จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 101
บทที่ 101 ฐานะของผม
เฉาหัวเจิ้งตกตะลึงทันที ไม่คิดว่าเสี้ยงหย่งโก๋จะโมโหได้ขนาดนี้!
เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
เพราะรู้จักกันมานาน เฉาหัวเจิ้งจึงรู้ได้เลยว่า ต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน!
อาจเป็นไปได้ว่า เด็กหนุ่มที่ถูกจับ มีฐานะที่ค่อนข้างน่ากลัว?!
“ผู้บัญชาการเสี้ยง นี่มันอะไรกัน” เฉาหัวเจิ้งหันไปถาม
เสี้ยงหย่งโก๋จ้องมองและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณยังมีหน้าถามฉันอีก?! คุณทำเรื่องโง่เอง! ตอนนี้คนอยู่ที่ไหน ขังไว้ที่ไหน พาฉันไป! ตอนนี้เลย!”
ถึงตอนนี้แล้ว เฉาหัวเจิ้งก็ยังไม่รู้อะไรเลย
ทำงานมาก็นานหลายปี แต่เป็นคนที่ไม่มีวิสัยทัศน์เลย
เฉาหัวเจิ้งรู้ว่าเสี้ยงหย่งโก๋กำลังโมโหอยู่ เลยไม่กล้าเสียเวลา รีบนำทาง มาที่ห้องสอบสวน
ขณะนี้ ในห้องสอบสวน หลี่โม่นั่งหลับตานิ่งสงบ
เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเลย
เรื่องนี้ เขาไม่ผิด
ย่อมมีคนจัดการแทนเขาอยู่แล้ว เขาแค่รออย่างสงบ
แต่ว่า หลี่โม่กำลังคิดวิเคราะห์เรื่องหนึ่ง ว่าจะจัดการซู๋ไห่เทียนอย่างไร
ลายมือนี้ คนอื่นอาจดูไม่ออก แต่หลี่โม่รู้ ว่าเป็นฝีมือซู๋ไห่เทียนแน่นอน
คิดไม่ถึงว่า ไอ้หมอนี่มันคิดจะเล่นงานตนเอง
เมื่อประตูเปิดออก มีคนเดินเข้ามาสองคน เฉาหัวเจิ้งเดินนำ เสี้ยงหย่งโก๋รีบเดินตามหลังเข้ามา
เมื่อเขาเห็นหลี่โม่ที่อยู่ข้างใน ก็มีความสงสัย เด็กหนุ่มที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่สามารถปลุกกองกำลังไตรภาคี เป็นคนที่ไม่ควรประมาทจริง ๆ
“คุณหลี่ ต้องขอโทษด้วย เรื่องของคุณตรวจสอบชัดเจนแล้ว เป็นเรื่องเข้าใจผิด ตอนนี้คุณสามารถกลับไปได้เลย”
เสี้ยงหย่งโก๋ยิ้มและกล่าวอย่างเกรงใจ
เฉาหัวเจิ้งตกใจ แล้วถามว่า “ผู้บัญชาการเสี้ยง เรื่องนี้พี่น้องของเราทุกคนก็เห็น เป็นเรื่องจริง ทำไมบอกปล่อยก็ปล่อย?” หากปล่อยเขาไป จะทำให้เฉาหัวเจิ้งยากที่จะอธิบายได้
อย่างไรก็ตาม เสี้ยงหย่งโก๋เหลือบมองไปที่เฉาหัวเจิ้งอย่างเย็นชา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโยนไปที่มือของเขา และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า“คุณดูเอาเอง ดูเสร็จแล้วค่อยบอกผม ว่าจะปล่อยหรือไม่ปล่อยคน?!”
เสี้ยงหย่งโก๋คงจะโกรธจริง ๆ
เฉาหัวเจิ้งไม่ตรวจสอบชัดเจน ก็จับคนตามอำเภอใจ เดิมก็ทำผิดอยู่แล้ว
ตอนนี้ เขาก็ยังไม่ยอมรับอีก
พวกเขาได้ส่งหลักฐานมาที่โทรศัพท์มือถือของตนเองแล้ว!
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ขายหน้า!
เฉาหัวเจิ้งตื่นตระหนก และเปิดดูคลิปวิดีโอ เห็นเหยื่อก่อนหน้านี้ พวกเขาอธิบายว่าได้ใส่ร้ายหลี่โม่อย่างไร
ตรึง ๆ!
