จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 89
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 89 ถ้ำหมื่นปีศาจ
สำหรับฉินเทียนแล้ว การเลื่อนระดับก็คือการสังหารสัตว์อสูรเพื่อเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์ มิเช่นนั้นฝึกให้ตายก็ตัดผ่านไปขั้นกลั่นวิญญาณไม่ได้
หลังจากพักอยู่สามวันเต็มๆ สภาพร่างกายของเขาก็ดีขึ้น บาดแผลปิดสนิท อาการบาดเจ็บภายในทุเลาลง เมื่อผ่านแรงกดดันของหยางฮงมาได้ ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น เช่นเดียวกับความเข้าใจในกลิ่นอายนักล่า
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา แก่นทั้งสามภายในร่างของเขาคอยเติมพลังปราณให้อย่างไม่หยุดหย่อนจนทำให้ค่าพลังปราณของเขากลับมาเต็มเปี่ยม ฉินเทียนคิดจะออกไปล่าสัตว์อสูรที่ภายนอกเพื่อไม่ให้เป็นการใช้เวลาโดยเสียเปล่า ตอนนี้อวิ๋นม่านยังคงอยู่ในกำมือของหยางฮง
แม้ว่าสถานการณ์ของอวิ๋นม่านตอนนี้จะไม่ได้ถึงขั้นคอขาดบาดตาย แต่ทุกคราที่นึกถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตาของนางแล้ว หัวใจของเขาก็เจ็บแปลบขึ้นมา เขาไม่ต้องการเสียเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว
เมื่อสภาพร่างกายดีขึ้น เขาก็อยากจะพุ่งออกจากถ้ำไปล่าสัตว์อสูร ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเหลียนคอยห้ามปรามไว้ ตอนนี้เขาคงออกไปล่านานแล้ว
“เทียนเอ๋อ ร่างกายของเจ้ายังไม่หายดี พักฟื้นอีกสักสองสามวันเถอะ” ฉินเหลียนกล่าวอย่างปวดใจ
“ท่านน้าโปรดวางใจ ร่างกายของข้าไม่มีปัญหาแล้ว” ฉินเทียนซาบซึ้งใจ แม้หลายวันที่ผ่านมาจะต้องเจ็บปวดไปทั้งร่าง กระนั้นมันกลับทำให้เขารู้สึกว่าตนเองโชคดีและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“อย่างนั้นให้น้าไปกับเจ้าด้วย” ฉินเหลียนกล่าวขึ้น “หุบเขาเสวียนคงแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังงานชั่วร้าย บางทีอาจจะมีวิญญาณชั่วร้ายสิงสถิตย์อยู่ หากปล่อยเจ้าไปตามลำพังน้าคงไม่วางใจ”
ฉินเทียนเพียงอยู่ในระดับเก้าขั้นรวบรวมวิญญาณ เพียงปล่อยเขาไปลำพังฉินเหลียนก็ไม่สบายใจแล้ว ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้ายแห่งนี้ ในตอนนั้นด้วยเพราะไม่มีทางเลือก นางจึงจำต้องหลบซ่อนอยู่ที่นี่ก่อน
โดยปกติแล้วคงไม่มีผู้ใดกล้าย่างกายมาที่นี่ ลือกันว่าในช่วงสงครามระหว่างเทพและปีศาจ มีปีศาจมากมายที่ถูกสะกดเอาไว้ภายใต้หุบเขาแห่งนี้ ที่นี่มีพลังงานชั่วร้ายซึมผ่านพื้นดินขึ้นมา ผู้ที่ไม่ได้ครอบครองพลังหยินจะถูกปีศาจเข้าครอบงำ
“ท่านน้าโปรดวางใจ ข้าดูแลตัวเองได้” ฉินเทียนเวลานี้คิดแต่จะเพิ่มเลเวลให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยไม่สนใจผลที่ตามมา เขาต้องการจะทะลวงผ่านไปขั้นกลั่นวิญญาณอย่างเร่งด่วน
หากว่าฉินเหลียนที่ติดตามไปได้เห็นเขาต่อสู้โดยเอาชีวิตเข้าแลก นางจะต้องกังวลอย่างแน่นอน และฉินเทียนไม่ต้องการให้นางต้องเป็นเช่นนั้น
สุดท้ายฉินเหลียนก็ต้องยอมแพ้ นางนำเอาเครื่องรางสีทองออกมาสองชิ้นและกล่าวว่า “นี่เป็นเครื่องรางมิติลี้ภัย ขอเพียงฉีกมัน เจ้าก็จะสามารถหลบหนีได้ด้วยอาคมที่วางเอาไว้ภายในนั้น”
