จอมนักรบอหังการ - บทที่ 84 เทวดาก็ยากจะช่วยได้?เย่อู๋เทียนช่วยได้!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 84 เทวดาก็ยากจะช่วยได้?เย่อู๋เทียนช่วยได้!
พอวางสายโล่ซวนหยวนลง
จิตใจของเสิ่นรั่วชิงทำใจอยู่นานมากกว่าจะสงบลงได้
พวกต้มตุ๋นในตอนนี้…
เหิมเกริมแบบนี้แล้วรึ?
ขนาดฝ่าบาทสูงส่งของประเทศหลงยังกล้าปลอมเป็น?
ยังบอกอีกว่า อีกสามวันให้หลัง โรงแรมว่างไห่รอต้อนรับตนอีก?
หวงต้าไห่ที่อยู่ข้างๆเห็นสีหน้าเสิ่นรั่วชิงแปลกๆ เลยถาม
“รั่วชิง ทำไมรึ?”
เสิ่นรั่วชิงเผยรอยยิ้มออกมา
“ไม่เป็นไร ก็แค่พวกต้มตุ๋นเท่านั้นเอง ยังบอกว่าจะนับหนูเป็นน้องบุญธรรม ยังบอกว่า…ได้ส่งของขวัญให้หนูแล้ว!”
“หนูมีได้ของขวัญอะไรที่ไหนล่ะ?”
“ที่เหลือเชื่อกว่านั้นคือ อีกฝ่ายยังอ้างว่าเขาเป็นฝ่าบาทสูงส่ง!”
“สังคมสมัยนี้นะ คนที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่น่าเคารพมีมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว!”
หวงต้าไห่ยิ้มๆ ไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ จากนั้นสีหน้ากลับเริ่มตึงเครียดขึ้นมา
“รั่วชิง หนูว่าอู๋เทียนจะช่วยลูกชายของเฉียนจิ้งคุนได้จริงหรอ?”
เสิ่นรั่วชิงลังเลครู่หนึ่ง ก่อนตอบอย่างจริงจังว่า
“พี่เทียนบอกว่าได้ ก็ต้องได้แน่”
หวงต้าไห่ถามต่อ
“งั้นหนูว่า ที่เฉียนจิ้งคุนบอกจริงหรือเปล่า?”
“ถ้าอู๋เทียนช่วยลูกชายเขาได้จริง ทรัพย์สมบัติหลายร้อยล้านนั่นของเขาจะเป็นของอู๋เทียนหรอ?”
เสิ่นรั่วชิงต่อว่า
“พ่อคะ พ่อห้ามคิดแบบนี้นะคะ ช่วยชีวิตคนน่ะดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นอีก เราจะเอาเงินเขามาทำไม?”
“เราหาเองไม่ได้หรอ”
หวงต้าไห่อึ้ง หัวเราะเหอะๆออกมา
“ใช่ ใช่ใช่ใช่ ด้วยความสามารถของอู๋เทียน มีหรือจะหาเงินไม่ได้”
“อีกอย่าง ต่อให้ต่อไปหนูกับอู๋เทียนอยู่บ้านเฉยๆ พ่อก็เลี้ยงพวกหนูไหว”
“รั่วชิง พ่อบอกหนูเลยนะ หนูรู้ไหม หลายวันก่อนแม่ของหนูนะ…”
ไม่รอหวงต้าไห่พูดจบ เกาเม่ยหลิงก็ถลึงตาใส่เขา พลางสั่งสอนเขาเสียหลายคำ
“เซอร์ไพรส์!”
“พูดออกมาแล้วจะเป็นเซอร์ไพรส์ได้ยังไง?”
“คนอย่างคุณน่ะนะ เป็นพวกเก็บความลับไม่อยู่จริงๆ!”
สีหน้าหวงต้าไห่หม่นหมอง
“ใช่ คุณเกาพูดถูก คุณเกาพูดถูกที่สุดแล้ว”
เสิ่นรั่วชิงมองทั้งสองคนอย่างสงสัย
“นี่มันอะไรกันคะ?”
