จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 144
บทที่144 ออร่าเปล่งประกาย
ภายในรถเบนซ์ S600 ใบหน้าหลูหมิงเซิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มป้อยอ “ท่านฉู่ พวกเราลงจากรถกันเถอะครับ ยังต้องให้ท่านฉู่พาผมไปขอโทษนายน้อยด้วยตนเอง”
“นายน้อยไม่อยากให้ใครรู้ฐานะเขา คุณเรียกเขาว่าคุณหลี่ก็พอแล้ว ผมไม่ลงไปดีกว่า คนมากไปก็มากความ คุณรู้อยู่แล้วว่าทำอะไรต่อไปก็พอแล้ว ไปเถอะ”
ครั้งนี้ฉู่จงเทียนไม่อยากที่จะออกหน้า
ทางนั้นเป็นญาติพี่น้องของหลี่โม่ทั้งนั้น ถ้าหากนอบน้อมกับหลี่โม่มากเกินไป ก็จะทำให้คนอื่นจับพิรุธได้ ถ้าหากไม่สุภาพกับเขา ไม่แน่ว่าหลี่โม่อาจขุ่นเคือง
ดังนั้นฉู่จงเทียนคิดไปคิดมา นั่งอยู่บนรถท่าจะดีกว่า หลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
“งั้น ผมขอตัวลงไปจัดการครู่หนึ่ง จากนั้นฝากท่านฉู่พูดชมเชยผมให้มาก ๆ นะครับ”
ฉู่จงเทียนหลับตาพร้อมกับโบกมือให้ไปได้แล้ว หลูหมิงเซิงเปิดประตูลงจากรถ
หลังลงจากรถ หลูหมิงเซิงเดินไปพลางมองดูหลี่โม่และคนกลุ่มนั้น วิเคราะห์ว่าคนไหนคือหลี่โม่กันแน่
มองดูหลี่โม่ครู่หนึ่ง หลูหมิงเซิงรีบมองไปทางอื่น หลี่โม่สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดา ไม่เหมือนกับนายน้อยคนที่หลูหมิงเซิงจินตนาการไว้เลยซักนิด
นายน้อยหลงเหมินเป็นสายเลือดเช่นไร แม้ว่าจะเป็นชนชั้นสูงจำแลงกายมา น่าจะสวมเสื้อผ้าที่พอมีราคาบ้าง ไม่ควรจะสวมใส่เสื้อผ้าตลาดมือสองทั่วไปแบบนี้
หลังจากตัดหลี่โม่ตัวจริงออกไป สายตาหลูหมิงเซิงกวาดไปมองที่สวี่หมาน มองเห็นสวี่หมานสวมเสื้อแบรนด์เนมทั่วไป หลูหมิงเซิงพยักหน้าเล็กน้อย
สุดท้ายสายตาหลูหมิงเซิงไปหยุดอยู่ที่ฮั่วเจี้ยนเฟิง
ฮั่วเจี้ยนเฟิงสวมชุดGivenchy หลูหมิงเซิงคิดว่า ชุดเสื้อผ้าเช่นนี้เหมาะสมกับคนที่เขาจินตนาการไว้ นอกจากนั้นท่าทางของจางฝันผู้จัดการบริษัทการลงทุน มีผลต่อการตัดสินใจของเขาเช่นกัน
ก่อนหน้านี้กำชับจางฝันไว้แล้วว่าต้องการสั่งสอนฮั่วเจี้ยนเฟิง ดังนั้นหลูหมิงเซิงอาศัยสัญชาตญาณ คนที่ทำให้จางฝันสนใจเป็นพิเศษ ต้องไม่ใช่ฮั่วเจี้ยนเฟิง ต้องเป็นนายน้อยสำนักหลงเหมินอย่างแน่นอน จนไม่ทันคิดให้ละเอียด และแอบบ่งบอกถึงฐานะของตัวเองให้กับจางฝัน
ครุ่นคิดครู่หนึ่ง หลูหมิงเซิงปั้นหน้ายิ้ม รีบเดินเข้าไปหาฮั่วเจี้ยนเฟิงทันที
จางฝันสังเกตท่าทางเถ้าแก่ของตนเอง เห็นหลูหมิงเซิงเดินเข้าไปหาฮั่วเจี้ยนเฟิงด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น จึงรีบแสดงความนอบน้อมต่อฮั่วเจี้ยนเฟิงมากขึ้น
