จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 78
ผ่านไป 2 ชั่วโมงเดเมียนก็สะดุ้งตื่น ขณะที่เดเมียนหมดสติ อุทสึสึก็ดูดซับพลังงานเข้าร่างกายอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูพลังที่ถูกดูดออกไป หากอุทสึสึไม่ทำแบบนั้น เดเมียนจะเกิดอาการช็อคจากการรั่วไหลของพลังที่มากมายอย่างกระทันหัน
[เกิดอะไรขึ้น อุทสึสึ]
เดเมียนถามอย่างอ่อนเพลีย
{ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เมื่อนายได้ปลดปล่อยพลังส่วนหนึ่งให้กับคัมภีร์นั้น จู่ๆ มันก็ดูดซับพลังของนายเหมือนปลิงที่หิวโหย และนายก็หมดสติจากการหมดแรง}
อุทสึสึอธิบายให้เดเมียนได้ฟัง
เมื่อมองไปยังคัมภีร์สีดำ มันดูเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน เว้นแต่ความรู้สึกของเดเมียนที่อยากจะถือมันไว้ตลอดเวลา ถึงแม้เดเมียนอยากจะถือมันไว้ แต่เดเมียนก็ระมัดระวังที่จะสัมผัสมันมันโดยตรงเพราะมันอาจจะดูดพลังของเขาอีก เดเมียนจึงใช้ผ้าห่อมันไว้ และเปิดหนังสือด้วยการใช้ผ้า
ทันทีที่เปิดหนังสือ จู่ๆ ก็มีบางอย่างเข้ามาในหัวของเดเมียน เมื่อเกิดสิ่งนั้นขึ้น เดเมียนรู้สึกราวกับว่าเขาถูกส่งไปที่อื่นอีกแล้ว
ตอนนี้เดเมียนพบว่าตัวเองอยู่ในโลกที่มืดแต่พอที่สะมีแสงสว่างจากบางสิ่ง และมีปราสาทขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงขนาดมหึมา
“คุณเป็นมนุษย์นิ เกิดอะไรขึ้น “
สิ่งมีชีวิตที่รูปร่างเหมือนมนุษย์กำลังเดินเข้ามาหาเดเมียน ร่างกายของมันมีขนาดและรูปร่างเหมือนมนุษย์เพศชายทั่วไป แต่มีผิวหนังที่มีสีดำและดวงตาสีดำ มันดูน่ากลัวจนเดเมียนต้องถอยหลังในขณะที่มันกำลังเดินเข้ามาหาเดเมียน
“ไม่ต้องกังวล ฉันเป็นเพียงเศษเสี้ยงของดวงวิญญาณ ไม่สามารถทำอะไรคุณได้ ฉันแค่สงสัยว่า คุณสามารถเข้ากันได้กับทักษะชาโดว์คิน ได้ยังไงกัน”
ร่างสีดำกำลังถามเดเมียนในขณะที่สังเกตร่างกายของเดเมียนอย่างใกล้ชิดอย่างสงสัย
“ชาโดว์คิน มันคืออะไร ฉันไม่รู้จัก”
เดเมียนสงสัยขณะที่ถามร่างสีดำที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจกลัว และถอยห่างออกมาจากร่างนั้น
“มนุษย์นี้ น่ารำคาญจริงๆ ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่สามารถทำอะไรคุณได้ แต่คุณยังจะกลัวอยู่อีกหรอ”
ร่างนั้นกล่าวออกมาอย่างรำคาญใจ
“และนี้ก็เป็นเพียงภายฉายมโนจิตของคุณไม่มีใครสามารถทำร้ายคุณได้ จึงไม่ต้องมีอะไรต้องกังวล”
ชายร่างทึบกล่าวเพื่อให้ความมั่นใจกับเดเมียน
เดเมียนที่ยังคงงงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เดเมียนรู้ในตอนนี้คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเดเมียนกำลังถามถึงพลังงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ของเดเมียน และเดเมียนกำลังครุ่นคิดว่าควรที่จะตอบดีไหม
“คุณเป็นใคร และฉันอยู่ที่ไหน”
เดเมียนถามในขณะที่ใจเย็นลง
“ฉันมาจากเผ่าชาโดว์คิน ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์อสูร และพวเราอยู่ในอาณาจักเงา เป็นที่ที่ชาโดว์คิน เคยอาศัยอยู่”
“ตั้งแต่ที่ชิ้นส่วนของวิญญาณของฉันได้สถิตอยู่ในคัมภีร์นี่มานานนับพันปีแล้ว หลังจากที่เหล่าชาโดว์คินถูกขกำจัด และฉันที่เป็นราชาของชาโดว์คิน ก่อนที่จะตายฉันได้แยกวิญญาณออกเป็นส่วนหนึ่ง และสถิตอยู่ในคัมภีร์นี้ ที่มีทักษะพื้นฐานและการฝึกฝนเทคนิคของเผ่าพันธุ์ชาโดว์คิน”
ราชาแหง่ชาโดว์คินได้กล่าว
“คัมภีร์ทักษะและวิธีการฝึกไม่สามารถทำลายได้ ไม่ว่าจะมีการทำลายไปกี่ครั้ง ใส่จึงใส่วิญญาณลงไปเพื่อความปลอดของตัวเอง”
เขากล่าวต่อ
“แต่ฉันไม่เข้าใจภาษาที่เขียนภายในคัมภีร์ ฉันจะสามารถเข้าใจมันได้อย่างไร”
เดเมียนถามอย่างสงสัย
แต่เดเมียนเชื่อในคำพูดของราชาชาโดว์คิน
“ภาษานี้เป็นภาษาพื้นมืองของชาวชาโดว์คิน “
ราชากล่าว
เดเมียนคิดว่าคงไม่เป็นอันตรายหากจะบอกความลับของพลังตัวเองให้กับคนที่ตายแล้วได้ฟัง และมันก็ยุติธรรมที่จะเปิดเผยข้อมูลเป็นการแลกเปลี่ยนกับความรู้ต่างๆ
“ฉันมีพลังพิเศษที่สามารถปรับเปลี่ยนพลังงานได้ ซึ่งเท่าที่รู้มีเพียงแค่นั้น และมันทำให้ฉันสามารถปรับเปลี่ยนพลังของตัวเองให้เข้ากับพลังอื่นๆ ได้”
เดเมียนตอบ
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณสามารถที่จะเข้าได้กับืักษะของเรา พลังงานของคุณคล้ายกับทักษะเรามากและสามารถแปลงเป็นพลังงานเงามืดได้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์เรา คุณจะสามารถใช้ทักษะและเรียนรู้วิธีการฝึกฝนของเราได้ พลังแห่งเงามืด”
ราชาได้กล่าว
“คุณได้พลังนี้มาได้ยังไง และมีใครรู้เรื่องของพลังนี้บาง”
ราชาถามและอยากรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของเดเมียน
“ฉันไม่เคยเห็นพ่อแม่ของฉันหรอก แต่ฉันได้พลังนี้มาจากการปลุกจิตวิญญาณ”
เดเมียนตอบ
ราชาได้รู้สึกงงกับกจิตวิญญาณ และหลังจากเดเมียนอธิบายว่ามันคืออะไร ราชาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“เจ้าพวกมันมนุษย์ก็เป็นกันแบบนี้มาโดยตลอด วิวัฒนาการเที่เล็กน้อยและการตั้งชื่อการกลายพันธุ์ไม่เหมาะสมกับพลังอันเล็กน้องของพวกมัน”
ราชาหัวเราะเยอะเย้ย
แต่ในขณะที่หัวเราะ ร่างของเขาก็ค่อยๆ จางหายไป