จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 126
บทที่ 126 มูลค่าหลายสิบล้าน
ตอนที่กู้ซิงเว๋ยถามว่าหยกมังกรมูลค่าเท่าไหร่นั้น ในใจเคร่งเครียดอย่างมาก เมื่อครู่เขาเยาะหยันหลี่โม่อย่างร้ายกาจไป
เหลือบตามองหลี่โม่ที่กำลังมอบหยกมังกรของพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ออกไป กู้ซิงเว๋ยก็รู้สึกว่าหน้าเจ็บเล็กน้อย
สีหน้าของกู้ชิงหลินและคนอื่นๆ ต่างก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ทุกคนต่างขมวดคิ้วแน่น ราวกับว่ายิ่งหยกมังกรมีค่ามาก พวกเขายิ่งเป็นทุกข์เช่นนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่พูดว่าหยกมังกรมีค่าแค่เงินยี่สิบเมื่อครู่ ในตอนนี้ยิ่งรู้สึกอับอายจนหน้าแดงก่ำ แค้นที่บนพื้นไม่มีรอยแยก ตนเองจะได้มุดลงไปซ่อนตัวด้านใน
คิ้วกระบี่ทั้งคู่ของหลี่โม่ผูกเป็นปมขึ้นมา ในใจลึกๆ ไม่ค่อยสงบ
เดิมคิดว่าจองห้องชั้นพิเศษล้านกว่าได้ มอบนาฬิกาเหรียญทองมากกว่าหกแสนได้ จะสามารถกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมของวันนี้ได้ แต่ว่าดูไปแล้วไม่เป็นเช่นนั้นแล้วสิ!
ก่อนหน้านี้ใครพูดว่าหลี่โม่เป็นคนไร้ค่า เป็นคนจนไม่ใช่หรือ?
คนจนไร้ค่าสามารถมอบสิ่งของที่ราชวงศ์ทรงใช้ออกมาได้?
ฮั่วเจี้ยนเฟิงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าปวดใจ จัดการได้ไม่ดีก็ไม่แน่ว่าเงินสองล้านวันนี้ก็จ่ายไปเสียเปล่าแล้ว!
ฮั่วเจี้ยนเฟิงที่ปวดใจไม่หยุดมองไปทางกู้หยุนหลัน เห็นดวงตาของกู้หยุนหลันมองไปที่หลี่โม่ไม่กะพริบ ทันใจนั้นในใจก็ร้องโหยหวนไม่หยุด
กู้หยุนหลันตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง คิดไม่ตกว่าการเปลี่ยนแปลงจะใหญ่โตขนาดนี้ ตอนแรกยังกังวลว่าของขวัญที่หลี่โม่หยิบออกมาจะขายหน้าคนอื่น ตอนนี้ดูไปแล้วคนที่ขายหน้าไม่ใช่หลี่โม่ แต่กลับเป็นพวกคนชั่วร้ายที่โวยวายเสียงดังก่อนหน้านี้
หลี่โม่อมยิ้มน้อยๆ เอ่ย “อาจารย์สวี่ เชิญพูดมูลค่าของหยกมังกรนี้ดู ฉันเองก็อยากทราบอย่างมาก อย่างไรเสียก็ซื้อมาจากข้างทาง นี่ควรจะเป็นการเก็บได้ของล้ำค่ากระมัง”
ในใจของฮั่วเจี้ยนเฟิงและคนอื่นๆ ว้าวุ่น ใครมันจะมาเก็บได้ของล้ำค่า นายเห็นพวกเราไม่สบายใจ ตั้งใจพูดเช่นนี้มาแทงใจเพิ่มสินะ!
จ่ายเงินยี่สิบก็สามารถกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวันนี้ได้ การเปรียบเทียบเช่นนี้ ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกว่า ตนเองที่จ่ายไปสองล้านเหมือนกับกลายเป็นหมูไปทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
สวี่ฝันเม่าเบิกบานเล็กน้อย ไอสองเสียงแล้วเอ่ยว่า “แค่กๆ หยกมังกรนี้แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยซื้อขายมาก่อน ฉันก็พูดออกมาตรงๆ ไม่ได้ว่ามันมีมูลค่าเท่าไหร่ ก็พูดตามการอ้างอิงแล้วกัน”
“หยกเหอเถียนแกะสลักหมีหยกขาวในสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้เช่นเดียวกันนี้ ในการประมูลในฤดูใบไม้ร่วงของคริสตีส์ไม่นานมานี้ ประมูลออกไปในราคาสามสิบหกล้าน หยกมังกรชิ้นนี้ถ้าได้ขึ้นประมูลล่ะก็ ราคามีแต่จะสูงขึ้นไม่มีทางต่ำลง”
ตึง
มีคนนั่งไม่มั่นคง ร่วงตกไปจากเก้าอี้ลงไปเลย!
