จอมนักรบอหังการ - บทที่ 97 อันธพาลหญิง คุณหนูเฉิน
จอมนักรบอหังการ บทที่ 97 อันธพาลหญิง คุณหนูเฉิน!
หวงหย่าเฟยหรี่ตาลง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากท่าทีก่อนหน้านี้ของเย่อู๋เทียนในเขาทะเลหมอก เธอจึงไม่โจมตีเขา
อีกทั้งยังไม่กล้าโจมตีด้วย
หวงหย่าเฟยมาที่ร้านขายเครื่องประดับในวันนี้ก็เพื่อเตรียมพบกับคนในตระกูลโล่ ที่ โรงแรมว่างไห่ ในตอนเย็น
นั่นเพราะหลังจากการสืบข่าวมาหลายด้าน
ตระกูลโล่แห่งตี้ตูได้ส่งคนจำนวนมากมายังเจียงไห่แล้วจริงๆ
อีกทั้งฝ่ายที่ให้ข้อมูล ก็คือตระกูลเจียง หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเจียงไห่
นั่นเพราะนายน้อยตระกูลเจียงเจียงอานไท่
ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้ที่ไล่ตามจีบหวงหย่าเฟย
แม้ว่าตอนนี้เขาจะแต่งงานแล้ว แต่เขาก็ยังแอบหวงหวงหย่าเฟย และมักจะคิดเกลี้ยกล่อมให้หวงหย่าเฟยขึ้นเตียงเสมอ
หวงหย่าเฟยมาที่ร้านขายเครื่องประดับในครั้งนี้
เจียงอานไท่ ก็มาพาภรรยาของเขาตามมาด้วยเช่นกัน
เขาแค่ต้องการเอาใจภรรยาของเขาต่อหน้าหวงหย่าเฟย
ผู้หญิงน่ะ ยังไงก็มีจิตใจขี้อิจฉา
เจียงอานไท่ ต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อเอาชนะปราการในใจของหวงหย่าเฟยโดยใช้จิตวิทยา
ในเวลานี้เจียงอานไท่ สังเกตเห็นสถานการณ์ของหวงหย่าเฟยและเดินเข้าไปพร้อมกับ จ้าวลี่ ภรรยาของเขา
จ้าวลี่ ที่อยู่ข้างเจียงอานไท่ ไม่ได้สนใจหวงหย่าเฟย แต่ทันใดนั้นเมื่อเห็นสร้อยคอเพชรสีชมพูบนคอของเฉินเมิ่งเฉี่ยนดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความตะลึง
เธอรีบเดินเข้าไปออดอ้อนกับเจียงอานไท่ ทันที
“สามี ดูสร้อยเพชรสีชมพูนั่นสิ สวยจัง ฉันอยากซื้อ!”
เย่อู๋เทียนหันไปมอง
เจียงอานไท่ สวมชุดสูทรองเท้าหนัง ท่าทางดูเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จ
ส่วนรูปร่างหน้าตาของ จ้าวลี่ ก็พอจะให้ได้ที่ 80% แต่ใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยเครื่องสำอางที่หนาเตอะ
เย่อู๋เทียนมองไปที่ จ้าวลี่ อย่างประเมิน จากนั้นก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูคุ้นๆ
วินาทีต่อมา จ้าวลี่ อุทานด้วยความประหลาดใจ
“เย่อู๋เทียน!”
เย่อู๋เทียน ตกตะลึง
เพียงครู่เดียวเท่านั้น ฉันก็จำตัวตนของผู้หญิงคนนี้ได้
“จ้าวลี่?”
