จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - บทที่ 186 การต่อต้าน ความเยือกเย็น และความแน่วแน่
“ทุกคนฟังไม่ผิด ตระกูลเจิ้งจะจ่ายค่าชดเชยสำหรับการบาดเจ็บล้มตายให้ เรื่องนี้คลี่คลายแล้ว ไม่มีวิกฤติอะไรอีก ค่าชดเชยก็ไปถึงแล้ว รัฐบาลเห็นแก่ตระกูลเจิ้งออกหน้าให้ดังนั้นจึงไม่ได้ตามสอบสวนเพิ่มเติมอะไรอีก”
คำพูดของโล่เฉินปลุกทุกคนให้ตื่นตะลึงขึ้นมา
ทุกคนสั่นสะท้านสองสามครั้ง จากนั้นจึงมองไปที่หานหยู่เยนด้วยความตกใจ ในเวลาเดียวกันก็มีความปีติยินดี
ตระกูลหานได้รับทุนสนับสนุนจากตระกูลเจิ้ง อนาคตวันหน้าสดใส ความเจริญรุ่งเรืองของพวกเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม มีเงินใช้จ่ายไม่ขาด
“เจ้าบ้านคนใหม่!”
แม้ว่าหานตงเล่จะเป็นพวกขี้เกียจ แต่สมองของเขาก็หมุนเร็วอย่างยิ่ง เขากำหมัดแล้วตะโกนขึ้นมา
บรรดาญาติๆก็ถูกกระตุ้นไปด้วย
“เจ้าบ้านคนใหม่!”
“เจ้าบ้านคนใหม่!”
“เจ้าบ้านคนใหม่!”
เสียงร้องดังขึ้น เหล่าชายหญิงสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หานเจี้ยนกั๋วสองพ่อลูกตกใจจนขวัญหนี
ในอีกด้านหนึ่ง หานหยางและหานหยุนซีสบตากัน ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหนีออกมาจากหานหยุนเทาและปะปนเข้าไปอยู่กับฝูงชนที่ตะโกน
“พวกแก!” หานหยุนเทาทั้งโกรธและตกใจ
เขาหันหลังกลับทันที ชี้ไปที่หานหยู่เยนแล้วด่าลั่น “นังแพศยาชั้นต่ำ ก่อนหน้านี้ก็โครงการปินหู เธอขายตัวให้ฟ่านหมิง มาตอนนี้ก็ขายตัวให้เจิ้งข่ายอีก ถูกระยำจนสะใจไหม!”
วาบ
เสียงร้องตะโกนค่อยๆ เลือนหายไป สีหน้าของญาติๆ ก็ดูปั้นยากพิกล
หานหยู่เยนใบหน้าแดงก่ำ เธอตะโกนอย่างโกรธเคือง “หานหยุนเทา นายกำลังพูดเรื่องอะไร”
“ฉันก็พูดไปมั่วๆ เธอไม่เข้าใจหรือไง!”
หานหยุนเทามีสีหน้าขยะแขยงและดูถูกเหยียดหยาม เขาตะโกนสุดเสียงว่า “ร้อยล้าน เจิ้งข่ายจะสามารถใช้มันไปอย่างขอไปทีได้หรือไง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไปนอนด้วย ให้เจิ้งข่ายย่ำยี ไม่งั้นเขาจะมาช่วยเธอได้ยังไง!”
“หุบปาก!”
“ทำไม ถูกฉันพูดแทงใจดำหรือไง เธอมันนังแพศยาชั้นต่ำ!”
หานหยู่เยนโกรธจัดจนร้องไห้ออกมา
โล่เฉินก้าวไปข้างหน้า จากนั้นจึงสะบัดมือครั้งหนึ่ง
เพี๊ยะ
เสียงดังคมชัดเกิดขึ้น
หานหยุนเทาถูกตบจนตัวหมุน ใบหน้าบวมเป่งขึ้นมา และมีเลือดไหลออกมาจากจมูก
“แก แกไอ้ขยะ แกกล้าตบฉัน!”
“ฉันไม่เพียงแต่กล้าตบนาย แต่ยังจะตัดลิ้นของนายออกมาด้วย งาช้างยังไงก็ไม่มีวันงอกออกมาจากปากสุนัข!”
