จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 153
ขณะที่ตอนเที่ยงตรงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผู้คนรอบๆจัตุรัสศตวรรษก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากคนที่มารอดูแล้ว ยังมีตำรวจหลายนาย รวมถึงยังมีมือปืนที่ถูกส่งไปซ่อนในที่ลับ เพื่อรอโอกาส
เมื่อเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง ตระกูลหยางก็มาถึง
หยางเจิ้งหรงมากับลูกน้องคนหนึ่ง และนั่งตัวตรงที่ปลายด้านหนึ่งของโต๊ะตรงกลางจัตุรัสศตวรรษ
สมแล้วที่เป็นเจ้าบ้านของตระกูลชั้นหนึ่ง ไม่ลนลานใดๆ ราวกับว่ากำลังเพลิดเพลินกับชาอย่างสบาย ๆ
สิบนาทีก่อนเวลาเที่ยงตรง
คนที่รอดูยิ่งอยู่ยิ่งร้อนใจขึ้นมาเรื่อยๆ หงเหลยถิงยังไม่ปรากฏตัว หรือเขาปฏิเสธที่จะเจรจา?
ติ๊ก – ติ๊ก
เวลาผ่านไปทีละนาทีๆ บรรยากาศยิ่งตึงเครียดมากขึ้น
ดิงดอง
ในใจของทุกคนล้วนคล้ายกับมีเสียงร้องเตือนเกิดขึ้น นี่เป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว
แต่ว่า
หงเหล่ยถิงไม่ได้มา
ว้าว
มีเสียงอื้ออึงด้วยความตกตะลึงไปทั่วรอบ ๆ จัตุรัสศตวรรษ หงเหลยถิง สมแล้วที่เป็นฮ่องเต้ในสังคมอิทธิพลมืด
มีความทะนงตน และเย่อหยิ่ง
ยอมตายแทนที่จะยอมจำนน
ณ จัตุรัสศตวรรษ ใบหน้าของหยางเจิ้งหรงกำลังปั้นยาก ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าบนฝ่ามือของเขามีเหงื่อเย็นเฉียบ
ท้ายที่สุดแล้วนั่นคือลูกชายสุดที่รักของเขา เป็นผู้สืบทอดต่อของตระกูลหยางในอนาคต เขามีลูกชายคนเดียว ไหนเลยจะหาลูกคนที่สองมาแทนได้?
หยางเจิ้งหรงไม่มีพลังงานเหลือไปฝึกฝนเลี้ยงดูคนฉลากรู้คนทันอีกคนขึ้นมาได้อีก
“นายท่าน ทำอย่างไรดีครับ?” ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ข้างๆถามขึ้น อันที่จริงแล้วเขาเป็นซูเปอร์บอดี้การ์ด เป็นหน่วยรบพิเศษที่เกษียณตนมาแล้วและมีทักษะฝีมือ
หยางเจิ้นหรงเม้มริมฝีปากแน่น
ทำอย่างไรดี?
ใครจะรู้ว่าควรทำอย่างไร!
หงเหลยถิงซ่อนตัวอยู่ที่ไหนไม่รู้ หยางเซียวเป็นหรือตายก็ยังไม่ชัดเจน ในขณะนี้ หยางเจิ้งหรงรู้สึกไร้อำนาจใด
“ไอ้สารเลวสมควรตายเอ๊ย!”
“ท่านครับ นี่ไม่ใช่เวลามาโกรธ ผมแนะนำให้รัฐบาลออกค้นหาทั้งเมือง และหาหงเหลยถิงโดยเร็วที่สุด อาศัยความแข็งแกร่งของตระกูลเรา เป็นการยากที่จะหาคนๆเดียวในเมืองใหญ่เช่นนี้”
หยางเจิ้งหรงพยักหน้าอย่างหนัก ตอนนี้เหลือแค่วิธีนี้แล้ว
“ไป!”
ขณะที่ทางด้านนี้เพิ่งจะลุกขึ้นมา
“วึ่ง”
ทันใดนั้น เสียงของรถยนต์ก็กระหึ่มดังขึ้น
บนถนนอันไกลโพ้น มีรถบรรทุกคันใหญ่ขับช้าๆ เข้ามายังจัตุรัสแห่งศตวรรษ
“มาแล้ว มาแล้ว!”
