จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 111
โทรเรียกหลินหยุนเซียวและตี๋เทียนหนันมา!
หม่าเจิ้งถิงตกตะลึง
เขาแทบจะอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เด็กหนุ่มสมัยนี้เสแสร้งทำเป็นเก่งได้เยี่ยมจริงๆ ไร้สมอง
เพราะไม่รู้จักเรื่องราวจึงไม่รู้จักความกลัว
แต่เดิมเขากังวลว่าจะไม่มีโอกาสได้ไปเรียกใครมา คิดไม่ถึงว่าโอกาสจะเข้ามาหาเขาเอง
“นายแน่ใจ?”
หม่าเจิ้งถิงลุกขึ้นและตบขี้ฝุ่นบนตัวออก เขาเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “หากนายวิ่งหนีไปขึ้นมา ให้ฉันตามจับก็ดูจะลำบากอยู่หน่อย แต่นายกลับบอกให้ฉันโทรเรียกเหล่าหลินและเหล่าตี๋ นายรู้รึเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่!”
“ความอดทนของฉันมีจำกัด”
นัยน์ตาเย็นชาของโล่เฉินทำเอาหม่าเจิ้งถิงใจหดวูบ เขาแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะกดโทรศัพท์
ไม่กี่วินาทีต่อมา หม่าเจิ้งถิงก็หัวเราะขึ้นเบาๆ ในห้องส่วนตัว
“อธิบดีหลิน นี่ผมเอง หม่าเจิ้งถิง…ใช่ ผมอยู่ในคลับตี้หาวบนถนนเจี่ยฟ่าง มีเรื่องด่วนนิดหน่อย คุณช่วยมาที่นี่สักหน่อย…อ้อ งั้นหรือ อยู่ไม่ไกลจากตี้หาว ผบ.ตรตี๋เองก็อยู่ข้างๆ คุณ….อย่างนั้นก็ยิ่งดีเลย พวกคุณมาด้วยกันเถอะ ผมขอเลี้ยงเหล้าพวกคุณ…” เอ่อ ดีเลย ผมจะให้คนไปรับคุณที่ประตูคลับ”
หลังจากวางสาย หม่าเจิ้งถิงก็เย้ยหยัน “สิบนาที พวกเขาก็จะมาถึง นายรีบๆ ซึมซับสิบนาทีนี้เอาไว้ให้ดีเถอะ เหล่าหลิวนายลงไปรับที”
“ได้เลย”
เหล่าหลิวก็คือรองผู้อำนวยการคนนั้น เขาเดินออกนอกประตูไปอย่างสบายใจ
เฉินโก่และส้งเชี่ยง รวมถึงชิวจู๋ เสี่ยวเหมยและหญิงสาวคนอื่นๆ ตอนนี้สีหน้ากำลังซีดขาว
“พี่โล่ พวกเราจะทำยังไงดี?” ส้งเชี่ยงถามเสียงสั่น
“ไม่เป็นไร นั่งลงเถอะ”
สีหน้าของโล่เฉินยังคงเรียบเฉย
ไม่นานนัก ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เหล่าหลิวปรากฏตัวที่ประตู “อธิบดีหลิน ผบ.ตรตี๋ เชิญด้านใน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เหล่าหลิน เหล่าตี๋ พวกคุณมาแล้ว”
หม่าเจิ้งถิงรีบเข้าไปต้อนรับทันที
มีคนอยู่ในห้องไม่น้อย โล่เฉินถูกรายล้อมไปด้วยหญิงสาว ประกอบกับแสงไฟที่ไม่สว่างมากนัก หากไม่สังเกตดีๆ ก็หาเขาไม่เจอ
หลินหยุนเซียวและตี๋เทียนหนันมองดูความอึกทึกครื้นเครงตรงหน้า สีหน้าอึมครึมขึ้นมา เขาเอ่ยถาม “นี่มันหมายความว่ายังไง เรียกพวกเรามาที่นี่ทำไม!”
“อย่าเพิ่งโมโห อย่าเพิ่งโมโห ที่เรียกพวกคุณมา ก็เพราะมีเจ้าหนุ่มคนหนึ่งมาลงไม้ลงมือทำร้ายคน แถมยังบอกว่าจะฆ่าฉัน”
หม่าเจิ้งถิงชี้ไปที่เถ้าแก่อู๋แล้วเอ่ย “ดูนั่นสิ นั่นเป็นเพื่อนผมเอง ถูกทุบตีจนสภาพเป็นแบบนั้น อย่างน้อยสมองก็ได้รับการกระทบกระเทือนแน่”
“โอ้?เป็นใคร?” ตี๋เทียนหนันเอ่ยถาม
“นั่น อยู่ตรงนั้น”
หม่าเจิ้งถิงมองไปที่มุมห้องและเพยิดคางขึ้น
หลินหยุนเซียวและตี๋เทียนหนันหันไปมอง ก่อนจะตะลึงไป คิดไม่ถึงว่าจะเป็นโล่เฉิน
“ไอ้หนุ่ม อวดเบ่งดีนี่ ผอ.ทั้งสองท่านมาแล้ว นายยังปีกกล้าขาแข็งนั่งอยู่ได้ ไม่รู้จักกลัวตายจริงๆ !”
