จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活] - บทที่ 144 ราชาทองคำและสมบัติลับ
บทที่ 144 ราชาทองคำและสมบัติลับ
บทที่ 144 ราชาทองคำและสมบัติลับ
ดาร์กไม่คาดคิดมาก่อนว่าเอ็มม่าจะค้นพบที่มาของภาพจิตรกรรมฝาผนังได้ในเวลาอันสั้น เธอพบเครื่องหมายที่เสียหายตรงมุมของจิตรกรรมฝาผนัง แล้วจึงซ่อมแซมเครื่องหมายนั้นด้วยความช่วยเหลือจากรุ่นพี่สาว จากนั้นเธอก็ประเมินอายุของจิตรกรรมฝาผนังตามยุคที่ใช้เครื่องหมาย และต้องขอบคุณบันทึกประวัติศาสตร์ทั้งหมดที่มีอยู่ในห้องสมุดด้วยที่ทำให้เธอสามารถรู้ถึงประวัติศาสตร์ของจิตรกรรมฝาผนังได้
ภาพจิตรกรรมฝาผนังมีมาตั้งแต่สมัยโบราณเมื่อสี่ยุคก่อน รวมถึงมีการบันทึกเรื่องราวทั้งหมดไว้บนภาพเหล่านั้น
เอ็มม่าคัดลอกเรื่องราวลงในสมุดบันทึก
หลังจากที่ดาร์กพลิกดูสมุดอย่างระมัดระวัง เขาอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสับสนว่า “การล่มสลายของนครทองคำ?”
“ใช่” เอ็มม่าไตร่ตรองว่า “อันที่จริง ก่อนที่ฉันจะพบภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ ฉันก็มองหาข้อมูลเกี่ยวกับนครทองคำอยู่แล้ว ดังนั้นความคืบหน้าก็เลยเร็ว” ขณะพูดนั้นเธอก็ส่งหนังสืออีกเล่มให้
ดาร์กมองดูหนังสืออย่างใกล้ชิด เป็นนวนิยายชื่อ ‘ราชาทองคำและสมบัติลับ’
เขาสังเกตเอ็มม่ามานานแล้วว่า บางครั้งเธอก็อ่านชีวประวัติ ‘ราชาทองคำและสมบัติลับ’ ซึ่งมันเป็นหนังสือที่เธออ่านก่อนวันฮัลโลวีน
ดาร์กพลิกหน้าหนังสือผ่าน ๆ ทันใดนั้นเขาก็ชะงักไปเล็กน้อย “นี่คือเหตุผลว่าทำไมภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งแปดถึงปรากฏอยู่ในทางลับเหรอ?”
นวนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวการผจญภัยที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก และมีเนื้อหาอยู่ในช่วงหนึ่งของยุคทอง
เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า มาวันหนึ่งมีคนพบทรายปนทองคำในทะเลทราย หลังจากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป มันก็ดึงดูดนักขุดทองจำนวนนับไม่ถ้วน
โจชัว ตัวเอกของเรื่องผู้มาจากสลัมก็เป็นหนึ่งในนั้น
แม่ของโจชัวเสียชีวิตด้วยอาการป่วยเพราะไม่มีเงินซื้อยารักษา
เมื่อต้องมองแม่นอนหลับไปตลอดกาลด้วยความเจ็บปวด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โจชัวจึงบังเกิดความปรารถนาและความหลงใหลในเม็ดเงินอย่างแรงกล้า
เขาขโมยของ เล่นการพนัน และก่อการโจรกรรม วันคืนผันผ่านค่อย ๆ ชักนำให้เขาตกสู่ส่วนห้วงลึกของศีลธรรมอันชั่วร้าย
หลังจากรู้ข้อมูลเรื่องการค้นพบทรายทองคำในทะเลทรายแล้ว โจชัวก็ไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมการไล่ล่าทองคำอย่างบ้าคลั่ง
ทรายทองคำที่ผุดออกมาจากพื้นดินทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนร่ำรวยในชั่วข้ามคืน
ข้าทาส สุราชั้นเลิศ คฤหาสน์หลังใหญ่…
ทุกสิ่งที่อยู่ในจินตนาการ พลันกลายเป็นเรื่องง่ายไปในพริบตา
โจชัวเดินทางอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยระหว่างทะเลทรายกับตลาดเมือง ดื่มด่ำกับงานรื่นเริงทั้งวันทั้งคืน
จนกระทั่งวันหนึ่ง
ทะเลทรายที่มีทรายทองคำผุดออกมาก็พังถล่มลง และนักขุดทองทั้งหมดก็ตกลงไปในเมืองโบราณ
เมืองนั้นคือเมืองแห่งทองคำ ซึ่งเป็นเมืองหลวงสุดท้ายของนครทองคำ และในเมืองนี้เองที่ราชาทองคำ กษัตริย์แห่งนครทองคำได้หลับใหลไปชั่วนิรันดร์
นักโบราณคดีที่รอดตายได้ศึกษาจารึกบนพื้นที่ที่พวกเขาตกลงไป และบอกโจชัวกับนักขุดทองคนอื่น ๆ ว่าราชาทองคำได้ฝังสมบัติอันนับไม่ถ้วนไว้ในสุสานของเขาซึ่งเรียกกันว่า ‘สมบัติลับ’!
