จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 10

[อุทสึสึเปิดใช้พลังเพลิงแมกซ์เวลล์]

เดเมียนสั่งอุทสึสึ ในขณะที่ทิ้งความเป็นเด็ก ที่ก่อนหน้านี่ตอนที่เข้าปลอบแม่ของเขา

{รับทราบ}

อุทสึสึ ตอบกลับขณะที่สร้างเพลิงแม็กซ์เวลล์ขึ้นภายในตันเถียนของเดเมียน

เปลวไฟขนาดเล็กปรากฏขึ้นภายในตันเถียนของเขาและพลังเพลิงก็ได้พลุ่งพล่านภายในตัวของเดเมียนและเหมือนกำลังจะระเบิดออก

เมื่อรู้สึกถึงพลังงานอันร้อนแรงที่พุ่งผ่านร่างกายของเขาเดเมียนรู้สึกถึงพลังที่น่าเหลือเชื่อ

“นี้คือการต่อสู้ครั้งแรกของฉันและเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้แม่ของฉันได้เห็น และเพื่อแม่ของฉัน”

เขาพึมพำกับตัวเองขณะที่เขากำหมัดแน่นและปลดปล่อยออร่าที่โกรธเกรี้ยวออกมา

ซาร่าห์อ้าปากค้างด้วยความอึ้ง เมื่อเห็นลูกชายของเธอมีพลังเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยและเป็น พลังเพลิงแห่งแม็กเวลล์ แม้ว่าก่อนหน้านี้ในพิธีปลุกพลังของเขาไม่มีอะไรปรากฎเลยก็ตาม

“จิตวิญญาณของเขามีพลังมากกว่าของฉันและดูเหมือนจะมาจากรากเหง้าและเหมือนกับบรรพบุรุษและเขาได้พลังนี่นี้มาจากเลือดของฉัน …. เหลือเชื่อมาก”

เธอสังเกตด้วยความกลัว

ผู้คุมรู้สึกประหลาดใจกับเด็กที่ทุกคนเรียกว่าถังขยะที่มีพลังวิญญาณเพลิงที่เก่าแก่ แต่คนในตระกูลบอกเขาว่าเด็กคนนี่มีพลังที่ต่ำมาก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะหวาดกลัว

ผู้คุมคิดว่าเขาเป็นแค่ ขยะ ดังนั้นเขาจึงหยิ่งผยองและไม่หวาดกลัวเดเมียนเนื่องจากพลังเขาพวกเขาดูมากกว่าของเดเมียน

“เจ้าขยะ ถ้าอยากจะต่อสู้ พวกฉัดจะจัดการให้ ฮ่าๆๆ”

ผู้คุมเยาะเย้ยขณะที่เดินมาขวางทางของเดเมียนและแม่ของเขา

พลังของของพวกเขาอยู่ระหว่างเลเวล 10-20 ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ เดเมียนที่เป็น เลเวล 5 เนื่องจากมีพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการใช้พลังวิญญาณเพลิง

แม้จะรู้เรื่องนี้ แต่เดเมียนก็ไม่กลัวแม้แต่น้อยและยังคงสงบสติอารมณ์และเก็บรวบรวมเพื่อไม่ให้วู่วามและพ่ายแพ้ในการต่อสู้

จิตวิญญาณและความกล้าหาญในการต่อสู้หากใช้ให้เป็นประโยชน์ สามารถครอบคลุมช่องว่างของพลัง และลักษณะที่กล้าหาญและเด็ดขาดของเดเมียนเป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของเขา

นอกจากนี้เขายังรู้ว่าพวกนี่เป็นเพียงองครักษ์และถ้ามีพลังมากพวกเขาคงไม่มาเป็นแค่องครักษ์เฝ้าประตู

ทักษะที่เดเมียนมีแม้จะเป็นพื้นฐาน แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีในการฝึกฝนเพื่อให้เชี่ยวชาญและใช้งานได้

เดเมียนมีความเฉลียวฉลาดเและพลังนี่ทำให้ควบคุมและใช้ทักษะได้ง่ายมาก

การเสริมแรงด้วยเปลวไฟ
พลังงานที่เดือดปุด ๆ ของเขาไหลเวียนเข้าไปในร่างกายทุกนิ้วขณะที่เซลล์ของเขาระเบิดพลัง

“การเสริมกำลังเปลวไฟคือทักษะหลักที่จะใช้กับพลังไฟของแม็กซ์เวลล์”

หัวหน้าองครักษ์ร้องอุทานเมื่อเห็นร่างของเดเมียนมีชั้นพลังงานเปลวไฟแผดเผาเคลือบอยู่บาง ๆ

การเสริมกำลังเปลวไฟเป็นทักษะหลักเนื่องจากไม่เพียง แต่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ทักษะนักสู้อื่น ๆ ได้เร็วขึ้นเนื่องจากเปลวไฟกำลังพุ่งผ่านร่างกายของพวกเขาแล้ว

เพลิงแม็กเวลล์ 99 เปอร์เซ็นต์ เวลาถูกใช้จะเป็นพลังของนักสู้และมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยวิธีนั้น