ส่วนฮั่วเจี้ยนเฟิง กู้ซิงเว๋ย กู้ชิงหลินและคนอื่นๆ ต่างรู้สึกว่าทั้งร่างกำลังจะพังทลายแล้ว
“สวรรค์ มากกว่าสามสิบหกล้าน นั่นก็คือเริ่มที่สี่สิบล้านแล้ว ของสิ่งนี้คิดไม่ถึงว่าจะล้ำค่าขนาดนี้”
“ฉันอิจฉานิดหน่อยแล้ว ตอนฉันฉลองงานเลี้ยงวันเกิด ลูกเขยแค่ให้ของราคาแสนเดียว เทียบไม่ได้โดยแท้เลย”
“หลี่โม่คนนี้ก็ไม่ได้สุดจะทนอย่างที่พูดกันนี่นา อย่างน้อยที่สุดการเก็บได้ของล้ำค่าแบบนี้มาได้ สามารถเป็นคนที่ทำอะไรขึ้นมาก็ทำได้อย่างดี”
เพื่อนเก่าแก่ของตระกูลกู้ไม่กี่คน ในตอนนี้ก็พูดคุยพึมพำกัน ถึงแม้เสียงจะไม่ดัง แต่ว่ายังคงชัดเจนเข้าหูของทุกคน
กู้หยุนหลันมุมปากค่อยๆ โค้งเป็นรอยยิ้ม หินก้อนใหญ่ในใจนับว่าวางลงได้แล้ว หลี่โม่คนนี้ในที่สุดก็สู้ขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว
เห็นรอยยิ้มน้อยๆ ของกู้หยุนหลัน หลี่โม่ก็ยิ้มตามขึ้นมา ขอเพียงแค่กู้หยุนหลันมีความสุข หลี่โม่ก็ยิ่งมีความสุข
กู้ชิงหลินจ้องมองหลี่โม่อย่างดุร้าย รู้สึกเพียงความปวดแสบปวดร้อนบนใบหน้า คิดถึงเรื่องที่ทำคำที่พูดเมื่อครู่แล้ว ราวกับล้วนกลายเป็นการตบหน้าทีละฉาด เหวี่ยงตบลงบนใบหน้าของกู้ชิงหลิน
คนจนไร้ค่าที่สมควรตายนี่ ถึงกับทำให้ตนเองขายหน้าต่อหน้าทุกคน ต่อไปถ้ามีโอกาสอีก จะต้องใช้เท้าเดียวเหยียบเขาให้ตายถึงจะได้!
กู้ซิงเว๋ยก้มหัวลง ร่างหดถอยไปด้านหลัง เหมือนกับเด็กที่ทำความผิด
ในตอนนี้ทั้งหัวของกู้ซิงเว๋ยต่างก็คิดถึงมูลค่าสี่สิบล้าน รู้สึกว่าโชคที่ดีเช่นนี้ควรเป็นของเขาถึงจะถูก อาศัยอะไรหลี่โม่คนโง่เง่านั่นเก็บได้ของล้ำค่าไปได้ คนที่ไปเดินเตร็ดเตร่ที่ตลาดที่ขายของโบราณบ่อยๆ นั่นมันคือตน!
แต่ว่ากู้ซิงเว๋ยอยู่ในตลาดที่ขายของโบราณไม่เคยเก็บอะไรได้ แต่กลับตกหลุมพรางโดนหลอกให้ซื้อของปลอมบ่อยๆ การเปรียบเทียบนี้ กู้ซิงเว๋ยยิ่งเกิดความอับอายพาลโกรธ คิดว่าหลี่โม่แย่งโชคดีของตนไป แค้นที่ไม่อาจฆ่าหลี่โม่ให้ตายที่นี่ได้!
กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงคู่สามีภรรยาทั้งสองบ้าน ครั้งนี้ก็ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าไม่น่ามอง
จัดการมาครึ่งวัน หลี่โม่ไอ้หมอนี่ถึงกับเก็บได้ของล้ำค่า!
ยังเป็นของเก่าแก่มูลค่าหลายสิบล้านอีกด้วย!