“ฉันรู้อยู่แล้วเชียวว่าหงเหลยถิงคงไม่ยอมงอมืออยู่เฉยๆให้ถูกจับแน่ อะไรอยู่ในรถบรรทุกนั่นน่ะ คงไม่ใช่ระเบิดหรอกนะ!”
“สู้กันเลย รีบสู้กันไปเลย!”
“น่าสนใจ ไม่แน่ว่าทั้งจัตุรัสศตวรรษอาจจะถูกทำลายราบลงกับพื้นก็ได้ คนขับรถบรรทุกนั่นจะต้องเป็นทหารเดนตายแน่ๆ”
……
ผู้ชมต่างพูดถึงเรื่องนี้และรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก พวกเขากลัวจริง ๆ ว่าโลกจะไม่วุ่นวาย
“นายท่าน โปรดมาอยู่ข้างหลังผม”
บอดี้การ์ดปกป้องหยางเจิ้งหรงเอาไว้ และจ้องไปที่รถบรรทุก
หยางเจิ้งหรงรู้สึกหวาดกลัว เขาเองก็เดาว่าในรถบรรทุกอาจเป็นระเบิด สำหรับหงเหลยถิงแล้ว การทำของพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ในขณะเดียวกัน กองกำลังตำรวจที่ซ่อนตัวอยู่ก็อยู่ในความตื่นตัวสูงเช่นกัน
พร้อมที่จะโจมตีตลอดเวลา
“คลิก”
เมื่อประตูรถเปิดออก ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ก็กระโดดลงมา เขากวาดตามองไปรอบๆ และพูดด้วยความรังเกียจ “หยางเจิ้งหรง แกนับเป็นตัวอะไรกัน ไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเจรจากับนายท่าน”
“หงเหลยถิงหมายความว่ายังไงกัน เขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน แล้วลูกชายของฉันล่ะ?”
ชายร่างใหญ่เยาะเย้ย “แกจงฟังฉันให้ดีๆ แต่เดิมนายท่านตัดสินใจจะทำลายตระกูลหยางของพวกแกลง ให้พวกแกเลิกสงสัยในความแข็งแกร่งของเรา แกคงไม่มีทางรู้ว่านายท่านแข็งแกร่งมากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม นายท่านมีจิตใจเมตตา ดังนั้นจึงไว้ชีวิตให้พวกแก”
หยางเจิ้งหรงทำหน้านิ่ง เขาเอ่ยเสียงต่ำ”นี่เขากำลังจะเล่นลูกไม้อะไรกันแน่? ฉันขอเตือนพวกแกสักหน่อย หากเลิกต่อต้านก็ยังมีโอกาสรอดชีวิต ถ้ายังดิ้นรนต่อไป มีทางเดียวเท่านั้นก็คือความตาย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อาศัยแกน่ะหรือ”
“อาศัยความแข็งแกร่งของพวกเราทุกคนในเมืองเจียง ต่อสู้กับมาเฟียและความชั่วร้าย และคงไว้ซึ่งความยุติธรรม”
หยางเจิ้งหรงตะโกนลั่น ราวกับฟ้าร้อง
ชายฉกรรจ์คนนั้นตะลึงไป ก่อนจะรีบกลับมาเป็นปกติ
“ผู้สืบทอดตระกูลหยางของพวกแกขาดลงแล้ว ยังกล้ามาพูดเรื่องความยุติธรรมอยู่อีก ยอดเยี่ยม ฉันยกนิ้วให้”
“แกกำลังพูดเรื่องอะไร!” นัยน์ตาของหยางเจิ้งหรงหดวูบ
ชายคนนั้นโยนกุญแจออกมาแล้วตะโกนว่า “กุญแจนี้ สามารถเปิดรถบรรทุกได้ หยางเซียวอยู่ในนั้น ฉันแค่มีหน้าที่ส่งคนมาที่นี่เท่านั้น ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปก่อน”
“หยุด!”
ตำรวจเข้ามาล้อมชายคนนั้นไว้ แต่เขากลับไม่เกรงกลัว ท่าทางของเขาราวกับเย่อหยิ่งอย่างมาก
“พวกนายแน่ใจหรือว่าต้องการจับฉัน? จับกุมฉันแล้ว เท่ากับทำร้ายประชาชนหลายพันคน นายแน่ใจหรือ?”
“นี่มัน!”
