จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - บทที่ 190 เข้าสู่จื่อเช่ว คฤหาสน์อันดับหนึ่งบนกลางเขา
- Home
- จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี
- บทที่ 190 เข้าสู่จื่อเช่ว คฤหาสน์อันดับหนึ่งบนกลางเขา
ที่ประตูบ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน
ในระยะไกล มีรถยนต์ปรากฏขึ้น
หานซิงหยุนรอให้คนในตระกูลหานมารายงานเกี่ยวกับเรื่องของโครงการ พอเห็นฉากแบบนี้ก็รีบวิ่งออกมา
เขาเอ่ยถามหานตงเล่เบาๆ
หลังจากรู้สาเหตุ ใบหน้าของหานซิงหยุนก็เปลี่ยนไปในทันใด เขาเดินขึ้นมาและเอ่ยว่า “เจ้าบ้าน ห้ามสัญญากับหานหยุนเทา!”
“ทำไม?”
“วันนี้ผมบังเอิญเห็นเขาไปที่บริษัทซินเฉิง นั่นเป็นบริษัทของคุณชายตระกูลโล่ในจีนหลิง หานหยุนเทาเคยร่วมมือกับบริษัทซินเฉิงมาก่อน ตอนนี้เกรงว่าคุณชายโล่คงช่วยเหลือเขาและช่วยเขาเจรจาเรื่องคฤหาสน์บนเขาจื่อเช่วเอาไว้แล้ว”
หานซิงหยุนราวกับขุนนางอันซื่อสัตย์ในราชสำนักโบราณ เขาพยายามให้คำแนะนำ
“เจ้าบ้าน ห้ามตกหลุมพรางของหานหยุนเทา ผมเดาว่า คฤหาสน์ที่เขาเจรจามาบนยอดเขาจื่อเช่วนั้นจะต้องมีตำแหน่งที่ดีมากแน่และเขามั่นใจว่าจะต้องชนะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
หานหยุนเทาหัวเราะลั่น เขาเอ่ย “หานซิงหยุน นายถือว่ามีสมองอยู่บ้าง การเดิมพันนี้ ฉันจะต้องชนะ ตระกูลหานสุดท้ายแล้วจะต้องเป็นของฉัน”
“พูดบ้าอะไร!” หานตงเล่เอ่ยเยาะเย้ย “นายถูกไล่ออกจากตระกูลไปแล้ว นายไม่ใช่คนตระกูลหานเสียด้วยซ้ำ”
“นายพูดเรื่องอะไรมิทราบ?”
เรื่องนี้ หานหยุนเทายังคงไม่รู้เรื่อง
หานตงเล่พูดอย่างโหดเหี้ยม “อ้อใช่ ยังไม่ได้บอกนาย ทุกคนในตระกูลได้โหวตให้ขับไล่นายออกจากตระกูล กำจัดเนื้อร้ายอย่างนายทิ้งไปซะ ชื่อของนายถูกลบออกจากลำดับวงศ์ตระกูลแล้ว นายไม่ใช่คนในตระกูลหานแล้ว”
ตูม
ความโกรธของเขาพุ่งขึ้นมาทันที หานหยุนเทาชี้ไปที่หานหยู่เยนและตะโกนว่า “นังสารเลว เธอมีคุณสมบัติอะไรมาตัดสินใจ ฉันเป็นหลานชายคนโตของตระกูลหาน เธอถือเป็นตัวอะไร นังแพศยาไร้ยางอาย!”