เฉาหัวเจิ้งตื่นตระหนก เขารู้ตัวแล้วว่าจับผิดคน
เรื่องนี้ เขาได้ทำผิดอย่างใหญ่หลวง
“เฉาหัวเจิ้ง ตอนนี้ผมถามคุณ คนสามารถปล่อยได้หรือยัง?!” เสี้ยงหย่งโก๋ตะโกนถาม
เฉาหัวเจิ้งหน้าแดง เหงื่อไหลลงจากหน้าผาก พูดด้วยความมึนงงว่า “ปล่อยได้ครับ”
“ฮึ่ม!” เสี้ยงหย่งโก๋พูดอย่างเย็นชา และหันไปยิ้มให้หลี่โม่ และกล่าวว่า “คุณหลี่ ขอโทษด้วย ผมเป็นตัวแทนส่วนสถานีตำรวจท้องที่ขอโทษคุณ ฉันหวังว่าคุณจะไม่ถือสา พวกเราได้รับบทเรียนจากเรื่องนี้ และจะไม่ทำผิดอีก!”
ถึงตอนนี้หลี่โม่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย เขาเพียงแค่มองไปที่เฉาหัวเจิ้งอย่างเย็นชา จากนั้นก็ยิ้มอย่างเรียบ ๆ แล้วกล่าวกับเสี้ยงหย่งโก๋ว่า“ไม่เป็นไร เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย ผมเชื่อใจพวกคุณ”
เสี้ยงหย่งโก๋ยิ้ม แล้วพาหลี่โม่ออกจากห้องสอบสวนด้วยตนเอง
“เฉาหัวเจิ้ง พักงาน3เดือน แล้วเขียนรายงานส่งผมด้วย!”
ก่อนออกไป เสี้ยงหย่งโก๋ดุเฉาหัวเจิ้งด้วยความโมโห ส่วนเฉาหัวเจิ้งทำได้เพียงแค่รับคำสั่ง
เมื่อพวกเขาได้ออกไปกันหมดแล้ว เฉาหัวเจิ้งได้โทรศัพท์หาซู๋ไห่เทียน ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ซู๋ไห่เทียน คนได้ปล่อยไปแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าคุณเกือบจะทำให้ผมเดือดร้อนหนัก พรุ่งนี้จะให้ภรรยาผมเอากุญแจไปคืนให้คุณ เรื่องนี้ คุณอย่ามาหาผมอีก!”
อยู่ในอารมณ์โกรธ!
ฝั่งซู๋ไห่เทียนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่า ผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้
นี่จับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คนก็ถูกปล่อยออกมาแล้ว!
“หัวหน้าเฉา นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมบอกปล่อยก็ปล่อยเลย?” ซู๋ไห่เทียนไม่เข้าใจ ตอนนี้เขาอยู่ในคฤหาสน์ของตนเอง
หลี่โม่ มันคือใคร?
ปล่อยไปแบบนี้เหรอ?
“คุณยังมาถามผมอีก คุณรู้หรือไม่ว่าคุณไปแหย่ใคร? เสี้ยงหย่งโก๋มาขอคนด้วยตนเองเลย! คนที่คุณหามา ใช้วิธีที่สกปรกต่ำช้า ผมไม่จับคุณก็ดีเท่าไหร่แล้ว ยังจะมาถามผมอีก?”
เฉาหัวเจิ้งรู้สึกโมโห ที่คนอย่างซู๋ไห่เทียน ใช้วิธีที่สกปรกต่ำช้า!
“เสี้ยงหย่งโก๋มาขอคนด้วยตนเอง?” เมื่อได้ยินเช่นนั้นซู๋ไห่เทียนรู้สึกตกใจ
หลี่โม่มีฐานะอะไร ถึงทำให้ผู้บัญชาการมาขอคนด้วยตนเอง!
“หัวหน้าเฉา คุณสามารถช่วยผมได้ไหม……..”
ซู๋ไห่เทียนกล่าวอย่างรีบร้อน แต่พูดยังไม่ทันจบ โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายไปแล้ว
แม่ง!
ซู๋ไห่เทียนรู้สึกโมโห เหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้งลงพื้น แล้วก็เดินวนไปมาในห้องรับแขก
หลี่โม่ถูกปล่อยตัวแล้ว!