“คุณฮั่วร้ายกาจไม่เบา เถ้าแก่ของพวกเรามาที่นี่ก็เพราะคุณฮั่วจริง ๆ พวกเราไปทักทายเถ้าแก่ของพวกเรากันเถอะ” จางฝันพูดอย่างนอบน้อม
ฮั่วเจี้ยนเฟิงดีใจจนลืมตัว เชิดหน้าจัดเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้เรียบร้อย ราวกับนกกระเรียนสวรรค์ที่หยิ่งผยอง
แม้ว่าฮั่วเจี้ยนเฟิงสงสัยว่าหลูหมิงเซิงจู่ ๆ ปรากฏตัวได้ยังไง แต่ว่าเมื่อครู่โม้ไปเยอะ ตอนนี้หลูหมิงเซิงก็มาแล้ว อีกทั้งเห็นท่าทางเป็นมิตรของหลูหมิงเซิง ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกว่าบางทีเรื่องราวอาจกลับตาลปัตรจนตนเองไม่ล่วงรู้ก็เป็นได้
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกว่าตนเองได้ประโยชน์ อย่างน้อยการเสแสร้งครั้งนี้ก็สำเร็จจนได้ ที่เหลือก็เล่นละครต่อเพื่อให้เรื่องนี้จบ ๆ ไป
ครั้งนี้ คำพูดของจางฝัน ดึงความสนใจของหวังฟางกับพวก
มองดูหลูหมิงเซิงที่กำลังเดินมาหา และมองดูท่าทางของฮั่วเจี้ยนเฟิง มีท่าทีเหมือนกับกำลังต้อนรับคนที่กำลังมาถึง หวังฟางกับพวกจึงระงับโทสะผ่อนคลายลงไปมาก
“ยังไงเจี้ยนเฟิงก็ร้ายกาจ ครั้งนี้สามารถเชิญเถ้าแก่ใหญ่มาได้ เงินของพวกเราสามารถเอาคืนมาได้แล้วใช่ไหม?”
หวังฟางพูดด้วยน้ำเสียงโอ้อวด
หวังฟางคิดว่า ชัยชนะของฮั่วเจี้ยนเฟิงก็คือความสำเร็จของเธอเช่นกัน เพราะว่าเธอเป็นคนเชิญฮั่วเจี้ยนเฟิงมาด้วยตนเอง!
ฟางชุ่ยฮัวไม่ลังเลแสดงความกระตือรือร้น ใช้คำพูดหวานหู ป้อยอฮั่วเจี้ยนเฟิง ต่าง ๆนานา ราวกับว่าไม่สนใจเงินทองนั้นแล้ว
“เมื่อครู่ป้าจิตใจคับแคบ ตอนนี้ดูไปแล้ว คุณฮั่วร้ายกาจที่สุด คุณฮั่วต้องมีอนาคตที่สดใสแน่นอน ต้องเป็นตระกูลเศรษฐีอันดับต้น ๆในเมืองฮ่านของพวกเราแน่นอน”
“คุณฮั่วมีทั้งชื่อเสียงและความสามารถ อีกทั้งหล่อเหลาขนาดนี้ ไม่ทราบว่าแต่งงานหรือยัง ญาติของป้ามีบุตรสาวสวย ๆ หลายคน จะแนะนำให้คุณฮั่วรู้จัก”
หางคิ้วหวังฟางกระตุกเล็กน้อย พวกเจ้าแนะนำให้คุณฮั่วบ้าอะไร ถ้าไม่ใช่เจ้าหลี่โม่ไร้ประโยชน์เป็นตัวขัดขวาง ฮั่วเจี้ยนเฟิงเป็นลูกเขยเธอไปนานแล้ว
“พวกคุณอย่าพูดอะไรให้มากความ เจี้ยนเฟิงไม่สนใจหญิงสาวที่เอาแต่แต่งเนื้อแต่งตัวไปวัน ๆ เหล่านั้นหรอก”
ตักเตือนพี่น้องของเธอแล้ว หวังฟางชำเลืองมองหลี่โม่ ในใจคิดว่า อีกประเดี๋ยวค่อยจัดการไอ้สวะคนนี้ ต้องฉวยโอกาสวันนี้ ไล่ตะเพิดไอ้สวะคนนี้ไปให้พ้นจากครอบครัวของตน!
หลี่โม่ไม่เห็นสายตาที่หวังฟางจ้องมองมาที่ตน แต่มองหลูหมิงเซิงด้วยความรู้สึกหงุดหงิดในใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่าฉู่จงเทียนทำเรื่องอะไรผิดพลาด?”
