จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 145
บทที่ 145 เข้าใจผิด
หวังฟางฟังอยู่ข้าง ๆ ดีใจยิ่งนัก ยกนิ้วโป้งชื่นชมฮั่วเจี้ยนเฟิง จากนั้นมองไปที่หลี่โม่ พูดว่า เจ้ามันพวกสวะ ดูคนอื่นเค้าสิ หากไม่ใช่เขาที่ช่วยเหลือ เจ้าสามารถคืนเงินนี้ให้ฉันได้ไหม? เมื่อครู่เจ้ายังคุยโวอยู่เลย คิดดูดี ๆ ว่าควรจะขอโทษอย่างไรดี!”
ถือโอกาสตีสุนัขตอนที่มันตกน้ำเป็นความคิดของหวังฟาง เป็นเวลาที่ควรเหยียบย่ำซ้ำเติมหลี่โม่ บางทีอาจกดดันให้หลี่โม่และกู้หยุนหลันหย่ากันได้
จางชุ่ยฮัวมองหลี่โม่ด้วยสายตาเหยียดหยาม พูดสำทับอีกว่า “เจ้านี่เหมือนสินค้าที่ต้องโยนทิ้ง เทียบกันได้ยังไง เจ้ามันไร้ประโยชน์ ยังด้อยกว่าคนอื่นอีกมากนัก ฉันคิดว่าพี่หวังต้องเปลี่ยนลูกเขยแล้วล่ะ เอ็งมันสวะอย่ายืนขวางหูขวางตาอยู่ตรงนี้ รีบๆ ออกไปให้พ้น ให้ทุกคนสบายใจขึ้น”
หลี่โม่กุมหมัดไว้แน่น จากนั้นคลายมือลง ก้มศีรษะไม่พูดตอบซักคำ
“โธ่เอ้ย ดูสิไอ้สวะโมโหแล้ว เจ้ามันขี้ขลาดไร้ความสามารถควรไปเป็นขอทานซะ หาเมียที่เป็นขอทานเหมือนกันซักคนจึงจะถูก เสนอหน้าอยู่ที่นี่รังแต่ทำให้พวกเราขายหน้า อยากหาเรื่องกันใช่มั้ย”
สวี่หมานพับแขนเสื้อขึ้นพลางพูดออกมา
หลี่ซูเฟินเดินไปหาหลี่โม่ถ่มน้ำลายใส่ที่เท้าเขาจากนั้นพูดว่า “พี่น้องทุกท่าน ยังไม่ได้รับเงินคืนมา ตอนนี้อย่าเพิ่งหลงประเด็น ฟังดูว่าคุณฮั่วกับเถ้าแก่หลูพูดอะไรกัน อีกสักครู่ค่อยสั่งสอนไอ้สวะคนนี้ ”
ทุกคนเบนความสนใจ กลับมาที่ฮั่วเจี้ยนเฟิงกับหลูหมิงเซิง
หลูหมิงเซิงเสนอความคิด ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี เพื่ออำนาจของนายน้อยแห่งสำนักหลงเหมินแล้ว จ่ายเงินมากหน่อยไม่เห็นเป็นไร
“คุณหลี่วางใจ ผมจะดำเนินการให้ดี ไม่เพียงแต่คืนเงินต้นรวมดอกเบี้ย ยังมีเรื่องเซอร์ไพรส์อีกเล็กน้อย”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงขมวดคิ้วขึ้น ภายในใจรู้สึกหนาวแปลก ๆ คุณหลี่คนนี้ คุณคงไม่ทำให้เรื่องมันพังหรอกนะ!
จางฝันขนหัวตั้งชัน รีบกระซิบข้างหูหลูหมิงเซิงว่า “เถ้าแก่ คนนี้ไม่ใช่คุณหลี่ เขาคือฮั่วเจี้ยนเฟิง”
“อ๋า?”
หลูหมิงเซิงสงสัยนิดหน่อย ชื่อฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกคุ้นหูพิกล “เมื่อครู่โทรศัพท์มาหาคุณ ใช่ชื่อฮั่วเจี้ยนเฟิงหรือเปล่า?”
