จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 146
“พี่หนิว คุณหมายความว่าไง?”
“อะไรเรอะ?”
เฮยหนิวหน้าซื่อๆ เขาเอ่ย “ฉันแค่พูดตามเนื้อผ้าเท่านั้นเอง ก่อนอื่น นายเป็นคุณชายตระกูลหยาง โล่เฉินไม่กล้าหาเรื่องนาย ข้อต่อมา หากแค่หนึ่งล้านก็เอามันไปได้ เจิ้งข่ายคงซื้อมันไปตั้งนานแล้ว ไม่รอให้มาถึงนายหรอก”
“ดังนั้นสรุป บริษัทของโล่เฉินน่าจะมีมูลค่าถึงสองพันล้านแน่นอน”
“ไม่รู้ว่า สิ่งที่ฉันพูดถูกไหม?”
ถูกเวรอะไรของมึงวะ
หยางเซียวโมโห แต่เขาก็คิดเกี่ยวกับมันเช่นกัน เขารู้ว่าเจิ้งข่ายเป็นคุณชายเพลย์บอย ไม่สมควรที่เขาจะทำแค่ลงทุนแต่ไม่ซื้อไป
“โล่เฉิน นายให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉันมา”
“ง่ายดายอย่างยิ่ง ที่บริษัทของผมมีสาวสวยหลายคนและมีศักยภาพมากพอที่จะกลายเป็นดาวดังแนวหน้าในโลกออนไลน์ ดังนั้น มูลค่าจึงนับไม่ถ้วน คุณก็สมควรรู้ว่าดาวดังนั้นทำเงินได้มากมายขนาดไหน ดังนั้นบริษัทของผมจึงมีมูลค่าสองพันล้าน”
ได้แต่โอ้อวดออกไป
หยางเซียวอารมณ์ดีขึ้นมา “คิดไม่ถึงเลยว่านายจะมีสมองอยู่บ้าง คำพูดไร้สาระแบบนี้ คงทำได้แค่หลอกเจิ้งข่ายเจ้าสมองหมูนั่นคนเดียวเท่านั้นแหละ คิดว่าจะหลอกฉันได้หรือไง”
“คุณชายหยางหมายถึง คุณคิดจะใช้กำลังซื้อขาย?”
“นายมีคุณสมบัติที่จะปฏิเสธหรือไง!”
โล่เฉินไม่รีบร้อน เขาถาม “เจิ้งข่ายลงทุนไปแล้ว 15 ล้าน หากผมต้องการขายบริษัทให้คุณ ก็ต้องได้รับความยินยอมจากเขาก่อน”
“ไม่จำเป็น!”
หยางเซียวมีสีหน้าดูถูก ในใจของเขาดูถูกเจิ้งข่าย แต่ไหนแต่ไรไม่เคยคิดว่าเจิ้งข่ายอยู่ในระดับเดียวกับตน
“หากเจ้านั่นกล้ามาหาเรื่องฉัน ถึงตอนนั้นฉันจะทำให้มันตกต่ำเป็นผุยผง เงินลงทุน 15 ล้านของมันเท่ากับละลายลงน้ำไปแล้ว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า จะว่าไปแล้ว เป็นเพราะนาย ฉันเลยเอาชนะเจิ้งข่ายไปได้ครั้งหนึ่ง เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันอารมณ์ดี บวกเพิ่มให้นายห้าแสน”
“หนึ่งล้านห้าแสน สำหรับนายแล้วนี่คงเป็นเงินมากมายนับไม่ถ้วน”
โล่เฉินถามอีกครั้ง “คุณชายหยาง คุณทำแบบนี้ถือว่ากำลังบีบให้ผมเข้าตาจน แล้วขายบริษัทให้กับคุณ เจิ้งข่ายไม่กล้ามาหาเรื่องคุณ แต่ต้องมาเล่นงานผมตายแน่”
“ถ้านายปฏิเสธฉัน นายคิดว่าฉันจะปล่อยนายไปหรือไง?”
