จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活] - บทที่ 75 การ์ดทองอันสูงส่งของดาร์ก เดม่อน
บทที่ 75 การ์ดทองอันสูงส่งของดาร์ก เดม่อน
คราวนี้ มีการ์ดเวทมนตร์เปล่าราคาสิบคะแนนสองใบอยู่ในชุดวัตถุดิบด้วย
แต่นอกเหนือจากการ์ดสองใบนั้นแล้ว ยังมีวัตถุดิบอื่น ๆ อีกหลายอย่างรวมอยู่ในชุดวัตถุดิบด้วย นักเรียนแต่ละคนจะได้วัตถุดิบที่แตกต่างกันไป
หลังจากทบทวนบทเรียนไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดคาบเรียนก็เข้าสู่ภาคปฏิบัติ
ดาร์กคุ้นเคยกับกระบวนการสร้างแล้ว เพราะงั้นการเคลื่อนไหวของเขาจึงราบรื่นราวกับคลื่นน้ำ
เขาไม่ได้สนใจคนอื่นในตอนนี้ แต่เริ่มเตรียมน้ำผึ้งวิญญาณและน้ำสกัดกลีบสมองก่อน
คราวนี้ ด้วยเวลาน้อยกว่าสามสิบนาที ดาร์กก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการขัดเกลาขั้นพื้นฐานแบบสุ่มแล้ว
หลังจากที่เปิดใช้งานวงแหวนขัดเกลาเวทมนต์หมายเลข 1 เขาก็เริ่มเพิ่มสิ่งต่าง ๆ ลงไปอย่างเข้มงวดและจริงจัง!
ศาสตราจารย์เคเซอร์มาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขา
ไดแอนนาอยากเข้ามาดูด้วย แต่เพราะศาสตราจารย์ยืนอยู่ เธอจึงทำได้แค่เหลือบมองเท่านั้น
‘จากความน่าจะเป็น ยิ่งคุณสมบัติวัตถุดิบหลักทางชีวภาพใกล้เคียงกันมากเท่าไหร่ โอกาสสำเร็จก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น’
ดาร์กมองดูวัตถุดิบหลักสองสามอย่างที่วางอยู่ตรงหน้าเขา และเริ่มลังเลขึ้นมา
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อที่จะได้การ์ดดอกไม้มาไว้กับตัว เขาถึงกับซื้อวัตถุดิบที่ไร้ประโยชน์ไปมากมาย
นอกจากกระดองเต่า ‘อายุร้อยปี’ และเศษเกราะเวทในตอนแรกแล้ว มันยังมีวัตถุดิบอีกมากมายที่อธิบายไม่ได้ เช่น กำไลเปลือกหอย ตางู ลูกอมเวทมนตร์ และแมลงยักษ์
เมื่อเห็นว่าแสงของวงแหวนขัดเกลาเวทมนต์หมายเลข 1 เริ่มวูบไหว ดาร์กก็กัดฟันและเริ่มใส่วัตถุดิบหลักเกือบทั้งหมดลงไป
อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่ไร้ประโยชน์ วงแหวนขัดเกลาเวทมนต์หมายเลข 1 จึงกลืนกินพวกมันเข้าไปทั้งหมด!
เมื่อเห็นว่าแสงของวงแหวนขัดเกลาเวทมนต์เปล่งออกมาอย่างรุนแรงแล้ว ดาร์กกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก จู่ ๆ ศาสตราจารย์เคเซอร์กลับพูดขึ้นมาว่า “ถ่มน้ำลายใส่เข้าไป”
ดาร์กสะดุ้ง “หา?”
ศาสตราจารย์เคเซอร์ย้ำ “น้ำลายของมนุษย์ประกอบด้วยสารหลายอย่าง เมื่อมีวัตถุดิบหลักมากเกินไป การเติมน้ำลายลงไปอาจช่วยให้การเร่งปฏิกิริยาการขัดเกลาให้ดีขึ้น”
ดาร์กทำหน้าแปลก ๆ แต่เขายังทนต่อความน่าอับอายและถ่มน้ำลายเข้าไปในวงแหวนขัดเกลาเวทมนต์
นี่เป็นหนึ่งในความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ศาสตราจารย์เคเซอร์มีใช่ไหม?