หานหยุนเทาสีหน้าไม่พอใจ เขาเอ่ยอย่างโกรธแค้น “โล่เฉิน ได้ ภรรยาของตัวเองถูกเจิ้งข่ายเล่นสนุกก็ยังไม่สะทกสะท้าน ไม่แน่ว่าบางทีอาจเป็นแกที่สั่งให้หานหยู่เยนทำแบบนี้ก็ได้ จุ๊จุ๊ แกมันไม่ใช่แค่ไอ้ขยะ แต่เป็นไอ้โรคจิตด้วย!”
“เพี๊ยะ!”
ฝ่ามือตบเข้าอีกครั้ง
หานเจี้ยนกั๋วเจ็บปวดแทนลูกชายของตน เขาคว้าไม้เท้าบนพื้นและตะโกนว่า “โล่เฉิน ถ้าแกกล้าลงมืออีก ฉันจะเอาชีวิตเข้าสู้กับแก”
“พอได้แล้ว!”
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ หญิงชราก็เอ่ยขึ้นมา
หานเจี้ยนเย่หันมามองและก้าวขึ้นไปพูดว่า “แม่ หยู่เยนนำความหวังมาสู่ตระกูลหานแล้ว เธอเป็นผู้นำในการฟื้นฟูตระกูลของเรา อีกทั้งพ่อก็ยังฝากฝังไว้กับหยู่เยนก่อนจะตาย ทั้งด้านความสัมพันธ์และเหตุผล หยู่เยนล้วนเป็นเจ้าบ้านคนใหม่”
“เจ้าบ้านคนใหม่? ฮ่าฮ่า”
หญิงชราจู่ๆก็หัวเราะขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากริ้วรอยมากมายบนใบหน้า บวกกับสีหน้าม่วงคลำ ส่งผลให้รอยยิ้มของเธอนั้นดูน่ากลัวขึ้นเป็นพิเศษในใจของผู้คน
“ผู้นำการฟื้นฟูแบบนี้ ฉันไม่ต้องการ”
“อะไรนะ!”
หานเจี้ยนเย่ตกตะลึงอย่างมาก
“ตระกูลหานของฉันล่มสลายได้ แต่ว่าลูกหลานของตระกูลจะต้องมีศักดิ์ศรี ต่อให้ตาย ก็ต้องตายอย่างสง่าผ่าเผย หานหยู่เยนไร้ยางอาย ขายร่างกายของเธอเพื่อแลกกับโอกาสในการอยู่รอดของตระกูลหาน นี่ช่างต่ำตมสกปรกที่สุด”
หญิงชราลุกขึ้นยืนอย่างตัวสั่นเทา เธอกำไม้ค้ำยัน ใบหน้ามืดครึ้ม
“พวกเราตระกูลหาน ไหนเลยจะมีทายาทที่สกปรกเช่นนี้ได้ เสียหน้าตระกูลหานของพวกเรา ตอนนี้ฉันขอประกาศ หานหยู่เยนถูกไล่ออกจากตระกูลหานแล้ว และถูกลบชื่อออกจากลำดับวงศ์ตระกูล”
ตูม
หานหยู่เยนราวกับถูกฟ้าผ่า น้ำตานองเต็มใบหน้า
หานเจี้ยนเย่เองก็ตาแดงก่ำ ตัวสั่นเทา
เขาโกรธแล้ว
โล่เฉินไร้การเคลื่อนไหวใดๆบนใบหน้า แต่คนที่มีตาล้วนมองออกถึงความเย็นชาลึกลงไปในกระดูกของเขา ซึ่งทำเอาผู้คนรู้สึกหนาวเหน็บ
“คุณยินยอมให้ตระกูลหานล่มสลาย ดีกว่ายอมให้หยู่เยนเป็นเจ้าบ้านคนใหม่?”
“แล้วจะทำไม”
“ฮ่าๆๆๆ ดีดีดี!”
โล่เฉินหัวเราะลั่น เกิดความโกรธที่ไม่เคยมีมาก่อน
เจิ้งข่ายก็รังเกียจหญิงชราเช่นกัน เขาเอ่ยอธิบาย “ฉันกับหานหยู่เยนไม่มีอะไรระหว่างกัน เมื่อกี้ฉันบอกไปแล้ว ฉันถูกใจความสามารถของหานหยู่เยน บวกกับโล่เฉินขอร้องฉัน ดังนั้นฉันก็เลยช่วยอีกแรง หนึ่งร้อยล้านสำหรับฉันแล้วก็เป็นแค่เศษเงิน ไม่เยอะอะไร ทำไมต้องเอะอะให้วุ่นวายด้วย!”
