จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 34
เด็กทั้ง 4 คนนั่งอยู่บนพื้นด้วยกันข้างเตียง โดยมีไมโลนอนอยู่ทุกคนพูดถึงจิตวิญญาณของพวกเขาและพยายามหาประโยชน์จากพวกเขา
ทันใดนั้นไมโลก็กระโดดขึ้นจากเตียงและกำหมัดแน่นคาดว่าจะเจ็บปวดจากการต่อสู้ที่เขาจำได้ว่าเขากำลังสู้กับเทรเวอร์ แต่รู้สึกงุนงงเมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่เพียงหายสนิท แต่ยังดีขึ้นเล็กน้อย
“ เกิดอะไรขึ้น”
เขาถามขณะสังเกตเห็นเพื่อนของเขาที่นั่งอยู่บนพื้นเพื่อรอให้เขาตื่น
“ ในที่สุดนายก็ตื่นแล้ว”
เดเมียนกล่าวด้วยสีหน้ามีความสุข
ไมโลนั่งลงบนพื้นในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันถึงผลการแข่งขันรอบสุดท้ายและเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ เขาตกใจมากเมื่อได้ยินว่าเป็นมาทิลด้าแก้แค้นเขา
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดพวกเขาทุกคนมีความสุขและกลุ่มเพื่อน 5 คนก็ออกจากห้องและรีบออกจากโรงพยาบาลเพราะกลัวว่าพวกเขาจะมีปัญหาถ้าอยู่ที่นั้นนานเกินไป
ทุกคนสวมเสื้อคลุมของสถาบันสีขาวขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปยังย่านที่อยู่อาศัยในตอนกลางของเมื่องซึ่งส่วนใหญ่สงวนไว้สำหรับผู้ที่มีจิตวิญญาณซึ่งมีค่ามากกว่านักเรียนคนอื่น ๆ ในขณะนักเรียนที่ไม่มีจิตวิญญาณอยู่ภายในต้องจ่ายค่าที่พักเอง
เมื่อมอบบัตรประจำตัวของสถาบันให้ดับไมโล ตามที่ได้รับคำสั่งก่อนหน้านี้พวกเขาบอกให้ ไมโลหยดเลือดของเขาลงบนการ์ดเพื่อรับสิทธิ์ครอบครองเพื่อไม่ให้ใครสามารถใช้มันได้และเพื่อที่เขาจะได้เป็นนักเรียนของสถาบันอย่างเป็นทางการ
เขาทำเช่นนั้นโดยไม่ลังเลและเช่นเดียวกับที่คนอื่น ๆ รู้สึกก่อนหน้านี้ เขาสามารถรู้สึกเชื่อมโยงกับมันและสามารถบอกได้ว่าพวกเขามีคะแนนสนับสนุนของสถาบันจำนวนเท่าใด
เมื่อพวกเขามาถึงบริเวณที่อยู่อาศัยมีกำแพงขนาดใหญ่ล้อมรอบบริเวณและพกวเขาได้มุ่งหน้าไปยังประตูที่อยู่ใกล้ที่สุดและได้รับการคุ้มกันโดยทหารยามสองสามคนที่มีอาวุธครบมือ
[การรักษาความปลอดภัยเช่นนี้จะต้องมีความตึงเครียดสูงระหว่างพวกเขาและตระกูลชั้นสูง]
เดเมียนสังเกตเมื่อเห็นว่ามียามอยู่ทุกที่
“พวกเรามาพักที่บ้านพักสีขาว”
เดเมียนกล่าวกับทหารยาม
เมื่อมองไปที่เครื่องหมายบนเครื่องแบบที่พวกเขาสวมใส่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นนักเรียนที่มีจิตวิญญาณ
“มีห้องพักสองสามห้องกระจายอยู่รอบ ๆ พื้นที่สีขาวและที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 4 ห้องสำหรับผู้พักอาศัย 4 คน”
ยามแจ้ง
“สามารถเดินดูและเลืกที่พักที่อบได้ในบริเวณนี้ หากต้องการอยู่ห้องไหนเพียงแค่สแกนบัตรที่หน้าประตูห้องก็สามารถเข้าพักได้เลย”
ยามระบุ ขณะที่เปิดทางเข้าให้เด็กทั้ง 5 เดินเข้าไป
พวกเขาทุกคนต่างตื่นเต้นและรีบเข้ามาโดยเป็นครั้งแรกที่จะมีที่อยู่เป็นของตัวเอง
ขณะที่พวกเขาเดินไปรอบ ๆ พวกเขาก็เห็นบ้านหลังเล็ก ๆ และโทรมกระจายอยู่รอบ ๆ บริเวณโดยแต่ละหลังจะมีลานเล็ก ๆ
“ ทำไมเราไม่หาที่อยู่ที่สามารถอยู่ได้ 5 คนเพือที่จะได้คอยช่วยเหลือซึ้งกันและกัน”
เดเมียนแนะนำขณะที่มีความสุขที่มีเพื่อนอยู่รอบๆ
“นั้นนะสิ”
พวกเขาทั้งหมดเห็นพ้องกับเดเมียน
เมื่อมองไปรอบ ๆ มีบ้านเดี่ยวหลังหนึ่งที่ดูเหมือนจะใหญ่ที่สุดและอยู่ใจกลางเขตที่อยู่อาศัยสีขาว
“หลังนั้นแหละ”
ไมโลชี้ไปที่บ้านหลังนั้น
พวกเขาทั้งหมดรีบตรงไปที่มันและมองไปที่ด้านหน้ามันเป็นบ้านสำหรับคนอาศัย 5 คนและไม่มีผู้อยู่อาศัยจากสิ่งที่พวกเขาเห็นจากป้ายที่ด้านหน้าประตูห้องของทุกห้อง
