จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 66
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 66 ร่างต่อสู้
การเดินทางของหยางฮั่นจบลงด้วยมือเปล่าและยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน
หยางฮั่นประมาทเกินไปในการต่อสู้กับฉินเทียน หากไม่ได้ชุดเกราะปีศาจโลหิตสงคราม อาจจะเป็นฉินเทียนเสียเองที่ต้องพ่ายแพ้หลบหนี
แถบพลังชีวิตของฉินเทียนลดลงไปกว่าครึ่ง
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้ประมือกับผู้บ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณ ทั้งกดดันทั้งตึงมือยิ่ง มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดราวกับชีวิตของเขาถูกผู้อื่นยึดกุมไว้
หลังจากที่หยางฮั่นหลบหนีไปแล้ว ฉินเทียนก็ตัดสินใจจะทะลวงไปขั้นกลั่นวิญญาณให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้น แม้เวลาสามปีจะสิ้นสุดลง ตัวเขาก็จะไม่กลับตระกูลฉิน ตัวเขาในเวลานี้ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของฉินเซี่ยงเทียน นอกจากนี้ ยังมีฉินซานเทียนอีกผู้หนึ่งที่ต้องพึงระวัง
“พี่ใหญ่หลิน เชียนหานอยู่ตรงนี้….”
ฉางเฟิงตะโกนเรียก หยินหยานสะท้าน หลังจากชำเลืองมองฉินเทียนแวบหนึ่งก็พุ่งร่างจากไป
มาว มาว
มาวมาวกระโดดมาอยู่ข้างกายฉินเทียน นัยน์ตาของมันมีแสงสีทองวูบผ่าน สายตาของมันจับจ้องไปที่แก่นภายในของราชาซากศพเขม็ง ความตื่นเต้นที่แสดงออกแทบจะบ่งบอกออกมาเป็นคำพูด
ฉินเทียนไม่เคยเห็นมันตื่นเต้นถึงเพียงนี้มาก่อน เขาจึงย่อตัวลงก่อนจะเอ่ยถาม “เป็นไร ต้องการเจ้านี่หรือ?”
มาวมาวพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าวสาร
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฉินเทียนก็ยักไหล่ “ก็ได้ เอาไปสิ…”
ทว่าก่อนที่เขาจะทันพูดจบ มาวมาวก็ปีนมือของเขาแล้วเขมือบแก่นภายในเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงหันมาจ้องฉินเทียนตาแป๋ว…..
ฉินเทียนกลอกตา ขณะที่ทำได้แค่ตำหนิ “เจ้านี่มันใจร้อนจริงๆ”
ฉินเทียนจ้องมองมาวมาว เขาคาดหวังว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างเช่นตัวใหญ่ขึ้น กระนั้นเขากลับต้องผิดหวัง
แม้แต่หยางฮั่นก็ยังต้องการแก่นภายในนี้ ชัดเจนว่ามันจะต้องล้ำค่าอย่างมาก แต่หลังจากมาวมาวได้กินเข้าไปแล้ว ไฉนไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย? ฉินเทียนไม่เข้าใจ เขาแอบรู้สึกเสียดายของขึ้นมา แม้แต่คุณสมบัติของมันเขาก็ยังไม่ทันได้เห็น สุดท้ายจึงอดสบถออกมาไม่ได้ “ไอ้ตัวตะกละเอ๊ย!”
มาวมาวแยกเขี้ยวยิงฟัน มันส่งเสียงร้องเพื่อหวังประจบเอาใจเจ้านายขี้โมโหของมัน แน่นอนว่าฉินเทียนไม่สนใจ ตอนนี้ที่เขาสนใจก็คือคุณสมบัติของเกราะปีศาจโลหิตสงคราม ในพื้นที่ของระบบ แสงสีแดงกระพริบวูบก่อนจะหมุนอย่างช้าๆ จากนั้นคุณสมบัติของมันก็ถูกแสดงออกมา
เมื่อเห็นคำ ‘ชุดเกราะวิญญาณระดับสูง’ ฉินเทียนก็อิ่มเอมใจ จากนั้นจึงหันไปสนใจหนังสือที่ได้รับมา พลันฉินเทียนก็กำหมัดแน่น เขาฝึกมันไม่ได้เพราะมีค่าบาปไม่เพียงพอ!
“บัดซบ ต้องใช้ค่าบาปตั้งห้าร้อยหน่วย ตอนนี้ข้ามีเพียงสิบกว่า แล้วเมื่อไรข้าจะได้ฝึกกันเล่า?” ฉินเทียนบ่นกระปอดกระแปด ในใจรู้สึกขุ่นมัวอย่างที่สุด จากนั้นจึงค่อยไปตรวจดูไอเท็มชิ้นสุดท้าย มันคือ หยดโลหิตจ้าวปีศาจ ส่วนข้อมูลที่ถูกแสดงขึ้นนั้น…..