“คุณชายเจิ้งไม่ต้องแก้ตัวแทนเธอ ฉันตัดสินใจแล้ว หานหยู่เยนไม่ใช่คนในตระกูลหานของฉันอีกต่อไป ออกจากบ้านเก่าแก่ของตระกูลหานไปซะ” หญิงชรากล่าวอย่างหนักแน่น
“คุณย่า คุณอยากให้ตระกูลหานล่มสลายลงจริง ๆ หรือ?”
หานหยู่เยนเดินโซเซไปข้างหน้าและถามอย่างหายใจไม่ออก
หญิงชราเม้มริมฝีปากของเธอ
“เพียงเพราะฉันเป็นผู้หญิง เพียงเพราะว่าคุณไม่ชอบพ่อ ดังนั้นคุณยอมปล่อยให้ตระกูลหานล่มสลายดีกว่าเห็นด้วยกับฉัน!”
หานหยู่เยนพูดกับตัวเอง”คุณย่า แต่ไหนแต่ไรมาฉันเป็นห่วงตระกูลหานมาโดยตลอด เคารพคุณเสมอมา แต่คุณกลับทำร้ายจิตใจฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้คุณยังต้องการขับไล่ฉันออกจากตระกูลหาน”
“ทำไม เธอยังมีความเห็นอะไรอีก”
หญิงชราหรี่ตาลง น้ำเสียงไม่เป็นมิตร
หานหยู่เยนเช็ดดวงตาของเธอ จากนั้นจึงส่ายหัวแล้วพูดว่า “การตัดสินใจของคุณย่า ฉันไม่กล้าแสดงความเห็น แต่ว่า ตอนนี้คุณย่าไม่ใช่คนที่ตัดสินใจได้อีกต่อไป”
“เธอ!” หญิงชราแยกเขี้ยว
“นี่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของตระกูล ไม่อาจปล่อยให้คุณย่าตัดสินใจแค่ลำพัง ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านั้นคุณปู่ยังเคยฝากฝังฉันไว้ก่อนจากไป คุณย่าไม่มีสิทธิ์ขับไล่ฉันออกจากตระกูล”
หานหยู่เยนราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน รัศมีของเธอแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
ดวงตาของเธอคมปลาบและกวาดมองไปรอบๆ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้ ทุกคนล้วนเป็นคนตระกูลหาน ดังนั้นทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมในการตัดสินใจได้”
“หานหยู่เยน เธอคิดจะต่อต้านใช่ไหม!” หานหยุนเทาคำราม
อย่างไรก็ตาม หานหยู่เยนกลับไม่สนใจและพูดต่อ “ถ้าคุณตกลงที่จะขับไล่ฉันออกจากตระกูล จงยกมือขึ้น!”
วินาทีถัดมา หานหยุนเทายกมือขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขามองไปรอบๆ และต้องตกตะลึง——
นอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครยกมือขึ้น
“พวกแกทำอะไรน่ะ ไม่ได้ยินหรือไง ยกมือขึ้นสิ!”
“หานหยาง อยากตายหรือไง ยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้!”
“หานหยุนซี ยังมีเธอ!”
……
หานหยุนเทาเรียกชื่อขึ้นทีละคน แต่ไม่มีใครฟังเขา
หน้าอกของหญิงชราสั่นกระเพื่อม เลือดไหลออกจากมุมปากของเธอ
“ดีมาก ทุกคนคัดค้านการตัดสินใจของคุณย่า คนกลุ่มน้อยฟังเสียงข้างมาก ฉันยังคงเป็นคนตระกูลหานอยู่”
หานหยู่เยนเหลือบมองหญิงชราและตะโกนขึ้นอีกครั้ง “ตระกูลหานรอดจากหายนะ ต้องแต่งตั้งเจ้าบ้านคนใหม่ ใครเห็นด้วยว่าเป็นฉันยกมือขึ้น”
พรึบพรึบพรึบ
ภายใต้การนำของหานตงเล่ ทุกคนยกเว้นหานหยุนเทาล้วนยกมือขึ้น
“พวกแก!”
