จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 57
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 57 ระบบสัตว์เลี้ยง
จุดอ่อนของมันอยู่ที่ส่วนท้อง มีดทั้งสองจ้วงแทงใส่ท้องของราชสีห์เนตรโลหิตจนทำให้พลังชีวิตของมันลดเหลือหมื่นกว่าจุด พลังชีวิตของมันยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และคงอีกไม่นานก่อนที่มันจะตาย
เลือดที่ไหลรินจากท้องของมันเจิ่งนองอยู่ทั่วพื้น ตั้งแต่เมื่อใดกันที่สัตว์ปีศาจระดับหกเช่นมันต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้?
มันไม่รู้ว่าตัวเองโชคร้ายหรือว่าฉินเทียนนั้นโชคดีเกินไปกันแน่
มันต้องตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากจากการคลอดลูก สถานการณ์เช่นนี้เพียงพบเห็นได้ในรอบร้อยปีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ฉินเทียนกลับมาพบกับมันโดยบังเอิญ ฉินเทียนตื่นเต้นอย่างมาก “อย่าบอกนะว่าเรามีสิ่งของที่สามารถเพิ่มโชคอยู่?”
หากว่าไม่มี เช่นนั้นเขายังจะดวงดีเช่นนี้หรือ?
การโจมตีครั้งนี้ทำให้ราชสีห์เนตรโลหิตหมดเรี่ยวแรงต่อสู้ ทักษะคลุ้มคลั่งของฉินเทียนยังเหลือเวลาอีกราว 2 นาที ยังคงมีเวลาให้โจมตีได้อีกหลายครั้ง
แม้ฉินเทียนจะรู้สึกลังเล ทว่าเขาก็ยังโจมตีต่อไป
แก่นของสัตว์ปีศาจระดับหกนั้นดีกว่าแก่นระดับห้า ทั้งยังทรงพลังกว่า แก่นปีศาจนั้นเป็นสิ่งที่ฉินเทียนต้องการอย่างยิ่งเทียบเท่ากับการมีแหล่งพลังปราณสำรอง เขาไม่อาจไว้ชีวิตมันเพียงเพราะเห็นอกเห็นใจ
เขาไม่ใช่คนใจดีแต่อย่างใด ทั้งยังไม่รู้สึกหน้าบางกับการกระทำเช่นนี้
เขาไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนดีอะไรอยู่แล้ว ทุกสิ่งที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อเขา เขาจะพยายามทุกหนทางเพื่อคว้ามันมา
หลังโจมตีที่ส่วนท้องอีกหลายครั้ง จากค่าพลังชีวิตหลักหมื่นก็ลดเหลือหลักพัน
ราชสีห์เนตรโลหิตพยายามดิ้นรนและใช้แรงเฮือกสุดท้ายคลอดลูกของมัน
วินาทีที่ราชสีห์ตัวน้อยร่วงลงบนพื้น แววตาของราชสีห์เนตรโลหิตก็กลายเป็นเว้าวอนขอร้องให้ฉินเทียนละเว้นชีวิตลูกน้อยของมัน
ฉินเทียนมองดูเจ้าตัวน้อยที่นอนอยู่ในบ่อโลหิตและพยักหน้ารับ
ราชสีห์เนตรโลหิตจับจ้องมองลูกของมันเป็นครั้งสุดท้าย แววตาที่ใกล้สิ้นประกายทอแววห่วงหาอาทรก่อนจะเปลือกตาจะปิดลง จากนั้นร่างของมันก็นิ่งไป
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่นฉินเทียนที่สามารถสังหารมอนสเตอร์ระดับหก ราชสีห์เนตรโลหิต ได้รับค่าประสบการณ์ 30,000 หน่วย ค่าพลังปราณ 1,000 จุด ค่าการรอดชีวิต 100 จุด…”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่นฉินเทียนที่ได้รับราชสีห์เนตรโลหิตเป็นสัตว์เลี้ยง…”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่นฉินเทียนที่สามารถทะลวงผ่านสู่ขอบเขตขั้นรวบรวมวิญญาณ….”
ข้อความจากระบบดังขึ้นอย่างถี่รัว มันทำให้ฉินเทียนมีความสุขอย่างที่สุด เขาล่ะชอบเสียงเหล่านี้จริงๆ ตอนนี้คเขาคล้ายกับลืมเลือนไปแล้วว่าเขาเพิ่งสาปแช่งระบบมาตั้งแต่เมื่อวาน
ทันใดนั้นดวงตาของฉินเทียนก็เบิกโพรงและโพร่งออกมา “สัตว์เลี้ยง?”
“มันอะไรกัน?”
