จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 110
บนถนนเจี่ยฟ่าง ภายในห้องส่วนตัวของคลับตี้หาว
หม่าเจิ้งถิงโอบซ้ายกอดขวา สีหน้าแดงก่ำ ในห้องนอกจากเขาแล้วยังมีผู้ชายอีกกลุ่มหนึ่ง หญิงสาวอีกสิบกว่าคน อายุล้วนอยู่ราวๆ ยี่สิบต้นๆ อีกทั้งยังมีหญิงสาวที่แต่งงานแล้วอยู่ด้วยหลายคน
ที่น่าสังเกตก็คือ ผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้มีท่าทีเหมือนโสเภณีแต่อย่างใด พวกเธอมีสีหน้าอัปยศอดสูและหวาดกลัวปรากฏอยู่
“ผู้อำนวยการ ได้ยินมาว่าไม่กี่วันก่อนคุณได้สาวสวยมาอีกแล้ว” ชายพุงพลุ้ยคนหนึ่งถามขึ้น เขาเป็นตัวแทนจำหน่ายยาจีนใน เมืองเจียง
แต่ไหนแต่มาล้วนร่วมมือกับโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนเพื่อจัดหาตัวยาให้โรงพยาบาล
“เถ้าแก่อู๋ ผู้อำนวยการเป็นคนกว้างขวาง จะมีผู้หญิงคนไหนที่เขาไม่ได้มา” รองผู้อำนวยการหัวเราะลั่น ก่อนจะกอดพยาบาลตัวน้อยและกอดจูบลูบคลำเธอ
“มามามา พวกเราดื่มให้กับผู้อำนวยการหน่อย จากนี้ไปโชคลาภยังต้องพึ่งผู้อำนวยการแล้ว โสเภณีมันจะไปสนุกอะไร ยังไงเด็กสาวก็ยังคงน่ากระปรี้กระเปร่ากว่าเยอะ”
เถ้าแก่อู๋ยกแก้วขึ้น
พวกผู้ชายหัวเราะขึ้นมาและมองไปที่ผู้ชายบนตรงกลางโซฟา
หม่าเจิ้งถิงรู้สึกภาคภูมิใจ ถึงแม้อายุจะหกสิบแล้วแต่ผมก็ยังดกดำ เต็มไปด้วยพลัง ดูแลตัวเองได้ดีอย่างยิ่ง
“ล้วนเป็นเพื่อนเก่าแก่ทั้งนั้น อย่าได้มาเอ่ยอ้อมไปอ้อมมา สนุกก็พอแล้ว ผู้หญิงคนนั้นชื่อเฉินโก่ หน้าตางดงามแถมหุ่นก็ดีด้วย คิดไม่ถึงว่าจะยังบริสุทธิ์ ฉันบอกเธอแล้ว เดี๋ยวเธอก็รีบมา”
เถ้าแก่อู๋สีหน้าอิจฉา “ผู้อำนวยการช่างโชคดี ได้สนุกกับผู้หญิงบริสุทธิ์”
“ไม่ต้องกังวล วันก่อนฉันไปที่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนในเมืองเจียงเพื่อสอนหนังสือ พบผู้หญิงสวย ๆ หลายคน ไว้ถึงเวลาแล้วค่อยจัดการให้มาที่โรงพยาบาลของแพทย์แผนจีน หนีไปไม่รอดจากเงื้อมมือฉันหรอก”
หม่าเจิ้งถิงรู้สึกภาคภูมิใจ แต่กลับไม่เห็นสีหน้าของพยาบาลและแพทย์หญิงที่อยู่ข้างๆ ว่าดวงตาของพวกเธอมีแววเกลียดชังเคียดแค้นมากขนาดไหน
ถึงกับมีแพทย์หญิงหลายคนตัดสินใจว่าจะหาโอกาสไปที่มหาลัย แล้วอธิบายเรื่องราวกับนักศึกษาหญิงพวกนั้น ไม่ให้พวกเธอมาที่ไปโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนเป็นอันขาด
เถ้าแก่อู๋หัวเราะอีกครั้ง “ถ้าอยากเข้าโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน ไม่มีเส้นสายก็ไม่เป็นไร ผู้อำนวยการเอ่ยปากส่งรายชื่อเอง พวกนังหนูเหล่านั้นไหนเลยจะปฏิเสธ น้องชายยังรอชิมอาหารสดใหญ่อยู่ล่ะ ยาล็อตถัดไป ผมลดให้คุณยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
“ตกลง มาดื่มกันเถอะ”
หม่าเจิ้งถิงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
หลังจากดื่มไปสองสามแก้ว ชายคนหนึ่งก็ถามขึ้น “ผู้อำนวยการ น้องชายนับถือคุณอย่างมากจริงๆ คุณควบคุมเด็กสาวพวกนี้ยังไง ทำไมถึงได้ไม่กล้าแจ้งความคุณเลยสักนิด”
“แจ้งความฉัน? ”
หม่าเจิ้งถิงหัวเราะร่า เขาหันไปถามพยาบาลสาวที่อยู่ข้างๆ “ชิวจู๋ เธอกล้าแจ้งความฉันไหม? ”
“ฉัน ฉันไม่กล้า” ชิวจู๋ก้มหน้าลง สีหน้าหวาดกลัว
“เสี่ยวเหมย แล้วคุณล่ะ?”
