จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 134
“อะไรนะ สิบล้าน!”
ในบริษัท หานหยู่ถิงอุทานออกมา เธอมองเจิ้งข่ายอย่างเหลือเชื่อ
คุณหนูจากตระกูลชั้นสามเอ่ยอย่างดูถูก “ทำไม ไม่เคยเห็นเงินหรือไง ก็แค่ 10 ล้าน มีอะไรให้ต้องเอะอะ!”
“เจิ้งข่าย นายแน่ใจหรือ?”
“แน่นอน”
เจิ้งข่ายนั่งไขว้ขา ท่าทางราวกับนายทุนรายใหญ่ เขาเอ่ยหัวเราะ “บอกตามความจริง โล่เฉิน ฉันคาดหวังกับนายเอาไว้อย่างยิ่ง ฉันต้องขอโทษสำหรับการดูถูกที่ฉันมีก่อนหน้านี้ นายไม่ได้เป็นไอ้ขยะ ตอนนี้ ฉันต้องการลงทุนเพิ่ม หวังว่านายจะยิ่งทำให้มันยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้มากขึ้นเรื่อย ๆ”
“ทำให้มันยิ่งใหญ่กว่าเดิม คุณชายเจิ้งมีความคิดอะไร?”
“พวกเราไม่ได้ขาดเงิน ฉันสามารถลงทุนต่อไปในอนาคตได้ จะกี่สิบล้านก็ไม่มีปัญหา ตอนนี้สิ่งที่นายต้องทำก็คือ รับสตรีเมอร์สาวสวยเข้ามาให้เยอะๆ และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม… ”
เจิ้งข่ายหรี่ตาลงและเอ่ย “ก็สร้างแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมใหม่ขึ้นมา”
“โอ้? คุณชายเจิ้งมีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง”
“ตอนนี้ในตลาดมีแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมเจ้าใหญ่อยู่แค่เพียงสองเจ้า โต้วอวี๋และหู่หยา เป้าหมายของพวกเราก็คือกลายเป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมที่ใหญ่เป็นอันดับสามและกลายเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่”
เจิ้งข่ายชะงักไปและโบกมือ “แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืน ฉันคือการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของนาย งานของนายก็คือสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป ชักชวนสาวงามมาเป็นสตรีมเมอร์ รอเซอร์ไพรส์ผู้คนในอนาคต”
“การดึงตัวสาวสวยมาเป็นสตรีมเมอร์ต้องใช้เงินเพื่อให้ได้มา ตอนนี้ฉันคัดเลือกมาอยู่ไม่กี่คน ล้วนเป็นฉันที่ออกเงินเอง เมื่อครู่พวกเธอยอมตกลงอย่างว่าง่าย”
โล่เฉินแสร้งทำเป็นตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เขาเอ่ย “คุณชายเจิ้ง เงินที่คุณลงทุนได้รับอนุญาตให้ใช้จ่ายกับเซี่ยซือหานเท่านั้น แบบนี้ยากสำหรับอย่างยิ่ง”
“ใครบอกว่าอนุญาตให้ใช้เฉพาะกับเธอ นายสามารถใช่มันเพื่อรับสมัครสาวสวยเข้ามาได้ แต่ว่านายจะต้องรายงานกับหมี่หลาย เงินที่ใช้จะต้องสมเหตุสมผล”
โล่เฉินดีดนิ้ว จากนั้นก็รับปาก “ได้ อย่างนั้นก็ต้องขอบคุณคุณชายเจิ้งอย่างมากที่ลงทุนกับผม”
“แบบนี้คือการได้ผลประโยชน์ร่วมกันwin-winนี่?”