หวงต้าไห่ยิ้มดีใจหน้าระรื่น
“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร อีกไม่กี่วันหนูก็รู้แล้วล่ะ”
“จริงสิรั่วชิง หนูชอบห้องสไตร์สไหน? รถยนต์ด้วย ชอบยี่ห้ออะไรหรอ?”
“…”
เกาเม่ยหลิงที่อยู่ข้างๆหน่ายใจจริงๆ
….
อีกด้านหนึ่ง คฤหาสน์ตระกูลเฉียน
เย่อู๋เทียนมาได้สักพักหนึ่งแล้ว
แต่กลับมิได้ลงมือช่วยเฉียนเป่ยเฉินที่เป็นลูกชายของเฉียนจิ้งคุนเลย
เพียงเพราะว่า เฉียนเป่ยเฉินมีคนช่วยแล้ว
เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
แซ่อิ่น
ชื่อโม่โฉว
สำหรับการมาของเธอ เฉียนจิ้งคุนเองก็ตกใจมาก
อิ่นโม่โฉวนี่เป็นคนของตระกูลอิ่น ซึ่งเป็นตระกูลผู้นำของสี่ตระกูลหมอดังของประเทศหลงนะ!
ว่ากันว่ายังเป็นยอดฝีมือที่เป็นศิษย์ของสำนักยาเขาเซวียนอู่!
ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?
เวลานี้ อิ่นโม่โฉวกำลังฉีดยาให้เฉียนเป่ยเฉินที่นอนอยู่บนเตียง วิชาที่ใช้ช่างสูงส่งนัก
ทำให้คนเลื่อมใสไปโดยไม่รู้ตัว
ภรรยาของเฉียนจิ้งคุน หูเสี่ยวเอ๋อยืนดูอย่างตื่นเต้นอยู่ข้างๆตลอด
สำหรับเรื่องนี้ เฉียนจิ้งคุนขมวดคิ้วมุ่น
แอบดึงหูเสี่ยวเอ๋อไปอีกข้างต่อว่าเบาๆ
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่า จะเชิญคุณเย่มาดูรักษาเฉินเอ๋อร์? ตอนนี้มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”
หูเสี่ยวเอ๋อโอดครวญ
“คุณเย่อะไร รอคุณไปเชิญเขามา เฉินเอ๋อร์ก็ดื่มน้ำแกงยายเมิ่งไปแล้ว!”
“วางใจเถอะ มีคุณหนูอิ่นอยู่ เฉินเอ๋อร์ต้องรอดแน่!”
เฉียนจิ้งคุนสีหน้ากระอักกระอ่วน ไม่กล้ามองหน้าเย่อู๋เทียน เขามองอิ่นโม่โฉว และหันมาถามหูเสี่ยวเอ๋ออย่างตื่นเต้นอีกคำว่า
“คุณไปรู้จักคุณหนูอิ่นได้ยังไงน่ะ?”
หูเสี่ยวเอ๋ออธิบาย
“เฉินเอ๋อร์ป่วยมาหลายปีนี้ ฉันตระเวนไปทั่วภูเขาลำน้ำมีชื่อมากมาย สอบถามถึงยอดฝีมือมากมาย คุณหนูอิ่นนี่เป็นหนึ่งในนั้น!
“โชคดีที่หลายปีมานี้ฉันพอมีสายสัมพันธ์กับเขาเซวียนอู่อยู่บ้าง พอเฉินเอ๋อร์เกิดเรื่อง ฉันเลยขอความช่วยเหลือไปที่เขาเซวียนอู่ ทางนั้นกลับบอกว่า คุณหนูอิ่นอยู่เจียงไห่พอดี! ฉันจะบอกคุณให้นะ นี่เป็นกรรมดี!”
“คุณจะไม่เชื่อไม่ได้!”
เฉียนจิ้งคุนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“งั้น…ตอนนี้เฉินเอ๋อร์เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
หูเสี่ยวเอ๋อเบ้ปาก
“คุณไม่เห็นหรือไง ตอนนี้เฉินเอ๋อร์หายใจแล้ว คุณหนูอิ่นกำลังหาทางทำให้เขาฟื้นอยู่”
“ขอเพียงเฉินเอ๋อร์ลืมตา ก็ถือว่ารอดแล้ว!”