หัวหน้าตำรวจถึงกับตกใจ
เขารายงานต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทันที ในที่สุดก็ต้องยอมหลีกทางอย่างไม่เต็มใจ
“ไม่เลว ฉลาดมาก”
ชายฉกรรจ์เดินการจากไปอย่างวางท่า จนทำเอาคนที่มองดูอยู่ถึงกับตาค้าง
“อะไรอยู่ในรถบรรทุก?”
“ฉันได้ยินมาว่า หยางเซียวอยู่ในรถบรรทุก”
“จริงหรือ หยางเซียวคงจะไม่ถูกทรมานจนตายไปแล้วนะ หงเหลยถิงโหดเหี้ยมจะตาย ผลลัพธ์คงจะไม่ดีเท่าไหร่แน่ๆ”
“รีบดูเร็ว เปิดออกแล้ว”
ที่จัตุรัส บอดี้การ์ดเปิดประตูออก
ในนั้น มีกระสอบสีดำถุงหนึ่งวางอยู่ข้างใน
“คุณชาย”
บอดี้การ์ดตะโกนออกมา ก่อนจะรีบยกถุงลงมา เมื่อเปิดออกดู ก็ถึงกับขนลุก
“ลูกชายของฉัน”
หยางเจิ้งหรงรีบวิ่งเข้าไปและร้องไห้อย่างขมขื่น
ลูกรักที่เป็นดั่งเนื้อและเลือดของเขาถูกทรมานอย่างน่าสังเวช จมูกหัก ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด จะไม่ให้เขาปวดใจได้อย่างไร
“นายท่าน คุณชายไม่น่าจะมีแค่เพียงบาดแผลบนหน้าของเขาเท่านั้น แต่น่าจะยังมีที่ลำตัวของเขาด้วย คุณช่วยหลบออกสักหน่อย ผมจะฉีกกระสอบออก”
ตอนที่ยังไม่ฉีกออกไม่เท่าไหร่ แต่พอฉีกออกเท่านั้น…
ทั้งหยางเจิ้งหรงและบอดี้การ์ดของเขาก็นิ่งค้างกลายเป็นหินไป
หยางเซียวไม่ได้สวมเสื้อผ้าใดๆ และบาดแผลของเธอก็ชัดเจนมาก โดยเฉพาะบาดแผลระหว่างสะโพกของเธอ หยางเจิ้งหรง เกือบจะเป็นลม
“นายท่าน นายน้อยเขา…” บอดี้การ์ดไม่กล้าปลดลงไปต่อ
“หงเหลยถิง แกต้องตาย!”
ดวงตาของหยางเจิ้งหรงแดงก่ำ
ในเวลาเดียวกัน
ผ่านกล้องโทรทรรศน์ ผู้ชมก็พบเรื่องราวเช่นกัน
“แม่เจ้าโว๊ย!”
“โหดเหี้ยมสุด ทำให้ตระกูลหยางไร้ผู้สืบทอดแล้วจริงๆด้วย!”
“หยางเซียวไร้ประโยชน์แล้ว!”
ในใจของทุกคนสั่นสะท้าน และสูดลมหายใจเข้าอย่างหนาวเหน็บ
ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ตระกูลเฝิง ตระกูลเจิ้งและตระกูลหลี่ต่างรู้สึกว่าตนโชคดีที่ไม่ได้ตกเป็นเป้าหมายของหงเหลยถิง ต่อมา ทายาทของทั้งสามตระกูล ได้แก่ เฝิงเห้าหราน เจิ้งข่าย และหลี่ชิง ต่างก็ได้รับการปกป้องอย่างใกล้ชิด
ทั้งสามตกใจกลัวและซ่อนตัวอยู่ในห้องลับของตระกูล
“พาไปโรงพยาบาล”
หยางเจิ้นหรงพูดจบก็หันหลังจากไป โดยไม่มองอีกเลย
บอดี้การ์ดถอนหายใจ และอุ้มหยางเซียวขึ้นไปที่รถ ก่อนจะออกจากจัตุรัสศตวรรษ
ตระกูลที่สืบทอดกันมาช่างโหดร้ายแบบนี้
หยางเซียวกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ แม้กระทั่งลูกหลานก็ไม่สามารถสืบทอดได้ จากคุณชายใหญ่กลายเป็นแค่เพียงคุณชายผู้ถูกทอดทิ้ง
หยางเจิ้งหรงมีเหตุผลอย่างมาก แม้ว่าเขาจะเป็นเนื้อเลือดของเขาเอง แม้ว่าเขาจะโกรธมาก และเกลียดแค้นจนเลือดพล่าน แต่ก็ไร้ประโยชน์ เรื่องเกิดขึ้นไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้