แม่งฉิบหายจะเอายังไง?
แผนของเขาเพิ่งจะเริ่มต้น แต่ก็จบเห่แล้ว?
เขาจึงใช้โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง โทรหาหม่าคุน รอสักครู่ใหญ่ ถึงจะรับสาย
“ซู๋ไห่เทียน รู้สึกแปลกใจใช่ไหม ที่เป็นผม”
เสียงที่คุ้นเคย ซู๋ไห่เทียนตัวสั่นสะท้าน มือและเท้าของเขาเย็นเฉียบ เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาบนหน้าผากแล้วไหลลงมาตามหน้า
“หลี่โม่?! ทำไมคุณถึงมี…… ”
คำพูดของซู๋ไห่เทียน ติดอยู่ในลำคอของเขาเอง!
เบอร์นี้เป็นโทรศัพท์ของหม่าคุน ตอนนี้หลี่โม่เป็นคนรับสาย ถึงโง่แค่ไหนก็ต้องรู้ว่ามันเกิดเรื่องแล้ว
“หม่าคุนล่ะ?” ซู๋ไห่เทียนควบคุมสติตัวเองให้สงบ แล้วถาม
“อยู่ที่ประตูบ้านคุณ”
หลี่โม่กล่าวอย่างเรียบ ๆ ขณะนั้น ได้มีเสียงอู้ ๆ จากปลายสาย
ซู๋ไห่เทียนตกใจ ลุกขึ้นจากโซฟาในห้องรับแขก วิ่งไปที่หน้าต่างอย่างรวดเร็ว และมองออกไปนอกหน้าต่างผ่านกระจก
รถเบนซ์สีดำสองคัน ไฟท้ายสีแดงสด จอดตรงประตูคฤหาสน์
ที่ด้านหน้ารถ มีผู้ชายคนหนึ่ง พิงอยู่ด้านหน้าของรถ เขาสูบบุหรี่เห็นเปลวสีแดงสด ทำให้ซู๋ไห่เทียนตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก
หลี่โม่!
ทำไมเขามาถึงไวเช่นนี้?
เพลี้ยง!
ซู๋ไห่เทียนยังไม่ทันได้ตั้งสติ ประตูของคฤหาสน์ถูกเตะออกอย่างแรง ฉู่จงเทียนพาคนประมาณสิบกว่าคนบุกเข้ามา!
คนทั้งหมด ได้ล้อมห้องรับแขกไว้
เสียงเพลี้ยง
หม่าคุนถูกปิดปากด้วยเทปสีเขียว ถูกลูกน้องคนหนึ่งเตะไปตรงหน้าโซฟาในห้องรับแขก โดยที่เขาคุกเข่าอยู่ที่พื้น ใบหน้าบวมจมูกเขียวช้ำ มองแล้วช่างน่าอนาถใจ
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
ทำให้ซู๋ไห่เทียนไม่มีเวลาคิด
ที่ประตู ฉู่จงเทียนได้เดินเข้ามา โดยมีหลี่โม่เดินตามหลัง เขาทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้น และใช้เท้าเหยียบก้นบุหรี่อย่างใจเย็น แล้วจึงได้เดินเข้ามา
ไม่มีคนอื่นแล้ว เขานั่งตรงบนโซฟา มองไปที่รอบ ๆ คฤหาสน์
“ไม่คิดว่า ผ่านไปตั้งนานแล้ว ผมยังสามารถมานั่งตรงนี้ได้” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
ตอนนี้ซู๋ไห่เทียนเหงื่อแตกพร่าไปทั้งตัว สิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้ทำให้เขาตกตะลึง
คนที่ยืนอย่างนอบน้อมอยู่ข้างหลี่โม่ คือฮีโร่ใต้ดินของเมืองฮ่าน ฉู่จงเทียน!
นี่…..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
พรึ่บ
ฉู่จงเทียน ให้คนของเขาฉีกเทปที่ปิดปากหม่าคุนออก หม่าคุนร้องไห้ก้มกราบอ้อนวอนขอความเมตตา และกล่าวว่า “คุณหลี่ไว้ชีวิตด้วย คุณหลี่ไว้ชีวิตด้วย คุณหลี่ขอร้องไว้ชีวิตของผมสักครั้ง ผมผิดไปแล้ว ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว เรื่องทั้งหมดคราวนี้ ซู๋ไห่เทียนเป็นคนคิดเองคนเดียว เขาเป็นคนสั่งให้ผมไปทำเองครับ!”
