จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 30
มาทิลด้าและเทรเวอร์เดินขึ้นไปบนเวทีขณะที่เทรเวอร์ยิ้มด้วยร้อยยิ้มที่ชั่วร้ายให้เธอ
การแสดงออกของมาทิลด้าสงบนิ่ง แต่ดวงตาของเธอก็ลุกโชนด้วยความมุ่งมั่นและแรงผลักดันที่ทำให้อีวานตกใจเมื่อเห็นเด็กสาวที่เขามองข้ามในฐานะเด็กสาวที่มีพลังจิตวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้
“ ถ้าเธอแสดงความมุ่งมั่นมากขนาดนี้เธอก็จะชนะการทดสอบเจตจำนงได้อย่างง่ายดายแท้ๆ”
อีวานพึมพำกับตัวเองขณะที่เขามองไปที่จูเลียที่มีสีหน้าคล้ายกัน
‘เด็กผู้หญิงพวกนี้เป็นใครกัน’ เขาคิดกับตัวเองและอยากรู้เกี่ยวกับที่มาและอดีตของพวกเขาในขณะที่เขาไม่เพียงเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของพวกเธอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นนั้น
“เริ่มได้ !! ”
อีวานประกาสพร้อมกับอยากเห็นการต่อสู้นี้
ทันทีที่เริ่มการต่อสู้ เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าหาเธอ แต่ไม่เหมือนกับตอนที่ต่อสู้กับไมโล เขากำลังต่อสู้อย่างจริงจังมากขึ้น
“นั่นคือทักษะการเคลื่อนที่ระดับ F5 ”
อีวานสังเกต
ทักษะการเคลื่อนไหวนั้นหายากกว่าทักษะอื่น ๆ มาก และเรียนรู้ได้ยากกว่ามากและสำหรับเทรเวอร์ที่ได้เรียนรู้แล้วมันเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง
เขาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเรียนรู้ทักษะและความสามารถในการฝึกฝนและพิสูจน์ตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องมีจิตวิญญาณที่หายาก
ความเชี่ยวชาญในระดับต่างๆ ได้แก่ :
ระดับเริ่มต้นที่เท่ากับ 30% ของพลังสูงสุด
ระดับต่ำที่เท่ากับ 50%
ระดับสูงที่เท่ากับ 70%
ระดับสูงสุดที่เท่ากับ 90% หรือสูงกว่า
ระดับความสมบูรณ์ที่เท่ากับ 100 %และอาจกล่าวได้ว่าไม่สามารถดีไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
ขณะนี้เทรเวอร์ มีความเชี่ยวชาญเพียงระดับเริ่มต้นสำหรับทั้งทักษะที่เขาได้แสดง ทั้งที่เมื่ออายุยังน้อยและมีเพียง การเสริมร่างกายด้วยจิตวิญญาณเท่านั้นเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่สามารถทำสำเร็จ
เฟอร์เร็น สเต็ป เป็นทักษะการเคลื่อนไหวที่จะช่วยให้เขามีขั้นตอนที่รวดเร็วเพียงเล็กน้อยและจะให้ความเร็วในการหลบหลีกที่รวดเร็วและครอบคลุมระยะทางสั้น ๆ อย่างรวดเร็วในการเบิร์สสั้น ๆ
การเบิร์สเล็ก ๆ อยู่ในรูปซิกแซกในขณะที่เขาพุ่งเข้ามาจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งและเข้าหาเธอโดยใช้ เฟอร์เร็น สเต็ป
เขาฉลาดมากและมันเข้ากับความโหดเหี้ยมและความทะเยอทะยานของเขา
ในขณะที่เขาเข้าใกล้เธอหวังว่าจะจบการต่อสู้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเขาก็เปิดใช้งานหมัดพยัคห์ ที่กำลังเล็งไปที่หน้าเธอ
หมัดพยัคฆ์ !
