จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 29 หลุมศพอันโดดเดี่ยวและเศษเสี้
ใจของหยุนรั่วซีนั้นเร่าร้อน นางตั้งปณิธานในใจอย่างเงียบๆ
เผ่าพันธุ์มนุษย์นับหมื่นที่ถูกจับมาเป็นคนงานในเหมืองโบราณในตอนนี้ก็ได้ตกใจจนอธิบายไม่ถูกยิ่งกว่าเดิม และได้แต่รู้สึกตื่นเต้น
พวกเขาคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพตามๆ กัน น้ำตานองหน้า และตะโกนขานเรียกกายาจักรพรรดิถึงสี่ครั้ง
พวกเขาคาดไม่ถึงว่าในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ จะมีตัวตนที่เหนือชั้นที่ถึงแม้จะล้มเหลวในการไปถึงจุดสูงสุดของวิถียุทธ์แต่ก็สามารถขับเคี่ยวกับระดับจักรพรรดิได้
กายาจักรพรรดินั้นสมบูรณ์แบบ สามารถต่อสู้กับจักรพรรดิโบราณได้❗️
ยิ่งไปกว่านั้นตัวตนที่ไร้เทียมทานนี้กลับมีถึงเก้าคน❗️
“กายาจักรพรรดิผู้สูงส่ง ทำไมท่านถึงไม่เกิดบนโลกใบนี้❓ ตอนนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นยากแค้นและต้องการความช่วยเหลือจากท่าน❗️”
“ปรากฏว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้าเคยมีผู้ที่มีร่างกายที่ไร้เทียมทาน มันช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก”
ทุกคนสวดภาวนากันอย่างจริงจัง
จะดีแค่ไหนถ้ากายาจักรพรรดิผู้แกร่งกล้าเกิดมาโลกนี้❓
หากมีกายาจักรพรรดิผู้แกร่งกล้าเช่นนั้นในโลกนี้ แล้วทุกเผ่าพันธุ์มากมายในโลกนี้มีหรือจะกล้ารังแกเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างเลินเล่อ❓
“กายาจักรพรรดิผู้แกร่งกล้าอะไรกัน หยุดงมงายกันได้แล้ว เรื่องพวกนี้จะเป็นจริงได้อย่างไร มันเป็นเพียงเรื่องแหกตา❗️”
เถิงยีพูดจบ หลี่ต้าวหลินก็แค่นเสียงอย่างเย็นชา
“ผู้อ่อนแอสามารถอยู่รอดได้ภายใต้ปีกของผู้แข็งแกร่งเท่านั้น”
“ตามความเห็นข้า เมื่อหลายล้านปีก่อน เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังคงอ่อนแอ เนื้อหาในม้วนคัมภีร์เหล่านี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าภาพที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้อ่อนแอในขณะนั้นจินตนาการและสร้างขึ้นเมื่อสวดภาวนาทุกวัน โหยหาการมีอยู่ของผู้ไร้เทียมทาน❗️”
“กายาจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์พวกนั้น เป็นเรื่องโป้ปดทั้งหมด❗️”
หลี่ต้าวหลินตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว เสียงของเขาดังไปทั่วเหมืองต้นกำเนิด
แม้เขาจะเป็นมนุษย์ แต่กลับกำลังปฏิเสธการมีอยู่ของกายาจักรพรรดิ
เห็นได้ชัดว่าเขากลายเป็นขี้ข้าของเผ่าพันธุ์โบราณโดยสิ้นเชิง ไม่ภูมิใจในตัวตนของเขาในฐานะเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกต่อไป และคิดว่ามันน่าละอาย และเกลียดที่ไม่ได้เกิดมาเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์หมื่นเซียน❗️
จากด้านข้าง เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของหลี่ต้าวหลิน เถิงยีก็แสดงความพึงพอใจ
หลี่ต้าวหลินเป็นสุนัขรับใช้ของเผ่าปีศาจอสรพิษ และสุนัขตัวนี้ยังคงเชื่อฟังอย่างมากและช่วยเผ่าปีศาจอสรพิษได้มากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
พูดได้ว่า เลือดมนุษย์ที่เปื้อนมือตำหนักไร้ความหวังนั้นมากเสียยิ่งกว่าเผ่าปีศาจอสรพิษเสียอีก❗️