สัญชาตญาณในการเอาตัวรอด ทุกคนย่อมมีอยู่ในตัว
เมื่อซู๋ไห่เทียนได้ฟังเช่นนั้น จองตาเขม็ง ตะโกนด่า “แกพูดเหลวไหล! ฉันไม่เคยรู้จักแกด้วยซ้ำ ฉันไปสั่งแกตั้งแต่เมื่อไหร่? แกมันใส่ร้ายป้ายสี! ”
ซู๋ไห่เทียนก็ไม่ใช่คนโง่ วันนี้หลี่โม่มากะทันหัน มันทำให้เขากดดันมาก!
โดยเฉพาะคนมาเยอะขนาดนี้ แล้วยังมีคนที่อยู่ข้างกายหลี่โม่อย่างฉู่จงเทียนอีกด้วย
บุคคลนี้ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็เป็นที่เคารพยำเกรงของผู้อื่น แต่วันนี้ เขายินดีที่จะยืนข้าง ๆ หลี่โม่ และเฝ้ามองอย่างเงียบ ๆ
เมื่อฉู่จงเทียนอยู่ต่อหน้าหลี่โม่แล้ว เหมือนลูกน้อง ไม่กล้ากำแหงใด ๆ
ฉะนั้น ซู๋ไห่เทียนจึงต้องระมัดระวังตัว
ความเปลี่ยนแปลงของหลี่โม่นั้นไวมาก ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้เลย!
หม่าคุนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น เขาชี้ไปที่ซู๋ไห่เทียน แล้วกล่าวว่า “ซู๋ไห่เทียน แกเป็นคนให้เงินฉันหนึ่งแสน เพื่อให้ฉันทำเรื่องนี้! ”
“คุณหลี่ คุณต้องเชื่อผม เป็นเขา เป็นเพราะเขาสั่งให้ผมทำเช่นนี้ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ต่อไปผมไม่กล้าทำอีกแล้ว”
หม่าคุนหลั่งน้ำตา ใช้ศีรษะโขกลงกับพื้น จนหน้าผากของเขาแตก
เพราะเขากลัวตาย
เพราะนั้นคือฉู่จงเทียน ท่านเทียน
เพียงแค่เขาเหยียบ ชีวิตตนเองก็จะจบสิ้น
หลี่โม่เพียงแค่ขยับตาเล็กน้อย ฉู่จงเทียนก็เข้าใจ ให้คนพาหม่าคุนออกไปเลย
ด้านนอก เสียงกรีดร้องโหยหวนและขอความเมตตาดังขึ้น มันกระทบจิตใจของซู๋ไห่เทียน
ดวงตาของเขามืดมน หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ คิดเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ของตนเอง
มันยุ่งเหยิง
ไม่คาดคิดว่า หลี่โม่จะไม่ใช่คนธรรมดา!
เขาซ่อนตัวได้นานขนาดนี้!
“หลี่โม่ ดูเหมือนว่าฉันยังไม่รู้จักคุณดีพอ ไม่คาดคิดเลยว่า คุณรู้จักฉู่จงเทียน” ซู๋ไห่เทียนยิ้มเย้ยหยัน “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณซ่อนตัวได้ลึกลับพอสมควร”
แม้ว่าตอนนี้เขาจะตื่นตระหนก แต่เขาก็ไม่กลัว
เพราะตนเองก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ
หลี่โม่พูดอย่าเรียบ ๆ “อย่าพยายามทำให้ฉันเห็นด้วยกับความคิดของคุณ ฐานะที่แท้จริงของฉัน คุณไม่สามารถเดาได้”
“ใช่เหรอ? แล้วฉันก็อยากรู้จริง ๆ คุณมีฐานะด้วยเหรอ?” ซู๋ไห่เทียนเยาะเย้ยถากถาง
ถึงตอนนี้แล้ว เขายังจะเสแสร้งอีก
คิดว่ารู้จักฉู่จงเทียนแล้ว ตนเองจะกลัวเขาเหรอ?
พ่อของตนเองเป็นถึงประธานของบริษัทซู๋ซื่อ รู้จักคนใหญ่คนโตไม่ใช่น้อย!
“คุณอยากรู้ฐานะที่แท้จริงของผมเหรอ?” หลี่โม่ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน