จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - บทที่ 180 ทำให้คนยกย่องเลื่อมใส มีคนตื่นตระหนก
คำพูดของโล่เฉิน ทำให้คุณท่านป๋อตื่นตกใจ
บนโลกนี้คนที่รู้จักวิชาฝังเข็มห้ามังกร มีเพียงตัวเขาและลูกศิษย์ของตน จะยังมีคนนอกรู้ได้ยังไง?!
รู้แล้วก็แล้วไป แต่นี่กลับมองออกว่าตนบรรลุถึงระดับใดอีกด้วย
เป็นไปได้อย่างไร!
“พูดจาไร้สาระ ยังมาแสร้งทำเป็นเก่งอีก หมี่หลานยังไม่พาเขาออกไปอีก พาเขาไปเซ็นสัญญาซะ” เจิ้งข่ายพ่นเสียงอย่างรังเกียจ
คุณท่านป๋อได้สติกลับมา ก่อนจะพบว่าโล่เฉินเดินลงไปชั้นล่างแล้ว
เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เขารีบพุ่งลงไปและตะโกนขึ้น “ “สหายน้อยโปรดหยุดก่อน”
ที่ประตูใหญ่ โล่เฉินชะงักฝีเท้าลง
“เรียนถามสหายน้อย ไม่ทราบว่านายรู้จักวิชาฝังเข็มห้ามังกรได้ยังไง?” ดวงตาของคุณท่านป๋อลุกเป็นไฟ และถึงขั้นแฝงไปด้วยความดุเดือด
“ไม่เข้าใจที่ฉันพูดหรือไง วิชาฝังเข็มห้ามังกรเป็นทักษะการแพทย์ของตระกูลฉัน ตระกูลป๋อของพวกนายแค่ได้รับการสืบทอดมาจากตระกูลของฉันก็เท่านั้น”
“ไร้สาระ!”
เด็กหนุ่มไล่ตามลงมา เมื่อได้ยินคำพูดของโล่เฉิน เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความโกรธ
“วิชาฝังเข็มห้ามังกรเป็นทักษะทางการแพทย์ที่สืบทอดมาจากตระกูลอาจารย์ของฉัน นายกล้าดีอย่างยิ่ง พยายามยึดมรดกสืบทอดของอาจารย์ฉัน รนหาที่ตาย!”
พูดเสร็จ
ก็เห็นเด็กหนุ่มผนึกมุทรา คล้ายว่ากำลังต้องการแสดงพลังคาถา
โล่เฉินหันกลับมา แสงศักดิ์สิทธิ์สองสายระเบิดออกมา
เด็กหนุ่มกรีดร้องขึ้น มุทราถูกขัดจังหวะไป จากนั้นจึงทรุดลงบนพื้น ใบหน้าของเขาซีดขาว เกิดเหงื่อเย็นเยียบราวกับสายฝน
“นี่!”
คุณท่านป๋อรู้สึกหนังศีรษะชาวาย เขาตระหนักได้ว่าโล่เฉินเป็นนักพรตที่ทรงพลังอย่างมากคนหนึ่ง
ในที่สุด เขาก็ค่อยเผชิญหน้าขึ้นมา วางโล่เฉินให้อยู่สูงระดับเดียวกับตนเอง และเอ่ยถามอย่างอบอุ่น “สหายน้อย เมื่อครู่ล่วงเกินแล้ว เห็นทีสหายน้อยก็เป็นหมอเช่นกัน ในเมื่อบอกว่าฉันยังไม่ได้รักษาให้หายดี อย่างนั้นสหายน้อยลงมือน่าจะดีกว่า ให้ฉันได้เห็นมัน อย่าได้เห็นความตายไม่ยื่นมือช่วยเลย คุณว่าอย่างไร?”
