จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 72
ร่างกายของไมโลยังมีลักษณะเหมือนมนุษย์ แต่คงไม่มีใครเรียกว่ามนุษย์ เขี้ยวงอกออกมาบริเวณริมฝีปาก และร่างกายก็ค่อมและมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีความดุร้าย การเปลี่ยนแปลงนั้นสร้างความเจ้บปวดให้ไมโล แต่ความเจ็บปวดถูกบันทอนด้วยอะดรีนาลีนที่ดำลังพุ่งพลานภายในร่างกาย
ดวงตาของไมโลกลายเป็นสีแดงก่ำ และจากการเปลี่ยนแปลงให้เข้าสู่สายเลือดของสัตว์ร้าย ทำให้นิสัยและความคิดของไมโลเข้าสู่รูปแบบของสัตว์ร้ายที่ได้เปลี่ยนแปลง
ตลอดเวลาที่ไมโลเปลี่ยนแปลงร่างกาย ลิงอสูรได้มองดูด้วยสีหน้าสงสัยและตกใจที่เห็นมนุษย์ได้กลายร่างอยู่ในสภาพครึ่งคนครึ่งสัตว์ร้าย
ไมโลที่เปลี่ยนร่างมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับสัตว์ร้ายอันดับ 3 แต่ไมโลไม่สามารถคงสภาพร่างนี้ได้นานนัก ความแข็งแกร่งที่ไมโลแสดงออกมาในร่างสัตว์ร้าย ถูกจำกัดด้วยปริมาณพลังงานภายในที่มี เพื่อใช้รักษาสภาพวะกลายกลายร่างให้คงที่ และเนื่องจากหมูป่ามีความแข็งแกร่งถึงอันดับ 3 มันจะต้องสร้างพันธนาการทางพันธุกรรม
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแสดงความแข็งแกร่งมากขนาดนั้น และไมโลต้องเข้าใจถึงสายเลือดของสภาวะร่างกายให้มากเพียงพอ เพื่อที่จะสามารถแสดงถึงสักยภาพสูงสุดจากพลังของสัตว์ร้ายที่กลายร่าง
แต่ไมโลสามารถดึงขีดจำกัดของหมูป่าออกมาได้สูงสุดทันที เพราะเขาเข้าใจสภาวะร่างกายเมื่อดูดซับมันเข้ามา แต่ร่างกายไม่สามารถรับสภาวะตึงเครียดจากการเปลี่ยนแปลงได้เป็นเวลานานและเนื่องจากความแข็งแกร่งของหมูป่าที่อยู่อันดับ 3 ทำให้มันเผาผลาญพลังงานของไมโลเป็นจำนวนมาก
หากฝืนอยู่ในร่างนี้นานจนเกินไป ไมโลจะเผาผลาญเลือดของตัวเองแทนพลังงานที่หมดไปและจะทำให้ตายได้ในที่สุด เดเมียนเฝ้าดูไมโลและตกใจกับพลังความแข็งแกร่งที่ไมโลดึงออกมาใช้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตอนนี้ไมโลแข็งแกร่งกว่าหมูป่าตัวนั้น
พลังของไมโลเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงและในอนาคตไมโลจะสามารถสลับไปมาระหว่างการกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายได้มากมาย ทำให้มันเป็นจุดแข็งที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันก็มีจิตใจและมันสมองที่ชาญฉลาดแบบมนุษย์
***เสริมจากผู้แปล พลังของไมโลเรียกง่ายๆ ว่า เทคโอเวอร์ การดึงพลังของสัตว์ร้ายมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกาย ทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นและได้รับพลังที่โดดเด่นของสัตว์ร้ายแต่ละตัวที่ได้ดูดซับมา และยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ถึงจะมีนิสัยของสัตว์ร้ายบางตัวที่ปะปนเข้ามา และหากไมโลเทคโอเวอร์สัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งเกินไป จะทำให้ไม่สามารถควบคุมสติและเกิดการอาละวาดได้
ด้วยความสามารถนี้ทำให้ไมโลสามารถก้าวข้ามข้อเสียของมนุษย์และสัตว์ป่า วึ่งจะทำให้ดึงศักยภาพของทั้ 2 เผ่าออกมาได้ในทีเดียว
แต่เดเมียนยังสังเกตุเห็นความฉลาดของลิงอสูรที่แสดงออกมาและวิธีที่มันโจมตี ซึ่งมันได้คิดก่อนที่จะโจมตี ไม่ได้โจมตีด้วยสัญชาติญาณเหมือนหมูป่า
[สัตว์ร้ายตัวนี้ฉลาดมาก และอันตรายสุดๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้ไมโลจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอาชนะมันได้ด้วยตัวคนเดียว]
เดเมียนคิดกับตัวเองและเริ่มหมุนเวียนพลังเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้เร็วที่สุด
เดเีมยนรู้ดีว่าพวกเขาต้องดิ้นรน ให้อยู่ในสภาพที่สามารถผ่านไปได้ด้วยวิธีที่ดีที่สุด และนั้นคือการใช้พลังงานภายในในการรักษาบาดแผล ในขนะที่เดเมียนกำลังฟื้นฟู ไมโลก้คำรวมใส่ลิงอสูร และพุ่งเข้าหามันในลักษณะของหมูป่า
ไมโลได้รับอิทธิพลความคิดและรูปแบบการต่อสู้จากหมุป่า แต่ก็ยังคงรักษาสติปัญญาและประสาทสัมผัสส่วนใหญ่ไว้ได้ และมันทำงานในลักษณะเดียวกับโคล ที่จะกระตุ้นวิญญาณให้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามนิสัยของสัตว์ร้ายที่ได้ดุดซึมเข้าไปในจิตวิญญาณ
ลิงอสูรตกใจกับพลังของไมโลขณะที่มันหลบการโจมตีได้อย่างเชียดชิว
“แกไม่สามารถ หลบได้ตลอดไป”
ไมโลร้องตะโกนขณะที่ลุกขึ้นจากและพุ่งตัวไปบนอากาศพุ่งใส่ลิงอสูร ลิงอสูรนั้นว่องไวและแม้ว่าความเร็วของมันอาจจะไม่ได้เหนือกว่าไมโล แต่มันก็สามารถกระโดดไปรอบๆ จากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังต้นไม้อีกต้น และหลบการโจมตีที่รุนแรงของไมโล
‘ฉันคงสภาพในร่างนี้ได้อีกไม่นาน ฉันจะต้องพาเดเมียนหนีไปหรือต้องเอาชนะมันให้ได้ ‘
ไมโลคิดหลังจากโจมตีลิงอสูร
“ไมโล !! อย่ายอมแพ้ ฉันจะช่วยนายด้วยทักษะระยะกลางและนายพยายามโจมตีมันขณะที่มันกำลังหลบการโจมตีของฉัน”
เดเมียนกล่าวกับไมโล
แม้จะมีพลังที่ยอดเยี่ยม แต่ไมโลและเดเมียนเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางของผู้ฝึกฝนและบ่มเพาะจิตวิญญาณ และยังไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับลิงอสูรที่มีความแข็งแกร่งระดับ 3 และมีสติปัญญาที่ไม่ธรรมดา แต่ทั้งสองก็จะไม่ยอมแพ้และพร้อมที่จะเอาชนะสัตว์ร้ายตัวนี้ไปด้วยกัน
“พวกเราจะต้องเอาชนะมัน ด้วยกัน !!!”
ไมโลประกาศ