จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 14
เธอจับมือของเดเมียนลากเขาไปที่มุมที่เสียงกรีดร้องดังที่สุด
เมื่อหันไปทางมุมนั้นเขาก็เห็นกรงยาวที่มีสัตว์อสูรบินได้หลากหลายชนิด
เดเมียนแทบจะกรีดร้องด้วยความประหลาดใจและกระโดดถอยหลังด้วยความตกใจทันที
“นี่มันอะไรกัน”
เขาตะโกนถาม
“เหล่านี้เป็นสัตว์อสูรที่บินได้และเราจะใช้เจ้าพวกนี้เป็นพาหนะสำหรับสัตว์อสูรที่บินได้ เพื่อเดินทางไปยัง สถาบันที่อยู่ที่อาเรีย ซึ่งเป็นระยะทาง 100 ไมล์ซึ่งเราไม่สามารถเดินทางด้วยวิธีอื่นได้ในระยะเวลาอันสั้นและควรที่จะสามารถ ให้เดินทางให้ถึงภายในหนึ่งวัน”
เธอกล่าวกับเขา
ซาร่าห์ดูไม่สะทกสะท้านกับสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่ส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น
“เราจะขี่มัน”
เธอตัดสินใจชี้ไปที่สัตว์ร้ายตัวใหญ่ที่สุดที่กำลังกรีดร้องมากที่สุด
“เลือกเจ้านี้สินะ”
ชายคนนั้นกล่าว
มันเป็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่มีขนสีม่วง ดูเหมือนจะใหญ่ที่สุดและส่งเสียงดังที่สุด ข่มขู่เดเมียนมากที่สุด
“ แม่แน่ใจเหรอ”
ถามเดเมียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธออย่างตกใจ
“ไม่ต้องห่วงลูก แม่รู้ว่าแม่กำลังทำอะไร”
เธอพูดอย่างมั่นใจขณะหัวเราะเบา ๆ กับลูกชายของเธอที่ต่อสู้กับผู้ชาย 5 คนด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ตัวสั่นด้วยความกลัวอยู่ข้างหลังเธอ
“เป็นทางเลือกของคุณ แต่ถ้าสัตว์อสูรหนีจากการควบคุมของคุณและกลับไปที่สถานีอื่นของเรา คุณจะไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินคืน”
ชายคนนั้นเตือนขณะที่เขาปลดล็อกกรง
ทันทีที่ปลดกรงสัตว์อสูรบิน และด้วยสัญชาตญาณของพวกมัน ทำให้พวกมันคิดว่าซาร่าห์นั้นอันตรายพวกมันจึงพุ่งจะโจมตีซาร่าห์
เมื่อเดเมียนเห็นดังนั้น เขากำลังจะกระโดดไปข้างหน้าเพื่อปกป้องแม่ของเขา แต่ด้วยความแข็งแกร่งของ เลเวลของเขาที่ยังน้อยทำให้เขาเคลื่อนที่ช้าเกินไป
ร่างของซาร่าห์ลุกเป็นไฟ เธอจ้องมองไปที่สัตว์อสูรที่บินได้และปล่อยออร่าอันทรงพลังของเธอออกมา
“นั่ง”
เธอสั่งในขณะที่เธอเปล่งออร่าอันทรงพลังของเธออกมาเพื่อข่มขู่พวกมัน
สัตว์อสรูได้นั่งลงทันทีและเปลี่ยนจากนิสัยก้าวร้าวไปสู่ธรรมชาติที่ขี้เล่นเหมือนเด็ก
“ไปกันเถอะ”
เธอพูดอย่างเมินเฉยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและดึงออร่าของเธอกลับคืนมา
ทั้งเดเมียนและชายคนนั้นตระหนักดีว่าซาราห์ทรงพลังเพียงใด
“สุดยอดมาก”
เดเมียนกล่าวขึ้นพร้อมกับมองสัตว์อสูรที่บินวนรอบๆ ซาร่าห์ด้วยความเคารพ ราวกับว่าซาร่าห์เป็นจ่าฝูงของพวกมัน
ซาร่าห์หันกลับมาและขยิบตาส่งให้เดเมียนพร้อมด้วยรอยยิ้มทะเล้น
ซาร่าห์ดูเหมือนจะรู้ว่าการขี่ของสัตว์อสูรต้องทำอย่างไรและเดินต่อไปตามทางเดินยาวที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายในกรงตามด้วยเดเมียนและผู้ดูแลสัตว์อสูร สัตว์อสูรบินสีม่วงที่จ้องมองพวกเขา
เมื่อพวกเขามาถึงสุดทางเดินมีประตูโลหะขนาดใหญ่ที่ชายคนนั้นเปิดออกซึ่งนำพวกเขาไปสู่พื้นที่เปิดโล่งและทางออก
“มาตรงนี่และพาพวกเราไปยังจุดหมาย”
ซาร่าห์สั่งขณะจ้องตรงไปที่ดวงตาของสัตว์อสูร
ดูเหมือนมันจะฉลาดและรู้สึกได้ว่าซาราห์ไม่ใช่คนที่ร้ายกาจและยอมทำตามที่เธอสั่ง
“มาได้แล้ว”