“ใช่ครับ เถ้าแก่ยังฝากผมให้บอกเขาอีกว่า อยากได้เงินให้เขามาคุยกับคุณ”
จางฝันพูดอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้นหลูหมิงเซิงรู้สึกทันทีมีอะไรผิดไป คงเพราะตอนนั้นเกิดการเข้าใจผิดขึ้น ต้องเป็นนายน้อยแห่งสำนักหลงเหมินที่ต้องการปกปิดฐานะตนจึงเปลี่ยนชื่อนามสกุล ไม่เพียงแต่ไม่ให้ใครเรียกเขาว่านายน้อย ไม่แน่ว่าจะไม่ให้เรียกว่าคุณหลี่อีก
แต่ไม่ว่านายน้อยแห่งสำนักหลงเหมินมีชื่อว่าอะไร เพียงแค่เขาเป็นนายน้อยแห่งสำนักหลงเหมินก็พอแล้ว ไม่ว่าเขาเปลี่ยนชื่อกี่ร้อยกี่พันชื่อ ผมหลูหมิงเซิงยังไงต้องพึ่งพาอำนาจของเขา”
หวังฟางกับพวก ต่างกระซิบกระซาบกัน เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงไปได้ด้วยดีแล้ว แต่จู่ ๆ เกิดเรื่องคาดไม่ถึง
“พี่หวังนี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเขาถึงเรียกคุณฮั่ว ว่าคุณหลี่ คงไม่ใช่เป็นเถ้าแก่หลูจำคนผิดนะ?”
“คงไม่ใช่จำคนผิดหรอก คุณฮั่วไม่ได้เป็นคนธรรมดาทั่วไป เป็นเถ้าแก่หลูที่พูดผิดหรือเปล่า?”
ระหว่างที่คนอื่นกำลังถกเถียงกัน เถ้าแก่หลูหัวเราะขึ้นอย่างเป็นมิตร “ฮาฮ้าฮ้าฮ้า เข้าใจผิด เข้าใจผิด เมื่อครู่ผมเองที่พูดผิด ปากของผมนี่นะ มื้อเที่ยงดื่มสุรามากไปหน่อยจึงพูดจาไม่รู้เรื่อง”
ในใจของหวังฟางและคนอื่น ๆ คลายกังวลขึ้นทันที ต่างก็หัวเราะออกมา
ฮั่วเจี้ยนเฟิงโล่งใจ แตะไปที่แขนเถ้าแก่หลูเบา ๆ แล้วพูดว่า “เวลาทำงานดื่มสุราให้น้อยหน่อย ดื่มมากไปอาจเกิดความผิดพลาดได้ง่าย ๆ”
“ใช่ใช่ใช่ ท่านพูดถูก คราวหลังมื้อกลางวันผมไม่ดื่มเหล้าแล้ว ถ้าอย่างนั้น จางฝันคุณสรุปยอดข้อมูลในบัญชีออกมา อีกสักครู่จัดการให้เสร็จเรียบร้อย”
“ได้ครับ เถ้าแก่”
จางฝันหยิบมือถือขึ้นมา ให้หวังฟางกับพวก แจ้งข้อมูลบัญชีต่าง ๆ หลังจากจดบันทึกเสร็จแล้วเดินไปข้าง ๆ หลูหมิงเซิงแล้วพูดว่า “เถ้าแก่ จัดการเสร็จแล้วครับ ยึดตามผลตอบแทนโครงการคืนไปใช่ไหมครับ?”
เดิมทีหลูหมิงเซิงได้วางข้อเสนอไว้สองแนวทาง คนที่มีสถานะทางการเงินมั่นคง ทั้งหมดให้ยึดตามสัญญากู้ยืมจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมด
คนที่มีสถานภาพทางการเงินไม่มั่นคง ชำระคืนเพียงเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจำนวนหนึ่งปี
สำหรับคนที่ตรวจสอบสถานภาพไม่ได้ ไม่ชำระคืนอะไรเลย ให้พวกเขากลัดกลุ้มต่อไป
“ยึดตามเงินต้นชำระคืนให้เพิ่มอีกสามเท่า ส่วนเงินที่เกินมาถือเป็นส่วนที่ผมชดเชยให้ทุกคน”
หลูหมิงเซิงพูดจบ หันไปขยิบตาให้ฮั่วเจี้ยนเฟิงเพื่อให้รู้ว่าผมจัดการแบบนี้ใช้ได้หรือไม่ นายน้อยคุณคอยดูฝีมือของผมก็พอแล้ว!