พยาบาลอีกคนส่ายหัว “ฉันไม่กล้า”
หม่าเจิ้งถิงกวาดตามอง ในห้องเกิดเสียงดังขึ้นติดต่อกันด้วยความหวาดกลัว จนทำให้เถ้าแก่อู๋และคนอื่น ๆ ถึงกับแปลกใจและชื่นชม
“เด็กสาวพวกนี้รู้ฝีมือฉันดี อธิบดีหลินของสำนักอัยการสูงสุดเมืองเจียงเป็นเพื่อนสนิทกับฉัน ผบ.ตรตี๋เองก็มีความ สัมพันธ์ที่ดีกับฉันด้วย”
“แจ้งความฉัน ใครกล้า!”
ปัง
ทันใดนั้น ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก
ในห้องเงียบสนิทลงทันที
เมื่อพวกเขาหันไปมอง ก็เห็นชายหนุ่มและหญิงสาวสวยสองคนยืนอยู่ที่ประตู
“เฉินโก่!”
หม่าเจิ้งถิงร้องขึ้น เขาขมวดคิ้วและมองไปที่โล่เฉิน “นายเป็นใคร? ”
“นายเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน? ”
“ไม่ใช่ เป็นฉัน”
โล่เฉินกำหมัด ในใจเต็มไปด้วยความโมโห
สายตาของเขา ทำไมจะมองไม่ออกว่าหญิงสาวพวกนี้ ไม่ใช่หญิงสาวของคลับ อย่างนั้นพวกเธอก็คือ…
“ชิวจู๋ เสี่ยวเหมย หัวหน้าพยาบาล คุณหมอหยาง…พวกคุณเองก็….” ”
เฉินโก่เบิกตากว้าง สีหน้าไม่อยากเชื่อ
หม่าเจิ้งถิงสีหน้าเครียดขึ้น เขาเอ่ยอย่างเย็นชา “เฉินโก่ ฉันให้เธอมาแค่คนเดียวไม่ใช่หรือไง กล้าพาคนนอกมาด้วย ไม่เชื่อฟังฉันแบบนี้ ดูท่าเธอจะต้องถูกสั่งสอนเสียบ้างแล้ว”
“แกไอ้เดรัจฉาน ฉันจะแจ้งตำรวจ แจ้งความแก! ”
เฉินโก่ตะโกน
ตอนแรกเธอคิดว่ามีตนเพียงคนเดียว คิดไม่ถึงว่าพี่น้องที่ดีของเธอ หัวหน้าพยาบาลผู้อ่อนโยน รวมถึงหมอหยางที่ดูแลเธอ ก็ถูกไอ้เฒ่าสัตว์เดรัจฉานทำร้ายด้วย
นี่ทำให้เธอไม่อาจรับได้อีกต่อไป
“แจ้งความฉัน? ฮ่าฮ่า ไปสิ ฉันจะรอ”
หม่าเจิ้งถิงสีหน้าไม่แยแส สายตาของเขามองไปที่โล่เฉินอีกครั้ง เขาแค่นเสียง “ไอ้หนุ่ม เป็นแฟนของเฉินโก่หรือ จะมาต่อสู้ทวงความยุติธรรมให้แฟนนายหรือไง?”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม”
“เจ้าหนุ่ม โลกนี้มันต้องอยู่กับความเป็นจริง นายก็แค่คนธรรมดาคิดจะมาสู้กับฉัน นายลองถามตัวเองให้ดีก่อนว่านายสู้ฉันไหวหรือ?”