โล่เฉินแค่นเสียงอย่างเย็นชา “มีคนให้ฉันไสหัวไป ฉันคงไม่ต่ำต้อยขนาดนั้น”
คุณท่านป๋อขมวดคิ้ว เขาหันหน้ามาและเอ่ย “ผอ.จู สหายน้อยคนนี้ก็เป็นหมอเช่นกัน บางทีฉันอาจจะยังไม่ได้รักษาคุณนายจนหายจริงๆ หวังว่าคุณจะให้เขาได้ลองดูสักครั้ง ยังไงเสียนี่มันเกี่ยวข้องกับชีวิตของคุณนาย”
“งั้น งั้นหรอกเหรอ?” จูเป่ากั๋วสองพ่อลูกตกตะลึงสงสัย
เจิ้งข่ายสีหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง เขาก้าวออกมาข้างหน้าและพูดว่า “หมอเทพ คุณถูกเขาหลอกจนมึนไปแล้ว ไอ้หนุ่มนี่เป็นแค่ไอ้ขยะ ไหนเลยจะเป็นหมอไปได้ นับประสาอะไรกับเรื่องรักษาคุณนาย”
พูดจบ เจิ้งข่ายก็ชี้ไปที่โล่เฉินและตะโกนอย่างโกรธเคือง “โล่เฉิน แกไอ้ลูกหมา กล้าดียังไงมาหลอกหมอเทพ ถ้ายังไม่อยากตาย ก็รีบไสหัวออกไปให้เร็วๆ”
“นายกำลังสงสัยฉัน”
น้ำเสียงที่ดังขึ้นฉับพลันทำให้เจิ้งข่ายตัวเย็นเฉียบ เขาหันศีรษะอย่างแข็งทื่อและพบว่าใบหน้าของคุณท่านป๋อถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ ฟันของเขากระทบกันสั่นกึกๆ
“หมอเทพ ผม ผม…”
“หุบปาก ไปด้านอื่นซะ”
คุณท่านป๋อโบกมือและมองไปที่โล่เฉินอีกครั้ง “สหายน้อย คุณว่าเรื่องนี้ต้องทำอย่างไร?”
จูเป่ากั๋วมีจิตใจจดจ่อกับการช่วยภรรยาของตน เขาคิดว่าตนไม่ควรพลาดความหวังเล็กๆ น้อยๆ ไป หน้าตากับชีวิตของภรรยาเมื่อเทียบกันแล้ว เทียบกันไม่ได้เลยสักนิด
“โล่เฉิน เมื่อครู่เป็นฉันที่ผิดเอง ฉันขอโทษนาย ได้โปรดนายยื่นมือช่วยเหลือด้วย”
วาบ
สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ จูเป่ากั๋วตบหน้าตัวเองเข้าฉาดหนึ่ง
“พ่อ”
จูหรงหรงปิดปากของเธอ จากนั้นเธอก็กัดริมฝีปากสีแดงก่ำและก้มศีรษะลงเช่นกัน “โล่เฉิน หากต้องการทุบตีก็ตามใจคุณเถอะ หากมีวิธีจริงๆ ได้โปรดรักษาแม่ของฉันด้วย ฉันขอร้องคุณ”
โล่เฉินหันกลับมา
การตบหน้าตนเองของจูเป่ากั๋วนั้นกะทันหันไปบ้างจริงๆ แต่ก็ขจัดความโกรธของเขาออกไปด้วยเช่นกัน
“ไป!”
โล่เฉินพยักหน้า
กลุ่มคนกลับมาที่ห้อง คุณท่านป๋อยืนอยู่ข้างๆโล่เฉิน ในขณะที่คนอื่น ๆ ยืนอยู่ทั้งสองด้านไม่ได้เข้าไปใกล้
“สหายตัวน้อย คุณบอกว่าฉันยังไม่ได้พบสาเหตุที่แท้จริงของโรค คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร?”
โล่เฉินเอ่ยอธิบาย “คุณใช้เข็มวิเศษเพื่อกระตุ้นอวัยวะภายในของคุณนาย ปลุกการทำงานของร่างกาย มองดูแล้วเธอดูดีขึ้นบ้างจริง แต่นี่เป็นการรักษาตามอาการไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุของโรค”
“โอ้?”
“คุณเข้ามาถึงก็ลงมือรักษาเธอทันที ไม่ผิด นั่นเป็นเพราะตอนนั้นคุณนายมองดูแล้วตกอยู่ในวิกฤต แต่ว่า หลังจากรักษาเสร็จ คุณไม่แม้แต่จะไถ่ถามคนในบ้านด้วยซ้ำ ก็บอกว่ารักษาเธอได้และอันตรายอะไรแล้ว แบบนี้เป็นการตัดสินโดยพลการเกินไป!”
