จอมนักรบอหังการ - บทที่ 70 นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงของธนาคารแห่งประเทศหลง จางซินหร่าน
- Home
- จอมนักรบอหังการ
- บทที่ 70 นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงของธนาคารแห่งประเทศหลง จางซินหร่าน
จอมนักรบอหังการ บทที่ 70 นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงของธนาคารแห่งประเทศหลง จางซินหร่าน !
เธอชื่อจางซินหร่าน เป็นนักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงของธนาคารแห่งประเทศหลง
เธอยังมีอีกสถานะหนึ่ง
ลูกสาวของหัวหน้าธนาคารแห่งประเทศหลงจางเสี่ยวชวน
ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่สามารถเป็นตัวแทนของจางเสี่ยวชวนมาปรากฏตัวต่อหน้าของเย่อู๋เทียนในตอนนี้ได้
ที่สำคัญกว่านั้นคือ ไอคิวของเธอมีมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบ
ถือว่าเธอเป็นคนฉลาดที่สุดในโลกใบนี้คนหนึ่ง
อายุสามสิบกว่าปี แต่ทุกวันนี้ยังโสด
เป็นผู้เหมาะสมสำหรับตำแหน่งหัวหน้าธนาคารคนต่อไปมากที่สุด
ตั้งแต่เล็กจนโตได้เห็นฉากใหญ่ ๆ จนคุ้นชิน
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่อู๋เทียน ท่าทางที่แสดงออกมาดูประหม่าเป็นอย่างมาก
ช่วยไม่ได้
เธอรู้สถานะของเย่อู๋เทียน
นายยมบาลชิงตี้ !
ในประเทศหลงถือเป็นตำแหน่งสูงสุด
ตอนนี้เป็นปีที่พันธมิตรทั้งสิบหกประเทศ ซึ่งนำโดยประเทศเชวี่ยจำเป็นต้องจ่ายเงินเป็นเครื่องราชบรรณาการให้แก่ประเทศหลง
วางไว้บนคอมพิวเตอร์โน๊ทบุ๊คที่อยู่ด้านหน้า
ยังต่างจากยอดร่วมที่ต้องจ่ายถึง หนึ่งร้อยสิบกว่าล้านล้าน !
แนวคิดนี้มันอะไร ?
สามารถทำลายเครือข่ายถนนของประเทศหลงและสร้างใหม่ได้เป็นสิบรอบ !
ขาดเป็นบาดแผลที่ใหญ่ขนาดนี้
มันเป็นความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย
ด้านหนึ่งเป็นความรับผิดชอบของพันธมิตรทั้งสิบหกประเทศ
ไม่ยอมจ่ายเงิน
อีกด้านหนึ่งเป็นความรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศหลง
ไม่สามารถทวงหนี้ได้ !
ในตอนนี้จางซินหร่านรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
หันมามองหน้าเย่อู๋เทียน
มันไม่ใช่ความตั้งใจของเธอจริงๆ
เป็นเพราะว่าพ่อของเธอจางเสี่ยวชวนกลัวที่จะถูกวิจารณ์โดยเย่อู๋เทียน จึงส่งให้เธอมาเผชิญหน้าในครั้งนี้
เป็นอย่างที่คิด
หลังจากเย่อู๋เทียนได้เห็นจำนวนยอดรวมของหนี้ที่พันธมิตรทั้งสิบหกประเทศค้างจ่าย ใบหน้าของเขามืดครึ้ม
ราวกับจางซินหร่านกำลังนั่งอยู่บนเข็ม กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก !
ในที่สุดเย่อู๋เทียนก็พูดออกมา พร้อมกับทุบโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าและชี้นิ้วขึ้นมา
“ฉันไม่รู้จริงๆว่าพวกคุณทำอะไรกินกัน เจ็ดปีแล้ว ในบัญชีของฉันเพิ่งมีเงินแค่เพียงสี่ล้านล้านเท่านั้น !”
“พันธมิตรสิบหกประเทศ นี่กำลังเป็นขอทานกันอยู่หรือไง ?”
หน้าผากของจางซินหร่านเต็มไปด้วยเหงื่อ
“ท่าน ท่านอย่าเพิ่งโกรธ ฉันรู้แล้ว พ่อของฉันเองก็รู้ ทั้งหมดนี้เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายธนาคารอย่างพวกเราที่ทวงหนี้ไม่สำเร็จ !”
“แต่……สำหรับผู้นำของประเทศเชวี่ย ไม่จ่ายเลยแม้แต่น้อย !”
“ในฐานะที่พวกเราเป็นแผนกเศรษฐกิจ ก็ไม่สามารถใช้วิธีการที่รุนแรงเกินไปในการทวงหนี้มาได้ !”
“นอกจากนั้นฝ่าบาทเองก็ตรัสออกมาแล้ว สี่ล้านล้านมันไม่น้อย แม้ประเทศเชวี่ยจะไม่จ่ายแม้แต่แดงเดียว มันก็ไม่สามารถประกาศสงครามได้”
“ต้องการความสงบสุข !”
