จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 74
บทที่ 74 คนสามกลุ่ม
เวลาพาดผ่านไป กลางดึกเที่ยงคืน
โล่เฉินพาหานหยู่เยนสองพี่น้องออกจากประตูอย่างเงียบ ๆ
“พี่เขย น่าตื่นเต้นเสียจริง”
หานหยู่ถิงตื่นเต้นอย่างยิ่ง เมื่อคิดถึงว่าอีกเดี๋ยวจะได้เห็นท่าทางน่าอับอายของหานหยุนเทา เธอก็หัวเราะจนปากแทบจะฉีก
“พี่เขย ตอนนี้จะไปบ้านเก่าแก่ของตระกูลหานหรือ?”
“แน่นอน”
หานหยู่เยนถามอย่างงุนงง “คุณต้องไปทางนั้นสิ ประตูชุมชนอยู่ตรงนั้น”
โล่เฉินตอบกลับ “ประตูใหญ่มีสายของหานหยุนเทาอยู่ เอาไว้จับตามองพวกเราโดยเฉพาะ เขานับว่ามีสมองอยู่บ้าง พอพวกเราลงมือ หานหยุนเทาก็จะได้รับเรื่องในทันที แบบนี้เท่ากับแหวกหญ้าให้งูตื่น” ที่
“ทั้งประตูหน้าหลังล้วนมีคนจับตาดูอยู่หรือ?”
“ใช่”
ในตอนนี้เอง โล่เฉินหยุดฝีเท้าลงเบื้องหน้ากำแพงสูง
หานหยู่เยนขมวดคิ้ว: “คุณคงไม่ได้คิดจะปีนกำแพงหนีไปหรอกนะ? กำแพงนี่สูงตั้งสามสี่เมตร อีกทั้งยังมีสัญญาณเตือนภัยและกล้องวงจรผิด ปีนออกไปก็ถูกค้นพบเข้า กลุ่มรักษาความปลอดภัยมาถึงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”
“ไม่ต้องกังวล มองมาที่ฉัน”
โล่เฉินหันตัวจากนั้นจึงโอบหานหยู่เยนไว้ในอ้อมแขนของเธอ
“เอ๋! คุณทำอะไรน่ะ?”
“อย่าส่งเสียง! ”
กำแพงที่สูงไม่ถึงสี่เมตรนี่ สำหรับโล่เฉินแล้วแทบจะไม่ต่างจากธรณีประตู แต่เพื่อไม่ให้การแสดงออกเป็นที่กระโตกกระตาก เขาจึงไม่ได้กระโดดข้ามไปโดยตรง
แต่เขากลับกระโดดขึ้นราวสองเมตรจากนั้นจับขอบกำแพงเอาไว้และทำท่าทางออกแรง ก่อนจะพลิกตัวกระโดดลงจากกำแพงและร่อนลงพื้นอย่างมั่นคง
“อา…”
“อย่าร้อง ออกมาได้แล้ว”
หานหยู่เยนตะลึง และมองไปรอบ ๆ อย่างรู้สึกเหลือเชื่อ
โล่เฉินกระโดดกลับเข้ามาอีกครั้ง ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก หานหยู่ถิงก็พุ่งเข้ามา
“พี่เขย คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้หรือ นี่มันสุดยอดไปเลย ฉันเอาด้วย คุณช่วยกระโดดพลิกตัวให้สูงสักหน่อย สนุกดี”
“จับให้แน่นๆ ”
เมื่อลงมาถึงพื้น สายตาของสองสาวก็มองโล่เฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“อย่าแปลกใจ นี่เป็นแค่เรื่องพื้นฐาน! ”
“สุดยอด!”
หานหยู่ถิงยกนิ้วโป้งให้
โล่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ไปกันเถอะ นั่งแท็กซี่ไปบ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา บ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน
คุณย่าหานหลับไปแล้ว แต่กลับถูกคนรับใช้ปลุกให้ตื่นขึ้นมา
“คุณนายใหญ่ หานหยู่เยน หานหยู่ถิง คุณหนูทั้งสองท่านและโล่เฉินมาที่นี่ บอกว่าต้องการพบคุณ มีเรื่องใหญ่มารายงาน”
“บ้าบอ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ให้พวกเขาสลายตัวไปซะ มีเรื่องอะไรค่อยมาว่ากันพรุ่งนี้”
คนรับใช้ตัวสั่นงกและพูดเสียงเบา “คุณหนูบอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณท่าน เร่งด่วนอย่างยิ่ง บอกว่าถ้าไม่พบท่าน คืนนี้จะไม่ไปไหน”
“คุณย่า คุณย่า! ”
“มีเรื่องใหญ่แล้ว!”
