จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 308
บทที่ 308 ความหวาดกลัวของราชันเฉียน พุ่งทะยานเป็นราชันเซียนนิรันดร์ผู้ทรงอำนาจ
การทําลายการกักขัง อะไรคือการทําลายการกักขัง
การย้ายวิญญาณพํานักจากภายนอกกลับคืนมาสู่ร่าง วางอยู่เหนือแดนสวรรค์แน่นอนว่าเป็นการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังอยู่ไกลจากการทําลายการกักขัง อย่างดีที่สุด ก็เป็นเพียงแค่การดิ้นรนอีกครั้งในเส้นทางนั้น
แต่ตอนนี้สิ่งที่จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญได้ทําลงไป ถือได้ว่าเป็นการทําลายการกักขังที่แท้จริง ไม่ล้มก็ไม่ลุก*
(7-55/FÌ ไม่ล้มก็ไม่ลุก สํานวนจีน มีความหมายว่า หากไม่ทําลายของเดิม ทิ้ง ก็จะไม่สามารถสร้างของใหม่ขึ้นมาได้ มาจากหนังสือ ระบอบประชาธิปไตย ใหม่ ของ เหมาเจ๋อตุง)!
“นี่! นางถึงกับทําลายวิญญาณพํานัก!”
“นี่ถือว่าเป็นการยอมแพ้ใช่หรือไม่ หากวิญญาณพํานักแตกสลาย จะก้าวข้าม ไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ได้อย่างไร”
“ข้าสับสน สับสนไปหมดแล้ว! หากเก็บวิญญาณพํานักไว้ ก็ยังจะมีพลังที่จะ ต่อสู้อยู่ แต่ตอนนี้วิญญาณพํานักไม่เหลือแล้ว ใช้วิธีแหกคอกแบบนั้นทะลวง เขตแดนราชัน ความสําเร็จในเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์นั้นสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง!”
หลังจากที่เห็นจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญทําลายวิญญาณพํานักของตนเองและให้กระจัดกระจายอยู่ในร่างกาย บรรดายอดยุทธ์แดนนิรันดร์จํานวนมากที่อยู่ ห่างออกไปหลายล้านลี้ ต่างก็ส่งเสียงออกมาด้วยความปั่นป่วนในทันที
หากว่าจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญย้ายวิญญาณพํานักจากภายนอกร่างเข้าไปภายจนร่างกายก่อนหน้านั้น ทําให้เกิดความสงสัยว่าจะประสบความสําเร็จหรือไม่นั้น
ตอนนี้การกระทําของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ ทําให้พวกเขาคิดว่าหมดหวังอย่างแท้จริง
ตลอดทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่บรรลุราชันเซียนนิรันดร์ ล้วนอาศัยวิญญาณพํานัก
ด้วยพลังของห้าแดนลับ รวมตัวกันในวิญญาณพํานัก ทําลายตรวนของฟ้าดิน บรรลุเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ นี่เป็นวิธีเดียวที่ได้รับการยอมรับจากผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมด
แต่ตอนนี้ จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญได้ทําลายวิญญาณพํานักของตนเอง ด้วยวิธีนี้ นางจะก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ได้อย่างไร กลัวว่าจะ หมดหวังแล้วจริงๆ!
อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับการถอนหายใจของยอดยุทธ์แดนนิรันดร์ จํานวนมากนั้น ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์และราชันเซียนนิรันดร์ทั้งสามคนนั้น ต่างมี สายตาที่กว้างยาวกว่านั้น
ผลลัพธ์ที่ปรากฏในสายตาของพวกเขานั้น ก็แตกต่างอย่างมากเช่นเดียวกัน
“ทําลายวิญญาณพํานักให้ผสานเข้ากับร่าง ผู้หญิงคนนี้ กล้ามาก!”
ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“อะไรคือวิญญาณพํานัก มันก็เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของการควบแน่นและ การหล่อเลี้ยงตนเอง แม้ว่าจะกลับคืนสู่ร่างกาย แต่พลังก็ยังคงมีอยู่เป็นของตัวเอง ”
ราชันเฉียนแสดงความคิดเห็น
“ด้วยวิธีนี้ จึงนับได้ว่ามีหนทางรอดจริงๆ
วิญญาณพํานักผสานเข้ากับอนุภาคเซลล์นับไม่ถ้วนในร่างกาย แม้ว่ามันจะ
ยากแค่ไหนในการควบแน่น แต่ตรวนราชันเซียนนิรันดร์ก็ไม่อาจที่จะสะกัดกั้นได้มิใช่หรือ?
หากทุกเซลล์ ทุกอนุภาคในร่างกาย ล้วนเป็นการควบแน่นของวิญญาณพํานัก ของตนเอง ด้วยวิธีนี้ ย่อมสามารถทําลายการสะกัดกั้นของเก้าผนึกราชันได้อย่าง แน่นอน!”
ราชันดอกบัวถอนหายใจ
“แต่ด้วยวิธีนี้ วิญญาณพํานักจะไม่ควบแน่นอีกต่อไป การรับรู้ฟ้าดินย่อมกลาย เป็นเรื่องยาก และความยากในการก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ย่อม เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณเช่นกัน
แต่ไม่ว่าอย่างไร วิธีนี้ย่อมแข็งแกร่งกว่าทางตันก่อนหน้านี้มาก”
ทําไมผู้ฝึกยุทธ์รุ่นก่อนหน้านั้น ต้องรวบรวมความแข็งแกร่งและสร้างวิญญาณนํานักนอกตัว?
เพราะด้วยวิธีนี้เท่านั้น ที่จะสามารถช่วยลดช่องว่างระหว่างฟ้าดิน เข้าใจฟ้าดินได้ง่ายที่สุด และไม่ถูกจํากัด
ด้วยวิธีนี้ การทําลายตรวนและพ้นจากการควบคุมฟ้าดินก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย
การย้ายวิญญาณพํานักไปไว้ในแดนสวรรค์ ความยากลําบากในการรับรู้ก็จะ
เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
และเช่นเดียวกับจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ การทําลายวิญญาณพํานักอย่าง สมบูรณ์ รวมมันเข้ากับอณูของร่างกาย การตระหนักรู้ถึงฟ้าดินก็จะยากเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อเสียก็คือการรับรู้ฟ้าดินกลายเป็นเรื่องยากขึ้นตามปกติ
แต่ข้อดีก็คือ ตรวนราชันเซียนนิรันดร์จะไม่สามารถสะกัดกั้นได้อีกต่อไปมีกระดูกในร่างกายนับร้อยชิ้น แต่อนุภาคเซลล์ของมนุษย์มีมากกว่าพันล้านใช่ไหม?
ตรวนราชันเซียนนิรันดร์อย่างมากสุดก็เพียงสามารถสะกัดกั้นแดนลับขนาด
ใหญ่ไม่กี่แห่งในร่างได้เท่านั้น แต่ถ้าต้องการสะกัดกั้นอนุภาคเซลล์ทั้งหมด นั่นเป็นไปไม่ได้!
