จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 47 มองผ่านกาลชั่วนิรันดร์ เดียว
วกเราก็เข้าไปกัน ! หากไม่เห็นเรื่องทั้งหมดนี้เอง ก็ไม่อาจยอมรับได้ !”
ผู้นํานิกายเทียนเฉินยืนโซเซ เลือดยังคงไหลออกจากร่างกายของเขา น้ําเสียงเปี่ยมไปด้วย ความไม่เต็มใจ
เขารู้ว่าหากเรื่องในวันนี้แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งแดนางตะวันออกในอนาคต นิกายเทียนเฉินก็คงจบสิ้น
ในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เคยมีจอมจักรพรรดิโบราณที่มีเขตแดนของพลังยุทธ์ระ ดับสุดยอด
เทพเจ้าผู้ไร้เทียมทานได้ถูกกําราบด้วยน้ํามือของจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์
เพียงแค่สองข้อความนี้ ก็สามารถทําให้รากฐานของนิกายเทียนเฉินพังทลายลงได้ !
ก่เหวยเฉินที่ยืนข้างๆ ในตอนนี้ไม่มีท่าทีเหมือนตอนที่อยู่ในตําหนักลอยฟ้าอีกต่อไป ไร้ซึ่งการยกตนข่มโดยสิ้นเชิง
เช่นเดียวกับผู้นํานิกายเทียนเฉิน เขาเองก็หดหูอย่างมาก
เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหกฝ่าย รวมไปถึงเสือดําร่างยักษ์ เข้าไปในถ้ําโบราณ
ร่างที่ทําตัวลับๆล่อๆ ก็ปรากฏขึ้นจากระยะไกล
“เชีย เทพยดาฟ้าดิน พวกเทพเฮงซวย บัดซบ เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้…”
ตัวนหยุนเชิงมองไปยังทางเข้าถ้ําที่มีแสงส่องออกมาด้วยนัยน์ตาที่ว่างเปล่าและพึมพํากับตัวเอง
เขาเห็นทุกสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
หลังจากรู้ผลลัพธ์ ต้วนหยุนเชิงก็ได้แต่สับสน
สถานการณ์เป็นเช่นไร ?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
แผนที่ขุมทรัพย์โบราณนั้นข้าก็วาดเอง ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีร่องรอยของจอมจักรพรรดิโบราณหลงเหลืออยู่ที่นี่ !
บัดซบจริง ทวยเทพ ข้าทําอะไรลงไปเนี่ย !
ตัวนหยุนเชิงคร่ําครวญ ใบหน้าอันอวบอ้วนกระตุก รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทุกรูขุมขน
เขาไม่เคยคิดว่าภายในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จะมีความลับอันยิ่งใหญ่อยู่จริงๆ !
โบราณสถานจอมจักรพรรดิ !
สิ่งนี้ล้ําค่าและสําคัญยิ่งกว่าสุสานบรรพบุรุษเผ่าพันธุ์โบราณเสียอีก
ทําไมข้าถึงได้ตาบอดเช่นนี้ ไม่รู้จักตรวจสอบล่วงหน้าก่อนที่จะนําไปเขียนเป็นแผนที่ขุมทรัพย์เช่นนี้ ?
ตัวนหยุนเชิงหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
กองกําลังทั้งหกฝ่ายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้รวมตัวกันที่นี่ ทั้งที่เดิมที่เขาสามารถเพลิดเพลินไปกับความลับของโบราณสถานแห่งนี้เพียงล่าพังได้
ตอนนี้คงยากแม้แต่จะดื่มน้ําซุป !
แต่ถึงแม้จะรู้สึกเศร้าและเสียใจอย่างสุดขีด ตัวนหยุนเชิงยังคงเดินตามเข้าไปในถ้ําโบราณ
ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องได้รับประโยชน์แม้เพียงน้อยนิด แม้ว่าจะเป็นเพียงน้ําซุป’ !
ณ ทางเข้าถ้ําโบราณ
เมื่อเห็นใบหน้าอ้วนๆ ของตัวนหยุนเชิงกระตุกคิ้วขมวดเข้าหากัน แสดงออกถึงความเจ็บปวด
เฉินมู่ก็อดหัวเราะไม่ได้
แม้ตัวนหยุนเชิงจะเสียใจไปก็ไร้ประโยชน์
ดินแดนลับนี้จัดขึ้นด้วยตัวเขาเอง แล้วชายคนนี้จะค้นพบก่อนหน้านี้ได้อย่างไร?
แม้ว่าเขาจะมาก่อนหน้านี้ ก็ย่อมที่จะไม่พบอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าฉันม่ไม่ได้อธิบายสิ่งนี้ให้นักพรตอ้วนฟัง และเดินตามหลังเข้าไปในถ้ําโบราณด้วยเช่นกัน
การปล่อยให้ชายผู้นี้ผิดหวัง ถือว่าเป็นการลงโทษที่หลอกเอาหินต้นกําเนิดของผู้อื่นจากบริ เวณนอกเมือง !
ภายในถ้ําโบราณ เหล่าผู้นํากองกําลังสูงสุดเผ่าพันธุ์มนุษย์ปล่อยกระแสพลังออกมาเพื่อ ปกป้องผู้ฝึกยุทธ์ของตน
อนุสรณ์โบราณที่ถูกทิ้งไว้โดยกิ่งจักรพรรดิเผ่าพันธุ์ปีศาจ แม้ว่ามันจะมีจิตสังหารอันแรงกล้า แต่ก็ถูกจํากัดไว้มาก ตราบใดที่ไม่มีเหตุผิดพลาดมันก็จะไม่ปะทุออกมา
ดังนั้นทุกคนจึงผ่านอนุสรณ์โบราณอย่างระมัดระวัง พวกเขาเดินลึกเข้าไปในถ้ําที่ละคน
ถโบราณ กลับไม่ได้หนาวเย็นและมืดมิด ตรงกันข้ามมีแสงอ่อนๆส่องมา ศักดิ์สิทธิ์และสงบ สว่างไปทุกทิศ
ตามมาด้วยกระแสพลังอันแข็งแกร่งเติมเต็มอยู่ในถ้ํา ทําให้ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนที่ได้รู้สึกถึงกับสะดุ้งตกใจ
“ลึกไปในถ้ํานี้ ดูเหมือนว่ามีจะมีต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์ฝังอยู่มากมาย”
ผู้นํากองกําลังเผ่าพันธุ์มนุษย์พูดด้วยความรู้สึกตื้นตัน เขาไม่คาดคิดว่าภายในภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้ แท้จริงแล้วเป็นขุมสมบัติ
ต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์ถูกกักไว้อยู่ แต่พลังวิญญาณเพียงเล็กน้อยที่รั่วไหลออกมา ก็ทําให้ระดับของกระแสพลังในสถานที่นี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเพียงพอที่จะพิสูจน์คุณภาพของต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ที่นี่
“เร่งฝีเท้าเข้า ดูเหมือนจะมีบางอย่างสลักอยู่บนผนังถ้ําเบื้องหน้า”
ยอดฝีมือเฒ่ามองด้วยสายตาราวกับแสงไฟ เมื่อเห็นภาพข้างหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่เร่งเร้า
ฝูงชนเดินหน้าต่อและในไม่ช้าก็พบบางสิ่ง
บนกําแพงหินทั้งสองด้าน เริ่มปรากฏเป็นชิ้นส่วนของจิตรกรรมฝาผนังหิน ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความผันผวนกาลเวลาที่ไหลเวียนผ่านไปทุกยุคสมัย
เห็นได้ว่ามันถูกจารึกไว้โดยบรรพบุรุษไม่รู้กี่ล้านปีมาแล้ว
จิตรกรรมฝาผนังหินเหล่านี้ดูไม่ซับซ้อน และค่อนข้างเรียบง่ายเสียอีกด้วย
ทว่าแต่ละเส้นนั้น แข็งแกร่งดั่งเหล็กงดงามดั่งเงินราวกับมีชีวิต และมันแสดงทุกอย่างออกมาชัดเจน เหมือนกับอนุสรณ์โบราณที่ลู่เสอเคยนํามา
ทุกคนตกใจไปถึงจิตวิญญาณและได้แต่มองไปที่อนุสรณ์โบราณ
และขณะที่มองก็ถึงกับกลั้นหายใจ !
ในหินสลักคู่แรก มีภูเขาศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นลูกเรียงรายกัน แต่มีภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพียงลูกเดียวที่อยู่ตรงกลาง รายรอบไปด้วยภูเขาลูกเล็ก สูงตระหง่านอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกที่รายล้อมเป็นนิรันดร์
มีชายผู้สง่าผ่าเผย ผมสีดําเงาดจน้ําตก มือทั้งสองไขว้หลัง เหนือศีรษะมีระฆังโบราณลอยอยู่
เขาอยู่บนยอดเขา สงบนิ่งอยู่เงียบๆ แต่มีกระแสพลังอันไร้ที่สิ้นสุดที่กลืนกินไปทั่วทุกสารทิศ และมองดูเป็นนิรันดร์อย่างหาผู้เทียบมิได้ !
มันยากที่จะอธิบายความรู้สึก
มันเป็นเพียงภาพที่สลักไว้บนกําแพงหินโดยคนโบราณ แต่ทว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่เห็นกําแพงหินนี้มีกลับมีความรู้สึกหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ในหัวใจของพวกเขา
หินสลักนี้เป็นของโบราณ บางที่ก็แตกหักและเต็มไปด้วยฝุ่น
แต่รูปสลักตรงกลางกําแพงหินราวกับจะอยู่ชั่วฟ้าดิน !
เขายืนบนยอดเขา แต่ในภวังค์ ดูเหมือนว่าทุกคนจะได้เห็นจอมจักรพรรดิโบราณผู้ไร้เทียมทานและอยู่ยงคงกระพัน อยู่เหนือดวงดาวนับหมื่นไปทุกยุคทุกสมัย !
อยู่เหนือสรรพสิ่ง บนยอดที่เดียวดาย
ภายในร่างของยอดฝีมือผู้ทรงสง่า มีกระแสพลังอันเป็นนิรันดร์ แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เปล่าเปลี่ยว
ถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าทุกคนจะเข้าใจความหมายของความคิดนั้น
มองผ่านกาลชั่วนิรันดร์
ผู้จากไปมเห็นเบื้องหน้า ผู้ตามมามเห็นเบื้องหลัง
โดดเดี่ยวเดียวดายเหนือนภา !