แน่นอนว่า หลังจากได้ยินเสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราดของหลี่ต้าวหลิน คนงานในเหมืองโบราณที่ก่อนหน้านี้ตื่นเต้นและตกใจจนอธิบายไม่ถูกก็ได้หมดกำลังใจ และใบหน้าของพวกเขาก็แสดงท่าทีลังเลเช่นกัน
ใช่แล้ว เผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีผู้ที่ร่างกายไร้เทียมทานเช่นนี้จริงๆ รึ❓
ถ้ามี แล้วเหตุใดจึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนในยุคแร้นแค้น❓
รึว่าแท้จริงแล้วเรื่องเหล่านี้เพียงแค่ถูกแต่งขึ้นโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์เมื่อล้านปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในยุคยุคแร้นแค้น เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ไม่ได้มียอดฝีมือเขตแดนจักรพรรดิเลยแม้แต่คนเดียวมาเป็นเวลาแสนๆ ปีแล้ว
แม้แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังคิดว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่มีพรสวรรค์เพียงพอที่จะให้กำเนิดผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนั้น
เมื่อเป็นเช่นนั้นมันก็เป็นการสมควรแล้วที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์จะสร้างเรื่องกายาจักรพรรดินี้
ไม่ว่าอย่างไร เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่อาจบรรลุเต๋าสุดยอดได้
กายาจักรพรรดิก็ไม่ใช่เต๋าสุดยอด
เช่นนี้ ทุกอย่างก็สมเหตุสมผล
บางที มันอาจจะไม่มีสายเลือดกายาจักรพรรดิในโลกเลย และย่อมไม่มีกายาจักรพรรดิที่เคารพเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นจินตนาการของเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้ถูกรังแกและกดขี่ในยุคดึกดำบรรพ์
พวกเขาปรารถนาสายเลือดที่ไร้เทียมทาน เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์จากลมและฝน และพาเผ่าพันธุ์มนุษย์ก้าวไปข้างหน้า
เพ้อฝันทุกวัน ภาวนาทุกคืน ความคิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์นับพันก็รวมตัวกันกลายมาเป็นอนุสรณ์ทั้งเก้านี้
แต่ทว่า ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงความปรารถนา
เพราะว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องโป้ปด❗️
“ไม่ใช่ มันไม่ใช่เรื่องโป้ปด กายาจักรพรรดิมีอยู่จริง❗️”
เบื้องหน้าอนุสรณ์โบราณ หยุนรั่วซีเห็นว่าด้านในของเหมืองโบราณ ด้วยเสียงตะโกนอันโกรธเกรี้ยวของหลี่ต้าวหลิน ได้ทำให้ทุกคนท้อแท้และลังเลไปทีละคน นางจึงตะโกนออกไปอย่างแข็งขัน
สายเลือดของกายาจักรพรรดิจะไม่เป็นจริงได้อย่างไร❓
เพราะว่านางนี้แหละมีสายเลือดนี้ และมันยังสะท้อนกับอนุสรณ์โบราณอีกด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นความจริง เป็นเท็จไปไม่ได้❗️
แต่ทว่าเสียงตะโกนของนางนั้นช่างเบาและไร้ความหมาย
เทียบกับคำพูดของคนงาน เทียบกับสิ่งที่เจ้าตำหนักไร้ความหวังหลี่เต้าหลินกล่าว เห็นได้ชัดว่าสิ่งใดหนักกว่า
“สายเลือดของบรรพบุรุษไม่อาจดูหมิ่นได้ ข้านี่แหละสายเลือดของกายาจักรพรรดิ❗️”
ถึงตอนนี้ ราวกับว่าหยุนรั่วซีได้ตัดสินใจแล้ว นางกัดฟันและปาดลงไปที่ฝ่ามือขวา
นางต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่ากายาจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ไช่เรื่องที่แต่งขึ่น แต่มันมีอยู่จริง❗️
เพราะว่านางมีสายเลือดนี้และเป็นทายาทของกายาจักรพรรดิ❗️