“คุณย่า! ”
ตอนนี้เอง เสียงร้องเรียกของหานหยู่เยนสองพี่น้องก็ดังขึ้น
คุณย่าหานมีสีหน้าบึ้งตึง แต่เมื่อเธอคิดว่านี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณปู่หาน เธอก็ลุกขึ้นและแต่งตัวอย่างสงบนิ่ง
เอี๊ยด
ประตูเปิดออก คุณย่าหานเดินออกมา
“คุณย่า”
“มีเรื่องใหญ่โตอะไร ถึงต้องดึกดื่นมาหาฉัน พรุ่งนี้ค่อยพูดกันไม่ได้หรือไง? หรือว่าโครงการที่ปินหูมีปัญหา?” น้ำเสียงของคุณย่าหานเย็นชา
หานหยู่เยนมองไปที่โล่เฉิน เธอสงบสติอารมณ์และพูดว่า “คุณย่า วันนี้หนูได้ยินข่าวใหญ่มาข่าวหนึ่ง ตีหนึ่งคืนนี้ หานหยุนเทาจะไปขุดหลุมศพของคุณปู่”
เงียบกริบ
ในสวนเงียบสนิท คุณย่าหานบื้อใบ้ไป แม้กระทั่งคนรับใช้ที่ประคองเธออยู่ก็งุนงง
ไม่กี่วินาทีต่อมา คุณย่าหานก็เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด “บังอาจ! ”
จากนั้น ฝ่ามือหนึ่งก็ตวัดเข้ามา
สายตาของโล่เฉินรวดเร็วอย่างยิ่ง เขาคว้าข้อมือของคุณย่าหานเอาไว้ “คุณย่าโปรดอย่าเพิ่งโมโห ที่หยู่เยนพูดเป็นเรื่องจริง”
“ไสหัวไป! ”
คุณย่าหานใช้เท้าเตะและเอ่ยอย่างเย็นชา: “ไอ้คนทรยศสารเลว! ”
“อย่าคิดว่าเธอได้โครงการมาโครงหนึ่งแล้วจะไม่รู้จักกฎหมายไม่รู้จักฟ้าดิน ตอนนี้ไสหัวออกไปซะ ไม่งั้น พรุ่งนี้เธอไม่ต้องมาที่บริษัท! ”
หานหยู่ถิงกลัวจนตัวสั่นและซ่อนตัวอยู่ข้างหลังโล่เฉิน
หานหยู่เยนเองก็กลัวมากเช่นกัน เธอมองไปที่โล่เฉินและได้สายตามั่นคงหลับมา เธอกัดฟันเอ่ย “คุณย่า คุณอย่าสงบลงก่อน ฟังหนูพูดสักหน่อย”
“หนูเองก็ไม่ใช่คนโง่ เอาเรื่องแบบนี้มาเป็นเรื่องล้อเล่นได้ยังไง หานหยุนเทาจะไปขุดหลุมศพของคุณปู่จริงๆ วันนี้ตีหนึ่งเขาจะลงมือ ดังนั้นหนูจึงมาหาคุณย่าด้วยความรีบร้อน”
คุณย่าหานหอบหายใจหนักหน่วง เธอชี้หน้าหานหยู่เยนและเอ่ยด่าลั่น “ยังกล้าพูดจาไร้สาระ ไม่เชื่อหรือไงว่าฉันกล้าลงโทษเธอจริงๆ”
หานหยู่เยนข่มใจและกัดฟันเอ่ยต่อ “คุณย่า หากหนูพูดโกหก หนูจะเป็นคนออกไปจากตระกูลเอง”
ตึง.