ฉินเทียนรับมาโดยไม่ปฏิเสธ ในใจของเขาเกิดความปั่นป่วน ยันต์มิติลี้ภัย เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นโดยผู้บ่มเพาะที่เชี่ยวชาญในกฏแห่งมิติ เมื่อมีมันอยู่ คนผู้นั้นก็จะสามารถหนีรอดจากอันตราย ถือเป็นยันต์ช่วยชีวิตอย่างแท้จริง
‘ถึงงั้นก็เถอะ ถ้ามนุษย์ผู้หนึ่งสามารถหลอมสร้างสิ่งของได้โดยการใช้กฏ เช่นนั้นถ้าข้าใช้กฏแห่งนักล่าที่ข้าเรียนรู้ได้แล้วสร้างสิ่งของขึ้นมาล่ะ? ระบบ เจ้าจะไม่บอกอะไรข้าหน่อยเหรอ? ท่านลุงระบบเอย ท่านไม่ชั่วร้ายไปหน่อยเหรอ?’ ฉินเทียนสาปแ่ชงระบบอยู่ในใจก่อนจะออกจากถ้ำไป
ความอันตรายของหุบเขาเสวียนคงไม่ได้ด้อยไปกว่าเทือกเขาคุนหลุนเลย กระทั่งยังอันตรายยิ่งกว่า
สัตว์อสูรภายในหุบเขาแห่งนี้ล้วนแต่มีนัยน์ตาสีแดงฉาน ร่างกายปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัว ลมหายใจที่พวกมันระบายออกล้วนแต่เป็นควันสีดำ เพียงพบเจอก็ทำให้ผู้คนขนหัวลุกแล้ว
ถึงอย่างนั้นฉินเทียนก็ไม่ได้สนใจอะไรและสังหารสัตว์อสูรทุกตัวที่พบเห็น ไม่ละเว้นแม้แต่ตัวเดียว
ในวันนั้น ฉินเทียนกลับเข้าถ้ำด้วยสภาพเลือดท่วมร่างอีกครั้ง ฉินเหลียนที่ได้เห็นก็แทบจะเป็นลมไป…….
ในวันที่สอง ฉินเทียนยังคงกลับมาพร้อมคราบโลหิตทั่วตัว ฉินเหลียนปวดใจและยืนกรานที่จะไปกับเขาด้วย แต่ฉินเทียนก็ปฏิเสธ
ในวันที่สาม ฉินเทียนกลับมาด้วยรอยเลือดแห้งกรัง ฉินเหลียนขอร้องร่วมทางไปกับเขา แต่ยังคงถูกปฏิเสธ
………………………………
ชายหนุ่มหญิงสาวในถ้ำเปลี่ยวร้างยามวิกาล เป็นเรื่องง่ายที่จะชวนให้ผู้คนเข้าใจผิด
ทุกครั้งที่ฉินเทียนกลับมาที่ถ้ำ เขาจะเห็นน้าสาวแสนสวยสวมชุดกระโปรงขาวบริสุทธิ์ทุกครั้ง และนั่นทำให้ฉินเทียนใจเต้นแรง เขาได้สบถด่าตัวเองอยู่ในใจครั้งแล้วครั้งเล่า
แม้ฉินเหลียนจะเป็น้าหญิงของเขา แต่ทั้งสองก็ไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือด ฉินเทียนต้องคอยบังคับจิตใจตัวเองไม่ให้คิดเรื่องอื่นครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากผ่านมาได้สองสามวัน เขาก็รู้สึกดูถูกตัวเอง “ปล่อยไว้แบบนี้คงควบคุมตัวเองไม่ได้แน่”
กลางดึกคืนนั้น ฉินเทียนรู้สึกกระสับกระส่ายจนนอนไม่หลับ กลิ่นกายของฉินเหลียนราวกับยาปลุกกระตุ้นชั้นดีจนฮอร์โมนของเขาพลุ่งพล่าน ฉินเทียนได้แต่นอนพลิกตัวไปมา
มองไปยังดวงตาที่ปิดสนิทขณะนั่งขัดสมาธิของฉินเหลียนแล้ว ฉินเทียนก็กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ความคิดชั่วร้ายพลันผุดขึ้นในหัว และฉินเทียนก็ด่าทอตัวเองอีกครั้ง เมื่อไม่มีทางเลือก ฉินเทียนจึงพุ่งออกจากถ้ำไป………
คล้อยหลังฉินเทียนไป ฉินเหลียนก็หน้าขึ้นสี รอยยิ้มหนึ่งปรากฏขึ้นบนใบหน้า ความงามของนางทำให้ทุกผู้ที่พบเห็นรู้สึกราวกับต้องมนต์
ฉินเทียนวิ่งมาจนถึงน้ำตกและเข้าไปยืนในสายน้ำที่ตกลงมา น้ำอันเย็นเฉียบประหนึ่งใบมีดกรีดชำแรกผิวหนัง ไฟแห่งตัณหาภายในกายค่อยๆถูกสายน้ำดับชำระไป
ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วพลางแผ่กลิ่นอายนักล่าออกไป…..
