จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 68
บทที่ 68 กินแบบสดๆ
เสียงสาวเซ็กซี่!
ทันใดนั้นทุกคนก็มีอาการขนลุกซู่ หานหยุนเทาหันหน้ากลับมาทันทีและพบกับหญิงสาวหน้าตางดงามผิวพรรณผ่องใสคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตู
สโนว์ไวท์
คำทั้งสามนี้ดังก้องอยู่ในใจของหานหยุนเทา ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือในใจของทุกคนรวมถึงหานหยู่เยนสองพี่น้องด้วย
ความขาวของหญิงสาวช่างน่าเหลือเชื่อ ผิวพรรณปราศจากตำหนิ เธอสวมใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นและเสื้อแขนสั้นลายตาราง เต็มไปด้วยพลังแห่งวัยเยาว์ เธอน่าจะตั้งใจแต่งหน้ามาเล็กน้อย ใบหน้าที่บอบบางมีเสน่ห์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้
แววตาหานหยุนเทาฉายแววหลงใหล เขารีบฝ่าฝูงชนก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว และแสร้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษมากยิ้ม “คนสวย ผมคือหานหยุนเทา คุณชายตระกูลหาน ไม่ทราบว่า…”
“ พี่โล่”
เซี่ยซือหานไม่ได้ชายตามองเขาเลยสักนิด แต่กลับพุ่งไปยังตรงหน้าโล่เฉิน
อันดับแรกเธอมองไปรอบ ๆ จากนั้นใบหน้าก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาและพูดว่า “นี่คือบริษัทที่คุณเริ่มต้นหรือ ไม่เลวนี่ ฉันชอบมาก คุณรับปากแล้วว่าจะให้ฉันเป็นศิลปินในบริษัทของคุณ อย่าโกหกฉันนะ”
เป็นไปได้อย่างไร!
ทุกคนต่างตกอยู่ในความตะลึงตาค้าง หญิงสาวงดงามขนาดนี้เป็นคนที่โล่เฉินรับมาเป็นศิลปินของตน?
ขยะไร้ประโยชน์อย่างเขา มีความสามารถอะไรไปรับสาวงามแบบนี้มา เทพธิดาระดับนี้ จะต้องเป็นดาราดังได้อย่างแน่นอน
“แน่นอนว่าไม่โกหก”
โล่เฉินยิ้ม
เมื่อมองไปที่หานหยุนเทา เขาก็ถามอย่างแปลก ๆ “คุณชายหา ผมมีศิลปินในสังกัดแล้ว คุณสมควรจะทำตามสัญญาแล้วหรือเปล่า”
หานหยุนเทากลับสู่ความเป็นจริง ใบหน้าของเขามืดมนราวกับน้ำเสีย
“พี่โล่ สัญญาอะไรหรือ?”
เซี่ยซือหานเอ่ยปากถาม ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือการแสดงออก หรือท่าทางขณะพูด ล้วนสามารถกระตุกใจชายได้ทั้งนั้น
แสดงได้ดีไม่เลว
โล่เฉินแอบด่าในใจ ช่างเป็นนางมารน้อยจริงๆ
“คุณชายท่านนี้พนันกับฉันว่า ถ้าฉันคงไม่สามารถรับสมัครศิลปิน ถ้าเขาแพ้ เขาจะต้องกินขี้”
“จริงหรือ สนุกจัง”
หานหยุนเทามีใบหน้าเขียวคล้ำ
เมื่อเห็นโล่เฉินและเซี่ยซือหานดูสนิทกนขนาดนี้ อีกทั้งยังเรียกโล่เฉินว่าพี่โล่ ในใจของเขาก็เกิดไฟริษยาขึ้นและคำรามอย่างดุเดือดอยู่ในใจ:
ไอ้ขยะนี่ อาศัยอะไรถึงได้หญิงสาวหน้าตางดงามขนาดนี้มา สมควรจะเป็นฉัน เป็นของฉันหานหยุนเทา!