เสียงของโล่เฉินแฝงร่องรอยการตำหนิ
คุณท่านป๋อรู้สึกละอายอยู่บ้าง ใบหน้าชราของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
ปฏิกิริยาดังกล่าวทำให้เด็กหนุ่มตกตะลึง
นี่ถึงกับ
มีคนกล้าดุอาจารย์
ต่อให้เป็นคนใหญ่คนโตในเมืองหลวงพวกนั้นก็ยังต้องปฏิบัติกับอาจารย์อย่างสุภาพเกรงใจ แต่นี่…
“โรคของคุณนายมีสาเหตุมาจากด้านจิตวิญญาณ ความบ้าคลั่งผิดแปลกตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ได้ใช้สมาธิของเธอไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้อวัยวะภายในเริ่มล้มเหลว แต่ว่านี่เป็นการล้มเหลวเท็จ ไม่ใช่ความล้มเหลวของคนชราอายุเจ็ดแปดสิบแบบทั่วไป แน่นอนว่ามันสามารถกระตุ้นกลับมาได้อีกครั้ง เรื่องนี้คุณก็ได้ทำไปแล้ว”
“ต่อมา เราต้องแก้ปัญหาทางด้านจิตวิญญาณ”
คุณท่านป๋อถามอย่างงุนงง “สหายน้อย จิตวิญญาณนั้นลวงตา จะรักษาได้อย่างไร?”
โล่เฉินถามกลับ “เข็มเล่มที่ห้าของวิชาฝังเข็มห้ามังกรมีชื่อว่าอะไร?”
“ตัดปีศาจ”
“ตอนนี้เข้าใจหรือยัง?” โล่เฉินเหล่ตาและถามอีกครั้ง
คุณท่านป๋อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นร่างกายก็สั่นขึ้นสองสามครั้ง ก่อนจะเอ่ยเสียงพร่า “ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจ เข็มที่ห้ามุ่งไปที่จิตวิญญาณ จิตวิญญาณนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา หากมีปัญหาในด้านนี้เกิดขึ้นสามารถเรียกว่ามารก็ได้ เข็มที่ห้าก็คือการกำจัดปิศาจที่รบกวนจิตใจ หรือที่เรียกว่า ตัดปีศาจ”
“คุณถือว่าฉลาดอยู่บ้าง”
โล่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขายื่นมือออกไปแล้วเอ่ย “เอามาเถอะ”
“อะไร?”
“คุณไม่อยากเห็นเข็มที่ห้าหรือไง?”
ทันใดนั้น คุณท่านป๋อก็อ้าปากค้าง
วินาทีถัดมา คือความตื่นเต้นและตกใจสุดเกินจะบรรยาย เขากลืนน้ำลายลงอึกหนึ่งเพื่อเติมความชุ่มชื้นแก่ลำคออันแห้งผาก
เขาหันหลังกลับและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “จุนเอ๋อ เร็วเข้า รีบนำเข็มเงินมาเร็ว”
“เอ่อ ครับ อาจารย์”
เด็กหนุ่มไม่กล้าชักช้า เขารีบทำการฆ่าเชื้อ จากนั้นก็ส่งมอบเข็มเงินให้ทันที
โล่เฉินบิดปลายนิ้วของตน ท่าทางราวกับครูที่กำลังสอนลูกศิษย์
“เข็มที่ห้าต้องการพลังจิตที่แข็งแกร่งอย่างมาก คุณอาจไม่แม้กระทั่งมองเห็นการเคลื่อนไหวของฉัน แต่ฟังให้ดี ตามความแข็งแกร่งของ ‘ปีศาจ’ เข็มที่ห้ามีทั้งหมด49 จุดที่ต้องแทงลงไป อีกทั้งผลลัพธ์ของแต่ละที่จะแตกต่างกัน… ”
ข้างเตียง
คนหนึ่งพูด พูดอย่างลึกซึ้ง จนแม้แต่เด็กหนุ่มก็ไม่เข้าใจ แล้วนับประสาอะไรกับพวกเจิ้งข่าย
คนหนึ่งฟัง ลำตัวโน้มลงเล็กน้อย ตั้งใจกับมันอย่างยิ่ง
ภาพนี้ดูแล้วอาจน่าขัน แต่ความจริงกลับน่าตื่นตะลึง
“คนคนนี้!”