“ท่านลุงระบบ ท่านล้อข้าเล่นหรือ? ท่านให้ข้าไปหาปรมาจารย์นักประเมินเพื่อดูคุณสมบัติของมันเนี่ยนะ?”
ฉินเทียนทอดถอนใจ เขาได้ไอเท็มมาสามอย่าง สองอย่างใช้การไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูไปที่ชุดเกราะแล้ว เขาก็รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง เมื่อมีเกราะระดับสูงเช่นนี้คอยปกป้อง กระทั่งสัตว์ปีศาจระดับห้าเขาก็ไม่ต้องกลัวพวกมันแต่อย่างใด
ขณะที่กำลังจะปิดหน้าต่างระบบลงไปนั้น เขาก็นึกขึ้นได้ว่าสัตว์เลี้ยงของเขากลืนกินแก่นภายในเข้าไป ดังนั้นจึงเปิดไปที่เมนูสัตว์เลี้ยง เมื่อเห็นว่าค่าสถานะของมาวมาวไม่เปลี่ยนแปลง ในใจเขาก็รู้สึกผิดหวัง รู้เช่นนี้ไม่ให้มันกินซะก็ดี เสียของเปล่าๆ แต่ถึงบ่นไป แก่นภายในนั้นก็นำกลับมาไม่ได้แล้ว
ขณะที่กำลังจะปิดหน้าต่างระบบ ที่มุมสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นบางสิ่ง “ร่างต่อสู้?”
“ไอ้นี่มันมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
เขารีบเปิดมันโดยไม่ต้องคิด
“โฮก…..”
เกิดเสียงคำรามดังกึกก้องฟ้า พวกนกกาบินหนีด้วยตวามตกใจกลัวจนเกือบทำให้ฉินเทียนหงายหลัง “เอ๊ะ นี่มันเสียงคำรามของราชสีห์เนตรโลหิตไม่ใช่หรือ?”
เขาหันไปตามเสียง ก่อนจะพบว่าห่างออกไปไม่ไกล มีราชสีห์เนตรโลหิตตัวหนึ่งยืนอยู่พร้อมกับกลิ่นอายอันตราย ฉินเทียนลุกขึ้นพรวดตั้งท่าจะหนีสุดชีวิต ราชสีห์เนตรโลหิตตัวนี้อยู่ในขั้นโตเต็มวัย มันสมควรมีระดับหกเท่ากับตัวที่เขาได้ฆ่าไป เจอสัตว์ปีศาจระดับหกเช่นนี้ ใครจะไปอยู่ให้โง่กันล่ะ?
ก้าวเดียวเคลื่อนห่างไปสิบกว่าก้าว ก้าวเท้าเพียงไม่กี่ครั้ง เขาก็สลัดหลุดเจ้าปีศาจร้ายกาจนั่น ฉินเทียนไม่สบายใจ เขาหันกลับไปข้างหลังและสบประสานสายตากับราชสีห์เนตรโลหิตที่แยกเขี้ยวพลางจ้องมองมา ไอ้ท่าแยกเขี้ยวยิงฟันนี่มันช่างคุ้นซะเหลือเกิน มันเป็นรอยยิ้มน่ารังเกียจของมาวมาว!
ฉินเทียนตกตะลึง เมื่อคิดถึงมาวมาว ในใจก็รู้สึกยินดี “มาวมาว?”
ราชสีห์ตัวใหญ่รีบพยักหน้าถี่ๆ จากนั้นมันจึงกระดิกหางวิ่งเข้ามาหาเขา พื้นดินบังเกิดแรงสั่นสะเทือนราวกับมีช้างโขลงหนึ่งวิ่งผ่าน
“ฮ่าฮ่า มันพัฒนาแล้ว”
ฉินเทียนแทบจะโห่ร้อง แก่นภายในของราชาซากศพช่างทรงพลังจริงๆ เพียงกลืนมันเข้าไปถึงกลับปลดล็อคความสามารถร่างต่อสู้ของมาวมาว จู่ๆเขาก็คิดได้ถึงบางสิ่ง เขามองดูร่างกายของมาวมาว มันจะเป็นเช่นหมอนปักผ้าหรือไม่ ดีเพียงรูปลักษณ์แต่หาประโยชน์ไม่ได้?