“คุณชาย คุณคิดจะกลับคำ?” โล่เฉินทำสีหน้าหยอกเย้า
“น่าขัน คำพูดของฉันพูดแล้วจะกลับคำได้ยังไง”
หานหยู่ถิงตอบกลับประโยคหนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นนายยังจะนิ่งอะไร ห้องน้ำ ออกไปอยู่ทางขวามือ!”
หานหยุนเทาเองก็ไม่ใช่ตนโง่ เขาพูดอย่างเย็นชา: “นายกับเธอเป็นเพื่อนกันล่ะสิ? แบบนี้ไม่ได้ เมื่อครู่บอกว่ารับสมัครศิลปินหญิงสาวท่านนี้หน้าตางดงามจริงๆ แต่ต่อให้สวยไปกว่านี้ก็ไม่ถือว่าเป็นศิลปิน”
“ฮ่าฮ่า พูดไปพูดมาก็คือคิดจะเล่นตุกติกไม่ใช่หรือไง!” หานหยู่ถิงสีหน้าดูถูก
“ฉันไม่ได้เล่นตุกติก ตราบใดที่นายสามารถให้สาวสวยคนนี้แสดงความสามารถออกมาและเป็นไปตามมาตรฐานในการออกเดบิวต์ แบบนี้ก็ถือว่าเธอเป็นศิลปินที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และฉันก็จะยอมจากใจจริง”
หานหยุนเทามั่นใจอย่างยิ่ง
ผู้หญิงสวยส่วนใหญ่เป็นแค่แจกันดอกไม้ อาศัยหน้าตาหากิน สาวสวยมีความสามารถนั้นไม่ได้มีมากมาย อีกทั้งยังต้องเป็นไปตามมาตรฐานการออกเดบิวต์ โดยพื้นฐานแล้วนี่แทบเป็นไปไม่ได้
ดังนั้น เขาชนะแน่
โล่เฉินแอบขมวดคิ้ว
ใครจะรู้ว่า เซี่ยซือหานที่อยู่ข้างๆกลับกล่าวว่า “ก็ดี พี่โล่คุณยังไม่เคยเห็นฉันทักษะความสามารถทางการแสดงของฉัน เวลาไหนก็ไม่ดีเท่าเวลานี้ แสดงตอนนี้เลยแล้วกัน”
“อืม เธอแน่ใจหรือว่าต้องการแสดง”
โล่เฉินคิดว่าความสามารถของเซี่ยซือหานที่พูดถึง ก็คือศิลปะการต่อสู้ นั่นเพราะเธอเองก็เป็นนักบู๊คนหนึ่ง
นี่มันคนละเรื่องเลยไม่ใช่หรือ
“แน่นอน ให้ที่ว่างฉันสักหน่อย ฉันจะให้ทุกคนได้ดู”
เซี่ยซือหานวางกระเป๋าลงและเดินไปยังที่ว่างตรงกลาง
วินาทีต่อมา สายตาทุกคนก็จับจ้องแน่นิ่ง
“เต้นรำ?”
โล่เฉินมุมปากผุดขึ้น คิดไม่ถึงว่าเซี่ยซือหานจะมีไม้นี้
ยิ่งดูไปมากขึ้นเท่าไหร่ สีหน้าของผู้คนก็ยิ่งตื่นตะลึงมากขึ้นเท่านั้น หานหยู่เยนสองพี่น้องเองก็รู้สึกประหลาดใจจนต้องปิดปากของตน
นั่นเพราะการเต้นของเซี่ยซือหานนั้นดีอย่างยิ่ง ไม่ว่าการเคลื่อนไหวจะมีความยากมากแค่ไหน ร่างกายของเธอก็สามารถยืดหยุ่นไปได้อย่างง่ายดายราวกับจินตนาการ
สิบนาทีต่อมา
เซี่ยซือหานมีเหงื่อผุดขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าขาวผ่องงดงามปรากฏรอยแดงขึ้นสองข้าง
รอยยิ้มของเธอราวกับดอกไม้
“เถ้าแก่ ฉันเต้นพอไหวไหม?”
“ดี!”
ข้างๆหานหยุนเทา ชายหนุ่มอ้วนเตี้ยโพล่งออกมา
จากนั้น เขาถึงค่อยรู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดไปและรีบหดคอก้าวถอยหลัง
แปะแปะแปะ
โล่เฉินปรบมือและยกนิ้วให้
“เก่งมาก ดีกว่านักเต้นมืออาชีพบางคนเสียอีก ฉันว่า คุณชายหานเองก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน?”
หานหยุนเทาราวกับกินขี้ ใบหน้าของเขาดำคล้ำเป็นตับหมู หน้าอกหอบขึ้น ๆ ลง ๆ
ชายหนุ่มอ้วนเตี้ยด้านข้างกลอกตารอบหนึ่ง ก่อนจะคิดอะไรได้ เพื่อจะชดเชยความผิด เขาหันไปกระซิบข้างหูหานหยุนเทาประโยคหนึ่ง
“ใช่สิ!”
ดวงตาของหานหยุนเทาสว่างขึ้น เขากระแอมเสียงและเอ่ย “ในฐานะศิลปินที่มีคุณสมบัติเหมาะสมคนหนึ่ง จะให้เต้นอย่างเดียวก็ออกจะไม่มีเหตุผลอยู่บ้าง”
“ไอ้เลว นี่นายตั้งใจหาข้ออ้าง คิดจะหากกระดูกในไข่ไก่ชัดๆ” หานหยู่ถิงโกรธและกระโดดออกมา
“ฉันพูดผิดตรงไหน? แค่เต้นเป็นแล้วจะไปมีประโยชน์อะไร นี่มีมันไม่เป็นไปตามมาตรฐานการเดบิวต์ ขอโทษที….”
“ ฉันยังมีพรสวรรค์!”
เซี่ยซือหานเอ่ยปาก น้ำเสียงกังวานแจ่มชัดทำเอาหานหยุนเทาต้องปิดปากลงแต่โดยดี
ผู้หญิงคนนี้ ตั้งใจจะหาเรื่องกับฉัน!
โล่เฉินยิ้มและพูดด้วยความคาดหวัง “มีความสามารถอะไร ปล่อยออกมา ให้คุณชายหานของพวกเราได้เบิกตามองโลกสักหน่อย!”
“อย่างนั้น ฉันร้องเพลงให้ทุกคนฟัง”
เมื่อครู่ทั้งหมดได้อาหารตาไปแล้ว จากนี้ไปสามนาที หัวของทุกคนก็เองแทบจะตั้งครรภ์
นั่นเพราะเสียงนี้แทบจะเป็นเสียงสวรรค์
โล่เฉินมองออกถึงลูกไม้แล้ว ในใจของเขาแอบขำ เซี่ยซือหานร้องเพลงได้ไพเราะขนาดนี้ จนแทบจะเปลี่ยนน้ำเสียงไปโดยสิ้นเชิง นั่นเพราะได้ใช้กำลังภายในของตนออกมา
เปลี่ยนเสียง โล่เฉินเองก็สามารถทำได้
แต่การร้องเพลงได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ โล่เฉินคิดว่าตนไม่สามารถทำได้ เห็นชัดว่าเซี่ยซือหานได้รับการฝึกฝนมาแล้ว อีกทั้งเธอเองก็น่าจะชอบร้องเพลงมาก
เพลงเดียวถูกร้องออกมา ทุกคนก็ยอมแพ้
“เถ้าแก่ เป็นยังไง?”
“ไม่ยังไง ใครจะไปรู้ว่าเธอร้องได้แค่เพลงเดียวรึเปล่า ร้องได้แค่เพลงเดียว แบบนี้ไม่นับว่าเธอมีทักษะการร้องเพลงที่มีคุณภาพ”
ดวงตาของเซี่ยซือหานฉายแววรังเกียจ เธอหัวเราะเยาะ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นฉันจะร้องเพลงสไตล์อื่น ๆให้ทุกคนด้วย เพลงร็อค เพลงรักช้าเร็ว เพลงสไตล์จีน แร็พ อังกฤษ ฝรั่งเศส… ฉันจะร้องให้พวกคุณฟังสักรอบ !”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
สีหน้าของหานหยุนเทาราวกับคนตายไปแล้ว ราวกับเขากำลังมองเห็นผี
นังนี่ไม่ว่าจะแบบไหนก็ร้องได้ อีกทั้งยังร้องได้อย่างไร้ข้อตำหนิ
นางมารแน่ๆ!