ใบหน้าของเจิ้งข่ายมืดมนราวกับน้ำหมึก เขากระสับกระส่ายเล็กน้อย
หรือว่าโล่เฉินจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และสามารถรักษาโรคของคุณนายได้จริงๆ แบบนี้เขาก็จะแพ้เดิมพัน ไม่เพียงแต่ไม่ได้บริษัทมา เงินลงทุน 15 ล้านก็จะสูญเปล่าไปด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เขายังต้องช่วยตระกูลหานจ่ายค่าชดเชยผู้บาดเจ็บ
หนึ่งร้อยล้านไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับตระกูลเจิ้ง แต่ยังไงก็เป็นเงิน ถูกใช้ไปฟรีๆร้อยล้าน สมองของเจิ้งข่ายก็เกิดเป็นภาพตนเองถูกพ่อโกรธและอัดเขาอย่างหนัก
สมควรตาย!
เจิ้งข่ายกำหมัดแน่น
ที่น่าเจ็บใจก็คือเขาไม่กล้าเข้าไปรบกวน
ตอนนี้คุณท่านป๋อดูเหมือนจะเป็นนักเรียนไปแล้ว แทรกแซงการรักษา คุณท่านป๋ออาจบีบคอเขาด้วยความโกรธ และอาจทำกระทั่งทำลายตระกูลเจิ้ง
“ที่แท้ก็มีความมั่นใจอยู่นี่เอง” ในขณะนี้ หัวใจของหมี่หลานเต้นขึ้นอย่างรุนแรง
เธอพบว่าตัวเองคิดผิด โล่เฉินมีความสามารถดังกล่าวอยู่จริง
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ
ท่าทางของคุณท่านป๋อที่ดูเคารพชื่นชมโล่เฉิน นี่คือหมอเทพของเมืองหลวง มีเครือข่ายที่กว้างขวาง นี่เท่ากับหมายความว่าโล่เฉินกำลังจะทะยานสู่ท้องฟ้าแล้ว
หมี่หลานมองไปที่เจิ้งข่ายและโล่เฉิน เธอได้คิดอย่างรอบคอบแล้ว
“พวกนายออกไปเถอะ”
เมื่อเห็นว่าโล่เฉินกำลังจะขึ้นแสดงทักษะ ป๋อเหวินก็รีบเคลียร์ฝูงชนออกไป
ในห้อง เหลือคนแค่สามคน
“ดูชัดแล้วยัง?”
โล่เฉินแสดงเข็มที่ห้าออกมา เทคนิคมือของเขาแปลกและรวดเร็วอย่างยิ่ง เข็มเงินสั่นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นเสียงโลหะสั่นสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของคุณนายก็สั่นขึ้นมาอย่างเล็กน้อยจนสังเกตเห็นได้ยาก
คุณท่านป๋อส่ายหัว “มองเห็นไม่ชัด”
“นี่เป็นเรื่องปกติ เป็นเพราะพลังจิตของคุณไม่เพียงพอ ยังต้องฝึกฝน” โล่เฉินเอ่ย
คุณท่านป๋อถอนหายใจยาวและยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นเขาก็ก้มตัวลง 90 องศา ประสานกำปั้นแล้วถามว่า “คุณท่าน โปรดรับผมเป็นศิษย์ด้วย”
ตูม
เพียงประโยคเดียว ทำเอาทั้งร่างของเด็กหนุ่มสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
โล่เฉินส่ายหัวและพูดว่า “คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหม?”
คุณท่านป๋อเยาะเย้ยตนเอง “ก็ใช่ คุณสมบัติระดับผม โง่งมเกินกว่าที่จะเป็นลูกศิษย์ของท่านได้ อ้อใช่นายท่าน คุณบอกว่าวิชาฝังเข็มห้ามังกรเป็นทักษะทางการแพทย์ของตระกูลเหรอ?”
“ใช่ ไม่รู้ว่านายมีบันทึกในหนังสือโบราณของตระกูลป๋อรึเปล่า เมื่อหลายพันปีก่อน บรรพบุรุษของคุณป๋ออี๋ ได้รับการคัดเลือกและสืบทอด 《วิชาฝังเข็มห้ามังกร》 คนที่คัดเลือกป๋ออี๋ก็คือบรรพบุรุษตระกูลโล่ของฉัน นี่เป็นทักษะการแพทย์ของตระกูลเรา”
คุณท่านป๋อเข้าใจขึ้นมาทันที ไร้ความสงสัยใดๆอีกต่อไป
“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณท่าน อย่างนั้นพวกเราก็มีประวัติเชื่อมโยงกันอย่างยาวนาน”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” โล่เฉินเองก็ยิ้ม
คุณท่านป๋อดูเหมือนจะยังไม่ยอมแพ้อยู่เล็กน้อย เขาดึงเด็กหนุ่มเข้ามาและเอ่ย “คุณท่าน เด็กคนนี้ชื่อเล่อซิงจวิน เขามีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งอย่างมาก อายุ 16 ปีพลังจิตของเขาก็ไม่อ่อนด้อย ตอนนี้บรรลุเข็มแรกอย่างสมบูรณ์แล้วและกำลังจะบรรลุเข็มที่สอง คุณท่าน คุณคิดว่าพอจะรับเขาเป็นลูกศิษย์ได้หรือไม่?”
“อาจารย์ ผมไม่ต้องการ ข้าจะติดตามอาจารย์ไปตลอด” เด็กหนุ่มคุกเข่าลงและร้องไห้
“เจ้าเด็กคนนี้ อาจารย์แก่แล้ว วันหน้าหากสามารถบรรลุเข็มที่สี่ได้อย่างถ่องแท้ก็ถือว่าเป็นโชคดีแล้ว นายติดตามฉัน ฉันไร้หนทางจะสั่งสอนให้นายบรรลุเข็มที่ห้าได้ มีเพียงการติดตามคุณท่านเท่านั้นถึงจะมีความหวัง” คุณท่านป๋อลูบหัวเด็กหนุ่มและพูดอย่างจริงใจ
เล่อซิงจวินยังคงส่ายหัวอย่างรุนแรง “ไม่เอา ไม่เอา”
เมื่อเห็นว่าคุณท่านป๋อยังคิดจะโน้มน้าวมต่อ โล่เฉินก็เปิดปากขึ้น “ไม่จำเป็น ฉันไม่มีความคิดจะรับศิษย์ เด็กคนนี้ตามคุณไปถือว่าไม่เลวเช่นกัน รอให้เขาบรรลุเข็มที่สี่เมื่อไหร่ ให้เขามาหาฉัน ฉันจะสอนเข็มที่ห้าให้เขา ”
คุณท่านป๋อรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ขอบคุณคุณท่านอย่างยิ่ง”
“อ้อใช่ เรื่องเกี่ยวกับฉัน คุณอย่าได้สืบหา อีกทั้งอย่าได้ถามอะไร กลับไปที่เมืองหลวงแล้วอย่าได้เอ่ยถึงฉันกับใครทั้งนั้น เข้าใจหรือไม่?”
คุณท่านป๋อตกตะลึงแล้วพยักหน้ารับ “ไม่ต้องกังวล ผมจะหุบปากสนิท”
“ออกไปกันเถอะ”
นอกประตูห้อง จูเป่ากั๋วสองพ่อลูกกำลังร้อนรนจนเดินไปมาไม่หยุด
เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้น เขาก็รีบเข้าไปถาม “หมอเทพ ภรรยาของผมเป็นอย่างไรบ้าง รักษาหายดีแล้วหรือไม่?”
คุณท่านป๋อพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องกังวล คราวนี้ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ คุณโล่มีทักษะทางการแพทย์ที่สูงส่ง ฉันรู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง”
“จริงๆเหรอ?”
จูเป่ากั๋วสองพ่อลูกกอดกันร้องไห้ ทั้งสองเอ่ยขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าและรีบเข้าไปในห้อง
โล่เฉินมองไปที่สีหน้าเขียวคล้ำของเจิ้งข่าย จากนั้นจึงยักไหล่แล้วพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “คุณชายเจิ้ง การเดิมพันครั้งนี้คุณคงไม่ลืมนะ หรือว่าต้องให้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง”