จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 210 การเปลี่ยนแปลงของชายแดนแดนร้างโองการราชันอมตะ
บทที่ 210 การเปลี่ยนแปลงของชายแดนแดนร้างโองการราชันอมตะ!
เมืองเฉียนหวง นั้นยิ่งใหญ่และงดงามหาที่เปรียบมิได้
ประตูเมืองเปิดออกและดึงดูดสิ่งมีชีวิตจากทั่วทุกสารทิศกระทั่งทหารยามป้องกันประตูเมืองก็ยังมีเขตแดนพลังยุทธ์ของเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งก็เพียงพอจะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของราชวงศ์เซียนนิรันดร์ไท่เฉียน
ฉินมู่เดินเล่นในเมืองเฉียนหวงแม้ว่าจะเป็นเพียงเมืองแต่ก็กว้างใหญ่ไพศาลนักมีดวงดาวพร่างพราวประดับอยู่บนนั้นมีจอมยุทธ์นั่งขัดสมาธิอยู่
สิ่งมีชีวิตในเมืองเฉียนหวงมองลึกเข้าไปในเมืองเฉียนหวง แววตาเปี่ยมไปด้วยความคารวะภายในนั้นมีรูปปั้นโบราณอยู่ ดูยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต
มันคือรูปปั้นของราชันเฉียน ดูงดงามตระการตาหาที่เทียบมิได้ สายน้ำแห่งดวงดาราปกคลุมรอบรูปปั้นปกปิดใบหน้าของรูปปั้นไว้ แต่ก็ยากจะซ่อนความยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดไว้ได้“ราชันเฉียน… ข้าสัมผัสได้ถึงกระแสพลังของราชันเซียนนิรันดร์สองคนที่นี่”
ฉินมู่หลับตาและสํารวจอย่างละเอียด เขารู้ทุกรายละเอียดในเมืองเฉียนหวง ในตอนที่เขาอยู่ในดินแดนด้านล่าง เขาเลื่อนเขตแดนของตนเป็นเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์
ด้วยวิธีที่สมบูรณ์ที่สุด จนเรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของราชันเซียนนิรันดร์ฝ่าย
แม่ในหมู่ตัวตนสูงสุดของเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์มากมาย เขาก็ยังไร้เทียมทาน
ดังนั้นแล้ว เขาจึงสามารถตรวจจับราชันเซียนนิรันดร์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ถูกค้นพบโดยอีก
เพียงแต่ในตรวจสอบของเขา นอกจากราชันเฉียนแล้ว ยังมีราชันเซียนนิรันดร์อีกคนในที่แห่งนี้ด้วย
และเหมือนว่าสถานะของเซียนนิรันดร์อีกคนนั้นจะไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เพราะแม้พื้นฐาน เขตแดนพลังยุทธ์จะอยู่ในขอบเขตราชันเซียนนิรันดร์ แต่กระแสพลังนั้นก็อ่อนแออย่างมหาศาล
เปรียบเหมือนประกายเทียน ที่จะดับลงเมื่อใดก็ได้
ราชันเซียนนิรันดร์นั้นมีพลังชีวิตมากมายมหาศาลไร้ที่สิ้นสุด แม้ฟ้าดินจะพังทลายลงแต่ก็ไม่มี
ทางตายได้
ดังนั้นแล้วสิ่งมีชีวิตในเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ที่กําลังใกล้จะดับสูญคนนี้ต้องเผชิญหน้ากับ
อะไรบางอย่างมาเป็นแน่
ไม่รู้ว่ากระแสพลังของราชันเซียนนิรันดร์คนนี้เป็นของราชันเฉียนหรือราชันเซียนนิรันดร์คนอื่น หลังจากสํารวจดูอีกเล็กน้อย ฉินมู่ก็เดินไปยังส่วนลึกของเมืองเฉียนหวง
ข้อสงสัยทั้งหมดจะหายไปก็เมื่อเขาไปตรวจสอบมัน
ลึกเข้าไปในเมืองเฉียนหวง ใจกลางสุดของราชวงศ์เซียนไท่เฉียนมีพระราชวังหลังมหึมาตั้ง
ตระหง่านอยู่ พลังงานเซียนโดยรอบอุดมสมบูรณ์จนแทบจะกลายเป็นสสารที่จับต้องได้ นี่คือราชวังของราชันเฉียน ที่ซึ่งราชันเฉียนอยู่นั้นว่ากันว่าอยู่ภายในราชวังหลังนี้ แต่ความเป็น จริงแล้วนั้น ราชวังหลังนี้ใหญ่โตอย่างมาก โอฬารเสียยิ่งกว่าดวงดาวโบราณปกติทั่วไป หมอก
เซียนปกคลุมไปทั่วทั้งราชวัง ทําให้มันดูราวกับเป็นสัตว์มายาอันน่าเกรงขาม
หมอกเซียนเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นสสารเซียนที่บริสุทธิ์ที่สุด หากอยู่ในเขตแดนล่าง กระทั่ง ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่เชือดตัวเองด้วยดาบ ก็เพียงพอจะยืดชีวิตพวกเขาได้เป็นหลายล้านปี ไม่
จําเป็นต้องผนึกตัวเองในแหล่งพลังเซียนเลยแม้แต่น้อย!
บันไดที่ดูแปลกตาจากทางเข้าของราชวังเฉียนหวงจะนําไปสู่ส่วนลึกของราชวังเฉียนหวง ที่มี ร่องรอยของพลังงานโกลาหลอยู่ภายใน ได้ยินกระทั่งเสียงของเต๋า
ในตอนนี้ ภายในส่วนลึกของราชวังเฉียนหวง โลกจําลองสองโลกปรากฏขึ้น ร่างที่ยิ่งใหญ่
ค้ําฟ้าปรากฏขึ้นท่ามกลางความโกลาหล ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น
ภายใต้ร่างที่ใหญ่ค้ําฟ้าสองร่างนี้มีสองร่างในชุดโบราณและปกคลุมไปด้วยพลังโกลาหลนั่ง อยู่อย่างเงียบงัน แม้ว่าจะนิ่งเงียบไม่ไหวติง แต่ดูราวกับจะสยบอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ “ทุกตัวตนที่เหนือเขตแดนสูงสุดในดินแดนเฉียนหวงได้มาถึงเมืองเฉียนหวงหมดแล้วเมื่อสอง
วันก่อน พวกเราจะผ่านเรื่องนี้ไปอย่างไร?”
หลังจากผ่านไปนาน ร่างหนึ่งที่อยู่ภายใต้ร่างที่ใหญ่ค้ําฟ้าพูดขึ้นมา เสียงของเขาดูค่อนข้างจะ เคร่งเครียด บนชุดคลุมมีลวดลายของหยินหยางและไท่จี๋ปักไว้อยู่
เขาคือผู้เป็นจ้าวแห่งดินแดนเฉียนหวงแห่งนี้ ยักษ์ใหญ่แห่งเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ ราชัน
เฉียน!
จริง”
“ข่าวจากผู้ถูกลืมด่านจอมจักรพรรดินั้นกะทันหันเกินไป ข้ามิอาจเชื่อได้ว่าข่าวนั้นเป็นความ
ร่างที่นั่งอยู่ตรงข้ามราชันเฉียนกล่าวออกมา เสียงของเขาดูเคร่งเครียด แต่หากฟังดูดีๆแล้วนั้น ก็จะพบถึงความอ่อนโรยภายในน้ำเสียงนั้นได้
ภายในมิติรอบสิ่งมีชีวิตโบราณนี้ มีดอกบัวทองคําาโกลาหลปรากฏขึ้น มันดูลึกลับแม้จะไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไรแต่เพียงแค่ได้เห็นว่าอีกฝ่ายกําลังนั่งคุยกับราชันเฉียนก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเขาคือสิ่งมี
ชีวิตที่เทียบเทียมกับราชันเฉียน!
“เป็นเวลาที่สําคัญ แม้ว่าข้าจะรู้มาเนิ่นนานแล้วว่าข้ามิสามารถปกป้องดินแดนนิรันดร์ของข้าไปได้ตลอดแต่ก็มิคาดคิดเลยเลยว่ามันจะมาไวเช่นนี้”
ราชันเฉียนกล่าวช้าๆประกายความรู้สึกในแววตามิอาจปกปิดเอาไว้ได้
“ความน่าสะพรึงกลัวของดินแดนแห่งความมืดนั้นข้าได้เข้าใจอย่างถ่องแท้เมื่อหลายชั่วยุคสมัยที่ผ่านมาและในครานั้นข้าบาดเจ็บสาหัสในครานี้ข้าเกรงว่าขีดจํากัดของข้าก็อาจลดลงด้วยเช่นกัน”ตัวตนโบราณที่มีดอกบัวทองโกลาหลปกคลุมนั่งนิ่ง
“ไม่เว้นกระทั่งราชัน”
ราชันเฉียนส่ายหน้าในทันที
“เจ้าคือแกนน่าของแดนนิรันดร์ หากเจ้าตกตายไปจะก่อให้เกิดความเสียหายเกินจินตนาการต่อแดนนิรันดร์ในตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องทําคือการรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์และปรึกษากันว่าจะเอาตัวรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้อย่างไรปกป้องแดนนิรันดร์แห่งนี้เอาไว้ภัยพิบัติกําลังจะมาถึงและครานี้พวกเราไม่สามารถแบกรับความสูญเสียใดๆได้อีกต่อไป”
ราชันดอกบัวราวกับต้องการจะพูดอะไรแต่ในท้ายที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างว่างเปล่า
ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นก็เพราะข้อความจากจอมจักรพรรดินายด่านชายแดนร้าง
ในด้านดินแดนแห่งความมืดที่เงียบงันไปเป็นเวลานาน มีสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขตแดนเซียนนิรันดร์ที่แท้จริงได้ข้ามพรมแดนมาพร้อมโองการราชันอมตะจากดินแดนแห่งความมีด!
ราชันอมตะนั้นเป็นนามของตัวตนในเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ของดินแดนแห่งความมืด!
สิ่งมีชีวิตเซียนที่ข้ามพรหมแดนมานั้นมาเพียงเพื่อจะส่งโองการของราชันอมตะเนื้อหาของโองการนั้นเย็นชาและเรียบง่าย
และเหตุที่ราชันเฉียนและราชันดอกบัวต่างตื่นตระหนกและเรียกสิ่งมีชีวิตสูงสุดทุกตนในเขตแดนเฉียนหวงมารวมตัวกันนั่นก็เพราะเนื้อหาของโองการราชันอมตะฉบับนี้!