“ถ้านายกล้าด่าเจ้าบ้านอีกประโยคเดียว ต่อให้ฉันต้องเข้าคุก ฉันก็จะจัดการแกให้พิการซะ” หานตงเล่กระโดดลงจากบันได
กลิ่นอายดุดันรุนแรงทำให้หานหยุนเทาและพ่อของเขาหวาดกลัว
“ไม่ว่าฉันจะเป็นคนตระกูลหานหรือไม่ การเดิมพันก็ยังคงอยู่ หานหยู่เยนเธอคิดจะกลับคำหรือไง เจ้าบ้านตระกูลหานจะไร้ยางอายขนาดนี้ไม่ได้หรอกมั้ง”
หานซิงหยุนเอ่ยแนะนำ “เจ้าบ้าน กลับเข้าบ้านเถอะ ไม่ต้องสนใจผู้ชายคนนี้ ทุกคนในตระกูลไม่รู้เกี่ยวกับการเดิมพัน เดิมทีก็ไม่มีเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นหานหยุนเทาที่สร้างเรื่องขึ้น”
“ใช่ ฉันไม่รู้”
“มีการเดิมพันอะไรกัน ฟังไม่ขึ้นจริงๆ”
เสียงของคนในตระกูลหานเซ็งแซ่ขึ้นมา
หานหยุนเทาลนลานขึ้นมา นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเขา เขาจะสูญเสียมันไปไม่ได้เด็ดขาด
“เห็นปุ่มนี้บนหน้าอกของฉันไหม นี่คือเครื่องบันทึกวิดีโอขนาดเล็ก ทุกอย่างถูกบันทึกเอาไว้แล้ว และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณชายโล่”
“หานหยู่เยน ถ้าเธอบิดพลิ้ว คุณชายโล่ก็จะเอาวิดีโอนี้ไปเผยแพร่ให้ทุกตระกูล ถึงตอนนั้นชื่อเสียงของเธอก็จะเหม็นโฉ่ ตระกูลหานเองก็เหม็นเน่าไปด้วย”
“เธอทำตัวน่าอับอายไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะแต่เดิมเธอมันก็เป็นนังแพศยาอยู่แล้ว แต่ว่า ถ้าตระกูลหานต้องถูกแต่ละตระกูลดูหมิ่นเพราะเธอ อย่างนั้นเธอก็คือคนบาปของตระกูลหาน!”
การโจมตีสามครั้งติดต่อกันทำให้ทุกคนหน้าซีด
หานซิงหยุนและคนอื่นๆ แสดงท่าที “เจ้าบ้าน โปรดคิดให้รอบคอบอีกครั้ง”
“ยังต้องคิดอะไรอีก ไม่จำเป็นแล้ว นอกจากนี้ ฉันเองก็รับปากได้ ถ้าเธอชนะฉัน สินสอดเจ้าสาวฉันจะคืนให้ด้วยเช่นกัน”
“แม่งเอ้ย นายรู้ว่าสินสอดเจ้าสาวอยู่ที่ไหนจริงๆด้วย” หานตงเล่กำลังลุกเป็นไฟ
หานหยุนเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ สรุปแล้วหานหยู่เยน เธอคิดได้แล้วยัง!”
“โล่เฉิน คุณคิดว่าอย่างไร?”
หานหยู่เยนหันไปถาม ความมั่นใจของอยู่ที่โล่เฉิน
คฤหาสน์ยอดจื่อเช่วอันสูงศักดิ์เป็นของโล่เฉิน ดังนั้น เธอจึงไม่แพ้อย่างแน่นอน
ไม่มีอะไรต้องกลัว
“คุณอยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
ประโยคเดียว สร้างความมั่นใจให้กับหานหยู่เยนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“หานหยุนเทา ฉันรับปากนาย”
ชั่วครู่หนึ่ง หานซิงหยุนและคนอื่นๆ ก็มีสีหน้าซีดเทาเหมือนความตาย
หานเจี้ยนกั๋วสองพ่อลูกลิงโลดขึ้นมา หานหยุนเทาเดาะลิ้นแล้วพูดว่า “ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ยั่วยุนิดๆหน่อยๆก็ทนไม่ไหวแล้ว วันไหนไม่ดีเท่าวันนี้ ตอนนี้ทุกคนตามฉันไปที่เขาจื่อเช่ว ฉันจะให้พวกนายได้เห็นว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าคฤหาสน์หลังแรก”
……
หานซิงหยุนและคนอื่น ๆ อกสั่นขวัญแขวน
พวกเขาคิดว่า หานหยู่เยนไม่สามารถเอาชนะได้
กลุ่มคนรีบมาที่เชิงเขาจื่อเช่ว เมื่อมองจากไกลๆก็เห็นหญิงชราที่กำลังมีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งประคองอยู่
“คุณย่า!”
