จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 179
บทที่ 179 จอมจักรพรรดิแห่งสงครามกําราบยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ ความมืดที่ยากจะเอาชนะยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่ออกมาจากเขตต้องห้ามบัดนี้กลับถูกทุบตีไปมาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วย พลองศึกเซียนทองคําของจอมจักรพรรดิแห่งสงครามและรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากสิ่งมีชีวิตทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมยินดีจอมจักรพรรดิแห่งสงครามได้ทําให้ทุกสรรพชีวิตมองเห็นแสงแห่งรุ่งอรุณ
จอมจักรพรรดิหมื่นเซียนผู้แข็งแกร่งและไร้เทียมทานเมื่อหลายล้านปีก่อนสามารถหยุดยอดยุทธ์สูงสุดโบราณไม่ให้สร้างกลียุคอันมืดมิดนี้ขึ้นมาได้พิภพจะกลับคืนสู่ความสงบแล้วงั้นรึ?
ชนะ
“จอมจักรพรรดิแห่งสงครามช่างเหมาะสมกับชื่อเสียจริง”
จ้าวแห่งสังสารวัฏเช็ดเลือดออกจากปากของเขาดวงตาของเขาฉายแววตาอันน่าพิศวงการที่จะอยู่ในเขตแดนระดับสุดยอดได้นั้น เป็นธรรมดาที่จะต้องมีความสมบูรณ์ในทุกด้าน
ไม่ว่าจะรุกหรือรับมันก็แทบจะเหมือนกันต่างกันเพียงวิธีการมันยากที่จะบอกว่าใครแพ้ใคร
แต่ทว่าจอมจักรพรรดิแห่งสงครามนั้นแตกต่างออกไปแม้ว่าจะยังคงอยู่ในเขตแดนพลังยุทธ์ระดับสุดยอดแต่ความสามารถในการจู่โจมนั้นดูเหมือนว่าจะเกินขีดจํากัดของจอมยุทธ์ระดับสุดยอดสูงไปจนถึงเขตแดนอื่น แม้แต่ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณก็ยากที่จะต้านทานได๋!”เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆแต่เจ้าเป็นเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณ เจ้าต้องการท้าทายสวรรค์จริงๆงั้นรึ? ข้าคือจ้าวแห่งสังสารวัฏ และข้าเป็นผู้รับผิดชอบการเวียนว่ายตายเกิดพิภพ!เป็นเพียงเศษเสี้ยวของวิญญาณมาหลายล้านปีเมื่อถึงเวลาแล้วก็ควรไปเกิดใหม่ซะ!”
จ้าวแห่งสังสารวัฏตะโกนไม่ปกปิดอีกต่อไปและปลดผนึกพลังยุทธ์ระดับสูงสุดกลับมาเขตแดนสูงสุดอีกครั้ง!
ชุดเกราะสีทองบนร่างกายของเขาเรืองแสงขึ้นความผันผวนอย่างรุนแรงได้บังเกิดขึ้นส่องสว่างพร่างพรายไปทั้งเก้าสวรรค์สิบชั้นภพ
แม้แต่บริเวณที่ถูกทําให้บุบโดยจอมจักรพรรดิแห่งสงครามด้วยพลองศึกเซียนทองคําก็ถูกฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ไม่เหลือร่อยรอยใดๆ
เขาลุกขึ้นจากจักรวาล ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่ กระแสงพลังโกลาหลปกคลุมร่างที่สูงใหญ่และทรงสง่า มีเพียงดวงตาอันเย็นชาคู่หนึ่งเท่านั้นที่ถูกเปิดเผยดวงตาที่ล้ำลึกและน่าสะพรึง
กลัวที่เต็มไปด้วยภาพการล่มสลายของดวงดาว การพังทลายของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
ด้านหลังเขา มีกงล้อแห่งวัฎจักรปรากฏขึ้นครอบคลุมทั้งพิภพ ปรับแต่งทุกอย่างแม้แต่ดาราจักรก็ไม่อาจหลุดพ้นดาวขนาดใหญ่ที่จมลงไปในกงล้อแห่งวัฎจักรก็ได้หายไปราวกับได้กลับสู่การเวียนเวียนตายเกิดเป็นการยากที่จะหาร่องรอยใดๆ
ทะเลแห่งการเวียนว่ายตายเกิด!