“เป็นกลิ่นอายชั่วร้ายที่หนาแน่นนัก!”
หลังจากสังหารสัตว์อสูรมาแล้วหลายวัน ฉินเทียนก็ทราบว่าในกายของพวกสัตว์อสูรนั้นมีกลิ่นอายชั่วร้ายแฝงเร้นอยู่ ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งอันผิดปกติของพวกมันจะมาจากสาเหตุนี้เอง เดิมทีเขาไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายอันเข้มข้นที่แผ่พุ่งมาจากใต้น้ำตกแล้ว เขาก็พลันคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
เขากลับขึ้นฝั่งและสังเกตอย่างละเอียด และพบว่ากลิ่นอายชั่วร้ายขุมนั้นแผ่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินนอกจากเสียงสายน้ำที่ตกลงมาแล้วก็หามีเสียงสัตว์อสูรตัวใดในละแวกนี้
เวลากลางคืนเป็นเวลาที่สัตว์อสูรมักออกล่า แต่น่าประหลาดที่ภายในรัศมีสองลี้กลับไม่มีสัตว์อสูรแม้แต่ตัวเดียว สถานการณ์แบบนี้มันอะไรกัน?
อาศัยแสงจันทร์ที่ส่องลง ฉินเทียนก็สังเกตเห็นแสงสีดำกระพริบวูบวาบจากใต้น้ำตก มันเป็นแสงสีดำที่ริบหรี่ในความมืด ลักษณะของมันคล้ายกำลังพยายามจะล่อลวงเขา
“มันคืออะไร?”
“ข้างใต้นั่นจะต้องมีสิ่งแปลกๆอยู่แน่”
ในเวลาเดียวกัน เกราะปีศาจโลหิตสงครามก็ปรากฏขึ้น แสงสีแดงบนตัวเกราะกระพริบขึ้นวูบคล้ายกับกำลังทักทายกลิ่นอายชั่วร้าย
ฉินเทียนขมวดคิ้ว “ลงไปดีไหม?”
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฉินเทียนก็ตัดสินใจจะลงไป เคล็ดมังกรฟ้าขยับเคลื่อนไหว พลังมังกรพิสุทธิ์แผ่ออกปกคลุมร่าง ฉินเทียนกระโจนลงน้ำก่อนจะดิ่งตรงลงไปราวกับลูกธนูหลุดจากแล่ง
ยิ่งว่ายลึกลงไป กลิ่นอายขุมนั้นก็ยิ่งรุนแรงขึ้นทวีคูณ เกราะที่เขาสวมยิ่งมายิ่งร้อนขึ้นราวกับมันพบเจอสตรีหลังจากอดอยากปากแห้งมานาน
พลังมังกรพิสุทธิ์นับเป็นดาวข่มของกลิ่นอายชั่วร้าย ขณะที่ฉินเทียนดิ่งลึกลงไป มันก็จะคอยสลายกลิ่นอายชั่วร้ายที่พยายามรุกล้ำเข้ามา เมื่อมาถึงที่พื้นใต้น้ำตก ฉินเทียนก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง “รังปีศาจ?”
‘รังปีศาจ’ เพิ่งคิดขึ้นได้สองคำ กลิ่นอายชั่วร้ายนั้นก็ปะทุออกก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีจิตใจของฉินเทียน พลังมังกรพิสุทธิ์หมุนเร็วรี่ สกัดกั้นพลังงานชั่วร้ายที่กรายกล้ำเข้าใกล้
ฉินเทียนมองลึกเข้าไปภายในรังนั้น ก่อนจะมุ่งหน้าต่อ………