เย่อู๋เทียนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเยือกเย็น แต่ในตอนที่กำลังจะพูดอะไรออกมา ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านข้างจู่ ๆ ก็มองเข้ามา
“เสแสร้ง เสแสร้งต่อไป ฉันอยากจะรู้ว่าพวกคุณจะเสแสร้งออกมาในสภาพไหน ?”
“ในฐานะตัวแทนแผนกธุรกิจของประเทศหลง ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ มันเป็นความรุ่งโรจน์สูงสุดแล้ว ยังจะมาทำเสแสร้งหรือหลอกลวงที่นี่ต่อไปทำไม !”
“สี่ล้านล้าน! ยังไม่พออีกงั้นหรือ ! คุณมาจากหน่วยไหน ?”
“คุณรู้หรือไม่ว่า ฉันในฐานะประธานบริษัทอุตสาหกรรมเหมืองแร่หลงต๋า ทุกปีได้กำไรสุทธิเพียงแค่แสนกว่าล้าน เท่านี้ฉันก็มีความสุขมากแล้ว นายหนุ่ม ในบัญชีมีตั้งสี่ล้านล้าน ยังหาว่าน้อยอีกงั้นหรือ !”
“รายการเดินบัญชีของคุณทำได้เหมือนจริงมาก ทำเอาฉันเกือบเชื่อมันเข้าไปแล้ว !”
ชายวัยกลางคนที่พูดออกมามีชื่อว่า เฉียนจิ้งคุน
คนต่างเรียกเขาว่า ท่านคุน
เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในบริษัทอุตสาหกรรมเหมืองแร่หลงต๋า
เขาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศหลงมาสามปีติด และบนอันดับรายชื่อผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เขาติดอันดับที่สามสิบ
เป็นคนจริงจัง
สิ่งที่ไม่ชอบมากที่สุดก็คือการที่มีคนเสแสร้งอยู่ตรงหน้าของเขา
หรือพูดให้ชัดเจนก็คือ
เขาไม่ชอบให้ใครอวดรวยต่อหน้าเขา
เมื่อสักครู่เขานั่งฟังอยู่ด้านข้างมาสักพักแล้ว
เขาไม่รู้จักเย่อู๋เทียน และก็ไม่รู้จักจางซินหร่านด้วย แค่รู้สึกว่า เขาแค่รู้สึกว่าสองคนนี้เป็นคนขี้ขลาดที่ซ่อนอยู่ในตัวแทนของวงการธุรกิจแห่งประเทศหลง !
ทำบัญชีปลอดขึ้นมายังไม่เท่าไหร่ แต่ยังมาทำอุกอาจถึงขนาดนี้
คิดจะคุยโวโอ้อวดหรืออย่างไร ?
เย่อู๋เทียนเหลือตามองเฉียนจิ้งคุน
เขาก็ไม่รู้จักคนผู้นี้
นั่นเป็นเพราะ
สถานะของเฉียนจิ้งคุนในประเทศหลงนั้นต้อยต่ำเกินไป เป็นแค่ผู้นำของเหมืองแร่……
เย่อู๋เทียนไม่เห็นอยู่ในสายตา
มันก็เหมือนช้างกับมด ช้างจะมาสนใจมดตัวเล็ก ๆ แค่ตัวเดียวอย่างนั้นหรือ ?
ไม่มีทาง
แต่เย่อู๋เทียนยังคงเหลือไปมองชื่อแบรนด์ที่มีชื่อเสียงบนหน้าอกของเฉียนจิ้งคุน อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแค่นักขุด
เย่อู๋เทียนขี้เกียจจะสนใจคนผู้นี้
เขาคุยกับจางซินหร่านต่อไป
“พนักงานในธนาคารของพวกคุณ มีก็เหมือนไม่มี ทุกคนไม่ต่างอะไรกับขยะ !”
“โทรไปหาฝ่าบาท ให้เขาเรียกผู้นำของประเทศเชวี่ยมาก่อน ฉันจะถามเขาด้วยตัวเอง”
จางซินหร่านแอบบ่นในใจ
แต่ก็ยังคงโทรศัพท์ไปหาฝ่าบาท
พูดออกมาว่า
“ฝ่าบาท ชิง……คุณเย่โกรธมาก ต้องการเรียกพบผู้นำของประเทศเชวี่ย เขาต้องการไถ่ถามด้วยตัวเอง”
เสียงจากอีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์เป็นเสียงของคนแก่ น้ำเสียงฟังดูเคร่งขรึม
“ได้ ฉันรู้แล้ว”
เมื่อเสียงนี้เงียบลง เย่อู๋เทียนหยิบโทรศัพท์มา และพูดกับฝ่าบาทว่า
“อย่างไรก็ตาม นำสัญญาการส่งส่วยที่ลงนามโดยพันธมิตรทั้งสิบหกประเทศมาด้วย ฉันต้องการดูมัน”
ฝ่าบาทอึดอัดวางตัวไม่ถูก เขาพูดออกมาว่า
“ได้ นายอย่าเพิ่งโกรธ คนอื่นเป็นหนี้พวกเราไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้ประเทศหลงไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน”
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้ว
“ไม่ขาดแคลนเรื่องเงิน ทำไมทุกวันนี้ถึงยังเรียกเก็บค่าผ่านทางบนถนน ? ทำไมอัตราภาษีปัจจุบันยังสูงอยู่ ?”