หากเป็นเช่นนี้ ตรวนเก้าผนึกราชันเซียนนิรันดร์ ก็เหมือนจะไม่มีอยู่
เพราะว่าทัณฑ์สวรรค์ที่ตกลงมาในวันนี้นั้น ทําให้เป็นไปไม่ได้ที่สิ่งมีชีวิตใดจะ ประสบความสําเร็จในการก้าวข้ามไปได้ เหลือเพียงแต่หนทางตายเท่านั้นสําหรับคนทั่วไป
วิถีแห่งฟ้าดินย่อมจะไม่ทําสิ่งนี้ สิ่งนี้ไม่ได้รับอนุญาตจากวิถีแห่งเต๋า
หากใช้เป็นทัณฑ์สวรรค์ต่อคนธรรมดา ก็ไม่จําเป็นที่จะต้องส่งลงมาเลย
ไม่ว่าทัณฑ์สวรรค์ของวิถีแห่งฟ้าจะลงมาในที่ใด ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ก็จะต้องมีหนทางที่จะรอดพ้นอยู่ด้วย
ในพหุภพไร้ที่สุด นี่คือความจริงสากลของทุกจักรวาล
จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญสลายวิญญาณพํานักของตนเอง รวมเข้ากับอนุภาค หลายร้อยล้านในร่างกาย ในขั้นตอนนี้ ในที่สุดนางก็ก้าวออกจากวิถีของตัวเอง
ในตอนนี้ แขนขาและกระดูกทั้งหมดของนาง ทุกเซลล์ ทุกอนุภาคในร่างกาย ของนาง ดูเหมือนจะกลายเป็นดวงตะวัน เปล่งแสงและความร้อนอันไร้ที่สุด
และตัวนางเองก็เหมือนกลายเป็นตะวันทรงกลดแห่งสรวงสวรรค์อันยิ่งใหญ่
ครอบคลุมอดีต ปัจจุบัน และอนาคต กําราบสิบทิศ กดดันไม่รู้จบ แผ่กระจายไกล ออกไปไร้สิ้นสุด
ตามความเป็นจริง การคาดเดาของราชันดอกบัวนั้นไม่ผิด การสลายวิญญาณพํานักเข้าไปในอนุภาคของเซลล์ในร่างกาย จะทําให้การรับรู้ฟ้าดินนั้นยากขึ้นและยากที่จะทําลายตรวน
แต่เขาไม่รู้ในสิ่งหนึ่ง
จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ สําหรับการรับรู้ในฟ้าดินนั้น นางมีเพียงพอแล้ว
สิ่งที่นางขาดไป ก็เพียงแค่การทะยานขึ้นไปในขั้นสุดท้ายเท่านั้น
นอกจากนี้ นางได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของผู้กุมชะตาแล้ว รวมไปถึง
การที่ฉินมู่ได้กลายเป็นผู้กุมชะตา นําพลังที่ไร้ที่สุดจากของขวัญวิถีแห่งเต๋ามาให้กับนาง
ภายใต้การซ้อนทับของทั้งสองสิ่งนี้ เงื่อนไขทั้งหมดในการก้าวข้ามเขตแดนของนางสมบูรณ์แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ของขวัญจากวิถีแห่งเต๋าสามารถเรียกได้ว่าเป็นพลังที่ไม่มีวัน หมด หากใช้วิธีการก้าวข้ามเขตแดนแบบโบราณ นางจะสูญเสียพลังส่วนใหญ่ไป
แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป การรวมวิญญาณพํานักไว้ในแขนขาและกระดูกของนาง พลังนั้นก็จะหลั่งไหลเข้าสู่ทุกอณูในร่างกายของนางอย่างบ้าคลั่งไปพร้อมกับวิญญาณพํานักที่แตกสลาย
ในตอนนี้พลังที่ได้รับจากวิถีแห่งเต๋า ถูกดูดซับโดยจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ อย่างสมบูรณ์แบบไร้จุดด่างพร้อยอย่างแท้จริง!
ดังนั้น ทุกช่วงเวลาต่อจากนั้น กระแสพลังของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็ได้ เพิ่มพูนขึ้นไปอย่างไร้สิ้นสุด
ในชั่วพริบตา นางก็ได้ปีนขึ้นไปถึงระดับที่ราชันเฉียน ราชันดอกบัว และคนอื่นๆ ไปถึง!
“นี่… … เป็นไปได้ว่านางจะกลายเป็นราชันเซียนนิรันดร์ผู้ทรงอํานาจได้ใน
ทันทีใช่หรือไม่!”
ราชันเฉียนสัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่กําลังทะลักทลายจากจอมจักรพรรดิผู้ เหี้ยมหาญในตอนนี้ และอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
กระแสพลังนี้ ดูเหมือนว่าจะเหนือกว่ายอดยุทธ์แดนนิรันดร์มาก มีเพียงผู้ทรงอํานาจของแดนนิรันดร์เท่านั้นที่จะสามารถเปรียบเทียบได้!