ถึงแม้ว่าในใจของฮั่วเจี้ยนเฟิงพลุ่งพล่านอย่างมาก ใบหน้ายังต้องแสร้งท่าทีทำเป็นสงบนิ่ง อย่างไรเสียก็เป็นคนที่เป็นถึงหัวหน้า ความสุขุมยังคงมีอยู่เล็กน้อย
“ฮ่าๆๆ ทำให้ฉันเปิดหูเปิดตาจริงๆ หลี่ หลี่โม่อะไรนะ เรื่องการเก็บได้ของล้ำค่าทำให้ฉันรู้สึกอัศจรรย์จริงๆ ถ้าไม่ได้เก็บได้ของล้ำค่าละก็ ของสิ่งนี้คงมีค่าเพียงยี่สิบ ดังนั้นฉันรู้สึกว่าน้ำใจนี้ ควรจะยึดตามเงินยี่สิบน่าจะดีกว่า พูดออกไปล้วนเป็นมูลค่าความโชคดี ไม่ได้แสดงถึงน้ำใจ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงเหมือนกับกำลังอธิบายเหตุผล ในความเป็นจริงกำลังพูดเจตนาร้ายใส่หลี่โม่ ฮั่วเจี้ยนเฟิงที่ในใจอิจฉาไม่หยุดคิดจะระบายความโกรธไปที่หลี่โม่แล้ว
“ที่เจี้ยนเฟิงพูดก็มีเหตุผล นี่ก็คือของที่ควักเงินยี่สิบซื้อมา สามารถแทนได้ก็คือน้ำใจของเงินยี่สิบ เก็บได้ของล้ำค่าอะไรได้ล้วนเป็นเมฆที่เลื่อนลอย แสดงถึงอะไร……”
หวังฟางพูดได้ครึ่งหนึ่ง ก็ถูกกู้เจี้ยนหมินหยุดไว้แล้ว
กู้เจี้ยนหมินอย่างแรกคือไม่อยากทำเรื่องให้วุ่นวายจนเกินไป อีกอย่างคือก็คือกังวลว่าจะบีบคั้นหลี่โม่จนเกินไป นี่ถ้าเอาหยกมังกรกลับคืนไปไม่มอบให้ตนเองแล้ว นั่นไม่ใช่เสียเปรียบมากหรอกหรือ!
บังคับให้หลี่โม่จากไปสามารถค่อยๆ ทำ แต่หยกมังกรที่อยู่ใกล้ตรงหน้า ยังต้องรับมาไว้ในมือนะ!
“ยี่สิบห้าสิบอะไรกัน น้ำใจก็คือน้ำใจ น้ำใจของหลี่โม่ฉันรับไว้แล้ว ต่อไปขยันทำงานให้ก้าวหน้า ได้ยินหรือไม่? ”
กู้เจี้ยนหมินดึงท่าทีของพ่อตาเอาไว้
หลี่โม่ยิ้มน้อยๆ เอ่ยตอบ “คุณพ่อชอบก็ดีแล้ว”
“ชอบสิ แน่นอนว่าชอบ อืม ของที่เจี้ยนเฟิงมอบให้ฉันก็ชอบ นั่นอะไร พวกเราสั่งอาหารเถอะ เวลาก็เกือบถึงเวลาอาหารแล้ว”
กู้เจี้ยนหมินเอ่ยคำพูดไม่จริงใจเสร็จ ก็รีบเปลี่ยนหัวก็สนทนา นี่ถ้าไม่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอีก กู้เจี้ยนหมินกังวลว่าหวังฟางจะพูดอะไรออกมาอีก
หวังฟางไม่พอใจถลึงตาจ้องหลี่โม่รอบหนึ่ง คิดถึงราคาของหยกมังกร ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ฮั่วเจี้ยนเฟิงยิ้มขมขื่นอย่างจนใจเล็กน้อย ใจคิดว่าความเจ็บปวดในใจของตนเองใครจะรู้เล่า ครั้งนี้นับว่าเสียทั้งฮูหยินและไพร่พล
แต่ว่าไม่เป็นไร จะต้องมีโอกาสที่ได้จัดการหลี่โม่แน่ คนจนที่สุดก็คือคนจน ไม่มีทางที่จะโชคดีไปทุกครั้ง!
เรียกพนักงานให้หยิบรายการอาหารมา ฮั่วเจี้ยนเฟิงถือรายการอาหาร สายตากรอกไปที่หลี่โม่เล็กน้อย ใจคิดว่าตนเองจ่ายไปเยอะขนาดนี้แล้ว ก็ไม่สนใจที่จะต้องจ่ายมากขึ้นอีกหน่อย แม้ว่าจะจ่ายถึงสองล้านห้าก็ไม่นับว่าเป็นอะไรแล้ว
เพื่อที่จะเติมหน้าของตนเองกลับคืนมา ฮั่วเจี้ยนเฟิงตัดสินใจเลือกสั่งอาหารที่แพงหน่อย
“เอากุ้งมังกรมาสามตัว กุ้งมังกรที่น้อยกว่ากิโลครึ่งไม่ต้องยกมาให้ฉัน หอยเป๋าฮื้อสองหัว ปลิงทะเลตุ๋นข้าวฟ่าง….”
ชื่ออาหารแต่ละจานสั่งออกมา ฮั่วเจี้ยนเฟิงก็กวาดตามองสีหน้าท่าทางของทุกคน จิตใจถึงได้รับการรักษาไปไม่น้อย จ่ายเงินแล้วสบายใจอย่างที่คิด
ตอนที่ฮั่วเจี้ยนเฟิงกำลังสั่งอย่างมีความสุข ประตูห้องถูกคนผลักเปิดออก น้ำเสียงเย็นชาดังเข้ามา “ห้องนี้ฉันต้องการแล้ว พวกนายเปลี่ยนห้องอื่นเถอะ”