จ้าวลี่ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเสิ่นรั่วชิงในโรงเรียนมัธยม
เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ครั้งที่เย่อู๋เทียนกลับมา เขาก็ไปงานปาร์ตี้เพื่อนร่วมชั้นเป็นเพื่อนเสิ่นรั่วชิง
ในเวลานั้น จ้าวลี่ ก็พาแฟนของเธอมางานปาร์ตี้ด้วย และเพื่อที่จะกดหันเสิ่นรั่วชิง ในงานเลี้ยงเธอยังเอาแต่เปรียบเทียบเย่อู๋เทียนกับแฟนหนุ่มของเธอไปทุกที่ จนหลังจากงานเลี้ยงครั้งนั้นเสิ่นรั่วชิงอารมณ์เสียไปอยู่นาน
หลังจากจ้าวลี่ จำเย่อู๋เทียนได้ เธอก็เยาะเย้ย
“ศัตรูที่มีชื่อเสียงที่สุดในเจียงไห่ คู่หมั้นของนายกลายเป็นแม่เลี้ยงไปแล้ว!”
“แม่เลี้ยงของนายแนะนำน้องสาวของเธอให้นายรู้จักแล้ว!”
“เย่อู๋เทียน นายคิดว่ายัยเสิ่นรั่วชิงนั่นต่ำต้อยเกินไปเกินกว่าจะคู่ควรกับตระกูลเย่ของนายหรือไง…คุณชายเย่เศษขยะ?”
“ก็เลย…หามาอีกคน?”
ดวงตาของเย่อู๋เทียนฉายประกายเยียบเย็นในทันใด แต่เขาทำเพียงแค่แค่นเสียงหัวเราะ
“จ้าวลี่ เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว คนที่อยู่ข้างเธอ ดูเหมือนจะไม่ใช่คนข้างๆ เธอคนนี้นี่ใช่ไหม?”
สีหน้าของ จ้าวลี่ เปลี่ยนไปทันที เธอก็รีบอธิบายให้เจียงอานไท่ ที่อยู่ข้างๆ ฟัง
“สามีอย่าไปฟังเขาพูดเรื่องไร้สาระ ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน!”
ขณะพูด จ้าวลี่ ก็มองไปที่เย่อู๋เทียนอย่างชั่วร้ายและตะโกนใส่เขา
“เย่อู๋เทียน นายมันไอ้ขยะ ตระกูลเย่พังไปแล้ว นายยังมีหน้ามาเดินช็อปปิ้งอยู่ที่นี่อีก เครื่องประดับที่นี่นายซื้อไหวหรือไง?”
เย่อู๋เทียนขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงกับผู้หญิงเลวทรามแบบนี้
เขาหันกลับไปมองพนักงานขาย
“พนักงานขาย ช่วยฉันจัดการสร้อยเพชรสีชมพูนี้ ฉันจะไปเดินๆ ดู อยากหาซื้อต่างหูและแหวนแต่งงานอีกคู่หนึ่ง”
จ้าวลี่ เหลือบมองไปที่ราคาของสร้อยเพชรสีชมพูและเย้ยหยัน
“สร้อยคอนี้ราคาเจ็ดล้านหกแสนแปดหมื่น ไม่ใช่เจ็ดร้อยหกสิบแปด ขณะที่ถูกทิ้งโดยตระกูลเย่อย่างนาย ยังมาแสร้งทำเป็นอวดเบ่งอะไร?”
พูดจบ จ้าวลี่ ก็มองไปที่พนักงานขาย
จากนั้นก็สำทับอีกประโยคขึ้นมา
“พี่สาวพนักงานขาย คุณควรขยี้ตาดูให้ดี ผู้ชายคนนี้เคยเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวเมื่อนานมาแล้ว หน่วยสืบราชการลับทั้งหมดกำลังตามจับเขาอยู่ ใครจะไปรู้ว่าเขาก่อคดีใหญ่อะไร ถ้าผู้ชายคนนี้มาปล้นร้านของคุณเข้า ร้านของคุณคงจะเกินปัญหาแล้ว!”