หม่าเจิ้งถิงชี้หน้าของโล่เฉิน เขาเอ่ยด่าลั่น “นายจงใจทำร้ายผู้คน ขู่ว่าจะฆ่าฉัน แถมแบล็กเมล์ฉันด้วยหนึ่งล้าน คนทั้งหมดในนี้เป็นพยานได้ อย่างน้อยนายต้องโดยตัดสินโทษสามปี”
“งั้นหรือ สามปี?”
โล่เฉินเยาะเย้ย เขากวาดตามองไปรอบๆ และพูดว่า “พยานบุคคลอยู่ที่ไหน”
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพยาน” หม่าเจิ้งถิงจ้องใส่ชิวจู๋ เขาเอ่ยเสียงต่ำ “ชิวจู๋ ฉันพูดถูกไหม?”
“ฉัน ฉัน…”
ชิวจู๋ตัวสั่นเทา ดวงตาแดงก่ำน้ำตาเอ่อคลอเบ้า
เฉินโก่รวบรวมความกล้าและลุกยืนขึ้นอธิบาย “ท่านผอ. พวกคุณได้โปรดช่วยตัดสินให้พวกเราด้วย พวกเราล้วนเป็นพยาบาล หมอในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน พวกเราล้วนถูกไอ้เดรัจฉานหม่าเจิ้งถิงทำร้าย….”
เมื่อมีผู้นำขึ้นมาคนหนึ่ง สาวๆ ที่เหลือก็เอ่ยพูดความจริงออกไป
เฉินโก่น้ำตาไหลพราก เอ่ยเอ่ยสะอื้น “ได้โปรดท่านผอ.ช่วยจัดการให้พวกเราด้วย”
ธรรมชาติของมนุษย์ ล้วนไม่กล้าเป็นหน่วยกล้าตาย
ตอนนี้ พอมีผู้นำขึ้นมา ทันใดนั้นเลือดลมของเหล่าหญิงสาวก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที
ทั้งห้องส่วนตัวนอกจากส้งเชี่ยงแล้ว หญิงสาวทั้งหมดกำลังร้องไห้ระงม “ได้โปรดท่านผอ.ช่วยจัดการให้พวกเราด้วย”
ตึง.
เสียงร้องเกิดเป็นพลังขึ้นมา
ใบหน้าของหม่าเจิ้งถิงมืดลง เขาตะคอก “พวกสวะ พวกเธอกล้าใส่ร้ายฉัน ตั้งใจอยากให้ฉันต้องออกจากโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน ฉันจะฟ้องร้องพวกเธอข้อหาใส่ร้าย”
“ใส่ร้าย?ในมือถือฉันยังมี MMS ที่คุณส่งมาให้อยู่เลย เนื้อหาของ MMS คืออะไรคุณเองก็น่าจะรู้ดี ถ้าคุณแน่จริง ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของคุณออกมาให้ผบ.ตรตี๋ตรวจสอบสิ”
เฉินโก่ตอบโต้อย่างกล้าหาญ
นี่คือศักดิ์ศรีสุดท้ายของพวกเธอ จำต้องได้รับการปกป้องเอาไว้ จะให้พวกเธอไม่เคลื่อนไหวได้อย่างไร
“ส่งมือถือออกมา!”
“ส่งมือถือออกมา!”
“ส่งมือถือออกมาให้ผบ.ตรตี๋ตรวจสอบ!”
พวกผู้หญิงร้องลั่น ส่วนหม่าเจิ้งถิงกำลังเหงื่อตก
เพียงแต่ตัวเขาก็แค่รู้สึกหงุดหงิดอยู่หน่อยเท่านั้น ไม่ได้ตกใจตกใจอะไรมากมาย ต่อให้สิ่งที่ผู้หญิงพวกนี้พูดจะเป็นเรื่องจริง แต่เขาเองก็ไม่เชื่อว่าหลินหยุนเซียวและตี๋เทียนหนันจะลงโทษเขาจริงๆ
“หม่าเจิ้งถิง นายช่างใหญ่โตดีนี่”
วูบ
ทันใดนั้น หม่าเจิ้งถิงก็เกร็งขึ้นมา อากาศเย็นเฉียบพุ่งขึ้นไปถึงศีรษะ
น้ำเสียงของตี๋เทียนหนันเย็นชาเกินไป จนทุกคนสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกถึงโมโหและขุ่นเคืองในคำพูดของเขา นี่….นี่มันเรื่องอะไรกัน?