ในที่สุด หญิงชราก็ทนไม่ไหว กระอักเลือดออกมา
หานหยู่เยนแอบบีบกำปั้นของตน ในใจรู้สึกทำใจไม่ได้อยู่บ้างเล็กน้อย
แต่เมื่อคิดถึงตระกูลหาน เธอก็ทำได้เพียงแข็งใจ “คุณย่า นับจากนี้ไปฉันเป็นเจ้าบ้านของตระกูลหาน คุณถอยกลับไปเบื้องหลังและสนุกกับชีวิตที่เหลือของคุณเถอะ”
“นังสารเลว นี่เธอ…”
“ลุงตงเล่” หานหยู่เยนเอ่ยเรียกขึ้น
หานตงเล่สาวเท้าไปข้างหน้า ท่าทางภูมิใจอยู่บ้างและรู้สึกราวกับตัวเองได้รับความสำคัญ
เขามีท่าทีดีอย่างยิ่งและถามอย่างสุภาพว่า “เจ้าบ้าน มีเรื่องอะไรหรือ?”
“แหวนของบรรพบุรุษ”
หานตงเล่ตะลึงไป จากนั้นก็เข้าใจในทันที ดวงตาของเขาจ้องไปที่แหวนหยกทองบนนิ้วหัวแม่มือของหญิงชรา
นี่คือหลักฐานยืนยันของเจ้าบ้าน และเป็นมรดกของตระกูลหาน
“แกกำลังจะทำอะไร!”
หญิงชราตกใจกลัว เธอกำกำปั้นเอาไว้แน่น ปกป้องนิ้วของเธอ
“คุณนายใหญ่หาน เห็นทีคุณคงไม่ยอมส่งมันมาแต่โดยดี อย่างนั้นก็ต้องขอโทษแล้ว ผมได้แต่ต้องลงมือเอามันมา” หานตงเล่เอ่ยอย่างดุร้ายเผด็จการ
หานเจี้ยนกั๋วรีบพุ่งเข้ามา แต่กลับถูกหานตงเล่ต่อยจนล้มลง
“ยายแก่ ส่งของมา คุณไม่คู่ควรที่จะสวมแหวนวงนี้ คุณถึงขึ้นอยากให้ตระกูลหานล่มสลาย รีบๆตายไปซะเถอะ แล้วไปสำนึกผิดต่อหน้าคุณท่านหานซะ”
“หานหยู่เยน นังสารเลว นังคนชั้นต่ำ ทรยศอกตัญญู…”
หญิงชราสาปแช่ง
คำพูดสกปรกทุกชนิดล้วนออกมาจากปากของเธอ หานหยู่เยนหันหลังให้เธอและไม่หันไปมอง
“เจ้าบ้าน นี่ครับ”
หานหยู่เยนรับแหวนมา หัวใจของเธอก็สั่นอย่างรุนแรง
ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นความฝัน
สวมแหวนนี้แล้ว เธอก็จะเป็นเจ้าบ้านของตระกูลหาน และสามารถแสดงฝีมือ นำพาตระกูลหานไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้
นั่นคือสิ่งที่ตนต้องการมาตลอดไม่ใช่หรือ?
คำฝากฝังของคุณปู่
ตระกูลหานจะต้องยืนหยัดขึ้นมาให้ได้
“หยู่เยน ใส่มันซะสิ!”
หลิวเซียงหลันตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น เธอกอดแขนของหานเจี้ยนเย่เอาไว้แน่นและหายใจหอบขึ้น
“อืม”
หานหยู่เยนมีท่าทีแน่วแน่เป็นพิเศษ
ท่ามกลางสายตาของฝูงชน เธอค่อยๆ สวมแหวนลงบนนิ้วโป้งของเธอ
ในเวลานี้ เธอเปลี่ยนเป็นมีความมั่นใจใสตนเองอย่างเต็มเปี่ยม
“เจ้าบ้าน”
หานตงเล่กล่าวนับถือขึ้นมา จากนั้นทุกคนก็เอ่ยนับถือเธอขึ้นเช่นกัน
หานหยู่เยนยกแขนของเธอขึ้น แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง กระทบลงไปที่บนแหวน จนเกิดเป็นแสงวาววับ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันคือเจ้าบ้านคนใหม่!”