หานหยุนเทาตะโกน
หานหยู่เยนก็ตะโกนขึ้น “คุณย่า”
“โอ้ ฉันคงไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคุณย่าของเธอ” หญิงชราพูดจาแปลกๆ สีหน้าของเธอดีมากอย่างยิ่ง
ในเมื่อหานหยู่เยนมา นั่นแปลว่าเธอยอมรับการเดิมพันแล้ว จุดจบเธอต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย อีกเดี๋ยวตระกูลหานก็จะกลับมาสู่มือเธออีกครั้ง
“มาเถอะ ตามฉันขึ้นไปบนภูเขา”
หานหยุนเทาทำตัวน่าเกรงขาม ก่อนจะเดินวางท่านำทุกคนไป
“เจ้าบ้าน ครั้งนี้คุณคิดผิดแล้ว”
ต่อมาหานซิงหยุนก็ทุกข์ใจ เขารู้สึกว่าเมื่อครู่ตัวเองควรแข็งกร้าวขึ้นสักหน่อย และผลักหานหยู่เยนเข้าไปในบ้านเก่าแก่ของตระกูลหานซะ จากนั้นก็ไล่หานหยุนเทาออกไป
ตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว
ทุกอย่าง ถูกเครื่องบันทึกวิดีโอขนาดเล็กของหานหยุนเทาบันทึกเอาไว้หมดแล้ว
นี่สามารถพลิกลิ้นได้ก็จริง แต่ว่าแบบนั้น วันหน้าตระกูลหานก็จะถูกคนทั้งเมืองหัวเราะเยาะ ความรู้สึกแบบนั้นใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้น
“คุณรู้ได้ยังไงว่าการตัดสินใจนี้เดินผิดพลาด?” โล่เฉินถามด้วยรอยยิ้ม
“นายท่าน หานหยุนเทาพูดถึงคฤหาสน์อันดับหนึ่ง คุณรู้รึเปล่าว่าอะไรคือคฤหาสน์อันดับหนึ่ง?”
“ลองว่ามา”
หานซิงหยุนเงยหน้าขึ้นและมองขึ้นไปกลางภูเขา
“เฮ้อ”
เขาถอนหายใจอย่างหนักหน่วง จิตใจของหานซิงหยุนหดหู่ เขานิ่งเงียบไม่พูดจา
ถนนบนภูเขาไม่เหมาะแก่การเดิน แต่ว่าก็มีลิฟต์อยู่
ลิฟต์ตั้งอยู่ในภูเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการก่อสร้างในมณฑลซีหนัน ว่ากันว่าในขณะนั้น รัฐบาลเมืองเจียงยังคิดสั่งรื้อถอนโดยกล่าวว่ามันสร้างผลกระทบที่ไม่ดี
แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ยังคงอยู่
เนื่องจากผู้พัฒนาพื้นที่คฤหาสน์บนเขาจื่อเช่ว เป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของเมืองหลวง และเป็นผู้พัฒนาสามอันดับแรกในประเทศจีน
ระดับที่ใหญ่โตแบบนี้ ถือว่ายอดเยี่ยมมาก
อันที่จริงภูเขาจื่อเช่วนั้นไม่ได้สูงนัก มีความสูงแค่ 400 กว่าเมตร แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ เชิงเขา กลางเขาและยอดเขา
ทั้งหมดมีคฤหาสน์อยู่ 56 หลัง
มีอยู่บนยอดเขาหนึ่งหลัง กลางเขาสิบห้าหลัง และตีนเขาสี่สิบหลัง
ทัศนียภาพงดงาม
เมื่อขึ้นลิฟต์ไปก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแบบพาโนรามา ทะเลสาบหมิงเยว่ตรงหน้า งดงามจับใจ
“ติ้งตึง”
ลิฟต์หยุดลง
หานหยุนเทาตะโกน “ถึงแล้ว มาเถอะ”
กลุ่มคนเดินออกมา
คนในตระกูลหานราวกับพวกบ้านนอกเข้าเมืองยังไงอย่างนั้น มองซ้ายมองขวา ขณะที่พวกผู้หญิงก็ถ่ายรูปไม่หยุด
นั่นเพราะท้ายที่สุดแล้ว ที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่คนทั่วไปจะสามารถเข้ามาได้
ว่ากันว่า สี่ตระกูลใหญ่ในเมืองเจียงก็ซื้อคฤหาสน์บนภูเขาจื่อเช่วด้วยเช่นกัน ไม่มีข้อยกเว้น แต่ทั้งหมดล้วนอยู่ที่เนินเขา ดังนั้นจึงสามารถพอจินตนาการได้ว่า ใครกันที่สามารถอาศัยอยู่บนกลางเขาได้
เส้นทางคดเคี้ยวไปมา
ในที่สุด พวกเขาก็หยุดอยู่หน้าคฤหาสน์อันวิจิตรตระการตาหลังหนึ่ง
“นายท่าน นี่ก็คือคฤหาสน์อันดับหนึ่ง!”