ม่านตาของคุณย่าหานหดลงทันที
เมื่อมองไปที่ท่าทีของหานหยู่เยน เธอก็ค่อยๆ สงบลง
“คุณย่า คุณปู่ดีกับครอบครัวของเรามาตลอด หนูเคารพนับถือคุณปู่อย่างยิ่ง จะกล้าลบหลู่คุณปู่ได้อย่างไร หานหยุนเทาเจ้านั่นไม่รู้เป็นบ้าอะไรขึ้นมา จะเข้าไปขุดหลุมศพ เขาต่างหากที่เป็นไอ้คนทรยศสารเลว”
“คุณย่า นี่เป็นเรื่องจริง ถ้าพวกเราโกหกเพื่อใส่ร้ายหานหยุนเทา ไม่ใช่แค่พี่สาวแต่หนูก็จะออกจากตระกูลด้วย” หานหยู่ถิงเอ่ยยืนยัน
โล่เฉินรีบเอ่ยตาม “คุณย่า หานหยุนเทาเป็นหลานชายคนโตของคุณ คุณลำเอียงรักเขาไม่ถือว่าเป็นอะไร แต่เขาต้องการขุดหลุมของคุณปู่ ถ้าคุณไม่สนใจเรื่องนี้ อย่างนั้นก็เปล่าประโยชน์ที่จะพูดแล้วจริงๆ”
คุณย่าหานชายตามองไปที่โล่เฉินอย่างเย็นชา จากนั้นจึงดึงสายตากลับมา น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง “จำคำพูดของเธอเอาไว้ หากกล้ามาล้อเล่นกับฉัน ก็ไสหัวออกจากตระกูลไปซะ แต่โครงการปินหูห้ามเอาไปด้วย!”
“คุณย่าวางใจได้”
หานหยู่ถิงนำเสื้อผ้าจากห้องและสวมให้คุณย่า
โล่เฉินเอ่ย “คุณย่า เวลากระชั้นชิด พวกเราต้องรีบไปที่หลุมศพเพื่อยับยั้งเดี๋ยวนี้ หากสายเกินไปจะแย่แล้ว หานหยุนเทาไม่เห็นใครในสายตา มีเพียงคุณเท่านั้นที่ห้ามเขาได้”
“เตรียมรถ”
คุณย่าหานเอ่ยสั่ง
ในไม่ช้า รถ Audi ก็ขับออกจากบ้านบรรพบุรุษของหานไป
……
ภูเขาสุสานทางตอนเหนือของเมือง
หานหยุนเทาและหานหยางแอบเข้ามาอย่างเงียบ ๆ เนื่องจากพวกเขากังวลว่าจะพูดค้นพบ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ไฟฉายได้และอาศัยเพียงแสงจันทร์สลัวในการนำทางเท่านั้น
สุสานมีขนาดไม่เล็ก ฝังกระดูกนับหลายพันชิ้น
อึมครึมมืดมน
“ฟูว..ฟูว!”
สายลมหนาวพัดผ่านไป หานหยางรู้สึกแผ่นหลังหนาวเยือก เขาเอ่ยตะกุกตะกัก “พี่ ผมกลัว พวกเราเรียกคนมาช่วยอีกหน่อยดีไหม แบบนี้ตอนขุดหลุมก็เบาแรงไปไม่น้อย”
“หุบปาก”
ดวงตาของหานหยุนเทาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง อันที่จริงเขาเองก็กังวลเช่นกัน เขาเอ่ยเสียงต่ำ “เรื่องแบบนี้คนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี หากเรื่องขุดหลุมศพของคุณปู่หลุดออกไป พวกเราจะยังอยู่ตระกูลหานได้หรือไง คุณย่าจะต้องจัดการพวกเราแน่!”
“พี่ชาย ได้รับสมบัติมาแล้ว พวกเราก็เป็นเจ้าบ้านตระกูลหาน คุณย่าจะยังถือเป็นใครอีก พวกเรากลายเป็นราชาแห่งสวรรค์ไปแล้ว ทำไมต้องกลัวเธอด้วย!”