นี่คือวิชาต้องห้ามแห่งวิถีจักรพรรดิที่สร้างขึ้นโดยจ้าวแห่งสังสารวัฏไม่ว่าจะเป็นผู้ใดหากถูกดูดเข้าไปในทะเลแห่งการเวียนว่ายตายเกิด ก็จะทุกอย่างจะถูกทําลายและวนเวียนตายเกิดอยู่ชั่วกาล
เมื่อก่อน เขาใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามนี้ โลดแล่นไปในพิภพหลังจากพิสูจน์ตนบนเส้นทางที่ถูกต้องพิชิตความอัปยศทั้งหมด สร้างชื่อของเขาให้เป็นที่นับถือ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับการบุกโจมตีที่น่ากลัวจากจ้าวแห่งสังสารวัฏจอมจักรพรรดิแห่ง
สงครามก็ยังคงสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
พลองศึกเซียนทองคําแกว่งไกวไว้ในมือของจอมจักรพรรดิแห่งสงครามเขาไม่ได้โกรธหรือ
โมโหใดๆ อยู่เหนือสวรรค์ทั้งเก้า มองลงมาราวกับการต่อสู้นี้เป็นเพียงเศษฝุ่น”เวียนว่ายตายเกิดในพิภพงั้นรึ?ข้าแค่เชื่อว่าข้าอยู่ยงคงกระพัน!”
จอมจักรพรรดิแห่งสงครามตอบอย่างใจเน็น
เขายกพลองศึกเซียนทองคําในมือร่างอันยิ่งใหญ่ของเขาสั่นไหว และร่างจําแลงจอมจักรพรรดิก็ปรากฏขึ้นยืนอยู่ในจักรวาล
พลองศึกเซียนทองคําในมือของเขาได้ขยายใหญ่ขึ้นไม่รู้กี่เท่า แม้แต่ดาราจักรยังลอยอยู่รอบๆ
“ในชีวิตของข้า รอดจากภัยพิบัติมานับพันผ่านความยากลําบากมานับหมื่นขาเชื่อในเรื่องเดียวข้าจะสู้เพื่ออนาคตที่สดใส ต่อสู้เพื่ออนาคตอันเป็นนิรันดร์!”
จอมจักรพรรดิแห่งสงครามตะโกนก้องพลองศึกเซียนทองคําที่หนักหลายล้านชั่งฟาดลงไปยังจ้าวแห่งสังสารวัฏ
พลังแห่งเซียนโบยบินออกมา สงส่องผ่านยุคสมัยทําให้ทั้งจักรวาลสั่นสะเทือน!
ตู้ม!
เมื่อพลองฟาดลงมาจักรวาลก็ดูเหมือนจะแตกสลาย ดวงดาวกลับสู่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอยู่ไกลเพียงใดสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในจักรวาลก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นเทาและได้แต่ต้องการที่จะสักการะความผันผวนนี้
มันเป็นการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ระหว่างจอมจักรพรรดิแห่งสงครามกับจ้าวแห่งสังสารวัฏ!
“จ้าวแห่งสังสารวัฏเป็นฝ่ายพ่ายแพ้…”
ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณคนหนึ่งพึมพําออกมาเบาๆ ดูเหมือนจะเป็นการบอกผลของการต่อสู้ครั้งค่าพูดของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณนี้ดูเหมือนจะถูกยืนยันโดยบางสิ่งบางอย่าง
ในจักรวาลมีเสียงร้องอันโกรธเกรี้ยวของจ้าวแห่งสังสารวัฏ”เจ้าต้องการทําลายตนเองอย่างสมบูรณ์และตายไปพร้อมกับข้างั้นรึ?”