หลังจากที่เจิ้งข่ายจากไป หานหยู่ถิงก็ทั้งดีใจทั้งเป็นกังวล
“พี่เขย เขากำลังมาไม้ไหนกันแน่ หรือว่าเขามีเงินมากเกินไป จนแค่เอามาใช้ฟุ่มเฟือยจริงๆ”
“วางใจเถอะ ไม่ว่าเขาจะคิดแผนอะไรอยู่ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องเป็นฝ่ายสูญเสียอยู่ดี เงินที่ลงทุนล้วนเป็นของพวกเรา”
โล่เฉินมั่นใจอย่างยิ่ง
ภายนอกอาคารของบริษัท ลูกเศรษฐีหลายคนกำลังงงงวย
คุณหนูของตระกูลชั้นสามเอ่ยถาม “พี่ข่าย ทำไมถึงต้องลงทุนกับมันอีก ไม่จัดการหุบมันซะ?”
“ทำไมฉันจะต้องหุบมันด้วย โล่เฉินมีวิธีรับสมัครผู้หญิงสวย ๆ แบบนั้นก็แค่โยนเงินไปแล้วปล่อยให้เขาทำงานหนักหาคนมาและก่อตั้งแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมขึ้นที่ฉันคิดเอาไว้นานแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้ลองดู”
เจิ้งข่ายเอามือไพล่หลัง มีท่าทางราวกับควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ในมือตน เขาเยาะเย้ย “สรุปก็คือ สิ่งที่โล่เฉินทำทั้งหมดจะตกมาสู่ฉัน รอให้ฉันครอบครองเหล่าสาวงามในบริษัทได้ในอนาคต พวกนี้ล้วนเป็นทรัพยากร ยังมีประโยชน์อย่างอื่นนอกจากสร้างความเพลิดเพลินให้กับตัวเอง”
“พวกนายจำเอาไว้”
“บนโลกนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าของสามสิ่งที่ทำให้คนต้องหมกมุ่นแสวงหามานั่นคือ เงินทอง สาวงาม และอำนาจ หากได้พวกมันมาครอบครองก็เท่ากับเรียกลมเรียกฝนได้”
ในขณะนี้ เจิ้งข่ายแสดงท่าทีวางมาดเย็นชา
พวกลูกสมุนกำลังตัวสั่นงกๆ พวกเรารู้อย่างลึกซึ้ง ว่าคุณชายตระกูลเจิ้งที่มองดูแล้วเหมือนพวกเจ้าชู้เพลย์บอยนั้นจริงๆแล้วมีทักษะที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ท้ายที่สุดเขาก็เป็นถึงลูกหลานของตระกูลชั้นหนึ่ง ไหนเลยจะเทียบกับคนทั่วๆไปได้
“คุณชายเจิ้ง”
ทันใดนั้น มีคนสองคนเผชิญหน้าเข้ามา เป็นหานหยุนเทาและหานหยาง
เจิ้งข่ายหัวเราะ “ที่แท้ก็เป็นคุณชายหานผู้ยิ่งใหญ่ ทำไม ตึกนี้เป็นอุตสาหกรรมตระกูลหานของคุณอยู่ด้วยหรือ?”
“โล่เฉินเปิดบริษัทอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือไง ผมว่างก็เลยมาลองดูๆสักหน่อย”
“บังเอิญแล้ว พวกเราก็เพิ่งออกมาจากบริษัทของโล่เฉิน” คุณหนูตระกูลชั้นสามเอ่ย
หานหยุนเทาถามด้วยความสงสัย “คุณชายเจิ้ง พวกคุณมาทำอะไรที่บริษัทของไอ้ขยะโล่เฉิน หรือว่าไอ้ขยะทำให้คุณไม่พอใจ?”
“ไม่มีหรอก ฉันมาเพื่อลงทุน”
“ลงทุน?”
หานหยุนเทาและหานหยางมองหน้ากัน รู้สึกราวกับตกอยู่ในเมฆหมอก
คุณหนูตระกูลชั้นสามเอ่ยอธิบาย “พี่ข่ายเห็นถึงความสามารถของโล่เฉิน หวังว่าโล่เฉินจะขยายบริษัทให้ใหญ่โตได้ ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เพิ่งจะลงทุนรอบแรกไปห้าล้านหยวน เมื่อครู่นี้ก็ลงทุนรอบสองอีกสิบล้าน ถ้าหากผลลัพธ์ดี ภายหลังก็จะลงทุนเพิ่มขึ้นอีก”
“อะไรนะ เป็นไปไม่ได้!”
หานหยุนเทาและหานหยางมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากทันที
เจิ้งข่ายแค่นเสียง “ฉันต้องหลอกนายด้วยหรือไง พูดไปแล้วก็น่าขัน พวกนายตระกูลหานเพิ่งจะมีทรัพย์สินของตระกูลอยู่แค่ยี่สิบกว่าล้าน ตอนนี้ในมือของโล่เฉินมีทุนอยู่กว่าสิบห้าล้าน แค่คนเดียวก็แทบจะตามทันพวกนายทั้งตระกูลแล้ว!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างเป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ไอ้ขยะคนหนึ่งสามารถพลิกฟื้นตัวขึ้นมาได้ ตระกูลหานคงต้องพยายามเข้าแล้ว อย่าได้ถูกเขยขยะแต่งเข้าตระกูลหานอย่างโล่เฉินเหยียบแซงหน้าไปเชียว”
“ตระกูลหานช่างเน่าเฟะจริงๆ มีทรัพย์สินอยู่แค่ยี่สิบกว่าล้านกลับกล้าเรียกตนเองเป็นตระกูล รถเฟอร์รารีซูเปอร์รันของพี่ข่ายคันนั้นยังมีมูลค่ามากกว่ายี่สิบล้านอีก”
เหล่าลูกเศรษฐีพูดจาประชดประชันอย่างไม่ไว้หน้า จนพวกหานหยุนเทาหน้าตาแดงก่ำ
คุณหนูตระกูลชั้นสามเอ่ยเย้ย “ตระกูลหานสืบทอดกันมาก็นานอยู่ มีประวัติศาสตร์มากกว่า 100 ปีใช่ไหม ครั้งหนึ่งก็เคยถือเป็นตระกูลเศรษฐีที่ไม่เลวในเมืองเจียง แต่รุ่นต่อมากลับมีแต่ย่ำแย่ลง”
“ไม่ ไม่ ไม่ ตอนนี้ตระกูลหานน่าจะดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว”
“ก็ใช่ หานหยู่เยนแม่นั่นอาศัยความสามารถของตัวเองไปพูดคุยเกี่ยวกับโครงการของบริษัทเฉิงหยู่มาได้ ทำให้ตระกูลหานมีเลือดสูบฉีดขึ้นอีกครั้ง ช่างน่าอึดอัดจริงๆ อาศัยหญิงสาวคนเดียวมาประคองตระกูลเอาไว้ มีแต่พวกโง่เง่า!”
เจิ้งข่ายนึกขึ้นได้บางอย่าง เขาเอ่ย “ใช่ หานอยู่เยนดูเหมือนว่าจะสวมเขาให้โล่เฉินซะแล้ว ช่างเถอะ เรื่องในบ้านของพวกเขาฉันขี้เกียจจะเข้าไปยุ่ง เขาตั้งใจสร้างบริษัทให้ดีก็พอ”
“ไปล่ะ!”