หม่าเจิ้งถิงจุดบุหรี่ บรรยากาศท่าทางราวกับของลูกพี่ใหญ่
เถ้าแก่อู๋ รองผู้อำนวยการและผู้ชายคนอื่นๆ ล้วนมีสีหน้าสนุกสนาน ราวกับกำลังชมเรื่องสนุก มือไม้ยังไม่หยุดนิ่งลูบคลำหญิงสาว
“ตีฉัน ระบายความโกรธ?”
“ยังไม่ต้องพูดถึงไอ้เด็กตัวขนอย่างแก แม้แต่ชายเสื้อของฉันแกยังแตะไม่ได้ด้วยซ้ำ ต่อให้นายกล้าตีฉันจริง ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง นายรู้รึเปล่า?”
“ฉันสามารถฆ่านายได้ เชื่อไหม?”
สีหน้าของโล่เฉินไม่เปลี่ยนแปลง เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ “ความหมายของนายคือ?”
“เฉินโก่กับผู้หญิงคนนั้นอยู่ต่อ ส่วนนายไสหัวไปซะดีๆ”
หม่าเจิ้งถิงสังเกตเห็นส้งเชี่ยงมานานแล้ว และพบว่าเธอสวยกว่าเฉินโก่เสียอีก อีกทั้งอายุก็น่าจะเพียงยี่สิบปี
สวยบริสุทธิ์งดงาม ใครจะอดใจไหว
เมื่อเห็นโล่เฉินยังคงนิ่งไม่ไหวติง หม่าเจิ้งถิงก็เอ่ยอีกครั้ง “ยังมัวยืนบื้ออยู่ทำไม ฉันให้นายไสหัวไปซะ อย่าให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ ถึงตอนนั้นนายอยากจะหนีก็หนีไม่รอด”
ตุบตุบตุบ
โล่เฉินเดินเข้าไปหาหม่าเจิ้งถิงทีละก้าวๆ
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้น
เถ้าแก่อู๋ลุกขึ้น ในมือถือขวดไวน์แล้วร้องด่าเสียงดัง “เฮี้ยเอ๊ย ขนยังไม่ขึ้นด้วยซ้ำก็มาแกล้งทำอวดเก่งแล้ว ใครให้ความมั่นใจนี่กับแกวะ! ”
โล่เฉินไม่สนใจ
“โอ้ น่าสนใจ”
เถ้าแก่อู๋ก็ไม่ใช่ด้อยๆ เขาไม่พูดพร่ำแล้วฟาดขวดไวน์เข้าใส่หัวของโล่เฉินทันที
มือไม้โหดเหี้ยม ไร้ความปรานีโดยสิ้นเชิง
“เพี๊ยะ!”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ขวดจะตกลง เถ้าแก่อู๋กลับรู้สึกว่าจู่ๆ สมองของเขาก็ว่างเปล่า ความรู้สึกเจ็บปวดบนใบหน้าทำให้เขาต้องล้มลงกับพื้นและกรีดร้องออกมา
แม้ว่าโล่เฉินจะยังอยู่ในช่วงเวลาอ่อนแอ ไม่สามารถให้พลังทิพย์ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาที่ไหนจะสามารถมาทำตัวโอหังต่อหน้าเขาได้ตามอำเภอใจ
ถึงแม้นี่จะดูเหมือนการตบธรรมดา ๆ แต่จริงๆ แล้วมันล้ำลึกอย่างยิ่ง เขาตบลงไปที่จุดพิเศษ ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดมากเป็นพิเศษ แก้มของเถ้าแก่อู๋บวมขึ้นจนดูไม่ได้
“ ไอ้สารเลว กล้าลงมือทำร้ายคน!”
ทันทีที่หม่าเจิ้งถิงยืนขึ้น เขาก็ถูกโล่เฉินคว้าที่คอเสื้อแล้วกดลงกับพื้น
เมื่อคิดจะลุกขึ้นเขากลับถูกเหยียบที่หน้าอกเอาไว้
จนแทบหายใจไม่ออก.