ในเวลานี้หานซิงหยุนเปิดปากขึ้นมา เขาหันไปมองที่ด้านล่างภูเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “อันดับหนึ่ง ก็คือที่หนึ่งของกลางเขา ที่นี่คุณสามารถเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามได้เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ นอกเหนือจากคฤหาสน์สูงศักดิ์บนยอดเขาแล้ว ที่นี่ถือเป็นคฤหาสน์ที่หรูหราที่สุด”
“นายพูดไม่ผิด!”
หานหยุนเทาท่าทางได้ใจ สีหน้าอิ่มเอิบไปด้วยความสุข “คุณย่า หลานทำได้แล้ว ที่นี่คือคฤหาสน์อันดับหนึ่งของเขาจื่อเช่ว เป็นคฤหาสน์ที่ดีที่สุด”
“ดีดีดี สมแล้วที่เป็นหลานชายที่ดีของฉัน”
หญิงชราตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น น้ำตาไหลรินออกมา
“คุณย่า ตามผมเข้ามาเถอะ”
หน้าคฤหาสน์ มีคนใช้สาวสวยสองคน
ทุกคนเข้ามาในบ้าน
งดงามตระการตา ราวกับพระราชวัง
“ทุกคนดูตามสบาย ฉันได้เจรจากับเจ้าของคฤหาสน์ไว้แล้ว คฤหาสน์หลังนี้ ให้คุณย่าอยู่ได้หนึ่งเดือน”
หญิงชราดวงตาแดงก่ำ เธอลูบสัมผัสโต๊ะ ผนัง และกระทั่งถึงกับลงไปแตะที่พื้น
สรุปก็คือ ราวกับว่าเธอได้เห็นสมบัติล้ำค่า
คนอื่นเองก็ไปถ่ายรูปทั่วทุกมุม มีเพียงหานซิงหยุนและหานตงเล่เท่านั้นที่ไม่เคลื่อนไหว พวกเขาตามอยู่ข้างหลังของหานหยู่เยนและโล่เฉิน
สิบห้านาทีต่อมา
หานหยุนเทาเขย่าแก้วไวน์แดงและเดินอย่างภาคภูมิใจ เขาหรี่ตาและพูดว่า “หานหยู่เยน เธอยังมีอะไรจะพูดอีกไหม เธอจะชนะฉันได้ยังไง! ”
เกิดเป็นความเงียบอย่างสมบูรณ์แบบ
หานหยู่เยนนิ่งเงียบ
ระหว่างทางมาที่นี่ โล่เฉินบอกกับเธอว่า เธอสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อทดสอบคนในตระกูลหานได้ ดูว่าใครควรค่าแก่การเลี้ยงดู
“ทำไมไม่พูด เป็นใบ้หรือไง?
“อย่ามาบิดพลิ้ว กล้าเดิมพันก็ต้องกล้ารับความพ่ายแพ้!”
“นี่เธอจะกระโดดโลดเต้นไปเพื่ออะไรกัน สุดท้ายแล้วก็ลำบากเสียเปล่า เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ดูแลสามีสอนลูกๆอยู่ที่บ้านก็พอแล้ว มาทำตัวอวดเบ่งวางอำนาจไปทำไม!”