มุมปากของหยางเซียวเยียบเย็นขึ้น “ทำตามที่ฉันบอก พรุ่งนี้ไปจัดการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง”
เขาพูดจาอย่างสบายๆ ราวกับจักรพรรดิที่มอบชีวิตให้กับประชาชนคนทั่วไป
เมื่อพบว่าโล่เฉินเงียบไป หยางเซียวก็ยกแก้วเหล้าขึ้นอย่างสมใจ
แต่ยังไม่ทันจะได้ดื่ม เฮยหนิวก็พูดขึ้น “โล่เฉิน ฉันจ่ายห้าล้าน บริษัทของนายฉันจะเอา”
“หืม?”
หยางเซียวอึ้งไป น้ำเสียงของเขาจมลงทันที “พี่หนิว คุณตั้งใจจะงัดข้อกับผมใช่ไหม”
“คุณชายหยาง อย่าได้พูดแบบนั้น คุณลองถามใจตัวเองดูหน่อย ในโลกนี้มีใครบ้างไม่ชอบเงิน ฉันเชื่อว่าสาวสวยสตรีมเมอร์ที่บริษัทของโล่เฉินจะต้องมีศักยภาพเป็นดาวดังจริงๆแน่ ไม่งั้นเจิ้งข่ายคงไม่กล้าลงทุน”
หยางเซียวคิดจะพูด แต่กลับถูกเฮยหนิวขวางไว้
“อย่าว่าเจิ้งข่ายเป็นคนโง่ คุณชายของตระกูลชั้นหนึ่ง จะโง่ได้ถึงขั้นไหนเชียว ฉันกลับคิดว่าเจิ้งข่ายมีสายตาไม่เลว”
“เหลวไหล” หยางเซียวตะคอก
เฮยหนิวยักไหล่แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “แล้วแต่นายจะคิด ฉันก็แค่อยากหาเงิน การปิดกั้นเส้นทางการเงินของผู้คนก็ไม่ต่างจากการฆ่าบิดามารดาพ่อแม่ คุณชายหยางไม่ควรทำเรื่องแบบนั้นหรอกมั้ง”
“คุณ!”
“โล่เฉิน ห้าล้าน นายคิดว่าไง?”
หยางเซียวโกรธจัดขึ้นมาแล้วจริงๆ
แต่เขาก็ไม่กล้าแตกหักกับเฮยหนิว บ้านตระกูลหยางอยู่ในเขตปินหู และเฮยหนิวก็เป็นเจ้าถิ่นของที่นี่ อำนาจของเขาไม่อาจละเลยได้ เรื่องนี้หยางเซียวรู้แจ่มแจ้งดี
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เฮยหนิวเป็นคนของนายท่านหง หงเหลยถิง
ในฐานะตระกูลชั้นหนึ่ง หยางเซียวย่อมรู้ว่าหงเหลยถิงนั้นจัดการต้ายเหรินจงและคว้าใต้ดินทั้งเมืองเจียงมาเป็นของตัวเองได้แล้วและกลายมาเป็นฮ่องเต้ในสังคมอิทธิพลมืด
ใครจะกล้าไปยั่วเขา?
อย่าว่าแต่ตระกูลหยางของเขาที่ทำไม่ได้ ต่อให้ผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเฝิงก็ทำไม่ได้เช่นกัน
คณะกรรมการเทศบาลยังต้องไว้หน้าหงเหลยถิงถึงสามส่วน
หยางเซียวมองไปที่เฮยหนิวและโล่เฉินที่กำลังพูดคุยและหัวเราะ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป ในขณะเดียวกันก็เกิดความคิดอีกความคิดหนึ่งขึ้นมา
“นี่มันไม่ถูกต้อง ฉันกับเฮยหนิวเข้ากันได้ดีมาตลอด พ่อของฉันกับเขาก็ยังมีไมตรีต่อกันมาหลายปี จะมาหาเรื่องฉันเพราะเรื่องแต่นี้นี่มันเป็นไปไม่ได้”
“สรุปแล้วเป็นตรงที่ที่มีปัญหากันแน่?”
หยางเซียวครุ่นคิดอย่างลับๆ
ชั่วขณะหนึ่ง เขาก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้นในใจ
“หรือว่า….”
หยางเซียวตกใจกับความคิดในใจของตน เมื่อมองไปที่เฮยหนิว สีหน้าของเขาก็หนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ
“หงเหลยถิงเจ้านั่นคิดการใหญ่แล้วหรือ!”
“เป็นฮ่องเต้ใต้ดินไม่พอใจ ยังคิดจะจัดการกับตระกูลใหญ่ในเมืองเจียง คิดอยากจะเป็นเหมือนตระกูลป๋ายในหลิงสุ่ย คุมทั้งเมืองเอาไว้?!”
“สมควรตาย เขาคิดจะเดินตามรอยตระกูลป๋าย!”
หยางเซียวแอบกัดฟัน “เฮยหนิวที่ผ่านมามีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลฉันมาตลอด ไม่มีทางที่จู่ๆจะตั้งตัวเป็นศัตรู จะต้องเป็นความต้องการของหงเหลยถิงแน่”
“ไม่ว่าจะยังไง นี่จะต้องป้องกันเอาไว้ก่อน”
ในอีกด้านหนึ่ง
เฮยหนิวยกแก้วเหล้าให้กับโล่เฉินและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โล่เฉิน ฉันบอกตัวตนของฉันกับนายแล้ว ปฏิเสธตระกูลหยางนายยังไม่โอกาสรอด แต่หากมาหาเรื่องฉัน แบบนั้นก็คงไม่สนุกเลย”
“เบื้องบนของฉันคือท่านหง ฆ่าคนๆหนึ่ง ง่ายดายอย่างมาก”
“คุณชายหยาง คุณว่าไง?”
รอยยิ้มของเฮยหนิวทำเอาหยางเซียวรู้สึกใจสั่นขึ้นมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในรอยยิ้มนั้นแฝงคมมีดเอาไว้อยู่
อย่างที่คิดเอาไว้ นี่เป็นความต้องการของหงเหลยถิงจริงๆ
สมควรตาย!
ตาแก่นั้นมีความทะเยอทะยานเสียจริง
ไม่ได้
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จำเป็นต้องบอกพ่อทันที จะได้เตรียมตัวให้พร้อมแต่เนิ่นๆ
“คุณชายหยาง ทั้งคุณและเฮยหนิวล้วนเป็นคนที่ผมตอแยไม่ไหวทั้งนั้น ผมก็แค่คนตัวเล็กๆคนหนึ่ง ผมรักเงิน ไม่งั้นพวกคุณลองประมูลกันดูไหมล่ะ ใครให้ราคาสูงคนนั้นก็ได้ไป ยุติธรรมที่สุด แล้วต่อจากนั้นก็อย่าได้มาหาเรื่องผมอีก”
โล่เฉินเสนอแนะ
“ฉันได้ทั้งนั้น” เฮยหนิวเอ่ย
หยางเซียวลังเล ได้ยินสิ่งนี้ เขาก็คิดอยากจะลองทดสอบต่อไปสักหน่อย เพื่อความมั่นใจ
“แปดล้าน”
“ถ้าอย่างนั้นฉัน 10 ล้าน”
หยางเซียวกำหมัดแล้วตะโกนอีกครั้ง “15 ล้าน พี่หนิว มิตรภาพของเรา คุณคงไม่จำเป็นต้องทำลายมันหรอกใช่ไหม?”
ถ้าไม่ยอมแพ้ก็แปลว่าจะต้องมีอะไรแฝงอยู่แน่ๆ
เฮยหนิวยอมแพ้ ก็ยังไม่เป็นไร
สิบห้าล้านสำหรับตระกูลหยางแล้วก็เป็นแค่ละอองฝน
บริษัทของโล่เฉินมีสาวสวยหลายคนหยางเซียวเคยเห็นมาก่อน ทุกคนเป็นสาวสวยจัดจริงๆ แบบนั้นก็ถือซะว่าใช้เงินสิบห้าล้านมาเล่นด้วยก็ยังได้
ไม่ได้เข้าเนื้ออะไร
อย่างไรก็ตาม เฮยหนิวหัวเราะขึ้นมา
“คุณชายหยาง พี่ชายอย่างฉันก็ไร้หนทาง ท่านหงเบื้องบนตั้งเป้ามาให้ หากไม่มีผลงานอะไรเลยก็คงจะลำบากเช่นกัน บริษัทของโล่เฉินมีศักยภาพอย่างมาก ผมทำใจปล่อยไปไม่ได้”
พูดจบ เฮยหนิวก็ร้องขึ้น “ 18 ล้าน”
ในขณะนี้ หยางเซียวเข้าใจแล้ว และมั่นใจในการคาดเดาของตน
“ก็ได้ จะยังไงก็คงต้องไว้หน้าพี่หนิวอยู่บ้าง บริษัทผมยกให้พี่แล้ว” หยางเซียวพูดจบ ก็จากไปอย่างสุภาพรีบร้อน
ห้องถูกเปลี่ยนไปอีกห้องหนึ่ง
เฮยหนิวเปลี่ยนไปทันที เขาประสานมือคำนับแล้วเอ่ย “นายท่าน ละครฉากเมื่อครู่ หากมีตรงไหนล่วงเกินไป ได้โปรดนายท่านให้อภัย”
“นายทำได้ดีมาก”
โล่เฉินพูดติดตลกว่า “ตอนสุดท้ายฉันคิดจะให้นายยอมแพ้ไปแล้วเชียว หลอกเงินหยางเซียวมาสิบห้าล้าน สนุกจะตายไป เกิดอะไรขึ้น ทำไมนายไม่ได้สนใจสายตาส่งซิกของฉัน”
“หา?”