“ตี๋…..”
เพี๊ยะ
หม่าเจิ้งถิงเพิ่งจะเอ่ยออกมาแต่กลับถูกตบบ้องหูจนล้มลงกับพื้น
ตี๋เทียนหนันสีหน้าเขียวคล้ำ แทบจะอยากเข้าไปฉีกคนบนพื้นออกเป็นชิ้นๆ
“ต่ำเสียยิ่งกว่าหมูกว่าหมา นายเป็นผอ.ก็เพราะต้องการให้นายทำหน้าที่แพทย์รักษาผู้คน แต่นี่นายกลับกล้ากระทำเรื่องบ้าบอพวกนี้!นายไม่มีลูกสาวหรือไง ไม่มีหลานสาวหรือไง กล้าลงมือทำไปได้ยังไง!”
“ผบ.ตรตี๋ ผมผิดไปแล้ว”
หม่าเจิ้งถิงไม่มีท่าทีโต้แย้ง ถึงกับต้องบอกว่าเขารับผิดแต่โดยดีอย่างยิ่ง
เขาไม่เพียงแต่ไม่ตื่นตระหนกในใจ แต่ยังแอบหัวเราะ รู้สึกว่าฝีมือการแสดงของตี๋เทียนหนันเก่งอย่างยิ่ง เล่นเอาเสียจนเหมือนจริง
“เหล่าตี๋ ไม่ต้องเสียเวลาไปคุยกับเขาแล้ว พากลับไป สมควรตรวจสอบยังไงก็ตรวจสอบไป สมควรตัดสินโทษอย่างไรก็ทำตามนั้น!”
น้ำเสียงของหลินหยุนเซียวปราศจากความอบอุ่นใดๆ
แต่ไหนแต่ไรมา พวกเขาล้วนตรงไปตรงมา ทำงานอย่างซื่อสัตย์มาโดยตลอด
เขาเองก็มีลูกสาว อีกทั้งยังรักลูกสาวสุดชีวิต เวลานี้เมื่อต้องมาเห็นหญิงสาววัยเยาว์มากมายคุกเข่าอยู่บนพื้น เวลาที่แต่เดิมควรสดใสรุ่งโรจน์กลับต้องมาทนทุกข์กับยาพิษ
หลินหยุนเซียวโกรธ
โกรธอย่างยิ่ง
โกรธจนแทบคลั่ง
“น่าจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ไปขุดพวกเดรัจฉานพวกนี้ออกมาให้หมด สามารถทำเรื่องต่ำทรามแบบนี้ได้จะต้องยังมีเรื่องสกปรกอื่นๆ อยู่อีกแน่”
“ตรวจสอบให้หมด!”
“ตัดสินโทษ เอามาตัดสินโทษอย่างเข้มงวด”
หลินหยุนเซียวตัวสั่น
ในฐานะพี่น้อง ตี๋เทียนหนันเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน เขาโกรธจนแทบกระอัก ปรี่เข้าไปต่อยที่จมูกของหม่าเจิ้งถิงทันที
หมัดนี้ถูกต่อยออกไปอย่างแรง
จบแทบจะทำให้จมูกของหม่าเจิ้งถิงหัก
“อ๊าก!”
หม่าเจิ้งถิงกรีดร้อง เขาไม่เข้าใจ ต่อให้เป็นการแสดงก็ไม่เห็นจะต้องทำเกินไปขนาดนี้ ไม่เห็นต้องสมจริงขนาดนี้นี่
ตุบตุบตุบ
หลินหยุนเซียวเดินไปหาโล่เฉิน เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง “เสี่ยวเฉิน ขอโทษด้วย ฉันประมาทเกินไป!”
โล่เฉินไม่เอ่ยอะไร
ตี๋เทียนหนันเองก็เอ่ยปาก “หมอเทพ คุณเป็นพี่น้องของเหล่าหลินย่างนั้นก็ถือเป็นพี่น้องของผมเหล่าตี๋เช่นกัน ขอบคุณคุณจริงๆ ที่ขุดใบหน้าของเจ้าเดรัจฉานพวกนี้ออกมา ไม่อย่างนั้นพวกเราคงถูกเขาบดบังเอาไว้เป็นคนตาบอด คุณวางใจได้ จะไม่มีใครหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว พวกเขาจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง”
อะไรนะ!