…
สรุปแล้ว หลังจากที่ถ่มน้ำลายเข้าไป แสงของวงแหวนขัดเกลาเวทมนต์ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
หลังจากผ่านไปครึ่งนาที วัตถุดิบทั้งหมดก็ถูกดูดซับเข้าไป และจากนั้นก็เริ่มคายสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวของการ์ด
เก็บแก่นสำคัญและกำจัดของเสีย
นี่คือขั้นตอน ‘หัวใจหลัก’ ของวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์ขั้นพื้นฐานแบบสุ่ม
ครั้งสุดท้ายที่ใช้ขนแมวในการขัดเกลา ดาร์กล้มเหลวในขั้นตอนนี้ และทำการ์ดไหม้
แต่คราวนี้ แสงที่ส่องอยู่บนการ์ดเวทมนตร์นั้นชัดเจนขึ้นจนดูเหมือนว่ามันจะ ‘สำเร็จ’?
ทว่าในไม่ช้า การ์ดเวทมนตร์ก็เต็มไปด้วยสิ่งเจือปนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ดาร์กจ้องไปยังเนินเขาที่ดูราวกับสิ่งปฏิกูลขนาดเล็กผุดขึ้นมากลางอากาศด้วยสีหน้าพิกล
“เหม็น!!”
ไดแอนนาปิดจมูกพลางกระซิบ
โรสหันหน้าไปทางหน้าต่างเงียบ ๆ
ศาสตราจารย์เคเซอร์ถอยออกไปสองเมตร
กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นี้ดึงดูดความสนใจของทั้งห้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว
ดาร์กเอนหลังหนีอย่างงุ่มง่ามเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถอยออกห่างไป
…
“หมอนั่นยังเร็วเหมือนเดิม!”
เอ็มม่าขมวดคิ้วราวกับไม่เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้
มีกองเหรียญทองโบราณกองใหญ่อยู่ที่มุมโต๊ะของเธอ
…
“ล้มเหลวเหรอ?”
โรเบิร์ตถามพร้อมกับอ้าปากค้าง
เวอร์เธอร์ส่ายหัว “ไม่รู้สิ”
‘สมบัติ’ ที่ซื้อจาก ‘ร้านสิบคะแนน’ ถูกวางไว้บนโต๊ะของพวกเขา
อันที่จริง เวอร์เธอร์เฝ้าสังเกตดาร์กมาตั้งแต่ต้นแล้ว และเห็นกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่กองวัตถุดิบหลักที่ราคาอย่างน้อยสองสามร้อยคะแนนจนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่อีกฝ่ายทำ
จากนั้นเขาก็เหลือบมองที่กอง ‘สมบัติ’ ของเขาและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า
ช่องว่างระหว่างพวกเขากว้างขึ้นก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียอีก
หากก้าวแรกช้า ทุกย่างก้าวหลังจากนั้นก็ยิ่งจะช้ากว่า
หากตนยังพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ ช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็จะยิ่งกว้างขึ้นไปอีก
เหมือนกับการเป็นหนี้ ซึ่งมีแต่จะมากขึ้นและมากขึ้น
เวอร์เธอร์กัดฟันและเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาในทันใด “ในเมื่อน้ำลายได้ผล แล้วผม เล็บ กับส่วนอื่น ๆ ล่ะ”
แน่นอนว่าผมกับเล็บของคนทั่วไปนั้นไม่ดี
แต่เวอร์เธอร์รู้ว่าเขาเป็นคนพิเศษ บางที…เลือดที่สืบทอดมาจากวีรบุรุษอาจนำความสำเร็จมาให้เขาได้ล่ะมั้ง?
…
ตอนนั้นเอง การ์ดเวทมนตร์บนโต๊ะของดาร์กก็หยุด “ขับของเสีย”
ดาร์กกลั้นหายใจ แหย่แหนบเข้าไปในกองสิ่งสกปรก จากนั้นจึงค่อย ๆ ดึงการ์ดเวทมนตร์ออกมา จากนั้นนำไปวางไว้ใต้ก๊อกน้ำเพื่อล้างออกอย่างรวดเร็ว
ขณะที่คราบบนพื้นผิวถูกชะล้างออกไป มุมหนึ่งของการ์ดเวทมนตร์ก็ค่อย ๆ เปิดเผยออกมา
มันเป็นวงแหวนสีทองจาง ๆ!