ฝ่าบาทเกือบสำลักออกมา
“ได้ ได้ ได้ ฉันจะไปที่ชั้นสิบสาม เรียกLadisแห่งประเทศเชวี่ยมาให้”
เย่อู๋เทียนไม่ได้พูดอะไร วางสายโทรศัพท์ไป
เฉียนจิ้งคุนที่ยืนกอดอกมองเย่อู๋เทียนอยู่ข้างๆ สายตาของเขามองมาที่เย่อู๋เทียนด้วยความดูถูก
ทันใดนั้นเฉียนจิ้งคุนก็ยิ้มออกมา
“ดี นายหนู ขี้โม้เสียเหลือเกิน !”
“คุยโวโอ้อวดได้ ที่จริงแล้วถือได้ว่าเป็นพรสวรรค์ เอาแบบนี้แล้วกัน ตอนนี้คุณทำงานอยู่ในหน่วยไหน ?”
“มาทำงานกับฉันไหม มาทำงานที่แผนกโฆษณาของบริษัทอุตสาหกรรมเหมืองแร่หลงต๋า พวกเรากำลังขาดคนที่มีพรสวรรค์อย่างเช่นคุณ สามารถคุยโวโอ้อวด สิ่งที่สำคัญตอนที่โม้ออกมา ใบหน้าและหัวใจยังคงเต้นเป็นปกติ บริษัทของพวกเราช่วงนี้ต้องการระดมทุน แน่นอนว่าคนอย่างคุณต้องมีประโยชน์แน่ !”
พูดจบเฉียนจิ้งคุนนำนามบัตรของตนเองออกมาหนึ่งใบ ยื่นมันมาด้านหน้าของเย่อู๋เทียน
เย่อู๋เทียนไม่แม้แต่จะชายตามอง
จางซินหร่านที่อยู่อีกด้านหนึ่งเหลือมองนามบัตรของเฉียนจิ้งคุน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
บอกตามตรง ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงของธนาคาร มูลค่าการซื้อขายรายวันของเธอสูงถึงหลายแสนล้าน
เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับเฉียนจิ้งคุนผู้นี้โดยธรรมชาติ
ปีที่แล้วโดนสอบสวนเรื่องหลบเลี่ยงภาษี หากจ่ายไม่ทันเวลาเขาคงถูกจับไปแล้ว
แต่ตอนนี้กลับมาทำเป็นใหญ่โตต่อหน้าเย่อู๋เทียน
ตอนแรกจางซินหร่านก็ไม่อยากสนใจคนผู้นี้ แต่เธอรู้สึกรำคาญเขาเหลือเกิน ดังนั้นเธอจึงหยิบนามบัตรของตัวเองออกจากกระเป๋า
ข้ามผ่านเย่อู๋เทียน ผลักไปด้านหน้าของเฉียนจิ้งคุน
จางซินหร่านพูดออกมาด้วยใบหน้าอันเยือกเย็น
“นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงของธนาคารแห่งประเทศหลง และรองอธิบดีกรมภาษีอากร จางซินหร่าน”
เฉียนจิ้งคุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
วินาทีถัดมา
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก
เนื่องจากบนนามบัตรของจางซินหร่าน มีตราประทับของธนาคารแห่งประเทศหลง และยังมีตราประทับของกรมภาษีอากร
ตราประทับสองอันนี้ คนทั้งประเทศหลงรู้จักกันอยู่ไม่มาก
ไม่สามารถปลอมแปลงได้ !
เฉียนจิ้งคุนกลืนน้ำลาย ยื่นมือไปนำนามบัตรของจางซินหร่านขึ้นมาดูอย่างละเอียด
จางซินหร่านพูดออกมาอีกครั้ง
“เฉียนจิ้งคุน ปีที่แล้วฉันไม่ได้ตรวจสอบบัญชีของนายก็ถือว่าไว้หน้ามากแล้ว ทำไมนายยังไม่เลิกทิ้งนิสัยเสียที่ชอบพูดจาหาเรื่องออกมาตามอำเภอใจอีก ?”
“นายรู้หรือไม่ว่า ผู้ชายคนที่นั่งอยู่ข้างนายคนนั้นเป็นใคร ?”
เฉียนจิ้งคุนหันไปมองเย่อู๋เทียน พูดติดอ่างออกมา
“เขา……”
“เขา เขา เขา……”
“เป็นใคร ?”
จางซินหร่านพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา
“เขาต้องการตรวจสอบบัญชีธนาคารของพวกฉัน พ่อของฉันไม่กล้ามา กลัวว่าจะถูกทำร้ายจนตาย !”
“นายคิดว่าเขาเป็นใคร ?”