“ยังมีความคิดเห็นเพิ่มเติมหรือไม่” เซี่ยซือหานหรี่ตาที่งดงามของตน บรรยากาศเยือกเย็นแผ่ซ่านออกมาจากรอบตัว ราวกับราชินีผู้สูงศักดิ์
หานหยุนเทานิ่งเงียบ
“พี่ พวกเราแพ้แล้ว”
ชายหนุ่มอ้วนเตี้ยถอนหายใจ
หานหยุนเทามีหน้าบิดเบี้ยว เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อไป หรือว่าจะต้องกินขี้จริงๆ นี่เป็นไปไม่ได้!
ตอนนี้หานหยู่ถิงมีความสุขแทบบ้า เธอหัวเราะลั่น “คุณชายหาน ฉันพานายไปห้องน้ำเอง อย่ามัวแต่นิ่งอยู่เลย รีบๆเข้า”
“ หานหยู่ถิง!”
“นาย นายทำอะไร”
ชายหนุ่มอ้วนเตี้ยจู่ๆก็ตะโกนขึ้นจนหานหยูถิงตกใจก้าวถอยหลังไปสองก้าว และซ่อนตัวอยู่ข้างๆโล่เฉิน
“เอ่อ พี่หานจะต้องกินของสดใหม่เท่านั้น ห้องน้ำไม่ได้ อีกทั้งชักโครกจะต้องล้างอย่างสะอาด จะต้องขุดเอาขี้ออกมาได้หมด!”
ทุกคน: “…..”
หานหยุนเทาหันหน้ากลับมาอย่างแข็งทื่อ โกรธจัดจนกระอักเลือด
ชายหนุ่มอ้วนเตี้ยเอ่ยอธิบายอย่างประจบประแจง“ พี่ ผมกำลังยืดเวลาให้พี่ พวกเขาหาของใหม่มาให้พี่ไม่ได้ในทันทีหรอก”
“ยืดเวลาบ้าอะไรวะ!”
หานหยุนเทาเตะชายอ้วนกระเด็น เขาหันไปจ้องโล่เฉิน ท่าทางโกรธจัด “วันนี้ถือว่าฉันแพ้แล้ว แต่แกอย่าได้ได้ใจไป คิดจะทำธุรกิจให้สำเร็จ ฝันไปเถอะ”
พรึบพรึบพรึบ!
มองดูหานหยุนเทาและลูกน้องหลบหนีจากไป หานหยู่ถิงก็ชูนิ้วกลาง.lj
“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เฮ้ ฉันแสดงเป็นไงบ้าง?”
เมื่อคนจากไป เซี่ยซือหานก็ขี้เกียจจะเสแสร้งต่อ
เธอล้มนอนลงบนโซฟา ขาเรียวขาวสองข้างพาดลงบนโต๊ะน้ำชา ไม่สงวนท่าทีเลยสักนิด
โล่เฉินที่กำลังคิดจะชมเชย ในหูก็ได้ยินเสียงร้องแหลมดังขึ้นมาเสียก่อน
“นังเมียน้อย คิดว่าฉันลืมไปแล้วหรือไง ใบหน้าเธอฉันยังจำได้แม่น ต่อให้เธอแต่งหน้าจนเทาฉันก็จำได้”
“ถิงถิง คนเขามาช่วยพวกเรา เธอพูดบ้าอะไร?” หานหยู่เยนเอ่ยตำหนิ
“พี่ เธอก็คือเมียน้อยนั่น”
หานหยู่ถิงโกรธและเป็นศัตรู
“ ฉันเคยบอกกับพี่ไปแล้วนี่ ในบริษัทจัดการประมูลเฟยสื้อ พี่เขยกับหญิงสาวคนอื่นอาบน้ำคู่ยวนยางด้วยกัน คนๆนั้นก็คือเธอ! คิดไม่ถึงว่าจะมาถึงที่แบบนี้ พี่ พี่จะแพ้ไม่ได้นะ คนมาหาเรื่องถึงถิ่นแล้ว จะยอมให้นังเมียน้อยก้าวขึ้นมาไม่ได้”