คนทั้งกลุ่มเดินจากไป ส่วนหานหยุนเทากำลังมีสีหน้าคล้ำลงสุดขีด
หานหยางโกรธจนกัดฟันแน่น แต่กลับไม่กล้าแม้แต่จะผายลม
หาเรื่องเจิ้งข่าย ก็เท่ากับไร้ที่ซุกหัวในเมืองเจียง ตระกูลหานเองก็จะถูกบดขยี้ทำลายไปด้วยเช่นกัน
“พี่เทา ทำยังไงดี”
หานหยุนเทายังคงไม่เชื่ออยู่บ้าง “โล่เฉินไอ้ขยะนั่นมันใช้วิธีการอะไรกันแน่ถึงได้ได้เงินลงทุนจากเจิ้งข่ายไปสิบห้าล้าน แถมยังมีแนวโน้มการลงทุนในอนาคตอีกด้วย”
“ฉันจะรู้ได้ยังไง!” หานหยุนเทาในใจขมวดกันเป็นก้อนด้วยความว้าวุ่น
ข่าวนี้ กะทันหันเกินไปจริงๆ
ทำเอาเขาไม่ทันได้ป้องกัน
จนถึงกับขั้นลนลานอยู่เล็กน้อย
“พี่เทา คุณรีบคิดหาวิธีสิ หรือว่าจะต้องปล่อยให้ไอ้ขยะนั่นมาเหยียบหัวพวกเราจริงๆ แบบนั้นพวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พวกเราคงต้องถูกคนทั้งเมืองเจียงหัวเราะเยาะจนตาย!”
เสียงของหานหยางเริ่มแหบพร่าเล็กน้อย
หานหยุนเทามีสีหน้าโหดเหี้ยม เขากวาดตามองไปที่อาคารสำนักงาน หันกลับอย่างโมโห “ไป กลับบริษัท หาคุณย่า”
“หาคุณย่ามีประโยชน์อะไร?”
“โล่เฉินยังไงก็ถือว่าเป็นคนตระกูลหาน คุณย่าเป็นเจ้าบ้านตระกูลหาน และเป็นวิธีเดียวที่จะจัดการกับเขา!”
ทั้งสองบริษัทอยู่ไม่ไกลจากกัน
พวกหานหยุนเทาวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเวลากว่าบ่ายสี่โมงกว่าแล้ว ใกล้ได้เวลาเลิกงานแล้ว
หน้าประตูของบริษัทตระกูลหาน
“คุณย่า!”
คุณย่าหานที่กำลังมีหานหยู่เยนช่วยประคองเดินออกมา เมื่อได้ยินเสียงตะโกนก็เงยหน้าขึ้นมองและดุเขาเล็กน้อย “อายุเท่าไหร่แล้ว ทำตัวตื่นเต้นลนลาน ไม่เป็นผู้เป็นคน”
“คุณย่า มีเรื่องใหญ่มารายงาน นี่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของตระกูลหาน”
“แกกำลังพูดเรื่องอะไร!”
คุณย่าหานหน้าตากระตุกอย่างบ้าคลั่ง
“รีบไปพูดจาที่ห้องประชุม”
“คุณย่าไม่ต้องหรอก ผมขับรถไปส่งคุณที่บ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน เราพูดกันในรถเถอะ”
คุณย่าหานพยักหน้า “ก็ได้”
“ฉันจะไปด้วย” หานหยู่เยนกล่าว
“ไม่ได้!” หานหยางตะโกน
หานหยู่เยนโกรธขึ้นมาทันที “ฉันไม่ใช่คนในตระกูลหานหรือไง ในเมื่อเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของตระกูล แล้วอาศัยอะไรมาห้ามไม่ให้ฉันฟัง”
“นั่นเพราะ คนที่นำหายนะมาสู่ตระกูลก็คือโล่เฉิน”
“โล่… โล่เฉิน?” หานหยู่เยนอึ้งไป
คุณย่าหานเหล่ตามองหานหยู่เยน และสะบัดมือของเธอออกทันที จากนั้นจึงเอ่ยเสียงต่ำ “ถ้าไอ้โง่นั่นไปทำให้คนใหญ่คนโตคนไหนขุ่นเคืองขึ้นมา และนำภัยพิบัติมาสู่ตระกูล อย่าโทษว่าฉันไร้ไมตรี”
“คุณย่า พวกเราไปกันเถอะ”
หานหยู่เยนยืนอยู่หน้าประตู จ้องมองที่คุณย่าหานที่นั่งอยู่ในรถของหานหยุนเทาอย่างเหม่อลอย
เกิดอะไรขึ้น?
โล่เฉินกำลังประสบปัญหา?