เธอพูดกับเดเมียนด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นขณะที่เธอกระโดดขึ้นไปบนสัตว์ร้ายสีม่วงตัวใหญ่ที่กลับมาพร้อมกระเป๋าของพวกเขา
เดเมียนเดินเข้าไปหาสัตว์ร้ายอย่างไม่เต็มใจและเห็นแม่นอนหงายและยิ้มให้เขาอย่างมั่นใจ เขาปีนขึ้นไปบนสัตว์อสูรด้วยการดึงขนของมัน ทำให้สัตว์อสูรแสดงอารมณ์โกรธออกมาจนเดเมียนตกใจกลัว จึงรีบขึ้นไปแล้วไปแอบอยู่ข้างหลังของแม่
“ กอดแม่ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ซาร่าห์พูดเตือนเดเมียน
“บินไปทางทิศตะวันออก”
ซาร่าห์สั่งขณะที่ตบลงบนหลังของสัตว์อสูรเพื่อเป็นการบงบอกให้ออกเดินทางได้
สัตว์อสูรกางปีกสีม่วงขนาดใหญ่ของมันและกระพือปีกทำให้เกิดลมแรงที่อยู่ด้านหลังซึ่งทำให้ฝุ่นกระจัดกระจายปลิวออก ผู้ดูแลสัตว์อสูรยืนหันหลังและโบกมือให้พวกมันขณะที่สัตว์อสุรบินขึ้นไปบนฟ้า
สัตว์อสูรกระพือปีกขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วด้วยความแข็งแกร่งที่น่าทึ่ง มันเริ่มบินขึ้นไปในอากาศสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
ในขณะเดียวกันเดเมียนก็ตัวสั่นด้วยความกลัวความสูงเล็กน้อยขณะที่เขาจับเสื้อผ้าของแม่ไว้แน่น
“ไม่ต้องกังวลเดเมียนปลอดภัยแล้วและการเดินทางจะต้องราบรื่นขึ้นหลังจากที่เราไปถึงระดับที่สูงพอ”
แม่ของเขาให้ความมั่นใจ
เมื่อสัตว์อสูรบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดมันก็มาถึงระดับความสูงเหนือเมฆด้วยลมแรงและหยุดกระพือปีก
และที่จะกางปีกออกและเหาะไปในอากาศไปทางทิศตะวันออก
ซาร่าห์สงบนิ่งและไม่สะทกสะท้านกับความสูงและความเร็วเช่นนี้ในขณะเดียวกันเดเมียนก็สั่นสะท้านด้วยความกลัวขณะที่ลมพัดปะทะใบหน้าของเขา
“แม่อีกนานแค่ไหนกว่าที่เราจะไปถึงสถาบัน”
เขาตะโกนขณะที่สายลมทำให้เสียงของเขาบิดเบี้ยว
“ด้วยความเร็วเท่านี้เราน่าจะเดินทาง 100 ไมล์ได้ภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง”
แม่ของเขากล่าวประมาณเวลาเมื่อเห็นความเร็วที่พวกเขากำลังเดินทาง
“ สองชั่วโมงแห่งความทรมาน”
เขาพึมพำ
[อุทสึสึ ฉันจะคุยกับคุณและฉันก็สงสัยมานานแล้ว คุณเกิดขึ้นได้อย่างไร]
เขาถามในใจ
{เดเมียนฉันไม่แนะนำให้นายถามคำถามที่นายไม่ต้องการฟังคำตอบหรือไม่สามารถเข้าใจได้และนายควรมุ่งเน้นไปที่ตัวเองในปัจจุบันและมุ่งเน้นไปที่การได้รับเลือดของผู้อื่นที่มีอำนาจในสถาบัน และ เพิ่มพลัง ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โลกใบนี้กว้างใหญ่กว่าที่นายรู้นัก}
อุทสึสึให้คำแนะนำโดยหลีกเลี่ยงคำถามของเขาโดยสิ้นเชิง
คำตอบของอุทสึสึทำให้เขาอยากรู้มากขึ้นและเขายังรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เขาไม่รู้และเข้าใจ แต่หาคำตอบไม่ได้จึงตัดสินใจมุ่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งของตัวเองและลืมเรื่องที่เขายังไม่พร้อม .
เมื่อจำได้ว่าเขาอยู่ที่ไหนเขามองลงไปเห็นเมฆที่หายากและอาคารที่ดูเล็กเท่าจุดจากความสูงที่เขาอยู่
เดเมียนเริ่มมีอาการอาเจียนอย่างรุนแรงเนื่องจากความกลัวความสูงเข้าครอบงำเขาและหลังจากอาเจียนทุกอย่างที่กินเข้าไปภายในวันนั้นออกมา เขาก็หมดสติด้วยความกลัว
เมื่อเห็นลูกชายของเธอหมดสติ ซาร่าห์ จึงวางเขาไว้บนตักเพื่อให้เขาปลอดภัยเพื่อที่เขาจะได้ไม่ตกลงไปและกระตุ้นให้สัตว์อสูร เร่งความเร็วในการบิน