สีหน้าของพนักงานขายเปลี่ยนไปทันที
เธอมองไปที่เย่อู๋เทียนด้วยความตกใจ
เย่อู๋เทียนพลิกกระเป๋าของเขาโดยไม่แสดงออกอะไร เขาต้องการสอนบทเรียนให้ จ้าวลี่ หลังจากจ่ายเงินแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อพลิกกระเป๋าดู เขากลับหาบัตรธนาคารไม่เจอ
จากนั้นก็ค่อยนึกขึ้นได้ว่า
ก่อนหน้านี้เขาให้บัตรธนาคารกับเผยจื่อตงไปแล้ว
จากนั้นเผยจื่อตงก็มอบบัตรธนาคารให้เสิ่นรั่วชิงอีกที
เมื่อเห็นท่าทางการแสดงของเย่อู๋เทียนในเวลานี้
พนักงานขายก็อดไม่ได้ที่จะลนลานขึ้นมา
ต้องรู้ว่า
จ้าวลี่ เป็นลูกค้าประจำของพวกเธอและยังเป็นภรรยาของเจียงอานไท่!
สตรีที่มีสถานะสูงศักดิ์เช่นนี้!
จะเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นได้อย่างไร?
ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ คงไม่ใช่อาชญากรที่ทางการต้องการตัวจริงๆ ใช่ไหม?
เมื่อเห็นฉากนี้ สายตาของหวงหย่าเฟยที่เฝ้ามองอย่างเย็นชามาโดยตลอดก็รู้สึกสะใจขึ้นมา
เย่อู๋เทียน นายมันก็แค่ขยะ!
นายช่วยลูกชายของเฉียนจิ้งคุนแล้วยังไงกัน?
เฉียนจิ้งคุนให้วิลล่ากับนายแล้วยังไงกัน?
เกรงว่า…
นายคงไม่มีปัญญาแม้แต่จะจ่ายค่าธรรมเนียมทรัพย์สิน!
แถมยังกล้ามาทำตัวอวดเก่งที่นี่ ทำเป็นเบ่ง!
ตอนนี้ จ้าวลี่ กำลังหัวเราะ เธอชี้ไปที่เย่อู๋เทียนและเยาะเย้ยอย่างบ้าคลั่ง
“ฉันบอกแล้วไงว่าเย่อู๋เทียนก็แค่เศษขยะ พี่สาวพนักงานขาย คุณยังจะรออะไรอีก? รีบโทรหาหน่วยสืบราชการลับแล้วขอให้พวกเขามาเอาขยะนี่ออกไป!”
ใครจะคิดว่า พอคำพูดนี้เพิ่งจบลง
เย่อู๋เทียนยังไม่ได้ทำอะไรจ้าวลี่ แต่เฉินเมิ่งเฉี่ยนกลับ เดินผ่านไปอย่างเย็นชาและยกมือขึ้นตบเธอเข้าให้ทันที
เพี๊ยะ!
เสียงตบนั้นดังมาก
จน จ้าวลี่ ล้มลงกับพื้นทันที
ผู้คนทั้งหมดในที่นั้นต่างมีสีหน้าตกตะลึง
ยังไม่ทันให้ทุกคนได้สติกลับมา เฉินเมิ่งเฉี่ยนก็เหยียบลงบนหน้า จ้าวลี่ อีกครั้ง
“เธอรู้ตัวมั้ย ว่าตัวเองโคตรน่ารำคาญ?”
จ้าวลี่ ถูกทุบตีจนอึ้งไป
เจียงอานไท่ ที่อยู่ข้างๆ เธอก็มีสีหน้าที่ตะลึงงัน
หวงหย่าเฟยมองไปที่เฉินเมิ่งเฉี่ยนอย่างตะลึง ในสมองเต็มไปด้วยคำถาม ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?
ทำไมถึงได้โหดขนาดนี้?
พนักงานขายสาวได้สติกลับมาแล้ว
เมื่อมองดูวิธีที่เฉินเมิ่งเฉี่ยนเหยียบ จ้าวลี่
เธอก็คิดไปทันทีว่า!
นี่…
นี่จะต้องเป็นอันธพาลแน่ๆ!
แถมยังเป็นอันธพาลสาวอีกด้วย!