ฮั่วเจี้ยนเฟิงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นดีใจยิ่งนัก นึกไม่ถึงว่าหลูหมิงเซิงไม่เพียงเห็นแก่หน้าตน แล้วยังเป็นการให้เกียรติที่น่าเหลือเชื่อ
“งั้นขอบคุณเถ้าแก่หลูมาก เชิญเถ้าแก่หลูรีบโอนเงินคืนเข้าบัญชีเถอะ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงกังวลใจว่าหลูหมิงเซิงเปลี่ยนใจ เร่งรัดให้หลูหมิงเซิงรีบคืนเงิน เพียงแค่มีเงินคืนเข้าในบัญชีของหวังฟางกับพวก ฮั่วเจี้ยนเฟิงก็เหยียบย่ำหลี่โม่ได้สมดั่งใจ!
หวังฟางและคนอื่นๆ ดีใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่ามีเรื่องน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ ไม่เพียงแค่ได้คืนเงินอย่างราบรื่น และยังได้เงินเพิ่มอีกมากมาย พูดตรง ๆ เหมือนเงินตกลงมาจากสวรรค์
“เถ้าแก่หลูช่างใจกว้างจริง ๆ เจี้ยนเฟิงก็เก่งกาจมาก ออกหน้าก็ทำสำเร็จได้อย่างสวยงาม”
“ขอบคุณคุณฮั่วมาก ถ้าไม่ใช่คุณฮั่วออกหน้า พวกเรายังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เมื่อครู่พวกเราวิตกกังวลมาก”
“คืนนี้พวกเราขอเชิญคุณฮั่วรับประทานอาหาร พี่หวังคุณต้องเชิญหยุนหลันมาด้วย เพื่อมาคุยเป็นเพื่อนคุณฮั่ว”
หวังฟางและคนอื่นต่างตื่นเต้นดีใจกระดี๊กระด๊าอย่างมาก
หลูหมิงเซิงเห็นแววตาที่ตื่นเต้นดีใจของหวังฟางและคนอื่น ๆ ในใจคิดว่าอย่างนี้นับว่าจบลงด้วยดี คิดว่านายน้อยคงรับรู้ได้ถึงความจริงใจของตน
“ฮาฮ้าฮ้า ทุกคนดีใจก็ดีแล้ว งั้นฮั่ว……เจี้ยนเฟิง พวกเราไปที่รถนั่งคุยกันซักหน่อย คุณฉู่ก็มาด้วย นั่งคอยอยู่บนรถ พวกเราได้สนทนากัน”
หลูหมิงเซิงเชื้อเชิญฮั่วเจี้ยนเฟิงด้วยความกระตือรือร้น แต่ฮั่วเจี้ยนเฟิงกลับประหลาดใจ คิดไม่ออกว่าคุณฉู่เป็นใคร นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่?”
เมื่อครู่เรียกตนว่าคุณหลี่ ตอนนี้ให้ตนไปพบกับคุณฉู่ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
มองฮั่วเจี้ยนเฟิงไม่มีที่ท่าตอบสนอง และพบว่าลักษณะของฮั่วเจี้ยนเฟิงมีบางอย่างผิดปกติ ภายในใจของหลูหมิงเซิงเต้นไม่เป็นจังหวะ ด้วยความตกใจ รู้สึกที่ว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ
“คุณเป็นอะไรไป? คุณฉู่กำลังรออยู่”
หลูหมิงเซิงหยั่งเชิงถาม ดวงตาจ้องมองไปที่ฮั่วเจี้ยนเฟิง ตรวจดูอาการตอบสนองของฮั่วเจี้ยนเฟิง
หวังฟางและคนอื่น ๆ ตื่นเต้นได้เพียงชั่วครู่ รู้สึกได้ถึงเหตุการณ์เหมือนมีอะไรแปลกไป
หลี่โม่กลั้นเสียงหัวเราะ เลิกคิ้วมองดูเจ้าโง่ฮั่วเจี้ยนเฟิง ในใจเริ่มเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น หลูหมิงเซิงไอ้อ้วนนี่ เมื่อครู่คงจะคิดว่าฮั่วเจี้ยนเฟิงเป็นตนเอง
แต่หลี่โม่ได้พูดอะไรออกไป เพียงนั่งดูละครฉากนี้ให้จบ รอดูท่าทางของฮั่วเจี้ยนเฟิงตอนเสียหน้า
“คุณพูดว่าคุณฉู่ เป็นใครกัน”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงเชิดหน้าอย่างทะนงตน คิดใช้อำนาจทำให้หลูหมิงเซิงเกรงกลัว เพียงเพื่อปกปิดหลูหมิงเซิงไว้ชั่วคราว ฮั่วเจี้ยนเฟิงเตรียมที่จะจากไป
หลูหมิงเซิงพูดด้วยความมึนงง “คุณไม่รู้จักคุณฉู่?”