เฮยหนิวตกใจอย่างมาก เขารีบพูดขึ้น “นายท่านอย่าได้โมโห ตระกูลของผมถือว่าพอมีทุนหนาอยู่บ้าง หากรวบรวมมาสักหน่อยก็สามารถหาสิบห้าล้านมาได้ ถือเป็นการแสดงความนับถือต่อนายท่าน”
“ไม่ๆๆ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
โล่เฉินเอ่ยกำชับ “ทางหยางเซียวนายจับตาดูให้ฉัน ฉันกลัวว่าเขาจะทำตัวเป็นสุนัขจนตรอก ถึงฉันจะไม่ได้กลัว แต่ก็กลัวว่าทางบ้านภรรยาจะทนการโจมตีจากตระกูลหยางไม่ได้”
“นายท่านวางใจ ตระกูลหยางจะก่อคลื่นลมอะไรไม่ได้แน่”
“ไปล่ะ”
“นายท่าน ผมไปส่ง”
ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเทา ที่มุมหนึ่งของประตูตึกหน้าเผิงไหล
เฮยหนิวเอ่ย “นายท่าน ผมให้ลูกน้องไปส่ง….ดู รถมาแล้ว”
“ขอขอบแล้ว”
“สมควรแล้ว นายท่านเดินทางปลอดภัย”
รถออกไป และเฮยหนิวก็กลับไปเข้าตึกเผิงไหล
บนถนนห่างจากตึกเผิงไหลไปสองร้อยเมตร มีรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดอยู่ ในรถมีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ด้านหลัง
ชายหนุ่มท่าทางไม่ธรรมดา หน้าตาหล่อเหลาอย่างยิ่ง และมีจิตวิญญาณเต็มเปี่ยม
“นายน้อย นี่มันผิดปกติอยู่หน่อย หยางเซียวรีบร้อนจากไป ราวกับว่าเขากำลังตื่นตระหนก ส่วนเฮยหนิวก็ออกมาส่งโล่เฉินเป็นการส่วนตัว แถมดูแล้วยังมีท่าทางเคารพนับถืออย่างมาก” ชายที่นั่งข้างคนขับหันหน้ามาเอ่ย
ชายหนุ่มมีท่าทางขี้เล่นและพูดจาแปลก ๆ “น่าสนใจ ทุกคนล้วนพูดว่าโล่เฉินเป็นเขยขยะของตระกูลหาน แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ทุกคนล้วนถูกเขาหลอกแล้ว”
“ไม่หรอกมั้งครับ” ผู้ชายคนนั้นไม่เชื่อ
“เขาต่างหากที่เป็นมังกรใต้น้ำตัวจริง”
ชายหนุ่มดีดนิ้ว ก่อนจะเอ่ยกำชับ “กลับเถอะ ครั้งนี้ที่มาถือว่าไม่เสียเปล่า ส่งคนไปจับตาดูโล่เฉิน เขาจะต้องมีความครั้งใหญ่ซ่อนอยู่แน่”
จากนั้น เด็กหนุ่มก็โทรศัพท์
ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หยู่ถิง โล่เฉินออกจากตึกเผิงไหลและกลับบ้านแล้ว ปลอดภัยหายห่วง”