จอมนักรบอหังการ - บทที่ 436 ขอร้องท่านได้โปรดรับป้ายเจินอู่ มิเช่นนั้น ถึงตายฉันก็จะไม่ลุกขึ้น 2
- Home
- จอมนักรบอหังการ
- บทที่ 436 ขอร้องท่านได้โปรดรับป้ายเจินอู่ มิเช่นนั้น ถึงตายฉันก็จะไม่ลุกขึ้น 2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 436 ขอร้องท่านได้โปรดรับป้ายเจินอู่ มิเช่นนั้น ถึงตายฉันก็จะไม่ลุกขึ้น! 2
เย่อู๋เทียนมองหวงฝู่เจิ้งฉี แล้วถามด้วยความสงสัย
“คุณคือ……”
หลังจากหวงฝู่เจิ้งฉีเห็นเย่อู๋เทียนแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาประหม่ามาก และไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น
“ผมหวงฝู่เจิ้งฉี เป็นรองเจ้าสำนักของสำนักเจินอู่! ฉันคนนี้มีความผิด ที่วันนี้มารบกวนที่บ้านของท่าน ทำลายหลังคา ดอกไม้และต้นไม้ในบ้านของท่าน! ต่อให้ผมตายเป็นหมื่นครั้งก็เต็มใจ!”
ใบหน้าของเย่อู๋เทียนกระตุก
“อ้อ ที่แท้คุณเป็นรองเจ้าสำนักของสำนักเจินอู่ ลูกชายของหวงฝู่ซิงถู?”
หวงฝู่เจิ้งฉีตอบด้วยความประหม่า
“ผมเองครับ”
หวงฝู่เหยาที่ยืนอยู่นอกประตู
สับสนจนถึงขีดสุด
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เป็นเจ้าสำนักของสำนักเจินอู่ได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น เขา……
เขาเรียกชื่อจริงของคุณปูตนเองอีกด้วย?
และขณะนี้เอง เย่อู๋เทียนก็สั่งหวงฝู่เจิ้งฉี
“ลุกขึ้นคุยเถอะ!”
หวงฝู่เจิ้งฉีไม่ลุกขึ้น แต่กล่าวด้วยความจริงจัง
“ถ้าท่านไม่ยกโทษให้ฉัน ฉันก็จะคุกเข่าอยู่ที่นี่จนตาย! นอกจากนี้ ฉันขอเสี่ยงตายพูด! ขอร้องเจ้าสำนัก โปรดรับป้ายเจินอู่ต่อไปด้วยเถอะ หรือท่านให้ภรรยาของท่านรับป้ายเจินอู่ต่อไปได้เช่นกัน สรุปแล้ว นอกจากท่านและภรรยาของท่านแล้ว ไม่มีใครมีคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้าสำนักของสำนักเจินอู่ได้!”
เย่อู๋เทียนพูดไม่ออก
เพราะจนถึงขณะนี้ เขาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
สำหรับป้ายเจินอู่……
เย่อู๋เทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะจำได้
เขาถามด้วยความสงสัย
“ป้ายเจินอู่ที่คุณกล่าวถึง คือป้ายหยกที่พ่อของคุณยัดเยียดให้ผมในตอนนั้นเหรอ?”
หวงฝู่เจิ้งฉีตอบเสียงดัง
“ถูกต้อง!”
หลังจากนั้นเย่อู๋เทียนก็เข้าใจ และสีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
“ตอนนั้นผมบอกพ่อของคุณไปแล้วว่าผมไม่สนใจของชิ้นนั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาอยากขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของผม ก็ไม่สามารถนำของเล็กน้อยนี้มาเป็นของขวัญได้ใช่ไหม?”
หลังจากกล่าวจบ
ไม่เพียงแค่หวงฝู่เจิ้งฉีเท่านั้นที่เกือบจะหมดสติ
หวงฝู่เหยาที่อยู่นอกประตูก็เกือบหมดสติเช่นกัน
สิ่งที่หวงฝู่เจิ้งฉีคิดคือ…..
สุดท้าย เย่อู๋เทียนยังคงไม่สนใจป้ายเจินอู่ของสำนักเจินอู่!
แต่สิ่งที่ทำให้คนประหลาดใจก็คือ……..
คำพูดของเย่อู๋เทียนหมายความว่าอย่างไร?
หมายความว่าถึงแม้เขาจะไม่สนใจป้ายเจินอู่ แต่ขอเพียงแค่พ่อของตนเองเสนอสิ่งอื่นเพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เขาก็จะยินยอมรับพ่อของตนเองเป็นลูกศิษย์ใช่ไหม?
สิ่งที่หวงฝู่เหยาคิดคือ…..
บ้าไปแล้ว
ล้วนบ้าไปแล้ว
ชายหนุ่มธรรมดาที่อยู่ตรงหน้า นอกจากหน้าตาหล่อเหลาแล้ว ก็ไม่มีอะไรดีเลย เขาไม่เพียงไม่สนใจป้ายเจินอู่ของสำนักเจินอู่เท่านั้น หวงฝู่ซิงถู คุณปู่ของตนเองยังต้องการฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของเขาอีกด้วย?
เขามีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
นอกจากนั้น……
เหตุผลที่พ่อตนเองคุกเข่าอยู่ในบ้านเก่าหลังนี้ ไม่ใช่เพราะเขาเลี้ยงเมียน้อยอยู่นอกบ้าน
แต่เป็น……
สิ่งที่เขาทำในวันนี้ ล้วนเป็นเพราะเคารพชายหนุ่มธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าคนนี้?
สิ่งที่เขาทำในวันนี้ ล้วนเป็นเพราะเขาต้องการขอร้องอ้อนวอนชายหนุ่มธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ รับตำแหน่งเจ้าสำนักของสำนักเจินอู่?