“ถึงจะพูดแบบนั้นก็ยังต้องระวัง คนไร้ซึ่งความผิด ผิดก็แต่ถือครองหยก นายกล้ารับประกันหรือไงว่าไม่มีใครสนใจสมบัตินี่อยู่ ถึงตอนนั้นหากถูกคนใส่ร้ายจนตายขึ้นมาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ”
หานหยุนเทานับว่าฉลาด เขารู้จักเก็บเรื่องราวเอาไว้
หลังจากเดินไปได้ประมาณสิบนาที ทั้งสองคนก็หยุด] ’
“อีกแปดร้อยเมตรข้างหน้าคือหลุมศพของคุณปู่ ตอนนี้เวลายังมาไม่ถึง อย่าเพิ่งเข้าไปใกล้ รอจนกระทั่งตีหนึ่งกว่าๆ นักฆ่าไปแล้ว พวกเราค่อยเข้าไป”
หานหยุนเทาหาที่หลบซ่อนและนั่งพัก เขานั่งหันหลังชนกับหานหยาง
เขาเองก็กลัวอย่างยิ่งเหมือนกัน
แต่ว่า สิ่งที่ฮั่นหยุนเทาไม่รู้ก็คือ —-
ตั๊กแตนจับจักจั่นนกขมิ้นอยู่ด้านหลัง
ไม่ไกลจากพวกเขา มีคนสองคน ผู้ใหญ่หนึ่งเด็กหนึ่ง
สีหน้าของถงตี้มีรอยยิ้มเยาะไม่สมกับวัย “รู้อยู่นานแล้วว่าหานหยุนเทาไม่น่าเชื่อถือ ฉันไม่ได้บล็อกเสียงฝั่งหานหยู่ถิง ดังนั้นทางฝั่งหานหยู่ถิงเองก็ต้องมาที่นี่แน่! ”
“นกปากซ่อมกับหอยกาบทะเลาะกัน คนตกปลาได้ลาภ”
ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น หากหานหยู่ถิงอยู่ที่นี่ เธอจะต้องรู้จักเขาแน่
ชายวัยกลางคนคนนี้ก็คือหมอดูที่ให้เครื่องดักฟังเธอ
ตอนนี้ ชายคนนั้นได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดหนังสีดำ แสดงให้เห็นถึงรูปร่างกำยำ ดวงตาเป็นประกายเต็มไปด้วยพลังทิพย์อันเยียบเย็น
ราวกับว่าเขาก็เป็นปรมาจารย์
“รอให้พวกเขาสู้กันใกล้จะเสร็จ พวกเราค่อยออกโรง ลุงเฮย คุณสามารถเราจัดการพวกเขาได้ใช่ไหม?”
ลุงเฮยเต็มไปด้วยสีหน้ามั่นใจ: “ก็แค่เด็กหน้าขนไม่กี่คน แค่มือข้างเดียวก็พอแล้ว ตามที่พูดไว้ รอให้ได้สมบัติมา พวกเรามาแบ่งกันคนละครึ่ง”
ถงตี้พยักหน้า “แน่นอนว่าต้องเป็นไปตามนั้น”
ติ๊กติ๊กติ๊ก
เวลาผ่านไปช้าๆ ในที่สุดก็มาถึงตีหนึ่ง
หานหยุนเทาลืมตาขึ้น เขาสะดุ้งและตบหานหยาง “ตื่น เวลามาถึงแล้ว ได้เวลาลงมือ”
“พี่ รออีกหน่อยไหม หากนักฆ่านั้นล่าช้าไปหน่อย แล้วพวกเราเข้าไป แบบนี้คงต้องเจอกันแน่”
“ตอนนี้ตีหนึ่งสิบนาทีแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ”
หานหยุนเทาปากก็พูดไป แต่ในใจกลับไม่มั่นใจเช่นกัน
ดวงจันทร์มืดสลัว สายลมกรรโชก
ทั้งสองคนเดินเชื่องช้า
กว่าจะมาถึงหลุมศพของคุณปู่หาน ก็เป็นเวลาเกือบตีหนึ่งยี่สิบนาทีแล้ว
“ไม่มีใคร! ”
“เชี่ย เริ่มขุดเถอะ” หานหยุนเทาเลือดพลุ่งพล่าน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโลภ “สมบัติ สมบัติ ล้วนเป็นของฉัน ฉันจะรวยแล้ว นับจากนี้ไป ฉันจะเป็นคุณชายชั้นหนึ่งของเมืองเจียง! “