ในเวลานี้ หม่าเจิ้งถิงกำลังงงเป็นไก่ตาแตก
พี่น้อง?
เกิดอะไรขึ้น?
ไม่ถูกต้อง นี่ไม่ใช่การแสดง หลินหยุนเซียวมีท่าทียำเกรงต่อเจ้าหนุ่มนั่นขนาดนี้ เขาเป็นใคร มีฐานะยังไง?
ในเวลานี้ หม่าเจิ้งถิงเข้าใจขึ้นมาแล้ว
ที่แท้ เขามีความมั่นใจอยู่จริงๆ
แต่ว่า นี่สายไปแล้ว
“นายท่าน คุณชาย….ไว้ชีวิต ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย”
หม่าเจิ้งถิงพยายามปีนป่ายเกาะไปบนขาของโล่เฉิน น้ำตาไหลพราก “ฉัน ฉันหุนหันไปชั่วขณะ ฉันยินดีชดใช้ ที่บ้านฉันมีทรัพย์สินไม่น้อย ฉันยอมชดเชยให้พวกเธอคนละล้าน ได้โปรดยกเว้นฉันไว้สักครั้ง ฉันผิดไปแล้ว ละเว้นฉันสักครั้งเถอะ”
โล่เฉินไม่แม้แต่จะมอง แต่กลับจ้องไปที่หลินหยุนเซียวและตี๋เทียนหนัน
“รู้ไหมว่าทำไมผมถึงให้เขาโทรหาพวกคุณ?”
น้ำเสียงของเขาเยียบเย็น
หลินหยุนเซียวและตี๋เทียนหนันในใจสั่นสะท้านขึ้น
“นั่นพราะคุณกับพวกเขาเป็นเพื่อนกัน แต่กลับไม่รู้เรื่องเลยสักนิด นี่จะอธิบายยังไง?”
“เป็นพวกเราที่ประมาทไป!”
“มีหน้าที่อะไรก็ทำตามนั้น อย่าได้มัวแต่นั่งยึดตำแหน่งไปวันๆ ไม่งั้น ฉันเองก็ไม่รังเกียจที่จะทำหน้าที่แทนสวรรค์” พูดจบ โล่เฉินก็ออกจากห้องส่วนตัวไปอย่างไม่ใส่ใจ
สิบหน้านาทีต่อมา
รถตำรวจหลายคันปรากฏขึ้น หม่าเจิ้งถิงและคนอื่นๆ ถูกนำตัวไป
ส่วนหญิงสาวที่เป็นผู้เสียหายย่อมต้องได้รับการคุ้มครองเอาไว้ จะไม่มีข่าวลือเรื่องการถูกละเมิดของพวกเธอหลุดออกไป ตี๋เทียนหนันเองก็รับประกันว่าจะจัดการกับข่าวลือทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็จะได้รับการชดเชย
หม่าเจิ้งถิง รองผู้อำนวยการ เถ้าแก่อู๋และคนอื่นๆ ล้วนมีทรัพย์สินมั่งคั่ง ค่าชดเชยของสาวๆ จึงไม่น่าจะน้อยอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่สามารถชดเชยความบอบช้ำทางจิตใจได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยปลอบโยนได้ไม่มากก็น้อย
ถนนเจี่ยฟาง
หลินหยุนเซียวส่ายหัวและถอนหายใจ “บนโลกนี้มีอาชญากรรมมากเกินไป ป้องกันยังไงก็ไม่หมด หม่าเจิ้งถิงเจ้านั่นเองก็เคยมาดูอาการป่วยให้ชิงอี๋และเกิดเป็นมิตรภาพขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้านั่นจะอาศัยชื่อของพวกเราไปกระทำเรื่องเลวทราม”
“ขอบคุณคุณมากที่ทำให้จับตัวหม่าเจิ้งถิงได้” “ตี๋เทียนหนันเอ่ย
“นรกว่างเปล่า เพราะมารอยู่บนโลก”
โล่เฉินพูดเบาๆ
ในใจของพวกหลินหยุนเซียวตระหนกขึ้น
เมื่อเห็นโล่เฉินขึ้นไปบนรถ ในใจของหลินหยุนเซียวก็มีบางอย่างพุ่งขึ้นมา เขาตะโกนเรียก “เสี่ยวเฉิน รอก่อน”
“มีเรื่องอะไร?”
“ฉันอยากรู้มากกว่า หากพวกเราเองก็ผสมโรงกับหม่าเจิ้งถิงไปด้วย นายจะทำยังไง?”