“สมบูรณ์แบบ”
เด็กทั้ง 5 คนอุทานออกมาด้วยความดีใจอย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อพวกเขาวางการ์ดไว้ด้านหน้าและอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของประตูก็เปิดออกตามความประสงค์และพวกเขารู้สึกว่ามีการใช้บางอย่างในการ์ดของพวกเขา
“นั่นต้องเป็นค่าเช่าที่อยู่อาศัยของเราฟรี”
พวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น
ภายในบ้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่และกว้างขวางและมีการออกแบบที่เรียบง่ายโดยมีห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องนอน 5 ห้องซึ่งแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว
มันคล้ายกับบ้านในอดีตของเดเมียนมากและค่อนข้างเรียบง่าย อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยที่อื่นๆ ที่นี่มีสถาพเสื่อมโทรมน้อยที่สุด พวกเขาไม่เข้าใจกันว่าทำไมถึงไม่มีคนเลือกที่นี้เลยสักคนเดียว
พวกเขารู้เพียงเล็กน้อยว่าในสถาบันการศึกษานั้นทำเนียบสีขาว เพื่อเปิดให้ต่อสู้ได้และด้วยการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 1 เดือนผู้ที่อยู่ในนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้ อย่างไรก็ตามเดเมียนและเพื่อนของเขาไม่รู้ถึงความจริงนั้นและแม้จะระวังเล็กน้อย แต่ทุกคนก็รีบไปเลือกห้องนอน ห้องนอนทั้งหมดเหมือนกันและมี 3 ห้องและอีก 2 ห้องแตกต่างเล็กน้อย
เดเมียนล้มตัวนอนบนเตียงและตอนนี้มีเวลาว่าง เขาอยากรู้เรื่องบางอย่างที่เขาอยากจะถามอุทสึ
[อุทสึ ช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมว่าจิตญญาณของไมโลคืออะไรและมันเชื่อมโยงกับฉันมากแค่ไหน]
เดเมียนถามด้วยความอยากรู้
{ดูเหมือนว่าเพื่อนของนายจะมีเอกลักษณ์และลึกลับมากและมันคล้ายกับความสามารถของนาย เขาดูเหมือนจะมีความสามารถในการคัดลอกหรือดูดซับสายเลือดสัตว์ร้ายและแปลงร่างเป็นพวกมันได้ จากสิ่งที่ฉันรวบรวมได้ อย่างไรก็ตามฉันไม่แน่ใจในจิตวิญญาณของเขาจะมีความสามารถและการใช้งานของมันอย่างไร ฉันแค่ให้การประมาณค่าคร่าวๆจากการสังเกตของฉัน}
อุทสึสึบอกกับเดเมียน
[นั่นหมายความว่าเขายังมีจิตวิญญาณที่เขาสามารถูดคุยได้เหมือนที่ฉันคุยเธอนะหรอ]
เดเมียนถาม
{ฉันไม่คิดอย่างนั้น เพราะจิตวิญญาณที่จะมีปัญญาที่สูงนั้นต้องได้รับการฝึกฝนมาก่อน}
อุสึสึแจ้งให้เขาทราบ
เมื่อได้ยินดังกล่าวเดเมียนก็ดีใจด้วยความตื่นเต้นและเขาก็จะพยายามกนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นต่อจากนี้
เดเมียนกระโดนลงจากเตียงเขากำลังคิดว่าจะกลับไปที่โรงแรมเพื่อบอกผลการแข่งขันของเขาให้แม่เขาได้ฟั
เดเมียนไปเคาะประตูห้องของไมโล เด็กชายร่างท้วมเดินเปิดประตุออกเมื่อเขาเห็นเดเมียนจึงเขาไปกอดเขาด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“ ฉันจะไม่สามารถทำอะไรในการแข่งขันนี้ได้ ถ้านายไม่ได้ช่วยฉันเอาไว้”
เขากล่าวอย่างซาบซึ้ง
“ ไม่เป็นไรหรอก เราเพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันสิ”
เดเมียนเอ่ยขึ้นขณะปลดแขนของไมโลออกจากตัวเขา
“ นายอยากไปหาแม่ของฉัน กับฉันไหม”
เดเมียนเสนอ
ไมโลมีสีหน้าที่ครุ่นคิดว่าจะไปหรือไม่ไปดี
“ เธอเป็นคนทำอาหารอร่อยมาก”
เดเมียนแอบกระซิบไมโล
เมื่อได้ยินดังนั้น ท้องของไมโลก็ร้องออกมาเนื่องจากว่าวันนี้เขายังไม่ได้กินอะไรเลยทั้งหมด เด็กทั้งสองจึงรีบลงบันไดและรีบวิ่งออกไปด้วยกัน
ตอนที่ 34