ฝ่ามือของหยุนรั่วซีถูกปาดออก ใบหน้าของนางแสดงถึงความเจ็บปวด แต่นางก็ยังกัดฟันทำต่อไป
ติ๋ง――
ที่บาดแผลมีเลือดหยดลงมา
แต่เลือดนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป มันไม่เป็นสีแดง แต่เป็นสีทองอันเจิดจ้า❗️
เลือดสีทองไหลออกมาจากบาดแผล พลังชีวิตพุ่งพล่าน ราวกับว่ามันมีพลังมหาศาล❗️ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะจ้องมอง❗️
“เลือดสีทอง❗️”
ถึงตอนนี้ ผู้ที่ได้เห็นฉากนี้ก็ตกตะลึง และใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อสายตา
เลือดสีทองและพลังชีวิตที่สูงส่งเหล่านี้ไม่อาจปลอมแปลงได้
และนั่นมีลักษณะเหมือนกับกายาจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ในม้วนคัมภีร์❗️
ที่สำคัญที่สุดก็คือ อนุสรณ์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้านี้ปกป้องหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าด้วยตนเอง
เป็นไปได้รึไม่ว่าสายเลือดกายาจักรพรรดิมีอยู่จริง❓
และหญิงสาวเบื้องหน้าก็เป็นทายาทของกายาจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์❓
แต่ทว่า ถ้านี่เป็นสายเลือดของกายาจักรพรรดิ เหตุใดนางจึงอ่อนแอและถึงกับตกเป็นทาสในเหมือง❓
ความคิดนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในหัวของทุกคน
“เลือดสีทองงั้นรึ❓ นางเป็นกายาจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์นี้จริงๆ รึ❓ เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นางจะอ่อนแอเช่นนี้ได้อย่างไร❓”
หลี่ต้าวหลินเย้ยหยัน ไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องจริง
แม้ว่าเลือดของหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าจะเป็นสีทองเช่นเดียวกับได้กับกายาจักรพรรดิ แล้วมันยังไงล่ะ❓
ตามม้วนคัมภีร์นั้น สายเลือดของกายาจักรพรรดินั้นทรงพลังมาก แล้วนางจะกลายเป็นทาสในเหมืองได้อย่างไร❓
ติ๋ง――
เลือดสีทองยังคงหยดลงมา
อนุสรณ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าลอยขึ้นไปในอากาศ ทิ้งหลุมขนาดใหญ่ไว้บนพื้นดิน
และในหลุมเหล่านั้น มีเนินดินที่เป็นเหมือนกับหลุมศพอยู่
ดูจากตำแหน่งที่ตั้ง มันน่าจะอยู่ด้านหลังอนุสรณ์ทั้งเก้านี้
ในม้วนคัมภีร์แรกมีการแสดงให้เห็นว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์นับพันสักการะสุสานที่ตั้งอยู่ด้านหลังอนุสรณ์โบราณทั้งเก้านี้
เลือดสีทองที่ไหลออกมาจากฝ่ามือของหยุนรั่วซีข้ามไปในมิติและตกลงบนหนึ่งในหลุมศพ
ติ๋ง ติ๋ง
เลือดแทรกลงไปในดิน และซึมเข้าไปในหลุมศพอันโดดเดี่ยวนี้
ต่อจากนั้น ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ได้เกิดขึ้น
ในหลุมศพอันโดดเดี่ยว มีกระแสพลังที่น่าสยดสยองแห่งความโกลาหลกำลังเพิ่มขึ้น ราวกับมีผู้ยิ่งใหญ่กำลังฟื้นคืนชีพ❗️
ตูม——❗️
หลุมศพระเบิดออก และภายในนั้นว่างเปล่า มีเพียงกลุ่มแสงเจิดจ้าพุ่งออกมา ราวกับดวงอาทิตย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ประชันความเจิดจรัสกับอนุสรณ์ทั้งเก้า
กลุ่มแสงลอยอยู่ตรงนั้น ราวกับเป็นจุดศูนย์กลางของโลก แล้วจิตวิญญาณการต่อสู้อันดุเดือดที่อธิบายไม่ได้ก็พุ่งมาออกมาจากกลุ่มแสงเหล่านั้น สร้างความตกตะลึงไปทั้งสิบทิศ❗️
และในกลุ่มแสงนั้น ไม่ใช่สิ่งอื่นใด ไม่ใช่สมบัติ หรืออาวุธวิเศษ
แต่เป็นเศษชุดเกราะ❗️
เศษเสี้ยวของชุดเกราะที่เต็มไปด้วยเลือด