ตรึกตรองเล็กน้อย หลี่โม่ส่ายหน้าด้วยท่าทางเสียไม่ได้ คิดว่าสามารถเอาเงินคืนมาได้ก็พอแล้ว เรื่องอื่นก็แล้วแต่ฟ้าลิขิต
หลูหมิงเซิงเดินมาหาฮั่วเจี้ยนเฟิง ยื่นมือขวาเพื่อทักทาย
ฮั่วเจี้ยนเฟิงปั้นหน้า ยื่นมือออกไปจับมือหลูหมิงเซิงเบาๆ จากนั้นรีบคลายมือทันที เห็นได้ชัดว่ามีท่าทางดูแคลนหลูหมิงเซิงอยู่ในที
ขณะนั้นเอง ฮั่วเจี้ยนเฟิงไม่สนใจว่าหลูหมิงเฟิงมาที่นี่ได้อย่างไร ยังไงก็ฉวยจังหวะได้เปรียบครั้งนี้ไว้ รู้สึกว่าทำอย่างนี้ถึงจะสามารถควบคุมหลูหมิงเซิงไว้ได้ เรื่องต่อไปถึงจะจัดการได้ง่ายขึ้น
หลูหมิงเซิงไม่ถือสา ยังไงในใจก็คิดว่า ดูมีอำนาจเช่นนี้ ท่าทางเช่นนี้ เป็นนายน้อยสำนักหลงเหมินแน่นอน คนทั่วไปไม่มีทางดูมีอำนาจเช่นนี้”
“คนนี้คือเถ้าแก่ของพวกเราหลูหมิงเซิง เถ้าแก่ ท่านนี้คือ……”
จางฝันต้องการแนะนำฮั่วเจี้ยนเฟิงให้กับหลูหมิงเซิง แต่หลูหมิงเซิงคิดถึงคำพูดที่ฉู่จงเทียนกำชับไว้ จึงยกมือขึ้นบอกปัดพูดว่า “คุณไม่ต้องแนะนำ ท่านนี้ผมรู้จัก”
เห็นหลูหมิงเซิงบอกว่ารู้จักฮั่วเจี้ยนเฟิง จางฝันก้มตัวลงถอยไปยืนด้านหลังหลูหมิงเซิงทันที
จางฝันรู้สึกว่าภาพที่เห็นต่อหน้ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อครู่หลูหมิงเซิงบอกกับตนว่าต้องการสั่งสอนฮั่วเจี้ยนเฟิง แต่เมื่อพบกับฮั่วเจี้ยนเฟิงแล้วเหมือนเด็กน้อยเจอพ่อ หรือว่าฮั่วเจี้ยนเฟิงจะร้ายกาจสมชื่อ?
หรือว่า ตระกูลฮั่วรู้จุดอ่อนของหลูหมิงเซิง?
ขณะที่จางฝันมีที่ท่าทีสงสัยคิดไม่ตก หลูหมิงเซิงทำท่าทีสนิทสนมเรียกฮั่วเจี้ยนเฟิงว่าพี่น้องเสียแล้ว
“พี่น้อง นึกไม่ถึงว่าครอบครัวคุณนำเงินมาฝากไว้ที่บริษัทของผม เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน ถ้าผมรู้แต่แรกผมเปิดบัญชีให้พวกคุณนานแล้ว เกิดเรื่องเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ผมต้องชดเชยความผิดอย่างแน่นอน พวกคุณให้เวลาผมคิดสักครู่”
หลูหมิงเซิงใช้มือลูบหน้าอกครู่หนึ่ง ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิด
ครั้งนี้ต้องให้นายน้อยดีใจ แน่นอนว่าจะคืนเงินแบบธรรมดาไม่ได้ ไม่เพียงแต่คืนเงินต้นกับดอกเบี้ยปกติ ต้องคืนเงินต้นพร้อมกับดอกเบี้ยมากขึ้นไปอีกถึงจะถูกต้อง!
หางคิ้วฮั่วเจี้ยนเฟิงกระตุก ดีใจลิงโลด นี่มันอยู่เฉย ๆ ฟ้าก็ประทานรางวัลมาให้ หลูหมิงเซิงผู้นี้ให้เกียรติเขามากจริง ๆ
“เถ้าแก่หลูช่างดีจริง ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้รีบดำเนินการให้เสร็จเถอะ จัดการเสร็จแล้วพวกเราก็จะไม่รบกวนเถ้าแก่หลูอีกเลย”
หลูหมิงเซิงครุ่นคิด ไม่รบกวนได้ยังไง รบกวนให้มาก ๆ เขาก็ยินดี
ทำอย่างนี้ ก็เพื่อประจบนายน้อยไม่ใช่เหรอ ดูไปแล้วนายน้อยยังไม่พอใจ บางที่ต้องใจกว้างเพิ่มให้อีกหน่อยดีกว่