“ทําลายตนเองอะไรกัน ตัวตนที่แท้จริงของข้าได้สลายไปนานแล้วอย่างที่เจ้าว่าและตอนนี้มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวดวงวิญญาณ”
ในระหว่างการปะทะและการเผชิญหน้าอันน่าตกใจนั้นจอมจักรพรรดิแห่งสงครามพูดออกมาอย่างใจเย็น
“มันคุ้ม ที่จะทําลายทุกอย่างเพียงเพื่อจะตายไปกับข้า?เส้นทางนิรันดร์ได้เปิดออกในพิภพจุดจบของการรอคอยมาอย่างยาวนาน เจ้าไม่อยากเป็นเซียนนิรันดร์รี?!”
จ้าวแห่งสังสารวัฏคํารามอย่างไม่เต็มใจ
“เซียนนิรันดร์งั้นรึ? เจ้ายังไม่เข้าใจข้าเคารพเพียงความไร้เทียมทานในพิภพในสายตาของเจ้ามีเพียงเขตแดนนิรันดร์เท่านั้นที่เป็นนิรันดร์แต่ในสายตาของข้าความไร้เทียมทานในยุทธวิถีนั่นคือนิรันดร์!”
แสงนิรันดร์เปล่งประกายเจิดจ้าจ้าวแห่งสังสารวัฏตะโกนก้องแต่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้พลองศึกเซียนทองคําาทุบลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเขาไม่อาจยกศีรษะขึ้นได้ แม้แต่อายุขัยที่เหลือ
อยู่เพียงน้อยนิดก็ค่อยๆหมดไป
เขาไม่อาจทนได้ เลือดและแก่นแท้ของชีวิตทั้งหมดบั่นทอนไปโดยจอมจักรพรรดิแห่งสงครามและกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจย้อนกลับก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
ท้ายที่สุดจ้าวแห่งสังสารวัฏก็ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไปเขาตกลงมาจากเขตแดนสูงสุดแห่งจอมจักรพรรดิร่างของเขาแตกสลายกลายเป็นแสงระยิบระยับ!
จอมจักรพรรดิแห่งสงครามในตอนนี้ร่างกายของก็เลือนลางและค่อยๆ สลายไปมีเพียงพลองศึกเซียนทองค่าเท่านั้นที่ยังคงอยู่
อย่างไรของเขาเป็นเพียงเศษเสี้ยวของวิญญาณที่เหลืออยู่ไม่ใช่จอมจักรพรรดิแห่งสงครามตัวจริง
การที่สามารถกําจัดจ้าวแห่งสังสารวัฏด้วยเศษเสี้ยววิญญาณก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของจอมจักรพรรดิแห่งสงครามได้
ทุกสรรพชีวิตสรรพสัตว์อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของจอมจักรพรรดิ
แห่งสงคราม และประหลาดใจยิ่งกว่าที่เขาสามารถลากยอดยุทธ์สูงสุดโบราณให้ตายลงได้ขัดขวางความมืดไว้ได้บางส่วน!
แต่ทว่า ก่อนที่จ้าวแห่งสังสารวัฏจะเปลี่ยนแปลงคําพูดที่ดังออกมาก็ทําให้ร่างกายของทุกสรรพชีวิตเย็นเฉียบ
“ลากข้าไปด้วยแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง? ยังมียอดยุทธ์สูงสุดโบราณอีกสิบเอ็ดคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในพิภพย่อมมีแม่น้ําเลือดปรากฏในพิภพสิ่งมีชีวิตอีกหลายร้อยล้านจะตายลง…”
สิ่งที่จ้าวแห่งสังสารวัฏพูดนั้นถูกต้อง
แม้เขาตายไปแต่ก็ยังมียอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่อีกสิบเอ็ดคน
ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นต้นกําเนิดของกลียุคอันมืดมิด
จอมจักรพรรดิแห่งสงครามสามารถกําจัดจ้าวแห่งสังสารวัฏได้ แต่ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่เหลือล่ะ?
ใครจะหยุดพวกเขาได้บ้าง?
สิ่งมีชีวิตนับพันล้านในจักรวาลก็ตกอยู่ในความสิ้นหวังอีกครั้ง!