จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 101
หลังจากที่ฝึกฝนมาเป็นเวลา 3 เดือน เดเมียนนั้นหยุดฝึกแค่ตอนพักผ่อนเท่านั้น และตอนนี้เดเมียนก็เข้าสู่ระดับ 4 ได้
ความเร็วในการฝึกฝนของเขานั้นมันน่าเหลือเชื่ออย่างมาก ในขณะที่เดเมียนเตรียมตัวที่จะเข้าแข่งขันเพื่อเลื่อนระดับเป็นนักเรียนชั้นใน ตามที่อาจารย์ของเขาหวังไว้
เมื่อระดับการฝึกฝนฝนของเขาเพิ่มขึ้น มันก็ยากที่จะเพิ่มความแข็งแกร่ง เนื่องจากความสามารถของร่างกายในการดูดซับ กักเก็บ พลังงานนั้นเริ่มลดน้อยลง แต่เขายังสามารถฝึกฝนต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็ว
เดเมียนเห็นได้ชัดว่า อุทสึสึต้องการพลังในขณะที่เขากำลังฝึกฝนในช่วงแรก ของการฝึก เดเมียนกำลังแสดงความเร็วในการฝึกฝนที่ใครๆ ก็อยากทำได้อย่างเขา
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ขึ้นระดับ 3 ดูเหมือนว่าอุทสึสึจะไม่มีทางเลือกอืนนอกจากต้องเริ่มดูดซับพลังจากร่างกายของเดเมียนเพื่อรักษาตัวเอง ไม่เช่นนั้นเดเมียนจะไม่สามารถใช้งานจิตวิญญาณได้
อุทสึสึได้เก็บพลังงานมากมายเอาไว้ในตัว แต่เมื่อรวมตัวกับเดเมียนมันจึงไม่เพียงพออีกต่อไปและอุทสึสึต้องใช้พลังครึ่งหนึ่งของเดเมียนเพื่อรักษาตัวมันเอาไว้
อย่างไรก็ตามเดเมียนยังคงมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนระดับ E5 และด้วยการรับรู้ที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการต่อสู้ร่วมกับ จิตวิญญาณเพลิงแม็กเวลล์ เดเมียนยังคงเป็นผู้ฝึกฝนที่มีศักยภาพสูง เขาฝึกฝนอย่างหนักและมุ่งมั่นอย่างมาก ซึ่งทำให้เขาได้ฝึกฝนมากว่าคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับเดียวกันหลายเท่า
เดเมียนรู้ว่าเขาสามารถฝึกฝนได้เสมอและพบว่ามันสำคัญกว่าสำหรับเขาในปัจจุบันในการฝึกฝนทักษะของตัวเอง เมื่อพูดถึงการใช้พลังงานผ่านทักาะ และเทคนิคต่างๆ ในระหว่างการต่อสู้
ด้วยการฝึกฝนทักษะของเดเมียน เขาจะวางรากฐานที่มั่นคงให้กับการฝึกฝนมันจะทำให้การฝึกฝนของเขานั้นมั่นคงขึ้นและพร้อมที่จะก้าวไปสู่ระดับต่อไป
ด้วยเหตุนี้เดเมียนจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการฝึกฝนและเทคนิคของเขา ในขณะที่ทำอย่างนั้น เดเมียนจะสามารถฝึกฝนได้นิดหน่อยขณะที่ฟื้นพลัง
เดเมียนจะกินข้าวพร้อมไมโลเสมอ และบางครั้งก็จะมีเพื่อนคนอื่นๆ แต่ส่วนใหญ่เพื่อนๆ เขามักจะยุ่งกับการฝึกเหมือนกัน
เดเมียนไม่เคยถามเพื่อนๆ ของเขาเกี่ยวกับการฝึกของพวกเขา แต่เขาสังเกตเห็นว่าการฝึกฝนของไมโลนั้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเขา และเดเมียนก็อยากรู้ว่าไมโลนั้นได้รับสายเลือดของสัตว์อสูรหรือสัตว์ตัวอื่นๆ หรือไม่
เดเมียนนั้นตั้งใจที่จะไปเยื่ยมแม่เขาทุกสัปดาห์ แต่เขานั้นไม่ค่อยเจอแม่เพราะแม่เขานั้นไม่ค่อยว่าง แทนที่เดเมียนจะรู้สึกผิดหวังที่แม่เขานั้นไม่ค่อยว่าง แต่เขากัลบรู้สึกดีใจและมีความสุขที่แม่ของเขานั้นก้าวหน้าในเรื่องการงาน ด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยมของเธอ
ด้วยความรู้เรื่องการบ่มเพาะที่เกินระดับการฝึกฝนของมนุษย์ เดเมียนรู้ว่าเขานั้นต้องระวังและคิดว่าครอบครัวใหญ่หรือผู้อาวุโสส่วนใหญ่จะมีระดับการฝึกที่เกิดกว่าระดับการฝึกฝนของมนุษย์
เดเมียนรู้ว่านี้คือชีวิตที่สองของเขา แต่เขาจำอะไรไม่ได้นอกจากความปรารถนาที่อยากจะประสบความสำเร็จที่ไม่มีวันเติมเต็ม เมื่อเขาอยู่เฉยๆ หรือเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์เขาจะรู้สึกเหมือนตัวเองนั้นถูกทรมาณ
หลังจากที่เดเมียนได้แสดงพลังในการต่อสู้จากการถูกท้าทาย และหลังจากที่ได้เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสสูงสุด ก็ไม่มีใครเคยท้าทายเขาอีกเลย ดังนั้นเดเมียนจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการฝึก
ปัจจุบัน อาวุธของเดเมียนสนใจมากที่สุดคือคันธนู และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเรียนรู้ เขาเคยคิดที่จะเรียนรู้วิธีการใช้ดาบหลังจากที่เห็นว่าดาร์เรนใช้ดาบได้แข็งแกร่งจนาดไหน แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะใช้ธนูเพราะมันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขา
การใช้อาวุธในห้องฝึกส่วนตัว เดเมียนพบว่าร่างกายของเขานั้นอ่อนแอเกินไปในขณะที่เขาพยายามรั้งสายธนู เขาใช้พลังงานบางส่วนมาช่วยเหลือในการดึงสายธนู ซึ่งมันยากมาก
มีเป้ายิงอยู่ที่กำแพง และเดเมียนพยายามที่จะยิงธนูและเล็งลูกศรไปที่เป้า แต่เขาก็พลาดมันทุกครั้ง อย่างไรก็ตามเดเมียนไม่ยอมแพ้และฝึกฝนการยิงธนูอย่างต่อเนื่อง และเมื่อฝึกจนครบ 1 เดือน เดเมียนก็สามารถยิงเข้าไปที่กลางเป้าได้ ในระยะ 50 เมตร
เขายังไมไ่ด้ฝึกเกี่ยวกับเป้าหมายที่กำลังเคลื่อนที่หรือดูปัจจัยอื่นอย่างลมและสิ่งต่างๆ ที่จะมีผลต่อการเล็ง ซึ่งเดเมียนรู้ว่ามันสำคัญมากสำหรับนักธนู แต่เดเมียนพอใจกับผลลัพธ์โดยรวมในตอนนี้
ด้วยระดับการฝึกธนูในปัจบัน เดเมียนรู้สึกราวกับว่า เขากำลังก้าวต่อไปและเริ่มที่จะพร้อมในการฝึกทักษะ ลำแสงลูกศร