พนักงานขายบังคับให้ตัวเองสงบสติอารมณ์และถอยกลับไปอย่างเงียบ ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ
ในเวลานี้เจียงอานไท่ ก็เข้ามาหาเฉินเมิ่งเฉี่ยนทันที
เขายกมือใหญ่ขึ้นและคิดจะตบเธอ
แต่ทันทีที่เขาเพิ่งยกมือขึ้น เฉินเมิ่งเฉี่ยนที่ไม่แม้แต่จะมองไปที่เจียงอานไท่ ก็ใช้หลังมือตบจนเขากระเด็นออกไปทันที
ก่อนที่เจียงอานไท่ จะล้มลงกับพื้น เฉินเมิ่งเฉี่ยนก็เอ่ยอย่างเย็นชา
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”
ปึง!
เจียงอานไท่ ล้มลงกับพื้นอย่างแรง สมองของเขายุ่งเหยิง
เกิดอะไรขึ้นกัน?
เมื่อกี้เขาเพิ่งโดนตีงั้นเหรอ?
ยังมี…
ภรรยาของเขาก็ถูกทุบตีด้วยเช่นกัน
ตนเองลงมือช่วย ผิดปกติตรงไหน?
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับตน?
ผู้หญิงคนนี้…
เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้เก่งกาจขนาดนี้?
ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจ จู่ๆ ข้างนอกประตูก็เกิดเสียงเบรกดังลั่นขึ้น
แต่กลับไม่มีใครสนใจ
นั่นเพราะ ในร้านมีอันธพาลสาวอยู่แล้ว เรื่องอื่น ยังมีอะไรสำคัญอีก?
แต่เมื่อกลุ่มคนจากขบวนรถหรูด้านนอกประตูบุกเข้ามาในร้าน ทุกคนก็บื้อใบ้ไปแล้ว
หัวหน้าทีมเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง
เขาแต่งกายด้วยชุดสูทรองเท้าหนัง จากนั้นก็เดินมาถึงหน้าเฉินเมิ่งเฉี่ยนอย่างตื่นตระหนก
จากนั้นก็คำนับให้เธอทันที
น้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย
“ผมหยางจ้าวหรานผู้จัดการทั่วไปของเฉินซื่อ เพรชพลอยสาขาเจียงไห่ ไม่ทราบว่าคุณหนูเฉินจะมาที่นี่ โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”
ตื่นตะลึง
พวกเขาทั้งหมดตื่นตะลงไปแล้ว
อันธพาลหญิงคนนี้ที่ทุบตีคนโดยไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ
เป็นคุณหนูของเฉินซื่อ เพรชพลอย?
แต่คุณหนูเฉินกลับไม่สนใจหยางจ้าวหราน
เธอยังคงเหยียบ จ้าวลี่ จากนั้นก็หันไปหาเย่อู๋เทียนและขอคำแนะนำ
“คุณเย่ ผู้หญิงแซ่จ้าวคนนี้ถึงกับกล้าพูดจาหยาบคายใส่คุณ คุณอยากฆ่าเธอหรือฝังเธอทั้งเป็น?”
ทุกคนในที่นี้ แต่ละคน
ล้วนกำลังสับสนไปกับสถานการณ์ในร้าน
ฆ่า?
หรือฝังทั้งเป็น?
นี่…
ยังมีกฎหมายอยู่หรือไม่?
จ้าวลี่ ที่อยู่ใต้เท้าของเฉินเมิ่งเฉี่ยนกลัวจนแทบปัสสาวะราดแล้ว เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ก็แค่ด่าเย่อู๋เทียนประโยคสองประโยคเองไม่ใช่หรือไง?
ต้องโดนทุบตีขนาดนี้เลยเหรอ?
แล้วผู้หญิงที่มาทุบตีตัวเอง เป็นใครมาจากไหนกัน?
คุณหนูของเฉินซื่อ เพรชพลอยแห่งเมืองหนานกั่ง?
นี่มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
ผู้หญิงจากตระกูลที่ร่ำรวยมากขนาดนี้…
จะมาอยู่กับเย่อู๋เทียนได้ยังไง?