จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 84
ทักษะของการเสริมพลังด้วยพลังงานความมืดนั้นแตกต่างจากการเสริมพลังด้วยพลังงานไฟ
การเสริมด้วยพลังงานไฟจะช่วยเสริมความสามารถทางกายภาพของเดเมียน แต่การเสริมด้วยพลังงานเงาเดเมียนจะต้องเข้าถึงธาตุเงาและธาตุเงาจึงจะเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เดเมียนแต่ไม่ได้เพิ่มากนักและมันมีศักยภาพที่ด้อยกว่าพลังงานไฟ แต่ความมันก็ช่วยให้เดเมียนสาสารถใช้เทคนิดและทักาะอื่นๆ ของธาตุเงาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
เดเมียนต้องเปลี่ยนแผนฝึกกับไมโลในการต่อสู้ เนื่องจากเขายังไม่สามารถควบคุมพลังงานเงาได้อย่างสมบูรณ์
จากนั้นกิจวัตใหม่ก็เกิดขึ้น ในทุกๆวันเดเมียนจะตื่นเช้าและฝึกฝนการใช้พลังงานเงา และในช่วงเที่ยงจะเข้าห้องสมุดเพื่อค้นหาในสิ่งที่ไม่เข้าใจ ในช่วงเย็นเดเมียนจะฝึกทักษะและเทคนิคเงา หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ให้หลัง เดเมียนสามารถฝึกฝนเทคนิคก้าวเงาได้สำเร็จ
ไมโลเองก็ฝึกฝนเทคนิคของตัวเองเช่นกัน และค้นคว้าความสามารถและโครงสร้างของสัตว์อสูรต่างๆ ในขณะที่เดเมียนฝช้ห้องฝึกส่วนตัวคนเดียวและวิ่งไปรอบๆ ห้องด้วยความสามารถก้าวเงาด้วยความดีใจ
หลังจากฝึกฝนและควบคุมธาตุเงามาตลอดทั้งสัปดาห์ เดเมียนไม่เพียงแค่ดูดซับพลังงานเงาได้อย่างสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังสามารถควบคุมเงาของตัวเองเพื่อเพิ่มความเร็ว
ยิ่งเดเมียนทุ่มเทพลังงานให้กับการใช้เทคนิคมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องโฟกัสมากขึ้น และก็เคลื่อนไหวได้เร็วมากขึ้นเท่ากับพลังงานที่ปล่อยออกมา
เดเมียนสามารถที่จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วถึง 20% โดยคงไว้ได้ 10 นาที และ 10 นาที ก้เพียงพอแล้วสำหรับการต่อสู้และถึงแม้ความเร็ว 20% นั้นจะดูไม่มากนัก แต่มันจะทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้อยู่มากหากคู่ต่อสู้อยู่ในระดับเดียวกันและยังช่วยให้สามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าได้อย่างสูสี
เดเมียนพอใจกับความก้าวหน้าและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่เรียนรู้เทคนิคเงาต่างๆ
[ฉันคงไปถึงระดับ 3 ได้ภายในอีกหนึ่งสัปดาห์ และฉันจะได้เป็นนักเรียนชั้นในของสถาบันได้ในเวลาไม่นาน]
หลังจากฟื้นพลังและเดเมียนก็รู้สึกหิว และกำลังคิดว่าจะไปหาแม่ของเขาและกินข้าวฝีมือของแม่ ซึ่งจะทำให้เดเมียนพอใจกว่าอาหารที่สถาบัน
เดเมียนออกจากห้องฝึกส่วนตัวและอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงความสำเร็จที่ได้ฝึกฝนมาทั้งสัปดาห์ อย่างไรก็รอยยิ้มนั้นได้หายไปเมื่อเดเมียนเห็นใบหน้าของเด็กที่คุ้นเคยอยู่นอกห้องฝึก และมีกลุ่มนักเรียนกำลังยืนอยู่
นั้นคือ แลรร์รี่ นอร์ริส เด็กนักเรียนที่จะอย่งภารกิจของเดเมียน อย่างไรก็ตามความหยิ่งยโสและความมั่นใจนั้นไม่ใช่ความแข็งแกร่งของเด็กคนนั้น แต่เป็นพี่ชายของเขาต่างหากที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความแข็งแกร่งที่เป็นนักเรียนชั้นในของสถาบัน
“จำฉันได้ไหมเด็กน้อย”
แลร์รี่กล่าวขณะเอาลูกน้องมาล้อมรอบเดเมียน
แลร์รี่ได้ตามหาเดเมียนในสถาบัน และใช้เวลาถึง 2-3 วันกว่าจะตามหาเดเมียนเจอ และยังค้นหาว่าเดเมียนเป็นใคร แต่ก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเดเมียน เพราะอีวานเป็นคนเก็บข้อมูลเอาไว้
แลร์รี่ได้สั่งให้ลูกน้องตามหาเดเมียน สอดส่องและคอยรายงานกิจวัตรของเดเมียนให้เขาฟังในทุกๆ วัน และเมื่อรู้ว่าเดเมียนอยู่ในศูนย์ฝึกในตอนเย็น แลร์รี่ก็หาโอกาสที่เหมาะสมที่จะแก้แค้นเดเมียน สถาบันซึ่งมีกฏห้ามทำร้ายนักเรียนคนอื่นอย่างเคร่งครัดและหากต้องการปประลองต้องขึ้นไปประลองบนลานประลอง เพื่อหาผลแพ้ชนะ
ถึงแม้ความขัดแย้งและการทะเลาะวิวาทจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ผู้อาวุโสจึงจัดตามความเหมาะสม
ก่อนที่เดเมียนจะตอบคำถามแลร์รี่ เดเียวได้แปลงพลังานของตัวเองให้กลายเป็นพลังงานเงาและเตรียมตัวพร้อมที่จะหลบหนีออกไป เดเมียนสามารถสัมผัสได้ว่าแลร์รี่เป็นผู้ฝึกฝนระดับ 4 ในขณะที่ลูกน้องของเขาอยู่ในระดับ 1 และ 2 และมี 2-3คนที่อยู่ระดับ 3
เดเมียนรู้ว่าไม่มีทางที่จะเอาชนะได้และยังสัมผัสได้อีกว่าแลร์รี่นั้นมีจิตวิญญาณ
[ฉันทำอะไรได้บ้าง เนี่ยยย]
เดเมียนคิดกับตัวเองขณะที่มองหาทางออกจากสถานการณ์
เดเมียนรู้ว่าแลร์รี่จะต้องตามหาเขาหลับจากที่เดเมียนแย่งภารกิจคืนมา แต่ไม่คิดว่าเขาจะแก้แค้นด้วยวิธีแบบนี้