เฉียนจิ้งคุนฟังจบ ก็ดีใจครึ่งเครียดครึ่ง
ดีใจเพราะ
เฉียนเป่ยเฉินหายใจแล้ว
เครียดเพราะ
ตนจะบอกเย่อู๋เทียนยังไงดี?
เขาลงทุนคุกเข่าโขกศีรษะขอร้องอีกฝ่ายมา และยังเคยให้สัญญา!
ระหว่างทางกลับมา ก็ได้สั่งการลงไปแล้ว
ให้เอาหุ้นทั้งหมดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่หลงต๋าของเขา จัดการเตรียมโอนออกไป!
และยังให้ฝ่ายบัญชีทำการคำนวณทั้งหมด พอเย่อู๋เทียนช่วยเฉียนเป่ยเฉินกลับมาได้แล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของก็จะยกให้เขาทันที!
ตอนนี้…
เฉียนจิ้งคุนทำใจกล้าเดินไปยืนหน้าเย่อู๋เทียน พลางออกปากขอโทษ
“คุณเย่ ขอโทษครับ!”
เย่อู๋เทียนกำลังมองดูอิ่นโม่โฉวรักษาให้เฉียนเป่ยเฉิน เขาหันมามองเฉียนจิ้งคุนอย่างฉงน
“ทำไมพูดแบบนี้?”
เฉียนจิ้งคุนมองไปทางอิ่นโม่โฉวอย่างกระดาก
“ภรรยาผมเชิญเธอมา เรื่องนี้ผมไม่รู้จริงๆ”
เย่อู๋เทียนโบกมือไม่ยี่หระ
“ไม่เป็นไร ช่วยคนได้สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด”
“แต่…”
เฉียนจิ้งคุนใจกระตุก รีบบอก
“คุณวางใจได้ คุณเย่ ในเมื่อคุณมาแล้ว ผมไม่มีทางให้คุณกลับไปมือเปล่าแน่”
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้ว
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมหมายความว่า อาการของลูกชายคุณไม่ใช่แบบที่คุณบอก”
เฉียนจิ้งคุนสีหน้างุนงง กำลังจะพูดอะไร
อิ่นโม่โฉวที่อยู่ข้างเตียงก็เก็บเข็มกลับเข้าที่ และหันมองหูเสี่ยวเอ๋อด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“คุณนายเฉียน ยานอนหลับที่ลูกชายคุณกินลงไปมากเกินไป ได้ทำลายสมองไปหมดแล้ว น่ากลัวแม้แต่เทวดาก็ยากจะช่วยได้!”
หูเสี่ยวเอ๋อประดุจโดนสายฟ้าฟาด
“ทำ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”
“ไม่ใช่ คุณหนูอิ่น ขอร้องคุณดูให้เฉินเอ๋อร์อีกหน่อยเถอะ เขา เขาหายใจแล้วนี่นา!”
อิ่นโม่โฉวเริ่มไม่ชอบใจขึ้นมา
“ฉันบอกแล้ว เทวดาก็ช่วยไม่ได้!”
“เดิมลูกชายคุณก็เป็นผู้ป่วยสมองพิการคนหนึ่ง อีกทั้งยังคิดไม่ตก กินยานอนหลับเข้าไปมากมายขนาดนั้น เรียกได้ว่าอยากตาย!”
“แต่พอผ่านการรักษาของฉันแล้ว ก็รอดอยู่!”
“เจ้าชายนิทราเท่านั้น ถ้าดูแลดีๆ จะอยู่ต่ออีกสามปีห้าปีก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร!”
หูเสี่ยวเอ๋อทรุดลงพื้น สีหน้าซีดเผือดดุจกระดาษ ดวงตาแดงเรื่อ
เสียใจจนแทบสิ้นสติ
“ไม่หรอก ลูกชายฉันไม่มีทางกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราหรอก!”
“สองวันก่อน สองวันก่อนเขายังใช้นิ้วที่ขยับได้เพียงนิ้วเดียวมาพิมพ์คอมเลย เขาบอกว่า ชาติหน้าเขาอยากเกิดเป็นลูกชายฉันอีก!”
“เฉินเอ๋อร์ของแม่…”
“เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ!”