เมื่อเห็นเดเมียน ซาร่าห์รู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่ายามที่เห็นเด็กอายุ 10 ขวบคนนี้ที่ตื่นขึ้นเมื่อวันก่อนตอนนี้ใช้ทักษะหลักของครอบครัว

พวกเขาจะไม่อ่อนแอถ้าพวกเขามีเพลิงแม็กเวลล์ แต่ทุกคนอยู่ในวัยสามสิบและระดับต่ำเมื่อเดเมียนพิจารณาจากอายุของพวกเขา

ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พวกเขาหยิ่งผยองและข่มเหงผู้ที่อยู่ต่ำกว่าพวกเขาอย่างไรก็ตามเดเมียนจะต้องไม่ใช่ผู้ถูกเหยียบย่ำ

แม้จะไม่มีพลังจิตวิญญาณ แต่ผู้คุมก็มีอาวุธหอก แต่ก็มีเกราะและมีร่างทรงพลังของมนุษย์ เลเวล10-20 เลยทีเดียว

ผู้คุมคนที่อายุน้อยและอ่อนแอที่สุดใน 3 คน นั้น กำลังร้องเสียงดังด้วยความกลัวและตกใจหลังจากที่ เดเมียนได้ถ่ายทอดพลังงานเปลวไฟจำนวนมากเข้าสู่ฝ่ามือขวาของเขาเดเมียนได้สร้างลูกบอลไฟขนาดเล็ก

ลูกไฟนี่เป็นทักษะการต่อสู้ที่หลากหลายมากซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในการต่อสู้ระยะใกล้และการต่อสู้ระยะกลาง

ซาราห์และผู้คุมต่างรู้สึกทึ่งกับเด็กคนนี้ ที่กำลังใช้ทักษะความสามารถที่น่าเหลือเชื่อ ผู้คุมแทงหอกของเขาไปที่เดเมียนแต่เดเมียนได้พุ่งตัวหลบไปข้างหลังและยิงลูกบอลไฟใส่ผุ้คุมคนนั้น

ลูกบอลพุ่งไปในอากาศด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อและด้วยความร้อนที่แผดเผาชนเข้ากับแผ่นอกของผู้พิทักษ์ระเบิดและทำให้ร่างของผู้พิทักษ์ลุกเป็นไฟ

“ ความเหี้ยมโหด เฉียบขาดและไม่ลังเล”

ซาราห์พึมพำสังเกตเด็กชายที่ต่อสู้ต่อหน้าเธอซึ่งเธอจำไม่ได้อีกต่อไปว่าเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ คนเดียวกับที่เธอเลี้ยงดูมา

การระเบิดทำให้ทหารยามกระเดนออกไปและในขณะที่เขาไถลข้ามพื้นเขาก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขณะที่เปลวไฟโหมไหม้ผิวหนังของเขาและด้วยแรงระเบิดทำให้เขาได้รับเสียหายอย่างหนัก

เดเมียน ได้ยินเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดของผุ้คุม และเขารู้สึกแย่เล็กน้อยแต่อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าสำเร็จและรู้สึกว่าคนที่อยู่รอดต้องทำแบบนี่

ซาร่าห์ไม่สะทกสะท้านกับเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดและอยากรู้มากขึ้นว่าลูกชายของเธอมีความสามารถอะไร

ช่วงเวลาเย็นคือช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่จะกลับไปที่บ้านข และในขณะที่ประตูหน้านั้นมักจะคึกคักไปด้วยผู้คนที่เข้าและออก ผู้คนใกล้เคียงเริ่มรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เพื่อเฝ้าดูการต่อสู้ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปเกี่ยวข้อง

ต่างจากองครักษ์ที่ไม่รู้ ทุกคนรู้ว่าซาร่าห์นั้นทรงพลังมากและพลังของเธอก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่เป็นที่รู้กันว่ามันสูงกว่าเลเวล 50 ซึ่งมีพลังมากสำหรับคนที่อายุแค่ 28 ปี

ผู้คุมที่เหลือต่างตกใจโกรธและมองไปที่ผุ้คุมที่โดนเดเมียนโจมตีที่เพิ่งบาดเจ็บสาหัสและโดนเผาจนเกือบตาย แต่ก็ไม่สะทกสะท้าน

เดเมียนที่ลุกเป็นไฟจากส่วนลึกภายในจิตวิญญาณของเขามีแรงผลักดันที่จะไม่ยอมให้ตัวเองหรือคนที่เขาห่วงใยถูกเหยียบหรือดูหมิ่นและไม่มีความสำนึกผิดต่อใครหลังจากรู้ว่ามนุษย์จริงๆแล้วเป็นอย่างไร

“ตอนนี้พวกคุณที่เหลือจะต้องถูกเผาเพราะดูหมิ่นและทำให้แม่ของฉันโกรธ”

เขาอุทานด้วยความโกรธแค้นที่เขามีหลังจากถูกครอบครัวแม็กซ์เวลล์รังควานและทารุณมานานหลายปี