หานซิงหยุนกำหมัดของเขาแน่นและตะโกนด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เจ้าบ้านยังไม่พ่ายแพ้ กำหนดการคือสามเดือน ตอนนี้เพิ่งจะผ่านไปแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น ยังมีเวลาอีก”
“หานซิงหยุนเอ๋ยหานซิงหยุน ทำไมนายถึงไร้เดียงสาขนาดนี้ เห็นอยู่ชัดๆว่าถ้าคิดจะเอาชนะฉันก็ต้องขึ้นไปอยู่ที่คฤหาสน์สูงศักดิ์บนยอดเขาให้ได้ พวกนายลองถามตัวเองดูว่าเป็นไปได้ไหม?”
หานซิงหยุนพูดไม่ออก
บนยอดเขา?
แค่คิดยังไม่กล้าคิด
หานตงเล่รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ทันใดนั้นเขาก็คว้าคอเสื้อของหานหยุนเทาแล้วยกเขาขึ้นมา “แม่งเอ๊ย เชื่อไหมว่าฉันฆ่าแกได้!”
“ฆ่าฉันเลย เอาสิ ลงมือเลย”
ขณะที่หานหยุนเทากำลังพูด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนก็วิ่งเข้ามา
คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังมีกระบองไฟฟ้า ท่าทางทรงพลังมาก
“ลุงตงเล่ อย่าเอะอะไป” หานหยู่เยนเอ่ย
หานตงเล่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยมือ
“เจ็บใจไหม?”
หานหยุนเทาพูดอย่างเย็นชาว่า “รอให้กูเข้ารับตำแหน่งเจ้าบ้านเมื่อไหร่ สิ่งแรกที่จะทำคือให้นายได้เห็นดี แม่งเอ๊ย กล้าตีฉัน”
หานตงเล่ตกใจ
“แน่นอนว่า ถ้านายคุกเข่าขอความเมตตาในตอนนี้และพูดว่าหานหยู่เยนเป็นนังแพศยา ฉันจะไว้ชีวิตนาย อีกทั้งยังให้จะให้ความสำคัญกับนาย รวมถึงนายด้วยหานซิงหยุน”
“ข้าโอกาสพวกนาย ดูแค่ว่าพวกนายจะคว้ามันเอาไว้รึเปล่า”
หานหยุนเทาจิบไวน์แดงและนั่งไขว้ขาบนโซฟา
คนในตระกูลหานเริ่มประจบสอพลอกันขึ้นมา
“ไอ้สารเลวพวกนี้”
หานตงเล่โกรธจัด เขามองไปที่หานซิงหยุน และใช้สายตาบังคับ “ซิงหยุน ทางที่ดีนายอย่าได้มีความคิดเป็นอื่น ติดตามคนโง่อย่างหานหยุนเทา พวกเราออกจากตระกูลหานยังดีซะกว่า”
“เจ้าบ้านหยู่เยนไปไหนพวกเราติดตามไปด้วย ต่อให้ออกจากตระกูลหาน แต่เจ้าบ้านหยู่เยนก็สามารถทำงานใหญ่ได้เช่นกัน ฉันขอติดตามไปจนตาย” หานซิงหยุนประสานกำปั้นของตน
การทดสอบลองใจสิ้นสุดลง
โล่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ในเวลาเดียวกัน คนใช้คนหนึ่งรีบเข้ามาและเอ่ยขึ้น “คุณชายหาน ด้านนอกมีคนขอพบ”
“ไม่พบ ไม่พบ”
“เอ่อ..ชายคนนั้นบอกว่าเขาเป็นพ่อบ้านของคฤหาสน์สูงศักดิ์บนยอดเขา”
อยู่ดีๆ บรรยากาศก็เงียบลง
พ่อบ้านของคฤหาสน์สูงศักดิ์บนยอดเขา?
เขามาทำอะไรที่นี่?
หรือว่าเจ้าของคฤหาสน์อันดับหนึ่งจะรู้จักกับเขา เมื่อพบว่ามีคนเข้ามาที่นี่ก็เลยมาทักทาย
หานหยุนเทาดีใจอย่างมาก เขารีบตะโกน “เร็วเข้าเร็วเข้า รีบให้พ่อบ้านเข้ามา ช่างขี้เกรงใจเสียจริง อุตส่าห์มาทักทายถึงหน้าประตู”