะทางการแพทย์ ไม่ได้ด้อยไปกว่าโจวเสี่ยวหยุน ฉันก็อยากเห็นทักษะทางการแพทย์ที่สุดยอดของคุณเย่”
“ฉัน……ฉันก็ด้วย!”
“ฉันก็ด้วย!”
โจวซีเห็นภาพฉากนี้ ค่อนข้างจนใจ เย่อู๋เทียนอย่างหยั่งเชิงประโยคหนึ่งแล้ว
“ได้ไหม?”
ใบหน้าของเย่อู๋เทียนสาดส่องความแปลกประหลาด และฝืนยิ้มออกมา
“ถ้าหากว่าคุณไม่มีความเห็นใดๆ งั้นก็ไม่มีปัญหา”
โจวซีถึงได้โล่งอกแล้ว หลังจากนั้นพูดกำชับโจวเสี่ยวหยุน ผลักตัวเองเข้าไปในโถงด้านหลังแล้ว
ในขณะเดียวกัน หญิงสาววัยรุ่นก็ตามเข้ามาไม่น้อยเลย
หลังจากที่โจวเสี่ยวหยุนจอดรถเข็น โจวซีที่อยู่ด้านบนมองไปยังเย่อู๋เทียนอย่างตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะพูดถามประโยคหนึ่งแล้ว
“ต่อไป ต้องการให้ฉันทำอะไร?”
เย่อู๋เทียนพูดออกมาอย่างนิ่งๆประโยคหนึ่ง
“ถอดออก นอนลงบนเตียง!”