ดาร์กมือสั่นเทา และเขาเกือบจะทำการ์ดหล่น
แม้ว่าเขาจะเคยใช้ [ราคะ III] เพื่อวิวัฒนาการอีบุยให้กลายเป็นการ์ดสีส้มที่มีสามสกิลมาก่อน แต่อันที่จริง การ์ดวิญญาณสองใบที่เขามีนั้นเป็นการ์ดสีน้ำเงินที่มีสกิลเพียงสกิลเดียว
นอกเหนือจากการจำแนกการ์ดวิญญาณตามจำนวนสกิลแล้ว พวกมันยังปล่อยวงแหวนเป็นสีที่สอดคล้องกันด้วย ซึ่งสามารถรับรู้ได้ด้วยตาเปล่า
แน่นอนว่า ‘สีทอง’ เป็นตัวแทนของการ์ดระดับทอง การ์ดที่มีสี่สกิล และเป็นการ์ดระดับสูงในหมู่การ์ดวิญญาณ
ก่อนที่ ‘การ์ดศักดิ์สิทธิ์’ ซึ่งมี ‘พลังศักดิ์สิทธิ์’ จะปรากฏขึ้น พวกมันถึงกับถูกเรียกว่าเป็นการ์ดศักดิ์สิทธิ์เองเลยด้วยซ้ำ!
ดาร์กไม่คิดเลยว่าตัวเองจะทำการ์ดสีทองได้จากกองขยะ!
เขาอดใจรอแทบไม่ไหว มือใช้ผ้าผืนหนึ่งเช็ดคราบสุดท้ายบนพื้นผิวของการ์ดออกไป และในที่สุดก็เห็นภาพสปิริตบนพื้นผิวของการ์ด!
สปิริตตัวนั้นมีหัวสีเหลืองเล็ก ๆ โผล่ออกมาจากเปลือกแข็งสีแดงราวกับหนอนตัวเล็ก ขาทั้งสี่เหลวเป็นเมือกเหมือนกับสไลม์ บนกระดองที่มีแปดรูคล้ายกับกระดองเต่า และตุ่มนูนบนกระดองเป็นวงกลมสีขาว หัวและแขนขาของมันยื่นออกมาจากรู ดูนุ่มนิ่มมาก
“ที่แท้ก็เป็นโกลเดนชัคคารุ!”
คำอุทานของศาสตราจารย์เคเซอร์ดังมาจากด้านหลัง
ดูเหมือนว่า <ชัคคารุ> จะถูกเลียนแบบเข้ามาในโลกนี้ด้วย
ดาร์กมองไปยังชัคคารุด้วยความประหลาดใจ นี่คือสุดยอดเกราะป้องกันที่เกินความคาดหมายของเขา!
[ชื่อการ์ด: ชัคคารุ]
[ประเภท: การ์ดวิญญาณ]
[ระดับ: ✪✪✪]
[เผ่าพันธุ์: ประเภทแมลง]
[คุณสมบัติ: หิน]
[พลังเวทมนตร์: 900 หน่วย]
[พลังโจมตี: 0 หน่วย]
[พลังป้องกัน: 2200 หน่วย]
[ท่าไม้ตาย: แข็งตัว แบ่งพลัง แบ่งการป้องกัน ลูกหลอก]
…
‘อีบุยยังมีอยู่ในโลกนี้แล้วการมีชัคคารุจะแปลกอะไร?’
‘การ์ดสามดาวที่มีพลังป้องกันสองพันสองร้อยหน่วย? …แต่นี่คือค่าพลังที่ชัคคารุควรมีอยู่ดี’
‘ท้ายที่สุด วิญญาณกระดูกขาว 3 ดาว มีพลังโจมตี 0 หน่วย พลังป้องกัน 2200 หน่วย นักรบโล่ 4 ดาว มีพลังโจมตี 100 หน่วย พลังป้องกัน 2600 หน่วย โล่เงิน 5 ดาว มีพลังโจมตี 0 หน่วย พลังป้องกัน 3000 หน่วย เป็นเรื่องปกติมาก!’
ดังนั้น
ดาร์กหันกลับมาถามอย่างไร้เดียงสา “ศาสตราจารย์ครับ นี่เป็นสปิริตที่หายากหรือเปล่า?”