เพื่อที่จะค้นหาสมบัติลับของราชาทองคำ และกลายเป็นราชาทองคำยุคใหม่ โจชัวและนักขุดทองที่ถูกความโลภกลืนกินก็มุ่งลึกเข้าไปในเมืองโดยไม่ได้เตรียมตัวไว้
…
นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
ส่วนที่ว่าในที่สุดแล้วโจชัวได้สมบัติมาครองได้สำเร็จหรือว่าเขาจะหลงทางอยู่ใต้ดินอย่างถาวร
ดาร์กไม่ได้อ่านจนจบ
เขาวาง ‘ราชาทองคำและสมบัติลับ’ และหยิบสมุดบันทึกของเอ็มม่าขึ้นมาแทน
สมุดบันทึกมีข้อความที่คัดลอกมาจากเรื่องราวที่อธิบายไว้ในจิตรกรรมฝาผนัง นั่นคือ ‘การล่มสลายของนครทองคำ’
มีภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งหมดแปดภาพ
พวกมันถูกวาดด้วยวิธีการพรรณนาที่เป็นนามธรรมมากกว่า
ในภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพแรก เป็นภาพคนยากจนที่ขุดแร่จำนวนมากจากเหมือง
แร่ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่จริงแล้วเป็นทองคำ
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สองเป็นช่างตีเหล็กเปลือยท่อนบนที่หลอมแร่เป็นอิฐสี่เหลี่ยมมาตรฐาน อิฐสี่เหลี่ยมที่นี่คืออิฐทอง
ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สาม เป็นพ่อค้าที่สวมชุดสามัญซึ่งขายอิฐสี่เหลี่ยมให้แก่ขุนนาง
อันที่จริงพวกเขาไม่ใช่พ่อค้าหรือขุนนางธรรมดา ที่จริงแล้วพวกเขาเป็นสถาปนิกและข้าราชการ
และเพราะเป็นข้าราชการที่มาเก็บอิฐทองคำ ต้องกล่าวว่ามันเป็นคำสั่งของกษัตริย์เสียมากกว่า
ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สี่ ขุนนางสวมเสื้อผ้าหรูหราใช้อิฐสี่เหลี่ยมสร้างหอคอยเหนือแท่นบูชา
ภายใต้คำสั่งของกษัตริย์ ขุนนางเริ่มสร้างหอคอยทองคำ ซึ่งก็คือ ‘แท่นบูชา’ ที่สร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีบูชายัญ หรือไม่ก็ทั้งหอคอยทองคำนั่นแหละที่เป็นเครื่องสังเวย!
ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ห้า มนุษย์หลายพันคนกำลังสวดวิงวอนใต้แท่นบูชาเพื่อขอให้ ‘บางสิ่งบางอย่าง’ มาเยือนพวกเขา
ผู้คนก้มกราบลงหน้าหอคอยทองคำและเริ่มพิธีบูชายัญ
ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่หก สัตว์ร้ายยักษ์ที่เปล่งประกายเจิดจ้าโผล่ออกมาจากหลุมดำบนฟากฟ้าระหว่างพิธีบูชายัญ
อสูรเทวะทองคำตอบสนองต่อพิธีบูชายัญของมนุษย์และตื่นขึ้นจากการหลับใหล
ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เจ็ด อสูรเทวะทองคำส่งเสียงคำราม ก่อนจะกลืนกินเครื่องสังเวยและมนุษย์ทั้งหมด
ทุกคนและทุกสิ่งกลายเป็นเครื่องสังเวย
ในภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แปด เลือดมนุษย์และซากศพก่อตัวเป็นลวดลายแปลก ๆ บนพื้น ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของความตายอันเป็นนิรันดร์!
…
เรื่องราวนั้นเรียบง่ายมาก กษัตริย์ในเวลานั้นอัญเชิญพระเจ้าลงมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แต่ก็กลับถูกพระเจ้ากลืนกินในที่สุด
สิ่งที่เรียกว่า ‘พระเจ้า’ เดิมเป็นชื่อที่มนุษย์สร้างขึ้นสำหรับตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าทรงปัญญาที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ หรือเทพเจ้าที่ดุร้ายและอำมหิตซึ่งมีรูปร่างเหมือนอสูรร้าย ตัวตนทั้งหมดนั้นล้วนถูกเรียกเป็น ‘พระเจ้า’
ในสมัยโบราณ เนื่องด้วยความล้ำค่าและความอมตะของทองคำ มนุษย์จึงเชื่อมโยงมันกับ ‘นิรันดร์’ และสร้างสมการว่า ‘ทอง = นิรันดร์’
ราชาทองคำผู้มั่งคั่งทำตามสมการนี้และสร้างหอคอยทองคำถวายเป็นเครื่องสังเวยเพื่อแลกกับชีวิตนิรันดร์
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาล้มเหลว
ในที่สุดก็นำไปสู่การล่มสลายของนครทองคำ!
…
เอ็มม่าแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของเธออย่างตื่นเต้น
“นครทองคำมีชื่ออื่นในบันทึกทางประวัติศาสตร์ มันคือนิรันดร์นคร!”
“ราชาทองคำถูกเรียกว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่าแก่ที่สุดในบันทึกมากมาย เขากลั่นทองคำเพื่อแสวงหาชีวิตอันเป็นนิรันดร์ และนครทองคำก็เป็นเพียงผลพลอยได้จากกระบวนการวิจัยเท่านั้น”
“นครทองคำแต่เดิมเป็นอาณาจักรที่สร้างขึ้นจากความปรารถนา และในที่สุดก็ถูกทำลายโดยความปรารถนานั้น”
“อสูรเทวะดุร้ายที่แสดงในภาพจิตรกรรมฝาผนังไม่จำเป็นต้องเป็นพระเจ้าตัวจริง แต่อาจเป็นศูนย์รวมของความปรารถนา”
“และแก่นแท้ของภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งชุด ก็คือภาพจิตรกรรมฝาผนังสุดท้ายนี้เอง!”
“ฉันสงสัยว่ามันน่าจะเป็นวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์!”
…
“ราชาทองคำและสมบัติลับ การล่มสลายของนครทองคำ นักเล่นแร่แปรธาตุในยุคโบราณ–ราชาทองคำ และวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์ที่น่าสงสัย ซึ่งทำจากเลือดมนุษย์และซากศพ” ดาร์กอดไม่ได้ที่จะสงสัย
ตอนที่เขาคัดลอกภาพจิตรกรรมฝาผนังในทางลับ เขารู้สึกว่าจิตรกรรมฝาผนังที่แปดนั้นดูแปลกมาก เขาจึงพยายามอย่างเต็มที่ในการคัดลอก และเก็บรายละเอียดมาให้ได้มากที่สุด
แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังคงเป็นโครงการใหญ่มากในการฟื้นฟูวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์ที่สมบูรณ์ จากชุดภาพจิตรกรรมฝาผนัง
หรือพูดได้ว่า มันอาจจะเทียบเท่ากับวิชาในสถาบันทั้งหมดเลยก็ว่าได้!