“ชาตินี้ฉันไม่เคยทำเรื่องเลวทรามอะไรเลย!”
“ฉันบริจาคเงิน บริจาคของ ฉันเชื่อในธรรมมะ เชื่อเหล่าเทวดาทั้งหลาย ทำไมถึงแลกชีวิตปกติปลอดภัยให้ลูกชายฉันไม่ได้?”
อิ่นโม่โฉวเห็นความพลัดพรากของผู้คนบนโลกมานักต่อนักแล้ว
การกระทำของหูเสี่ยวเอ๋อในตอนนี้ไม่มีทางทำให้เธอหวั่นไหวได้อีกแล้ว
ก็ไม่ใช่ว่าเธอเย็นชา แต่ในสายตาเธอ การเกิดแก่เจ็บตายของผู้คนบนโลกเป็นแค่เรื่องธรรมดาเท่านั้นเอง
เฉียนจิ้งคุนเห็นหูเสี่ยวเอ๋อเสียใจขนาดนี้ ก็ไม่สนอะไรอื่น เขารีบเข้าไปปลอบเธอ
“ไม่เป็นไร เจ้าชายนิทราทำไมหรอ?”
“ต่อไปพวกเราคอยพูดคุยกับเฉินเอ๋อร์มากหน่อยก็ได้แล้ว!”
“อีกไม่นานเขาต้องฟื้นขึ้นมาแน่”
หูเสี่ยวเอ๋อกลับผลักเฉียนจิ้งคุนออก พลางแผดเสียงปานจะขาดใจ
“เฉียนจิ้งคุน คุณมันไม่ได้เรื่อง!”
“คุณหาทรัพย์สมบัติมหาศาลมามีประโยชน์อะไร? แม้แต่ชีวิตลูกชายคุณก็ช่วยกลับมาไม่ได้!”
“หลายปีมานี้ฉันหาหมอไปทั่วทุกหนแห่ง คุณทำอะไร?”
“คุณเอาแต่หาเงิน!”
เฉียนจิ้งคุนไม่ตอบโต้อะไร ยืนนิ่งอยู่ข้างกายหูเสี่ยวเอ๋อ ดุจขุนเขา!
เย่อู๋เทียนกลับเดินมาที่ข้างเตียง ยื่นมือจับชีพจรเฉียนเป่ยเฉิน พูดเสียงเรียบว่า
“พวกคุณออกไปก่อนเถอะ”
“เด็กคนนี้ ไม่ได้เป็นสมองพิการ ผมช่วยได้”
พอได้ยินคำนี้ เสียงร้องไห้ของหูเสี่ยวเอ๋อพลันชะงักกึก
เฉียนจิ้งคุนกลับเบิกตาโพลง
เหมือนเห็นความหวัง
อิ่นโม่โฉวกลับอึ้งเล็กน้อย พลางแค่นเสียงเย็นโพล่งออกมาว่า
“หมอกระจอกอะไรที่ไหน?”
“เฉียนเป่ยเฉิน ร่างกายขดงอเหมือนลิง ผอมจนกระดูกเหมือนฟืน แขนขาแข็งเกร็ง ไม่ใช่สมองพิการ แล้วเป็นอะไร?”
“คุณ พูดจาซี้ซั้วชัดๆ!”
เย่อู๋เทียนหันมามองอิ่นโม่โฉว พลางขมวดคิ้วถาม
“อิ่นเชียนชิวเป็นอะไรกับคุณ?”
อิ่นโม่โฉวอึ้ง
คนๆนี้…
ทำไมเรียกชื่อปู่เธอออกมาได้?
อิ่นโม่โฉวสงสัย
“คุณรู้จักปู่ฉันได้ยังไง?”
แต่ไม่ได้ยินเย่อู๋เทียนตอบ ด้านนอกก็มีเสียงผิงปู๋จิ้วดังขึ้น
“เพราะปู่เธอเป็นหลานสามของฉัน!”
“ควายเอ๊ย นังหนูบ้านนอกจากไหนนี่ กล้ามาพูดจาโอหังต่อหน้าท่านเจ้าหอ!”
“คันก้นอยากโดนฟาดแล้วหรือไง!”