และขณะนี้เอง เสิ่นรั่วชิงและคนอื่น ๆ ที่กำลังรอให้เย่อู๋เทียนกลับมาทานอาหารเย็นอยู่ในห้องอาหาร
ทุกคนเดินออกมา เพราะได้ยินเสียงที่ดังมาจากประตูใหญ่
“ลูก กลับมาแล้วเหรอ!”
“เทียนเอ๋อร์ อาหารใกล้เย็นแล้ว เข้าไปทานข้าวกันเถอะ”
คนที่พูดประโยคนี้ ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นภรรยาของเย่ฝูถู
“ที่รัก ทำไมคุณกลับมาช้าขนาดนี้? …..จริงสิ มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อหวงฝู่เจิ้งฉี มาเซ้าซี้ให้ฉันเป็นเจ้าสำนักของสำนักเจินอู่ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกรำคาญมาก”
เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้ออกมาจากปากเสิ่นรั่วชิง
เมื่อเย่อู๋เทียนได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว เขาเดาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันได้คร่าว ๆ แล้ว
แต่เมื่อหวงฝู่เหยาที่อยู่ด้านนอกประตูใหญ่ ได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว เธอรู้สึกหน้าแดงและร้อนเผ่าทันที
พ่อของตนเองอยู่ที่นี่ เป็นเหมือนคนรับใช้เก่าแก่
เขาสวมผ้ากันเปื้อน!
ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งทำอาหารเสร็จ!
ถึงจะเป็นเช่นนั้น……
ผู้หญิงที่อยู่ในบ้านเก่าหลังนี้ ยังคงรู้สึกรำคาญเขามาก!
สมาชิกของครอบครัวใหญ่นี้ เป็นคนแบบไหนกันแน่?
ไร้เหตุผลสิ้นดี!
ขณะนี้ เย่อู๋เทียนพยักหน้าให้เสิ่นรั่วชิงและคนอื่น ๆ
หลังจากนั้น สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หวงฝู่เจิ้งฉีอีกครั้ง
หัวเราะด้วยความขมขื่น
“รีบลุกขึ้นเถอะ”
สีหน้าของหวงฝู่เจิ้งฉีเต็มไปด้วยความดื้อรั้น
“ไม่ลุก! วันนี้ถ้าท่านไม่รับป้ายเจินอู่ ก็มอบป้ายเจินอู่ให้ภรรยาของท่าน! มิฉะนั้น ถึงแม้ว่าฉันจะตาย ก็จะไม่ลุกขึ้น!”
เย่อู๋เทียนถอนหายใจ แล้วใช้นิ้วชี้ไปที่คิ้วของหวงฝู่เจิ้งฉี
ทันใดนั้น
หวงฝู่เจิ้งฉีรู้สึกว่าพลังบู๊แท้ที่รุนแรง หลั่งไหลเข้าไปในกระดูกหน้าผากของตนเอง
เพียงชั่วครู่……
หวงฝู่เจิ้งฉีรู้สึกว่าเงื่อนเต๋าที่เสิ่นรั่วชิงสร้างไว้บนไหล่ของตนเอง คลี่คลายอย่างง่ายดาย
ไม่เพียงแค่นั้น!
จุดอ่อนอื่น ๆ ในร่างกายของตนเอง ได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว!
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่หวงฝู่เจิ้งฉีจะดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึง เขารู้สึกว่ามีชี่แท้ไหลเวียนอยู่ในเส้นลมปราณทั่วร่างกายของตนเองอย่างเป็นระเบียบ!
เหมือนกับว่าเย่อู๋เทียนกำลังใช้วิธีนี้ เพื่อถ่ายทอดวิทยายุทธในคัมภีร์บู๊แท้ให้ตนเอง!
ชั่วขณะหนึ่ง ร่างกายของหวงฝู่เจิ้งฉีถูกปกคลุมไปด้วยเกาะปราณทองเขียว!
เขาคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ตรงนั้น
เหมือนเทพเจ้ากำลังกราบไหว้จักรพรรดิสวรรค์!
เมื่อหวงฝู่เหยาที่อยู่ด้านนอกประตูใหญ่เห็นภาพนี้แล้ว เธอตกใจจนเกือบจะลืมหายใจ!
สมาชิกหลักของตระกูลหวงฝู่ที่นั่งอยู่ในรถหรูด้านนอกประตูใหญ่ ทุกคนเบิกตากว้าง และลงมาจากรถทั้งหมด
เสิ่นรั่วชิงที่ยืนอยู่ในประตูใหญ่ รู้สึกสงสัยกับการกระทำของเย่อู๋เทียน
เย่ฝูถูและหานจื่อเซียนสองสามีภรรยา ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!
โดยเฉพาะเย่ฝูถู สายตาที่เขามองเย่อู๋เทียนนั้น ไม่ใช่สายตาที่พ่อมองลูกชายอีกต่อไปแล้ว
แต่เหมือนสาวกที่กำลังมองไอดอลของตนเอง!
แม่งฉิบหาย!
ถ่ายวิทยายุทธในคัมภีร์บู๊แท้ให้หวงฝู่เจิ้งฉีแบบนี้เหรอ?
หรือถ้าตนเองกราบไหว้ลูกชายของตนเอง?
ให้เขาถ่ายทอดคัมภีร์จินกางของวัดพระแก้วมรกตให้ตนเองทั้งหมด?
และขณะนี้เอง เย่อู๋เทียนได้ยุติแล้ว เขาก้มหน้ามองหวงฝู่เจิ้งฉี และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ผมถ่ายทอดเคล็ดวิชาเล็กน้อยให้คุณแล้ว คุณลุกขึ้นได้หรือยัง?”