เขาไม่ขาดลูกชาย
อย่างมากก็แค่มีอีกคนหนึ่ง
คนไร้ประโยชน์คนหนึ่งไม่มีค่าอะไรแล้ว
บ่ายโมง
ตระกูลหยางไม่คำนึงถึงผลกระทบใดๆ และออกประกาศว่า——
พวกเขาจะต้องฆ่าหงเหลยถิง และทำลายตระกูลหงให้ราบคาบ
ข่าวนี้ถูกรัฐบาลระงับเอาไว้ ไม่มีรายงานของสื่อ มีเพียงการแพร่กระจายในแวดวงสังคมเมืองเจียงเท่านั้น
ไห่ถังหัวฝู่ ตระกูลหาน
“น่ากลัวจัง หงเหลยถิงโหดร้ายเกินไป”
ตอนนี้แม้วิดีโอจะคลุมเครือไม่ชัดเจน แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่น่าเศร้าผ่านหน้าจอ
หานหยู่ถิงตบหน้าอกของตนเองและปลอบตัวเอง “เป็นขันทีไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อเหล่าผู้หญิง”
“เมื่อเห็นท่าทีของหยางเจิ้งหรง แสดงว่าหยางเซียวไร้ประโยชน์แล้วจริงๆและกลายเป็นลูกชายที่ถูกทอดทิ้ง นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าสมเพช” หานหยู่เยนสั่นศีรษะของเธอ
หลิวเซียงหลันรู้สึกมีความสุข เธอแค่นเสียง “ถึงเวลาแล้วที่ตระกูลชั้นหนึ่งจะต้องเสียเลือดของพวกเขาบ้าง ครอบครองทรัพยากรมากมายของเมืองเจียง มีอำนาจเหนือกว่า ฉันยังหวังว่าหงเหลยถิงจะโหดเหี้ยมมากกว่านี้หน่อย ทำลายล้างทั้งสี่ตระกูลไปเลย”
“หงเหลยถิงซ่อนตัวได้เก่งจริงๆ ถึงตอนนี้ยังไม่มีเงื่อนงำเลย” หานเจี้ยนเย่กล่าว
โล่เฉินไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
ในตอนเย็น เขาได้รับโทรศัพท์จากฟ่านหงชาง และได้รับข่าวเซอร์ไพรส์——
หงเหลยถิงและผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นๆ รวมกว่าสี่หรือห้าสิบคน ออกจากเมืองเจียงและไปที่จีนหลิง
ปฏิบัติการพายุ สิ้นสุดลง
ในไม่ช้า ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปยังชนชั้นบนของเมืองเจียง
ทุกคนล้วนงงเป็นตาแตก
หงเหลยถิงหนีรอดไปได้แล้ว?
เป็นไปได้อย่างไร!
เส้นทางสายหลักทั้งหมดได้รับการตรวจตราอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นบนท้องฟ้า หรือสายน้ำล้วนเป็นไปไม่ได้ หงเหลยถิงออกจากเมืองเจียงได้อย่างไร?
วันรุ่งขึ้น มีคนเปิดเผยเบาะแสบางอย่าง
มีคนใหญ่คนโตในจีนหลิง ยื่นมือออกมาช่วยหงเหลยถิง
เหตุผลนี้เป็นที่ยอมรับได้
มีบางคนรู้สึกเสียดาย ที่พวกเขาไม่ได้เห็นฉากการต่อสู้ระหว่างหงเหลยถิงและหยางเจิ้งหรง
มีบางคนชื่นชมและคิดว่าหงเหลยถิงเป็นวีรบุรุษ
มีบางคนสงสัย ว่าคนใหญ่คนโตในจีนหลิงเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ล้วนเป็นเพียงเรื่องอดีตไปแล้ว
เป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามไปถึงจีนหลิง เพราะนั่นคือการรนหาที่ตาย จีนหลิงไม่ใช่เมืองเจียง มันเป็นมหานครที่แท้จริง
คนใหญ่คนโตรวมตัวกัน เป็นถ้ำเสือรังมังกร
ส่วนตระกูลหยาง ก็กลายเป็นเพียงเรื่องตลกครั้งใหญ่เท่านั้น