“แก…”
“โชคดีที่ความคิดฆ่าฟันของฉันมันถูกขัดเกลาไปมากแล้ว หากเป็นเมื่อก่อน แต่ตอนที่ฉันเข้าประตูมาแกก็ตายไปนานแล้ว”
สีหน้าของหม่าเจิ้งถิงเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาสังเกตเห็นถึงรังสีการฆ่าฟันอันเย็นชาได้
ในตอนนี้ เขารู้สึกว่าคนที่เหยียบเขาอยู่ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นยมทูตตนหนึ่ง หม่าเจิ้งถิงเหงื่อตก เขารีบเอ่ยละลักละล่ำ “เจ้าหนุ่ม มีอะไรค่อยพูดค่อยจา”
“ต้องการผู้หญิงหรือ พวกนี้นายเลือกได้เลยตามสบาย”
“ต้องการเงินก็ไม่มีปัญหา เอาเลขบัญชีธนาคารและชื่อมาให้ฉัน ฉันจะโอนหนึ่งล้านให้นายทันที เฉินโก่ฉันวางมือแล้ว แถมจะเลื่อนตำแหน่งหัวหน้าให้เธอด้วย”
โล่เฉินเยาะเย้ย “นายเองก็รู้จักกลัวนี่ ตอนที่ทำร้ายผู้หญิงมากมายขนาดนี้ ทำไมนายถึงไม่รู้สึกกลัว”
“เจ้าหนุ่ม นี่มันยุคไหนแล้วนายทำไมถึงยังมาทำตัวไร้เดียงสา ทำร้ายไม่ทำร้ายอะไรกัน พวกนี้มันก็แค่ต่างฝ่ายต่างได้ ฉันต้องการร่างกายของพวกเธอ ส่วนพวกเธอก็แค่ต้องการเงิน ต้องการทำงานในโรงพยาบาล นี่มันเป็นเรื่องปกติ”
เฉินโก่โกรธจนแทบเซ เธอกรีดร้องด่า “ใครไปแลกเปลี่ยนกับแก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าแกข่มขืนฉัน ไอ้สัตว์เดรัจฉาน”
“ ฉันไม่ได้ทำ!”
“ ยังกล้าเล่นลิ้น”
ในเวลานั้นเอง หญิงสาวหลายคนก็ลุกขึ้นยืน
ชิวจู๋ เสี่ยวเหมยและหญิงสาวคนอื่นๆ ก็เอ่ยสะอื้นไห้ “พี่ชาย พวกเราเป็นเหมือนโก่โก่ ถูกเขากระทำแล้วถ่ายรูปไว้มาข่มขู่พวกเรา”
“เขายังคงไม่ยอมปล่อยพวกเราไป บอกว่าถ้าไม่เชื่อฟังเขาจะจัดการกับครอบครัวของเรา เขาบอกว่าอัยการสูงสุดเป็นเพื่อนของเขา ผู้กำกับตี๋ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา พวกเราหวาดกลัวมาก ”
“พี่ชาย ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย”
เหล่าหญิงสาวร้องไห้เสียใจอย่างยิ่ง พวกเธอส่วนใหญ่ล้วนเป็นหญิงสาวที่เพิ่งจบการศึกษา ชีวิตที่สวยงามเพิ่งจะได้เริ่มต้น แต่กลับต้องถูกบดขยี้ลงแบบนี้
ราวกับดอกไม้แรกแย้มที่ถูกปนเปื้อนด้วยกลิ่นเหม็นเน่า ช่างน่าเวทนาอย่างยิ่ง
หลินหยุนเซียว ตี๋เทียนหนัน?
โล่เฉินกะพริบตาและถามอย่างเย็นชา “หลินหยุนเซียวกับตี๋เทียนหนันเป็นคนหนุนหลังของนาย?”
“ใช่”
ในที่สุดหม่าเจิ้งถิงก็พบความมั่นใจของตน เขาเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าหนุ่ม รู้ถึงความแข็งแกร่งของฉันแล้วยัง ถ้าหากฉันเกิดอะไรขึ้นมา ไม่ใช่แค่นายที่ซวย คนในครอบครัวของนายก็จะต้องถูกลงโทษด้วย”
“พวกเขาสองคนก็เคยมาเล่นสนุกด้วย?”
“แน่นอน”
หม่าเจิ้งถิงเอ่ยอย่างชอบธรรม สีหน้าจริงจัง “ในเมื่อเป็นผู้หนุนหลังฉัน ฉันย่อมต้องให้การสนับสนุนอย่างดี สรุปก็คือ ฉันกับหลินหยุนเซียว และตี๋เทียนหนันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทางที่ดีนายควรปล่อยฉันไปซะ”
โล่เฉินโกรธจัด
ปัง
เขาเตะโต๊ะกระจกแตกออกเป็นชิ้นๆ จนทำเอาทุกคนตกใจจนตัวสั่น
“โทรศัพท์! ”
“หา? ”
หม่าเจิ้งถิงที่นั่งอยู่บนพื้นอึ้งไป
โล่เฉินมีสีหน้าเกรี้ยวกราด เขาเอ่ยด้วยความโกรธ “โทรศัพท์ เรียกหลินหยุนเซียวและตี๋เทียนหนันไสหัวมาหาฉันเดี๋ยวนี้”