“เราจะมีสัตว์เลี้ยงได้อย่างไร?”
“เว้นแต่ว่า…เราจะมีระบบสัตว์เลี้ยง?”
ฉินเทียนรีบเปิดระบบขึ้นดู มันมีแถบ ‘สัตว์เลี้ยง’ อยู่ เขาเปิดระบบสัตว์เลี้ยงและมองเห็นค่าสถานะของราชสีห์เนตรโลหิตแสดงอยู่
สัตว์เลี้ยง: ราชสีห์เนตรโลหิต(สายต่อสู้)
ระดับ: 1
พลังชีวิต: 100
พลังปีศาจ: 10
สถานะ: อ่อนแอ
ความสามารถ: บอลลม(เป้าหมายเดี่ยว)
เพิ่มเติม:
การเติบโต: ต้องการอาหาร ไม่สามารถยกเลิกพันธะ ไม่สามารถปลดปล่อย สัตว์เลี้ยงอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ต้องการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของ
“ภาระชัดๆ”
ฉินเทียนเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง ลำพังแค่ตัวเขาเองก็ยังเอาไม่รอด มาตอนนี้เขากลับมีสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นมาอีกตัว นี่มันอะไรกัน?
เขาไม่มีทางเลือกใดๆ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไม่สนอะไรแล้ว ประการแรกคือนำแก่นปีศาจออกมาก่อน เมื่อคิดถึงแก่นปีศาจที่มีถึงสองแก่นแล้วเขาก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง
ชัดแล้วว่าราชสีห์เนตรโลหิตได้สังหารสัตว์ปีศาจระดับห้าไป แก่นที่นำออกมานั้นมีลักษณะดุจเดียวกับแก่นของกอลิล่าดุร้าย ดูเหมือนว่าราชสีห์เนตรโลหิตคิดจะมอบแก่นปีศาจชิ้นนี้ให้กับลูกของมัน หลังจากทำความสะอาดมันแล้วเขาก็นำมันเก็บเข้าแหวนมิติ จากนั้นจึงเริ่มขุดแก่นปีศาจของราชสีห์เนตรโลหิตตัวแม่ ขนาดของมันค่อนข้างใหญ่กว่าเล็กน้อย เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังสายหนึ่งที่แผ่ซ่านออกมา มันเป็นสายลมอ่อนๆสายหนึ่ง
ในความเป็นจริงนั้น สายลมที่หมุนวนอยู่รอบแก่นนี้เป็นความสามารถธาตุลมของราชสีห์เนตรโลหิต หลังจากผ่านการบ่มเพาะมาหลายสิบปี มันก็รวบรวมธาตุลมเข้าสู่แก่นของมัน ทั้งยังห่อหุ้มมันไว้ด้วยสายลม
ด้วยสองแก่นที่มีอยู่ในครอบครองตอนนี้ มันทำให้ฉินเทียนรู้สึกมีความสุข แก่นหนึ่งไว้มอบให้เฮยหยาน ส่วนอีกแก่นเก็บไว้ใช้เอง
การเดินทางในภายภาคหน้าสมควรสะดวกราบรื่นเมื่อมีแก่นเหล่านี้
โฮ่ว โฮ่ว โฮ่ว
มีเสียงร้องดังขึ้นจากแทบเท้าของฉินเทียน เมื่อก้มลงมองดู เขาก็เห็นลูกราชสีห์เนตรโลหิตกำลังเลียคราบเลือดที่ติดอยู่บนรองเท้าของเขา เมื่อสัมผัสถึงสายตาที่จ้องมอง มันก็เงยหน้าขึ้นมองฉินเทียนและยิ้มสร้างความสนิทสนม
ดวงตาที่กลมโต ขณะที่รอบคอของมันมีแผงคอเล็กๆอยู่ นี่ทำให้มันดูน่ารักราวกับลูกสุนัขตัวน้อย
ตอนนี้เจ้าตัวเล็กตัวเปียกโชก หลังจากคลอดออกมามันก็เริ่มเลียทำความสะอาดขนก่อนจะหันหัวมองไปรอบตัวด้วยความสนใจใคร่รู้ สุดท้ายสายตาของมันก็จับจ้องอยู่ที่จุดหนึ่ง เป็นฉินเทียน…มันพยายามทักทายเขาอย่างตื่นเต้น มันพยายามก้าวเตาะแตะอยู่หลายครั้งก่อนที่ในที่สุดมันจะสามารถทรงตัวได้อย่างมั่นคง
เมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กมองมาอย่างใสซื่อ ฉินเทียนก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาได้ฆ่าแม่ของมันและปล่อยให้มันต้องเผชิญกับโลกที่โหดร้ายนี้เพียงลำพัง เมื่อหวนนึกถึงสายตาสุดท้ายจากแม่ของมันแล้ว ฉินเทียนก็ย่อตัวอุ้มมันขึ้นมาอย่างเบามือ “เจ้าตัวน้อย นับแต่วันนี้ เจ้าก็ติดตามข้าแล้วกัน”
ราวกับว่ามันสามารถเข้าใจในสิ่งที่เขากล่าว มันแลบลิ้นเลียหลังมือของฉินเทียนและฉีกยิ้มให้เขา
“สัตว์เลี้ยงงั้นหรือ?”
“โลกใบนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าไม่ยังทราบ”
ฉินเทียนหัวเราะพลางกระชับอ้อมกอดและวิ่งกลับไปยังถ้ำ
ตลอดทางขากลับ เจ้าตัวเล็กดูจะตื่นเต้นอย่างมาก มันส่งเสียงประหลาดๆและพยายามจะเรียกร้องความสนใจจากฉินเทียน เมื่อเห็นว่าฉินเทียนไม่สนใจมัน มันก็ส่งเสียงร้องอย่างสนุกสนานไปตลอดทาง
ฉินเทียนเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมา จะอย่างไรเสียแม่ของมันก็เป็นสัตว์ปีศาจระดับหก แล้วเหตุใดมันจึงคลอดเจ้าตัวเล็กที่เปราะบางและอ่อนแอนี้ออกมากัน? ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นตัวป่วน!
อืม ไม่แปลกใจเลยที่แม่ของมันจะสามารถคำรามได้ทรงพลังถึงเพียงนั้น นั่นสมควรเป็นเพราะมันฝึกส่งเสียงร้องวุ่นวายตั้งแต่เล็ก
สัตว์เลี้ยงก็คือสัตว์เลี้ยง เมื่อเฮยหยานจากไป เขาก็จะเหลือตัวคนเดียวในเทือกเขาแห่งนี้ เขาย่อมไม่มีกระจิตกระใจจะพูดคุยกับตัวเอง แน่นอนว่านั่นต้องเป็นช่วงเวลาที่เหงาและหว้าเหว่ยิ่ง ทว่าโชคของเขากลับยังไม่เลว ด้วยเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนนี่ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
เมื่อคิดไปถึงการปรุงยา ห้วงความคิดของฉินเทียนก็ชะงักกึก จากนั้นรอยยิ้มของเขาก็ค่อยๆฉีกกว้างขึ้น “สุดท้ายเราก็มีหนูลองยาแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า….”
ราวกับว่าเจ้าตัวเล็กสามารถล่วงรู้ความคิดของฉินเทียน ร่างของมันเริ่มสั่นเทิ้มขณะมองฉินเทียนด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
ฉินเทียนฉีกยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าตัวน้อย เมื่อติดตามข้าข้าก็จะให้เจ้าได้กินอย่างอิ่มหนำสำราญ ฮ่าฮ่าฮ่า….”
เมื่อได้ยินเสียงชั่วเราะที่แฝงสำนึกชั่วร้ายเอาไว้ เจ้าตัวเล็กก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เสียงร้องที่ดังขึ้นมาตลอดทางก็พลันเงียบหายไป
ฉินเทียนนึกได้ว่าเขาควรตั้งชื่อให้กับมัน แต่หลังจากใคร่ครวญอยู่นาน เขาก็ยังนึกชื่อดีๆไม่ออก มองดูดวงตาสีแดงและแผงคอเล็กๆนั่นแล้ว ฉินเทียนก็พลันกล่าวว่า “นับแต่นี้ เจ้าเรียกว่า ‘มาว*’ แล้วกัน”
*ภาษาจีนแปลว่า แมว
ราชสีห์เนตรโลหิตนั้นเป็นสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังอย่างมาก การตั้งชื่อให้มันว่า ‘มาว’ นั้นถือว่าสิ้นคิดยิ่ง เจ้าตัวเล็กรีบส่ายหัวปฏิเสธอย่างรุนแรง แม้ว่าตอนนี้มันอาจจะอ่อนแอสุดๆ แอต่อย่างไรเสียโลหิตในกายของมันก็ไหลเวียนด้วยพลังของราชสีห์เนตรโลหิตที่เป็นสัตว์ปีศาจระดับหก เช่นนั้นแล้วมันยังจะทนใช้ชื่อที่อ่อนแอเช่นนี้ได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธของมันไม่เกิดผลแต่อย่างใด
ฉินเทียนไม่ได้สนใจมัน นี่เป็นเพราะว่าชื่อนี้ของมันเรียกง่ายดี…