เมื่อไม่เห็นสัตว์ปีศาจในบริเวณใกล้เคียงให้ทดสอบ ในใจของเขาก็รู้สึกพลุ่งพล่าน อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังจะโห่ร้องอย่างยินดีนั้น ร่างกายของมาวมาวก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มันกลับไปตัวเล็กกระจิ๋วหลิวดังเดิม
“เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้น?” เขาเปิดหน้าต่างระบบขึ้นดู ก่อนที่จะนิ่งไป ร่างต่อสู้สามารถใช้ได้เพียงหนึ่งนาที แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือ มันใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อวัน
“ถล่มมารดามัน! ไอ้ร่างต่อสู้สิบแปดมงกุฏ! เจ้าล้อข้าเล่นหรือไร?”
ฉินเทียนกุมอกอย่างเจ็บช้ำรันทด ดูเหมือนมาวมาวจะเข้าใจความรู้สึกของเขา ดังนั้นมันจึงค่อยๆแอบย่องหนีห่าง ไม่กล้าอยู่ใกล้ฉินเทียน
“ชิ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ฮึ่ม แก่นภายในกลับถูกใช้ไปกับเรื่องเช่นนี้….”
ฉินเทียนไม่สนใจอีกต่อไป ขณะที่ฉินเทียนกำลังจะจากไปนั้นเอง หลินหยานและกลุ่มของเขาก็เดินเข้ามา ฉินเทียนพลันตื่นตัวทันที
“สหาย เมื่อครู่เพียงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ข้าต้องขออภัยจริงๆ” หลินหยานประสานมือขอโทษอย่างจริงใจ
ฉินเทียนหัวเราะ “ไม่เป็นไร”
ทันใดนั้น ฉินเทียนก็สัมผัสได้ถึงสายตาอันเผ็ดร้อนที่จ้องมองมา ฉินเทียนเบนสายตาไปมองยี่เชียนหานก่อนจะหน้าแดง คิดถึงตอนชมดูภูเขาทั้งสองในระยะประชิดแล้ว หัวใจของเขาก็กระหน่ำเต้นรัว ลำคอเกิดแห้งผากขึ้นมา จิตสังหารอันเข้มข้นจับจ้องมองมาที่เขาเขม็ง….
แววตาเย็นเยียบของเชียนหานถึงกับทำให้ฉินเทียนหลั่งเหงื่อเย็น แม้ว่านางจะหน้ามืดไป กระนั้นก็ยังรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หน้าอกของนางถูกอีกฝ่ายลูบแล้วลูบอีก คลึงแล้วคลึงอีก แต่แน่นอนว่านางย่อมไม่กล้าเอ่ยออกมา ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งรู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
“ขอบคุณที่ช่วยเชียนหาน หากไม่ได้เจ้า พวกเราอาจจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้ว พวกเราต้องตอบแทนบุญคุณนี้แน่นอน”
หลินหยานประสานมือขอบคุณอีกครั้ง นี่ทำให้ฉินเทียนรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย หากไม่ได้เครื่องรางปัดเป่าปีศาจของยี่เชียนหานแล้ว เขาก็คงไม่อาจจัดการราชาซากศพได้ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงไอเท็มสามชิ้นที่ได้รับมา
นอกจากนี้ เขายังเอาเปรียบนาง
เขาแย่งชิงแก่นภายในมา ทำให้ภารกิจของพวกหลินหยานต้องล้มเหลว เขาต้องการจะมอบแก่นภายในนั่นให้ก็ทำไม่ได้แล้ว ของสิ่งนั้นถูกมาวมาวกินเข้าไปแล้ว หรือยังต้องผ่าท้องเอาออกมา?
ฉินเทียนยิ้มเจื่อน “ภารกิจของพวกท่านล้มเหลว นี่ไม่ใช่ว่าพวกท่านต้องกลับบ้านมือเปล่าหรือ?”
“เฮ้อ แต้มผลงานหนึ่งพันคะแนนแลกกับเครื่องรางปัดเป่าปีศาจสองชิ้น ทั้งยังเสียเวลานับเดือนเพื่อหาที่นี่ ขาดทุนนัก ลงทุนลงแรงไปตั้งมาก สุดท้ายกลับไม่ได้สิ่งใดตอบแทน” ฉางเฟิงพึมพำพลางส่ายศีรษะอย่างจนใจ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาคงไม่อาจอยู่ในสำนักเทียนจี๋
ทีแรกคิดว่าพวกเขาจะร่ำรวยขึ้นหลังจบภารกิจ ทว่าผลสุดท้ายกลับลงเอยเช่นนี้เสียได้
ฉินเทียนต้องการจะช่วย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาได้แต่หัวเราะแห้งๆอยู่หลายครั้ง