เมื่อกำปั้นกำลังเอื้อมไปเพียงไม่กี่เซนติเมตรจากใบหน้าของมาทิลด้า เธอก็ยังคงสงบและจูเลียก็เช่นกันในขณะที่คนอื่น ๆ คิดว่าเธอจะพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
คลื่นเสียงโซนิค
มาทิลด้าเปิดใช้งานจติวิญญาณของเธอซึ่งง่ายและรวดเร็วในการเปิดใช้งานเมื่อเธอรู้สึกถึงพลังและพลังงานที่เพิ่มขึ้นในกล่องเสียงของเธอ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
เธอกรีดร้องสุดปอด
ในตอนแรกมันเป็นเพียงเสียงกรีดร้อง แต่หลังจากฝึกฝนมาก่อนหน้านี้มาทิลด้าได้คิดหาวิธีใช้จิตวิญญาณของเธอและสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นเพียงเสียงกรีดร้อง ก็กลายเป็นคลื่นโซนิคที่ปล่อยออกมารอบตัวเธอ
เมื่อพลังของเสียงกรีดร้องเพิ่มขึ้นพลังของหมัดพยัคฆ์ของเทรเวอร์ก็ถูกปัดออกไปด้วยคลื่นเสียงของมาทิลด้า เทรเวอรืกระเด็นออกไปจนขอบเวที
เทรเวอร์ที่ไถลและหยุดอยู่ที่ขอบสนามประลองไม่ได้คาดหวังว่าพลังของเสียงกรีดร้องของมาทิลด้าจะมีพลังมากในขณะที่เขาพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ก็มีเสียงที่เจ็บปวดดังก้องอยู่ตลอดเวลาในจิตใจของเขา
“อ๊ากกกก”
เขาร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดขณะที่เขาเริ่มโกรธกับการสูญเสียการรับรู้
หูของเขามีเลือดไหลเนื่องจากผลกระทบของคลื่นเสียง และเขาก็หมดสติไป
ฝูงชนเงียบไปจากนั้นก็เริ่มส่งเสียงเชียร์อย่างดุเดือดเมื่อพวกเขาเห็นฝ่ายที่ด้อยกว่าในด้านทักษะและประสบการณ์ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ของเธอได้
“รอบที่ 4 เสร็จสิ้น – ผู้ชนะมาทิลด้า”
อีวานประกาศอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าพลังจิตวิญญาณของมาทิลด้าถูกเพิ่มพลังด้วยอารมณ์และความมุ่งมั่นของเธอ
มาทิลด้าที่ได้ยินคำประกาศนั้นมีสีหน้าเรียบเฉย แต่ในฐานะคนที่ไม่เคยฝึกฝนและใช้พลังของจิตวิญญาณที่ทรงพลังขนาดนี้เธอก็ทรุดตัวลง
ความเหนื่อยล้าและการใช้พลังงานมากเกินไปทำให้ร่างกายของเธอและจิตวิญญาณของเธอเหนื่อยล้า ซึ่งเธอยังไม่ได้เรียนรู้การใช้งานที่สมบูรณ์และวิธีการควบคุมอย่างถูกต้อง
ดูเหมือนว่าจะได้รับแรงกระตุ้นจากอารมณ์และความสิ้นหวังของเธอในแบบเดียวกับที่ตื่นขึ้นมาและในการต่อสู้ที่สิ้นหวังเช่นนี้มันได้ปลดปล่อยพลังที่น่าอัศจรรย์ออกมา
จูเลียรีบวิ่งขึ้นไปดุอาการของมาทิลด้า จูเลียมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข เมื่อเธอเห็นว่าน้องสาวของเธอสามารถเอาชนะเทรเวอร์ได้ด้วยพลังของเธอ
มาทิลด้าถูกนำไปที่โรงพยาบาลและในฐานะนักเรียนที่มีค่าซึ่งมีจิตวิญญาณเธอได้รับยาเม็ดหนึ่งที่เต็มไปด้วยพลังซึ่งจะช่วยเร่งการฟื้นตัวของเธอและในขณะที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับใช้เธอมากเกินไป พลังงานเธอจะสามารถฟื้นตัวได้ในอีกไม่นาน
ขณะที่จูเลียนั่งข้างๆมาทิลด้า โคลรีบเข้ามาและแจ้งให้เธอทราบ
“จูเลียถึงตาที่เธอต้องต่อสู้แล้วและเธอก็สู้กับฟินน์”
โคลแจ้ง
จูเลียลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเรียบเฉยและดูเหมือนโกรธที่เธอมักจะมี แต่ลึก ๆ แล้วเธอตื่นเต้นมากกับการต่อสู้ของเธอและเมื่อเห็นว่ามาทิลด้าพิสูจน์ตัวเองได้ จูเลียก็ต้องทำได้เช่นกัน
พวกเขารีบกลับไปที่เวทีขณะที่จูเลียปีนขึ้นไปบนเวทีที่ฟินน์ยืนอยู่แล้ว
จูเลีย และฟินน์ไม่ได้มีเรื่องข้องใจกันมาก่อน ทั้งคู่เป็นเพียงคู่ต่อสู้กันในการแข่งขัน และเขาทั้ง 2 ก็เตรียมพร้อมในการต่อสู้
“รอบที่ 5 – จูเลีย vs ฟินน์”
อีวานประกาศ
“เริ่มได้ !!!”